สวัสดีครับ ในที่สุดผมก็เล่น Hapymaher ที่ตั้งใจจะเล่นมานานจบแล้วล่ะครับ เมื่อ 2 ปีก่อนพยายามเล่น Hapymaher แต่ภาษายากเกินไป พยายามจนสุดกำลังแล้วยังไม่ไหว แต่พอมาตอนนี้กลับเล่นได้อย่างสบายๆ ก็เลยได้ตระหนักว่าเวลา 2 ปีก็คือเวลา 2 ปีจริงๆ ผมไม่ได้หยุดอยู่กับที่แต่เก่งภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นจริงๆ…… ตอนนี้กำลังเล่น fortissimo EXS//Akkord:Nachsten Phase ซึ่งเป็นเกมที่อยากเล่นมานานครับ เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ตั้งไว้เช่นเดียวกับ Tasogare no Sinsemilla แต่ตอนนั้นความสามารถไม่พอ ทว่า ตอนนี้ผมเก่งขึ้นแล้ว ก็เลยเล่นได้สบายๆครับ
พอเล่นเกมนี้ไปก็ต้องอุทานออกมาว่า “นี่มัน Fate/stay night เวอร์ชั่นมีน้องสาวให้จีบชัดๆ” เกมทำออกมาได้ดีมากจริงๆ เนื้อเรื่องดี และฉากต่อสู้ก็ดีไม่แพ้ Fate/stay night เลย…… Fate/stay night อาจจะดีกว่าเล็กน้อยก็จริง แต่เกมนี้มี “คุโรบาเนะ ซายูกิ” น้องสาวคูลเดเระเป็นนางเอกด้วยครับ แถมเธอยังเท่มากๆ เป็นแบบที่ผมชอบเลย เพราะแบบนั้นเลยยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเกมนี้กับ Fate/stay night ผมชอบเกมไหนมากกว่ากัน (อีกเหตุผลคือยังเล่นไม่จบด้วยล่ะ)
fortissimo เป็นเกมที่มีหลายเวอร์ชั่น บางท่านเห็นแล้วอาจจะงงเลยขออธิบายไว้ฟัง ณ ตรงนี้ครับ…… “fortissimo//Akkord:Bsusvier” เป็นเกมเวอร์ชั่นแรกสุด ไม่มีเสียงพากย์ แล้วเวอร์ชั่นต่อมาคือ “fortissimo EXA//Akkord:Bsusvier” ซึ่งมีการปรับปรุงเนื้อเรื่องให้สมบูรณ์, เพิ่มเสียงพากย์, ปรับปรุงพวกเอฟเฟคต่างๆให้ดีขึ้น ฯลฯ แล้วก็พัฒนาต่อมาเป็น “fortissimo EXS//Akkord:Nachsten Phase” ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น 18+ และมีการเพิ่มรูทซายูกิ, โมมิจิเข้าไป แล้วเวอร์ชั่นสุดท้าย “fortissimo FA//Akkord:Nachsten Phase” คือการนำเวอร์ชั่น EXS มาทำเป็น All Age เล่นได้ทุกเพศทุกวัย
อาจจะมีบางท่านที่จำได้(จะมีเรอะ?)ว่าผมเคยเขียน entry เกี่ยวกับเกมนี้ไปแล้วเมื่อปลายปี 2012…… entry นั้น ตอนนี้ปิดไปเรียบร้อยแล้วครับ ความสามารถภาษาญี่ปุ่นของผมตอนนั้นผิดกับตอนนี้มาก พอกลับไปดูที่ตัวเองแปลไว้ก็พบว่าแปลมั่วสุดๆ ยังตกใจอยู่เลยว่าตัวเองแปลมาได้ยังไง…… เกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่ผมชอบที่สุด เลยอยากจะทำให้ดี ก็เลยตัดสินใจปิด entry เก่าแล้วตั้ง entry ใหม่ไปเลยน่ะครับ
ตอนนี้เล่นจบรูทซากุระแล้ว กำลังจะเริ่มเล่นรูทโมมิจิ แล้วปิดท้ายด้วยรูทคุณน้องซายูกิ……
Fortissimo EXS//Akkord:Nachsten Phase
フォルテシモ エグゼス アコルト:ネクステン ファーゼ
คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจาก Official Web Site (La'cryma), Getchu
เกาะสึคุโยมิ เกาะโดดเดี่ยวอ้างว้างกลางทะเลที่มีหน้าร้อนตลอดปีและอยู่ไกลออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
โยชิโนะ เรย์จิ ตัวเอกของเรื่อง “เคย” เป็นนักเรียนที่ธรรมดามากๆซึ่งอาศัยอยู่ในเกาะนั้น
ที่ช่วยเรย์จิซึ่งจู่ๆก็ต้องมาจนมุมเพราะปัญหาที่ผิดธรรมดาคือสาวงามคนหนึ่ง
ตัวของเด็กสาวเองนั่นล่ะที่เป็น “Missing Number Thirteen” หนึ่งใน “อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง” ------ อาวุธวิทยาศาสตร์ชั้นสูงที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “มาโฮว” ซึ่งปรากฏอยู่ในตำนานที่เล่าขานกันมาแต่โบราณ
รูปร่างของ “มาโฮว (อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง)” จะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับการเป็นสัญลักษณ์แทนผู้ครอบครองนั้นๆ และจะมอบ “พลัง” อันวิเศษที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองให้กับผู้ครอบครอง
ทว่า “พลัง” ที่เขาใช้ได้กลับมี 2 อย่าง
เป็นพลัง “อัญเชิญคนที่เคยพบใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา” กับ “ทำให้วัตถุกลับคืนสู่สภาพใดสภาพหนึ่งใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา” ซึ่งดูแล้วห่างไกลจากอาวุธหรือสงครามเป็นอย่างมาก
ตรงข้ามกับความคิดของเรย์จิที่ปรารถนาชีวิตธรรมดาอันแสนสงบสุข เขาต้องเข้าไปพัวพันกับ Battle Royal ของเหล่า “จอมเวท (ผู้อัญเชิญ)” 13 คน ซึ่งมีสิ่งสำคัญเป็นเดิมพัน
ชะตากรรมการต่อสู้อันน่าเศร้าของเหล่า “จอมเวท (ผู้อัญเชิญ)” ซึ่งถูกทำให้เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งที่เกาะสึคุโยมิ
สิ่งที่เขาเดิมพันคือชีวิตนักเรียนวัยหนุ่มสาวที่มีสีสัน ซึ่งเป็นชีวิตธรรมดาอันแสนสำคัญที่ควรปกป้อง
เพื่อยุติวงเวียน(ชะตากรรม)การต่อสู้ที่เป็นเหมือน Da Capo ซึ่งต่อเนื่องไปชั่วกาลปาวสาน วันนี้เองเรย์จิก็กระโจนเข้าไปกลางวังวนแห่งการต่อสู้เช่นเคย------…
Character
“ถ้าไม่ว่าใครก็มีสิ่งสำคัญที่ยอมให้ไม่ได้อยู่ล่ะก็ มีแต่ต้องตัดสินใจเท่านั้นล่ะ”
โยชิโนะ เรย์จิ
芳乃 零二
เด็กหนุ่มธรรมดาผู้เยือกเย็นและไม่ถนัดการคบหากับผู้อื่น
ตัวเอกของเรื่อง
มีภูมิหลังอันน่าเศร้า แต่ก็เป็นเด็กหนุ่มธรรมดาๆ ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรแต่อย่างใด
สูญเสียพ่อแม่ไปเพราะ “สงคราม 10 ปี” ที่จบลงที่เกาะสึคุโยมิเมื่อ 16 ปีก่อน ในอดีตจึงเคยเป็นเด็กกำพร้าจากสงครามที่ใช้ชีวิตอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า “การชี้นำของนักบุญ” อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง
ตอนนี้ ได้ออกจากบ้านของ “อาจารย์” ซึ่งเป็นผู้ปกครองที่ช่วยรับตนไปเลี้ยง และกลับบ้านเกิดหลังจากที่ไม่ได้กลับมา 4 ปี เพื่อมาอาศัยอยู่ด้วยกันกับน้องสาวอีกครั้ง
มีนิสัยมองโลกในแง่ดี และมีด้านที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่ด้วย แต่ที่ไม่ถนัดการคบหากับคนอื่นเอามากๆนั้นเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา ตามจริงแล้วเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์มาก
ดูเผินๆจะเห็นว่าสุขุมเยือกเย็น แต่ภายในนั้นร้อนแรงผิดคาด
นอกจากนี้ยังมีนิสัยชอบจับผมของตัวเองเล่นตอนที่กำลังใช้ความคิด
“ก็ [การอาบแดด] คืองานชิ้นสำคัญในชีวิตของฉันนี่นา”
ซากุระ
サクラ
อาวุธเวทมนตร์รูปร่างมนุษย์ที่ทำตัวสบายๆและมีความรู้สึกเหมือนมนุษย์จนเกินไป
นางเอกหลักของเรื่อง
เป็นอาวุธเวทมนตร์ทำลายล้างรูปร่างมนุษย์ที่เรย์จิอัญเชิญมา เกิดจากการก่อร่างของวิญญาณซึ่งปกครองซากุระและแสงตะวัน
เนื่องจากเป็นวิญญาณที่ต่อสู้ด้วยการควบคุมแสง จึงไม่ถูกกับกลางคืนหรือความมืด มีงานอดิเรกคือการอาบแดด
เป็นคนน่าสงสารสุดๆ รักสัตว์มาก(โดยเฉพาะสุนัข) แต่ไม่รู้ทำไมถึงมีชะตากรรมที่ต้องถูกสัตว์เกลียด
แต่ก็ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากนั้น เชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่ง วันที่ทำความเข้าใจกับพวกสัตว์ได้จะต้องมาถึงแน่นอน
เพราะก่อนหน้านี้มีตัวตนอยู่ภายในตัวเรย์จิมาหลายปี ทำให้เป็นคนที่เข้าใจเขาดี ถ้าเป็นเรื่องของเขาล่ะก็ไม่ว่าอะไรก็รู้ไปหมด……แต่ตอนนี้ ในเวลาที่สงบสุข นอกจากจะออกมาเอื่อยเฉื่อยข้างนอกเพื่อฟื้นฟูพลังงานแล้ว ยังมาอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งๆที่เป็นอาวุธ แถมยังเปลืองค่าข้าวอีก เลยถูกเรย์จิมองว่าเป็นอาวุธไม่ได้เรื่อง
“คิดแบบนั้นอันตรายนะ เรย์จิ โลกเราไม่ได้สร้างมาเรียบง่ายขนาดนั้น”
สุเมรางิ ริวอิจิ
皇樹 龍一
เพื่อนสนิทของเรย์จิผู้รักความยุติธรรมและจริงจังจนเกินไป
ตัวเอกอีกคนหนึ่งของเรื่อง
เป็นเด็กกำพร้าจากสงครามที่สูญเสียพ่อแม่ไปเพราะสงครามเช่นเดียวกับเรย์จิ แม้สมัยที่อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะทะเลาะกับเรย์จิอยู่บ่อยๆ แต่ก็เป็นเด็กหนุ่มเพื่อนสนิทคู่หูที่มีนิสัยต่างกัน
ด้วยงานของพ่อบุญธรรมที่รับตนไปเลี้ยง ทำให้ต้องย้ายจากสนามรบแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งเป็นประจำ แม้จะชิงชัง “สงคราม” ที่แย่งชิงครอบครัวไป แต่ในทางกลับกันก็ใช้ชีวิตที่ต้องทรมานกับความขัดแย้งที่ว่าหนทางที่จะทำให้มันจบลงได้ก็มีเพียงการต่อสู้เท่านั้น
ได้เร่ร่อนผ่านสนามรบมามากมายมาในฐานะจอมเวท แต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่สงครามจะจบลงได้โดยปราศจากผู้เสียสละจำนวนมาก และในทุกครั้งนั้นก็จะได้รับรู้ถึงความไร้พลังของตนเอง
กลับมาที่ญี่ปุ่นซึ่งห่างไกลจากสงครามในช่วงเวลาเดียวกับเรย์จิ แล้วทันทีที่กลับมายังเกาะสึคุโยมิซึ่งเป็นบ้านเกิด ก็ถูกลากเข้าไปพัวพันกับคดีในครั้งนี้
นิสัยนั้นนอกจากจะจริงจังจนเกินไปแล้ว ยังซื่อตรงจนคบหากับคนอื่นได้ลำบากอีก ทำให้ตรงข้ามกับเรย์จิที่ทำตัวอิสระตามสบายโดยสิ้นเชิง
“อะฮะฮะ… เพราะฉันแข่งกับใครไม่ค่อยเก่งน่ะ ทั้งเรื่องความรัก ทั้งเรื่องเรียน”
สุซุชิโระ นางิสะ
鈴白 なぎさ
สาวน้อยนักรบผู้ร่าเริง, ใสซื่อบริสุทธิ์, น่ารัก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้อื่น
นางเอกหลักอีกคนหนึ่งของเรื่อง
มองแวบแรกเหมือนจะเป็นนักเรียนดีเด่นผู้งดงาม เฉลียวฉลาด และเก่งกีฬารอบด้าน ทว่า ความจริงแล้วเป็นสาวน้อยนักรบที่นอกจากเคนโด้ที่ถนัดแล้วไม่ได้เรื่องโดยสิ้นเชิง
มีนิสัยร่าเริงและตรงไปตรงมาขนาดที่หาได้ยากในยุคปัจจุบัน มีทั้งความนิยมและคุณงามความดีที่ทำให้ได้รับการเอาใจใส่จากทุกคนว่าจะไม่ทำให้เธอแปดเปื้อนเป็นอันขาด
ดำรงตำแหน่งเป็นรองกัปตันชมรมเคนโด้ แม้ความสามารถจะเหนือกว่ากัปตันชมรม แต่ในการแข่งนั้นแทบจะเรียกได้ว่าไม่สามารถทำคะแนนดีๆได้เลย ในอดีตจึงเคยปฏิเสธตำแหน่งกัปตันชมรมไป
กับริวอิจินั้นมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนสมัยเด็ก ได้พบกับเขาที่กลับมาที่เกาะสึคุโยมิอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้พบกันมานาน 4 ปี
แอบชอบริวอิจิมาตลอดตั้งแต่ในอดีต แต่เพราะไม่อาจซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองได้ แถมยังแสดงออกไม่เก่งอีก ทำให้จนป่านนี้ริวอิจิที่ซื่อบื้อเลยยังไม่ยอมสังเกตเห็นซักที เป็นความรักที่คนรอบข้างเห็นแล้วรู้สึกรำคาญใจนิดหน่อย
“พี่น่ะ หนูจะเป็นคนปกป้องเอง… ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”
คุโรบาเนะ ซายูกิ
黒羽 紗雪
น้องสาวบุญธรรมคูเดเระ ผู้ชื่นชอบแมวและรักพี่ชายอย่างตรงไปตรงมา
น้องสาวไม่แท้ของเรย์จิ ที่ได้พบกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้พบกันมานาน 4 ปี
แม้จะไม่ใช่คนพูดเยอะ แต่ก็เป็นพวกที่จะสื่อความตั้งใจของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน
นับตั้งแต่ที่ความสามารถในฐานะจอมเวทลืมตาตื่นเมื่อไม่กี่ปีก่อน ก็ถือปืนคู่ออกไปรักษาความสงบเรียบร้อยคืนแล้วคืนเล่าเพื่อปกป้องเกาะสึคุโยมิซึ่งเป็นที่อยู่อันแสนสำคัญของตัวเอง
แล้วในระหว่างนั้นก็กลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกทำเหมือนเป็นตำนานเมืองในฐานะ “มือปืนสาวสวยแห่งความยุติธรรม”
ทว่า เจ้าตัวไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น และอยากใช้ชีวิตไปในฐานะเด็กผู้หญิงธรรมดา จึงปกปิดตัวตนที่แท้จริงไว้
ทว่า เจ้าตัวไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น และอยากใช้ชีวิตไปในฐานะเด็กผู้หญิงธรรมดา จึงปกปิดตัวตนที่แท้จริงไว้
แต่ที่ย่านร้านค้าโฮชิมินั้นเป็นที่เลื่องลือกันดีในฐานะเด็กผู้หญิงที่ชอบแมวมาก ทำให้ไม่ว่าจะทางไหนก็หนีชื่อแปลกๆไม่พ้นอยู่ดี
กับซาโตมุระ โมมิจิที่มาเกาะแกะเรย์จินั้น มีความสัมพันธ์ที่เข้ากันไม่ได้ในระดับยีนเหมือนหมากับแมว
“ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ ตัวฉันลดราคาอยู่นะ…ว่าไง สนใจไหม ?”
ซาโตมุระ โมมิจิ
里村 紅葉
ปีศาจสาวตัวน้อยผู้ปากร้ายและกำลังมีความรัก
เด็กสาวผู้เหมือนปีศาจตัวน้อย กำลังมีความรัก ตกหลุมรักเรย์จิในทันทีที่พบ แล้วก็เข้ามาจีบ
เป็นเด็กผู้หญิงใจกล้าที่เชื่อมั่นว่าเรย์จิซึ่งย้ายมาอยู่ชั้นเดียวกันทีหลังนั้นคือคู่ที่ผูกพันกันด้วยโชคชะตา เลยตั้งตกตั้งใจรุกเข้าหา
เป็นเพื่อนสนิทของสุซุชิโระ นางิสะ เพื่อนร่วมชั้นผู้คบหากันมานานหลายปี แล้วยังชอบไปนั่งเล่นที่ห้องกรรมการนักเรียนบ่อยๆ เลยสนิทกับอามามิยะ อามาเนะที่เป็นประธานนักเรียนเช่นกัน
มีนิสัยใจกล้าและหยิ่งทะนง แล้วยังมีด้านที่ทำให้ผู้ชายว้าวุ่นใจโดยธรรมชาติอีกด้วย แต่กับคนที่ไม่สนใจนั้นจะค่อนข้างปากร้ายและเย็นชา
แต่กับเพื่อนรักแล้วจะว่าง่าย, เป็นกันเอง และแสดงความเข้ากันได้ดีออกมาให้เห็น
กับสิ่งสำคัญนั้นจะให้ความรัก แต่กับสิ่งที่ไม่ต้องการแล้วจะไร้เยื่อใจ ช่างเป็นเด็กสาวที่ไร้ความเมตตาสมกับเป็นปีศาจตัวน้อยจริงๆ
กับคุโรบาเนะ ซายูกิที่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากเรย์จินั้น เข้ากันไม่ได้ในระดับที่สิ้นหวัง เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนหมากับแมว
“ไม่ยกโทษให้คนที่มาขวางทางฉันหรอกนะ ยกเว้นเรย์จิคุง เนอะ ?”
อามามิยะ อายาเนะ
雨宮 綾音
ประธานนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ และเป็นนักเปียโนอัจฉริยะ
ประธานนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ที่ผลการเรียนดีเยี่ยมและเก่งกีฬาอย่างไม่มีใครเทียบเคียงได้
แม้จะเป็นนักเรียนปี 3 แล้ว แต่ด้วยเสียงเรียกร้องจากทางโรงเรียน จึงดำรงตำแหน่งเป็นประธานนักเรียนติดกันสามสมัยซ้อน
พ่อแม่เป็นนักดนตรีทั้งคู่ เจ้าตัวเลยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นนักดนตรีเช่นกัน ความสามารถในการเล่นเปียโนเองก็น่าดึงดูด มีพรสวรรค์ที่หาตัวจับยากขนาดที่ไม่ว่าใครก็ต้องตกใจ
รูปลักษณ์ภายนอกเองก็จัดว่าเป็นสาวงาม แต่แทนที่จะเนื้อหอมกลับเป็นที่เคารพซะมากกว่า เลยมีด้านที่ผิดคาดอย่างไม่ค่อยมีเพื่อนที่สนิทด้วยเท่าไร และมีไม่มีแฟน
อาจเป็นเพราะเหตุนั้นจึงตามใจโมมิจิกับนางิสะที่เป็นเพื่อน และใช้สิทธิพิเศษของประธานนักเรียนช่วยทำอะไรให้หลายอย่าง
“แม้จะเป็นรักที่ไม่สมหวังก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ เพราะว่านั่นคือสิทธิพิเศษของหญิงสาว”
คาจิอุระ อุมิ
梶浦 海美
เด็กสาวมิโกะผู้เป็นรุ่นน้องที่เป็นเหมือนไอดอลของโรงเรียนโฮชิมิ
เด็กผู้หญิงรุ่นน้องที่แม้จะยังอยู่ปีหนึ่ง แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารักจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นไอดอลของโรงเรียนและเป็นที่สนิทสนมจากทุกคน
เพราะเป็นคนซุ่มซ่าม เลยได้รับความนิยมจากทั้งชายและหญิงในฐานะไอดอลที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นลูกหมาที่น่าปกป้อง
จริงๆเมื่อก่อนเป็นเด็กผู้หญิงเรียบๆจืดๆ และตอนนี้ก็รู้สึกมีปมด้อยกับแว่นตาที่เคยสวมอย่างรุนแรงผิดปกติ ทำให้ไม่ว่าเวลาไหนก็จะใช้คอนแทคเลนส์แทนเสมอ
“ถ้างั้น สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพเด้อ จะบอกสถานที่ลับที่ข่อยเก็บเอาไว้ให้เอามั้ย”
คิริซากิ เคนโกะ
霧崎 剣悟
เพื่อนร่วมชั้นของเรย์จิ และเป็นเพื่อนที่ใจตรงกันดี
เพื่อนร่วมชั้นที่ใจตรงกับเรย์จิที่ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนโฮชิมิ เลยกลายเป็นเพื่อนกัน
เป็นเด็กหนุ่มที่เหมือนจะไม่เคยออกจากเกาะสึคุโยมิ แต่กลับพูดติดสำเนียงคันไซปลอมๆที่ดูน่าสงสัย
มีนิสัยสบายๆ ตรงไปตรงมาไม่เสแสร้ง เป็นผู้ชายที่สดใส, ลามก และขี้เล่น หื่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง วันๆคิดแต่เรื่องความลึกลับของร่างกายผู้หญิง
ทว่า แววตาคบกริบที่เขาแสดงให้เห็นเป็นครั้งคราวนั้น เผยให้เห็นถึงประกายที่เยือกเย็นราวกับคมมีด
“ขอเสริมอีกนิดว่าไม่มีสิทธิโต้แย้งหรืออะไรทั้งสิ้น ถ้าไม่ฆ่าก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น”
อาริซึกะ จิน
有塚 陣
เด็กหนุ่มผู้ส่งสารที่มาแจ้งข่าว “แร็คนาร็อค (สงครามครั้งสุดท้าย)”
เด็กหนุ่มปริศนาผู้โอ้อวดว่าตนคือราชาผู้อยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าจอมเวท และเรียกเหล่าจอมเวทมารวมตัวกัน
ประกาศว่าตนคือผู้ส่งสารของโอดิน จอมเวทผู้เป็นที่สุด และแจ้งถึงการเริ่มต้นของ “แร็คนาร็อค (สงครามครั้งสุดท้าย)” Battle Royal ที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง ซึ่งต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน
มักจะพูดด้วยสีหน้าเหนือกว่าและเยาะเย้ยอีกฝ่ายด้วยท่าทางดูถูกเสมอ แต่รากฐานของการกระทำนั้นคือ “ความมั่นใจ” ในฐานะราชาว่าตนคือผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ดูเหมือนจะหลงใหลในความแข็งแกร่งอันท่วมท้นของโอดิน แล้วยังเป็นเด็กหนุ่มคนเดียวที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของบุคคลปริศนาชื่อโอดินอีกด้วย
นอกจากนี้ยังสนใจในตัวโมมิจิและตามตื๊อเพื่อให้เธอยอมรับ แต่เธอที่รักเรย์จิเพียงคนเดียวนั้นไม่เล่นด้วยเลยแม้แต่น้อย
“ในการต่อสู้ไม่มีคำว่าขี้ขลาดหรือไม่น่าดูทั้งนั้นล่ะ ! มีแค่ชนะหรือแพ้ไม่ใช่เหรอไง ไอ้บ้าเอ๊ย !!”
โทโดโรกิ ฮางาเนะ
轟木 鋼
เด็กหนุ่มบ้าๆ ที่ตรงไปตรงมาและเลือดร้อนอย่างหาดีไม่ได้
เด็กหนุ่มที่จัดเป็นพวกบ้าดีเดือด และตรงไปตรงมาขนาดที่ต้องตกตะลึง
เนื่องจากอ้าง “ทฤษฎีแห่งลูกผู้ชาย” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แล้วทำอะไรโดยไม่คิดเรื่องยุ่งยากเลยแม้แต่น้อย ทำให้เป็นไอ้บ้าที่ตรงไปตรงมาสุดๆ การกระทำใดที่ตัดสินใจว่าแบบนี้ถูกไปแล้วครั้งหนึ่งนั้นจะลุยไปทำไปจนถึงที่สุด ต่อให้ทำยังไงก็เปลี่ยนใจไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี การหยุดเขาที่ออกลุยไปครั้งหนึ่งแล้วจึงเป็นเรื่องยาก
ถูกคิริซากิ เคนโกะที่เป็นเพื่อนเรียกด้วยฉายาอย่างพวก “ธงตายเดินได้” แต่นั่นไม่ใช่ว่ากำลังดูถูกอยู่แต่อย่างใด สามารถพูดได้ว่าเป็นชื่อเล่นที่เป็นคำชมเชยต่อฮางาเนะที่มีธงตายปักอยู่เต็มหลังขนาดนั้นแล้วยังรอดผ่านชีวิตในแต่ละวันไปได้อย่างไม่สะทกสะท้าน
“ห้ามเรียกว่าวันโกะ ! ที่เรียกแบบนั้นได้มีแค่เพื่อนสนิทของฉันเท่านั้น”
ซางาระ อิจิโกะ
相楽 苺
หญิงโสดผู้ทรงเสน่ห์ในบ้านที่ไปอาศัยอยู่ด้วย, บอกว่าตัวเองเป็น “พี่สาวผู้ลึกลับ”
ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของบ้านซางาระที่เรย์จิกับซายูกิไปอาศัยอยู่ด้วย
เป็นผู้หญิงเพี้ยนๆที่มีอายุรุ่นราว “คุณป้า” ตรงข้ามกับรูปลักษณ์ที่เห็นภายนอก, คิดมากเรื่องที่ตัวเตี้ย และใส่ชุดแปลกๆด้วยเหตุผลว่าอยากจะถูกมองว่าเป็นผู้ใหญ่ (เจ้าตัวบอกว่าเป็นสไตล์ผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่มีเสน่ห์)
ติดออฟชั่นเสริมคือจิตใจของหญิงสาวที่ซับซ้อนและไร้เหตุผล ถ้าไม่ปฏิบัติด้วยเหมือนเป็นผู้ใหญ่จะอารมณ์ไม่ดี ในทางกลับกันถ้าเรียกว่า “คุณป้า” จะโกรธ มักจะหายตัวไปบ่อยๆบ้าง หมกตัวอยู่ในบ้านทั้งวันบ้าง พอรวมเรื่องงานเข้าไปด้วยแล้วก็เป็นคนที่มีปริศนาอยู่เยอะ
“ความฝันของฮินาโกะคือสักวันหนึ่งจะหายดีแล้วไปเรียนที่โรงเรียนโฮชิมิ”
ทาคามิเนะ ฮินาโกะ
高嶺 陽菜子
เด็กผู้หญิงที่บริสุทธิ์ไร้มลทินและน่ารัก, อ่อนแอและโชคร้าย ซึ่งเหลือชีวิตอยู่ไม่นาน
เด็กผู้หญิงผู้ป่วยเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่รักษาไม่หาย จึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลมาตลอดตั้งแต่เกิด
เป็นคุณหนูของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก จากการที่พ่อแม่เสียไปทำให้ต้องแบกรับมรดกก้อนโตตั้งแต่ยังเด็ก
ทว่า สำหรับเธอแล้วสิ่งนั้นไม่ค่อยมีความหมายสักเท่าไร
มีความรู้สึกพิเศษให้กับซานาดะซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อและเป็นคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก สำหรับเธอในตอนนี้แล้วเขาคือคนเพียงหนึ่งเดียวที่ไว้ใจได้ และมอบความเชื่อใจทั้งหมดให้
นอกจากนี้ยังหลงใหลโลกภายนอก มีความฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะหายดีแล้วไปเรียนที่โรงเรียนเหมือนเด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไป
“คุณหนูครับ คำพูดคือสิ่งที่มีไว้เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกไปยังอีกฝ่ายที่เป็นคนสำคัญครับ”
ซานาดะ เคย์สุเกะ
真田 卿介
บอดี้การ์ดผู้โดดเดี่ยวที่ทุ่มเทความจงรักภักดีทั้งหมดให้กับฮินาโกะ
บอดี้การ์ดที่เงียบไม่พูดไม่จาของฮินาโกะ
สำหรับฮินาโกะแล้วเป็นเหมือนผู้ปกครองตัวจริง และสำหรับซานาดะแล้วเธอก็เป็นเหมือนลูกสาวคนสำคัญเช่นกัน
รู้สึกติดค้างบุญคุณอย่างใหญ่หลวงกับพ่อของฮินาโกะที่ตายไปแล้วซึ่งเป็นคนช่วยเก็บซานาดะที่เคยใช้ชีวิตอย่างไม่มีอะไรดีมา จึงคอยช่วยสนับสนุนในทุกๆด้านเพื่อให้ฮินาโกะที่ลูกสามารถใช้ชีวิตที่มีความสุขและสงบสุขกว่าที่เป็นอยู่ได้
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เรย์จิ …อื้ม นานจริงๆนั่นล่ะ”
มิซึซากะ มิกิ
水坂 美樹
เพื่อนสมัยเด็กผู้เป็น “คนสำคัญที่อยากปกป้อง” ของเรย์จิ
เด็กสาวผู้เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเรย์จิ และปัจจุบันก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นด้วย
"ถ้านี่คือการต่อสู้ที่ทั้งสองฝ่ายมีชีวิตเป็นเดิมพันล่ะก็------สุดท้าย ที่ตัดสินกันด้วยกำปั้นเนี่ยก็คือสิ่งที่เรียกว่าผู้ชายไม่ใช่เหรอไง"
โยชิโนะ เรย์จิ
芳乃 零二
“Missing Number Thirteen” ผู้ตื่นที่ได้รับนาม “โลกิ”
อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง : ซากุระ (อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้างรูปร่างมนุษย์)
พลัง : Da Capo (โลกที่ย้อนกลับ)
พลัง “อัญเชิญคนที่เคยพบใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา” และพลัง “ทำให้วัตถุกลับคืนสู่สภาพใดสภาพหนึ่งใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา”
Character Status
พลังทำลาย : F
ความเร็ว : F
ระยะโจมตี : F
พลังชีวิต : ขึ้นอยู่กับพลังเวท
ความแม่นยำ : ขึ้นอยู่กับพลังใจ
พลังเวท : S
พัฒนาการ : S
“จอมเวท (ผู้อัญเชิญ)”
คนสุดท้ายที่ตื่นขึ้นเพราะอันตรายที่มาคุกคามชีวิต
--------- Missing Number Thirteen (หมายเลข 13) ---------
เนื่องจากเพิ่งตื่นขึ้น ทำให้เรียกได้ว่าไม่มีพวกความรู้เวทมนตร์เลย แต่ด้วยความรู้จากซากุระที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เลยพอชดเชยความไร้ประสบการณ์นั้นได้
ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริง แต่เพราะคุ้นเคยกับการวิวาทกับริวอิจิที่ใช้ศิลปะการต่อสู้สารพัดอย่าง เลยสามารถปรับตัวได้ดีใน “การต่อสู้” แบบคนต่อคน
นอกจากนี้ ปริมาณพลังเวทที่แฝงอยู่นั้นยังมหาศาลผิดธรรมดา แม้จะมองจากเหล่าจอมเวท(ผู้อัญเชิญ)ก็ยังเรียกได้ว่าเป็น “สิ่งผิดปกติ” ที่พิเศษ
“พลัง” ในฐานะ “จอมเวท (ผู้อัญเชิญ)” นั้น ดูเผินๆจะเห็นว่าไม่เหมาะกับการต่อสู้ แต่ในการสนับสนุนการต่อสู้อย่างอัญเชิญพรรคพวกหรือหรือรักษาร่างกายที่บาดเจ็บแล้วจัดว่ายอดเยี่ยม
“ฉันคือดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของมาสเตอร์ และเป็นโล่ที่แข็งแกร่งที่สุด---------เพราะอย่างนั้น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด !”
ซากุระ
サクラ
วิญญาณแสงแห่งซากุระ อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้างสุดแกร่ง
อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง : แสงอาทิตย์
พลัง : Lævateinn (ดาบศักดิ์สิทธิ์ของแสงแห่งซากุระที่ปราศจากมลทิน)
ดาบศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่จะรวบรวมแสงที่มีความร้อนมหาศาลจากโลกทั้งเก้าไปข้างหน้า แล้วเปลี่ยนพื้นที่กว้างไกลเบื้องหน้าให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ยิ่งรวบรวมแสงมามากเท่าไร พลังทำลายยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น เป็นเวทมนตร์ในตำนานเทพที่เล่าขานกันว่าแอบซ่อนพลังขนาดที่แค่กวัดแกว่งดาบศักดิ์สิทธิ์นั้นเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ 1 ในโลกทั้ง 9 จบลงได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
Character Status
พลังทำลาย : S
ความเร็ว : C
ระยะโจมตี : A
พลังชีวิต : ขึ้นอยู่กับพลังเวท
ความแม่นยำ : E
พลังเวท : A
พัฒนาการ : F
อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้างรูปร่างมนุษย์ที่เรย์จิอัญเชิญมา ปกครองซากุระและแสงตะวัน
เป็นเด็กสาวผู้เป็นจิตวิญญาณที่ถนัดการโจมตีและป้องกันด้วยการเปลี่ยน “แสงอาทิตย์” เป็น “รูน (ศาสตร์เวท)”
ถึงจะบอกว่าเป็นวิญญาณแต่ร่างกายนั้นไม่ต่างไปจากเด็กสาวมนุษย์ทั่วไปเลย แต่ด้วยโล่เวทมนตร์ที่ใช้พลังเวทอันทรงพลังสร้างขึ้นมา ทำให้สามารถทำการต่อสู้ระดับสูงได้ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไป
นอกจากนี้ยังเป็นอาวุธที่มีความคิดเป็นของตัวเองโดยสมบูรณ์ ทำให้จุดเด่นที่ดีที่สุดคือการที่แม้จะถูกแยกจากผู้ใช้งานด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ก็ยังสามารถทำการต่อสู้โดยลำพังได้
“เวทมนตร์ในตำนานเทพ” ซึ่งเป็นไพ่ตายในฐานะอาวุธนั้นมีที่สุดแห่งพลังทำลายล้างซ่อนอยู่ พลังนั้นเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงตะวันและสามารถเปลี่ยนโลกทั้งโลกให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้ด้วยการฟาดฟันเพียงครั้งเดียว
“ถึงอย่างนั้นผมก็จะต่อต้านมันให้ดู---------ต่อต้านชะตากรรมการต่อสู้นี่ ! จะดิ้นรนต่อไปจนถึงวินาทีสุดท้าย…..!!”
สุเมรางิ ริวอิจิ
皇樹 龍一
นักสู้เวทมนตร์ผู้ว่องไวดุจสายฟ้าที่ใช้ชื่อว่า “ทอร์”
อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง : Járngreipr (สิ่งที่บดขยี้สายฟ้าให้แตกกระจาย)
รูปร่าง : ถุงมือหุ้มเกราะที่ติดตั้ง Pile Bunker ไว้
พลัง : Unknown
Character Status
พลังทำลาย : S
ความเร็ว : S
ระยะโจมตี : E
พลังชีวิต : D
ความแม่นยำ : C
พลังเวท : B
พัฒนาการ : F
“จอมเวท(ผู้อัญเชิญ)” ที่ยอดเยี่ยมผิดธรรมดาและช่ำชองการต่อสู้มาก ได้ผ่านการต่อสู้กับเหล่าผู้มีพลังพิเศษซึ่งมีตัวตนอยู่โดยที่คนธรรมดาไม่รับรู้อย่าง “เมจิคเชี่ยน (ผู้ใช้ศาสตร์เวทฝึกหัด)” หรือ “จอมเวท(ผู้อัญเชิญ)” ในสนามรบมากมาย และรอดกลับมาได้โดยได้รับชัยชนะอย่างงดงาม
ที่มาของความสามารถนั้นคือประสบการณ์ต่อสู้จริงมากมาย, ความพยายามอย่างไม่ลดละในทุกๆวัน แล้วก็การฝึกศิลปะการต่อสู้สารพัดอย่างที่ได้รับการขัดเกลามาตั้งแต่เด็ก
ทว่า เพราะนิสัยเกลียดชังการต่อสู้ จึงมีจิตใจอันเปราะบางที่ส่งผลให้มีบ่อยครั้งที่ไม่สามารถใช้พลังได้อย่างเต็มความสามารถ
มีท่าถนัดคือ “Turbulence (รวดเร็วดุจสายฟ้า)” ซึ่งเป็นการใช้พลังของ “Járngreipr (สิ่งที่บดขยี้สายฟ้าให้แตกกระจาย)” เปลี่ยนพลังเวทเป็นสายฟ้าแล้วนำมาสวมร่างกายของตนเอง ทำให้สามารถต่อสู้ด้วยความเร็วแสงได้
ด้วยความแข็งแกร่งราวกับเทพสายฟ้านั่น ทำให้ไม่มีคนที่เคยเห็น “พลัง” ที่เขาเก็บซ่อนเอาไว้อยู่เลยแม้แต่คนเดียว
นั่นหมายความว่าทันทีที่เห็นก็จะถูกลบตัวตนให้หายไปอย่างสมบูรณ์นั่นเอง
“ขอร้องล่ะ Svafrlami---------ให้ฉันยืมพลังที ! แค่เพื่อปกป้องเพื่อนคนสำคัญ……!!”
สุซุชิโระ นางิสะ
鈴白 なぎさ
นักดาบเวทสีเงินเปลวผู้สง่างาม ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำให้แปดเปื้อนได้
อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง : Svafrlami
รูปร่าง : ดาบยุโรป
พลัง : Tyrfing (พันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์สีทอง)
พลังที่จะ “ตัดทุกสิ่งทุกอย่างให้ขาดซึ่งใช้ได้แค่ 2 ครั้ง หากใช้เป็นครั้งที่ 3 ร่างกายของผู้ใช้จะพังทลาย”
Character Status
พลังทำลาย : C
ความเร็ว : C
ระยะโจมตี : E
พลังชีวิต : E
ความแม่นยำ : C
พลังเวท : B
พัฒนาการ : A
แม้จะไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริง แต่เนื่องจากในวัยเด็กเคยฝึกฝนกับริวอิจิผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้สารพัดอย่างซึ่งใช้สู้จริงได้อยู่ทุกวันเช่นเดียวกับเรย์จิ จึงคุ้นเคยกับการต่อสู้มากกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย
มีจิตใจที่ขัดแย้งกันเป็นอย่างมาก แม้จะอิจฉาการประลองด้วยดาบจริงมาก แต่ในเวลาเดียวกันก็ไม่อยากทำให้คนอื่นบาดเจ็บ
สำหรับเธอแล้วดาบคือสิ่งที่มีไว้คร่าชีวิตผู้อื่นและต้องฟันให้ตายในดาบเดียว ด้วยเหตุนี้จึงมีความคิดเฉพาะตัวตามแบบวิถีแห่งนักรบว่าไม่จำเป็นต้องฟันถึงสองดาบ ในยามที่การโจมตีของตัวเองพลาดเป้า หรือก็คือในยามที่ต้องรับดาบยาวจากอีกฝ่าย ก็คือการความพ่ายแพ้ที่ต้องจบลงด้วยความตาย
ด้วยเหตุนั้น สไตล์การต่อสู้จึงเป็นท่าโกะโนะเซ็นอันทรงพลัง โดยยึดถือเป็นท่าสำหรับ “ฆ่าให้ตายในการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วยการสวนกลับ” ตรงตามรากศัพท์ แล้วก็ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ในยามที่เธอกวัดแกว่งดาบอย่างจริงจัง จุดจบที่เรียกว่า “ความตาย” จะมาเยือนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน
“ไม่มีดีหรือเลวทั้งนั้นล่ะ แค่เพื่อคนที่ฉันควรปกป้อง---------Auf Wiedersehen (ลาก่อน)---------ซาโตมุระ โมมิจิ”
คุโรบาเนะ ซายูกิ
黒羽 紗雪
ผู้ใช้ปืนคู่ความเร็วแสง มีจิตใจอันสูงส่ง ปกครองขาวและดำ
อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง : อุตามารุ & อาร์คิมีดีส
รูปร่าง : ปืนคู่สีขาวกับสีดำ
พลัง : Weiss Schwarz (กระสุนเวทซึ่งประกาศการมาเยือนของพระผู้เป็นเจ้า)
เป็นพลังที่จะ “รับรู้ [เสียง] แล้วตามติดเป้าหมายไป”
Character Status
พลังทำลาย : D
ความเร็ว : S
ระยะโจมตี : S
พลังชีวิต : A
ความแม่นยำ : B
พลังเวท : C
พัฒนาการ : F
ตั้งแต่ที่ความสามารถในฐานะ “จอมเวท(ผู้อัญเชิญ)” ตื่นขึ้นมา ก็เป็นผู้ปกป้องเกาะสึคุโยมิที่คอยปกป้องผู้คนจากคดีต่างๆที่เกิดขึ้นบนเกาะอย่างลับๆ
จากการสั่งสมเพิ่มพูนของวันคืนที่คอยปกป้องคนธรรมดาจากปัญหามากมายที่เกี่ยวข้องกับพลังพิเศษ ทำให้ค่อนข้างมีประสบการณ์ในการควบคุมพลังเวทและการต่อสู้กับผู้มีพลังพิเศษด้วยกันขนาดที่ภูมิใจได้ เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ช่ำชองในการสู้กับผู้มีพลังพิเศษด้วยกัน
ท่าพิเศษ “Flugel Blitz (เปลี่ยนออฟชั่นพลังเวทในเสี้ยววินาที)” ที่เธอชื่นชอบ ซึ่งเป็นการหลอมรวมพลังเวทเข้าสู่ร่างกายของตัวเองนั้นทำให้สามารถเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เร็วยิ่งกว่าความเร็วแสงได้
เนื่องจากพูดได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะลบเสียงโดยไม่ผ่านสุญญากาศ ทำให้ตราบเท่าที่เป้าหมายเป็นสิ่งมีชีวิต จะไม่มีทางหนีจากกระสุนเวทมนตร์ขาวดำที่ยิงด้วยความเร็วที่เร็วยิ่งกว่าความเร็วแสงซึ่งเสริมด้วย “พลัง” ของเธอไปแล้วได้เลย
ซาโตมุระ โมมิจิ
里村 紅葉
Executioner(เพชฌฆาต)สีรุ้งผู้ปกครองบาปทั้งเจ็ดและแบกรับบาปเอาไว้
อาวุธเวทมนตร์ทำลายล้าง : Grimoire (บาปอันยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดประการ)
รูปร่าง : ปืนใหญ่เวทมนตร์ขนาดเล็กที่ใช้การควบคุมจากระยะไกล
พลัง : L'Arc-en-Ciel (เพชฌฆาตทั้งเจ็ด)
เป็นพลังที่จะ “มอบ [บาปอันยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดประการ] ให้กับเป้าหมาย”
Character Status
พลังทำลาย : ขึ้นอยู่กับชนิดของบาป
ความเร็ว : C (อาวุธ A)
ระยะโจมตี : A
พลังชีวิต : B
ความแม่นยำ : ขึ้นอยู่กับพลังใจ
พลังเวท : C
พัฒนาการ : S (อาวุธ F)
แม้จะไม่ได้มีประสบการณ์ต่อสู้กับผู้มีพลังพิเศษด้วยกันมากขนาดนั้น แต่ก็มีเซ้นส์การต่อสู้ที่หาได้ยากผิดธรรมดา พอมารวมกับนิสัยชื่นชอบการต่อสู้แล้วก็เป็นผู้มีความสามารถด้านต่อสู้ที่ยิ่งสู้ยิ่งฝีมือพัฒนาจริงๆ
แม้จะเป็น “จอมเวท (ผู้อัญเชิญ)” ที่มีพลังของอาวุธเวทมนตร์ทำลายล้างแอบซ่อนอยู่ แต่เพื่อชดเชยความด้อยประสบการณ์ต่อสู้จริงของตัวเองจึงต่อสู้โดยถือเอา “กลยุทธ์” เป็นคติประจำใจ เลยมีสไตล์การต่อสู้แบบเดียวกับเรย์จิ
พลังของเธอที่เหมือนกับเป็นการสะท้อนนิสัยตัวเองออกมานั้นสามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายมาก ทำให้วางกลยุทธ์ได้หลายแบบ
เรียกได้ว่าสำหรับเธอแล้วแม้แต่การสนทนาที่ทำระหว่างการต่อสู้ก็ถือเป็นอาวุธอย่างหนึ่งเช่นกัน
“…………”
Valkyrie
ワルキューレ
เด็กสาวจอมเวทปริศนาผู้สวมชุดกระโปรงสีดำ
หญิงลึกลับที่จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเรย์จิตอนถูกไล่จนมุมเป็นครั้งคราว
รูปร่างอันสง่างามของเธอที่พยายามปกป้องเขาเสมอนั้น แม้จะมองไม่เห็นหน้า แต่ก็งดงาม บ่งบอกได้ถึงความสูงส่งของเธอที่ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าศัตรูแบบไหนก็ไม่หวั่นไหวทั้งสิ้นได้เป็นอย่างดี
“ชื่อของข้าคือโลกิ---------เป็นชื่อของผู้ที่จะชี้ทางให้โลกทั้งหมด”
Loki
ロキ
ชายปริศนาที่มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรย์จิ
บุคคลปริศนาที่ไม่รู้แม้แต่ว่าเป็นมิตรหรือศัตรู
ชื่อโลกินั้นเป็นชื่ออื่นที่จอมเวทคนหนึ่งตั้งให้กับเรย์จิ แต่ท่ายืนของโลกิคนนี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจยิ่งกว่าเรย์จิ และให้บรรยากาศที่ดูสง่างาม
“------------------”
Schwarzritter
黒騎士
นักดาบเกราะสีดำสนิท ถูกควบคุมโดยชะตากรรมอันน่าเศร้า
นักดาบหญิงผู้ถูกควบคุมโดยชะตากรรมอันน่าเศร้า
Svafrlami ดาบเวทมนตร์ที่ใช้เป็นอาวุธนั้นว่ากันว่าสามารถใช้ตัดทุกสิ่งทุกอย่างให้ขาดได้ 2 ครั้ง แต่ในครั้งที่ 3 จะนำพาความพินาศมาสู่ผู้ใช้
สำหรับซาโตมุระ โมมิจิที่เป็นหนึ่งในนางเอกแล้ว เธอคนนี้มีหน้าตาเหมือนกันอย่างไม่มีผิดเพี้ยนกับนางิสะผู้เป็นเพื่อนสนิทที่สำคัญยิ่งกว่าใคร
“ท้องฟ้ากำลังเศร้าอยู่……งั้นเหรอ จะตายสินะ เธอน่ะ”
ฮิเมชิโระ คูริ
姫白 九理
“วิญญาณเด็กสาว” ที่กำลังลือกันอยู่ ?
เด็กผู้หญิงท่าทางลึกลับที่เจอกันในห้างสรรพสินค้ามิลกี้เวย์ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานนี้
เป็นสาวงามผิวขาวร่างเล็ก แต่มีท่าทางดูถูกคนอื่นเหมือนกับว่าตัวเองอยู่สูงกว่า
มีเรื่องเล่าแปลกๆมากมายเกี่ยวกับเธอจากผู้เห็นเหตุการณ์โดยตรง เช่นลอยอยู่กลางอากาศบ้าง จู่ๆก็หายวับไปกับตาบ้าง
เพื่อนพึ่งส่ง Direct แผ่นเกมนี้จากญี่ปุ่นมาพอดี เป็นตัว fortissimo FA//Akkord:Nachsten Phase เล่นไปเล่นมา ใช้แอพช่วยเล่นจนดำน้ำมาได้ ถึงครึ่งของบทที่ 2 เฮ้ยชอบหวะ 5555+
ตอบลบอาจเป็นเพราะมันมีความเป็นสงครามจอมเวท ที่ไม่มีความเป็น Fate มั้งผมเลยรู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องที่เขานำเสนอ แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ เพลง Asgard ของ Yousei Teikoku นี้มันดึงผมให้อยู่หมัดได้เลย ยอมรับเลยว่าส่วนหนึ่งที่ติดเกมนี้ก็น่าจะเป็นเพราะเพลงนี้หละ
สุดท้ายสิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ.........คำศัพท์แปลยากมากครับ แต่อาจจะเพราะภาษาเรายังไม่แข็งแรงมันอาจจะต้องใช้ใจในการพยายามสู้กับภาษานี้อีกเยอะหละนะ 5555+