คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย
แปลมาจากหนังสือนิยาย
[หน้า 15]
“จริงๆเลย พี่นี่ล่ะก็……”
พูดคนเดียว แล้วมินางามิ ซาคุยะก็พับมือถือไป
เพราะไม่ถนัดใช้สมาร์ทโฟนที่กำลังเป็นแฟชั่นอยู่ เลยดื้อดึงใช้โทรศัพท์มือถือแบบฝาพับต่อไป
ผมยาวสีดำแล้วก็ผมหน้าม้าที่ตัดให้เสมอกัน
เธอที่มีนิสัยสงบเยือกเย็นและไม่ว่ากับใครก็จะใช้ภาษาสุภาพเสมอนั้นกำลังถูกคนอื่นคิดว่าเป็นคนรุ่นเก่าเพราะรูปลักษณ์นั่น
จริงๆแล้วตัวเธอเองคิดว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่มือถือที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่ยอมเปลี่ยนใหม่ซะทีได้เสริมภาพลักษณ์ของซาคุยะให้ดูเป็นแบบนั้นยิ่งขึ้นไปอีก
ทีวีเปลี่ยนจากทิวทัศน์ของหมู่บ้านมินาคามิไปเป็นการแนะนำคดีอื่นเรียบร้อยแล้ว
ถอนหายใจเล็กน้อย แล้วปิดสวิตช์
ตั้งใจว่าจะใช้เป็นเสียงเพลงระหว่างดูหนังสือเตรียมสอบเข้า แต่กลับถูกทำให้สมาธิกระเจิงไปโดยสิ้นเชิง
ที่ๆซาคุยะอยู่คือห้องๆหนึ่งของหอพักนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนเอกชนสตรีคิโยมิยะ
โรงเรียนสตรีที่รวมตั้งแต่มัธยมต้นถึงมัธยมปลายนั้นตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆที่อยู่กลางหุบเขาตัดขาดจากโลกภายนอก
[หน้า 16]
ไม่ใช่โรงเรียนประจำ แต่เนื่องจากความไม่สะดวกในการเดินทาง เลยมีนักเรียนหอพักอยู่เกินกว่าครึ่งของนักเรียนทั้งหมด
แน่นอนว่ามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกดีพร้อม แต่การจะเข้ามาเรียนได้นั้นยากมาก ถึงความยากจะลดระดับลงมาเรื่อยๆทุกปีเพราะจำนวนที่นักเรียนลดลง แต่สำหรับนักเรียนจากครอบครัวธรรมดาๆแล้วก็ยังถือเป็นโรงเรียนคุณหนูที่ย่างเท้าเข้าไปได้ยากอยู่ดี……นั่นเป็นภาพลักษณ์ทางสังคมของโรงเรียนเอกชนสตรีคิโยมิยะ
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วนั่นก็เป็นเรื่องของโรงเรียนที่มองจากภายนอก
สำหรับนักเรียนที่เรียนอยู่นั้นเหตุการณ์ปัจจุบันสำคัญกว่า ตอนนี้ซาคุยะที่จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฤดูใบไม้ผลิปีถัดไปเองก็ให้ความสำคัญกับการดูหนังสือเตรียมรับมือกับการสอบที่อยู่เบื้องหน้ามากกว่า
ปล่อยเรื่องทีวีให้ตกไป เสียงหายไปจากในห้อง
พอถึงเดือนธันวาคมของปีสามก็เป็นฤดูกาลที่งานกิจกรรมของโรงเรียนทุกอย่างจบลงด้วยเช่นกัน
ถึงจะมีคริสต์มาสมาอยู่ใกล้ๆ แต่ในช่วงเวลาที่ชนกับปิดเทอมฤดูหนาวนั้นไม่มีการจัดงานฉลองกันอย่างเอิกเกริกในฐานะงานโรงเรียน
ในหอพักมีงานเลี้ยงคริสต์มาสเล็กๆอยู่ก็จริง แต่นั่นก็ถูกทำให้เป็นการจัดงานกันอย่างเรียบๆเพื่อให้เป็นการผ่อนคลายของนักเรียนเตรียมสอบของทุกปี
เขียนคำตอบของหนังสือรวมโจทย์ปัญหาลงในสมุด
ในหนังสือรวมโจทย์ปัญหาที่ซาคุยะกำลังทำอยู่นั้นตรงส่วนหัวของคำถามมีตัวเลขที่เขียนด้วยอักษรคันจิกำกับไว้อยู่
ในกรณีตอบผิดก็จะเขียนตัวเลขไว้ แล้วแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเองไป
[หน้า 17]
คำตอบของซาคุยะแทบไม่มีที่ผิดเลย ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเขียนตัวเลขไปได้
“…ว่าแล้วเชียว…”
ตรวจคำตอบ แล้วทำสัญลักษณ์ไว้ตรงคำตอบที่ผิด
พอลองมองเทียบคำตอบพวกนั้นดูแล้วก็พบว่าโจทย์ที่ได้เรียนไปในช่วงๆหนึ่งนั้นสามารถคิดได้ว่าจุดอ่อนของซาคุยะ
เป็นโจทย์เมื่อตั้งแต่ช่วงนี้ของปีที่แล้ว------ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงของปีสองไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิของปีสาม
สำหรับซาคุยะในตอนนั้นแล้ว ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนมีแต่ความปวดร้าวและร้อนใจอยู่ตลอด
“……พี่”
อาจเป็นเพราะไปนึกเรื่องในตอนนั้นเข้า จู่ๆก็เผลอเอ่ยปากออกไปเป็นคำพูด
เผลอนึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งสั้นและทั้งยาวนานเข้า เป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถมาเจอกันได้เป็นเวลานาน
ในความทรงจำเองก็ไม่แน่ชัดว่าซาคุยะรู้ตัวเรื่องความรู้สึกนั้นตอนช่วงไหน
จำได้ว่าตอนที่จำความได้สายตาก็เฝ้ามองไปยังคนที่อยู่ข้างกายแล้ว
ถึงอย่างนั้น ช่วงวัยเด็กก็ยังดี
ความปรารถนาดีที่ผุดขึ้นมาในจิตใจของเด็กเป็นสิ่งที่ใส่ซื่อบริสุทธิ์ ถึงจะแสดงออกมาก็มีใครมาตำหนิติเตียนอะไร แถมยังกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ได้รับคำชมว่าเป็นพี่น้องที่สนิทกันซะมากกว่า
[หน้า 18]
ทว่าพอโตขึ้นจนถึงวัยที่ความแตกต่างทางเพศของชายหญิงและความรักเริ่มกลายเป็นปัญหาสำคัญในหมู่เด็กสาวแล้ว ซาคุยะก็ได้รู้สึกถึงปัญหาอันใหญ่หลวงที่ตนเองแบกรับไว้
------ความรู้สึกนี่มันผิดปกติ
เรื่องนั้นไม่ใช่ว่าเป็นเพราะ……อีกฝ่ายที่ความรู้สึกมุ่งไปหาคือโคสุเกะผู้เป็นพี่ชาย
การมีความรู้สึกรักให้กับคนในสายเลือดเดียวกันถือเป็นเรื่องปกติมาก
หากความรักนั่นลึกซึ้งขึ้นไปล่ะ บางครั้งคงจะมีบ้างที่จะมีสิ่งที่เป็นความรักระหว่างชายหญิงอยู่ด้วย
ทว่า ตรงจุดนั้นมีความแตกต่างที่ชัดเจนและเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้องเหมาะสม
ความรู้สึกรักได้เพิ่มพูนขึ้น มาถึงวัยหนุ่มสาว แล้วก็ได้พบกับจุดเริ่มที่ทำให้รับรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างเพศ จากนั้นความรู้สึกก็แปรเปลี่ยนไป
ตอนที่รู้ตัวว่าทั้งๆที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการนั้น แต่ความรักที่โอบอุ้มไว้ตั้งแต่วัยเยาว์กลับเป็นความรักระหว่างชายหญิง ซาคุยะก็ตกตะลึงกับความผิดปกติของตัวเอง
รู้สึกราวกับว่าความรู้สึกนั่นถูกเขียนไว้ในตัวของซาคุยะในฐานะโปรแกรมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
ถูกความรู้สึกที่เหมือนกับว่าแม้แต่ความคิดหรืออารมณ์ของตัวเองก็ถูกใครบางคนจัดเตรียมไว้ให้ติดสอยห้อยตามมาตลอด
สำหรับซาคุยะที่โตขึ้นแล้วมาถึงวัยต่อต้านนั้น เป้าหมายของการต่อต้านไม่ใช่พ่อหรือพี่ชาย
ข้อสงสัยและความรู้สึกที่ตัวเองมีอยู่นี่ล่ะคือเป้าหมายของการต่อต้าน เป็นแรงผลักดันที่ขับเคลื่อนซาคุยะมา
“……เฮ้อ”
[หน้า 19]
กลับมาจากการใคร่ครวญ จากนั้นขยับมือที่หยุดไปแล้วอีกครั้ง
ชาฝรั่งที่เทไว้ในถ้วยชาเย็นชืดไปเรียบร้อยแล้ว
พอย้อนกลับไปมองตัวเองที่ผ่านมา ซาคุยะก็คิดว่าได้ทำอะไรบ้าบิ่นไปอยู่พอตัว
ตอนนั้นไม่อยากจะอยู่ที่บ้าน คิดแต่จะออกห่างไปเพื่อยืนยันความรู้สึกกับความกังวลของตัวเอง
“ตอนนั้นฉันเองก็เป็นเด็กสินะคะ……”
พวกความกังวลในตอนนั้น พอมาถึงตอนนี้ก็กลายเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ แล้วกับพี่ชายนั้นก็ติดต่อกันผ่านเมล์ จากนั้นก็มีคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านมินาคามิเป็นจุดเริ่ม------ทำให้เติมเต็มความรู้สึกได้สำเร็จ
คดีที่หมู่บ้านมินาคามิได้ทำให้ทั้งความกังวลและความสงสัยที่ซาคุยะมีกระจ่างชัดขึ้นมาในคราวเดียว
หลังจากนั้น ที่หลงเหลืออยู่ก็คือกลุ่มก้อนความรู้สึกของตัวซาคุยะเองที่ไม่ถูกใครผูกมัดไว้ทั้งสิ้น
ไม่ใช่ความรู้สึกที่เป็นเหมือนโปรแกรมไม่รู้ที่มาที่ไปซึ่งเคยลองฝืนดูในอดีต แต่เป็นสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นภายในส่วนลึกของหัวใจที่ตัวซาคุยะเป็นคนทำให้อบอุ่นเอง
ถอนหายใจเล็กน้อยอีกครั้ง
สมาธิหายไปโดยสิ้นเชิง
คิดจะเปลี่ยนบรรยากาศ ซาคุยะเลยลุกจากเก้าอี้เพื่อชงชาฝรั่งมาเติม
[หน้า 20]
“ขอโทษนะคะที่มารบกวนตอนกลางคืน รุ่นพี่มินางามิ ขอเวลาซักครู่ได้รึเปล่าคะ”
มีเสียงรุ่นน้องดังมาจากอีกฟากของประตูพร้อมๆกับเสียงเคาะ
“ได้ค่ะ……ไม่เป็นไรค่ะ……”
ต้อนรับพวกเด็กสาวที่อยู่นอกห้องแล้วให้เข้ามา
ไม่ว่าจะคนไหนก็เป็นเด็กผู้หญิงที่เคยเจอหน้ากันในหอพัก และเพราะชั้นปีก็ต่างกับซาคุยะด้วย เลยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันมาก แต่ก็เคยอยู่ตำแหน่งเดียวกันตอนทำความสะอาดหอพักหรือเคยนั่งโต๊ะเดียวกันในโรงอาหาร
“แล้วมีอะไรเหรอคะ”
พอซักไป พวกเด็กสาวก็มองตากัน
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่พูดออกมาได้ยาก
“ที่จริงแล้ว……พวกหนูมีเรื่องจะขอร้องรุ่นพี่มินางามิก็เลยมาน่ะค่ะ”
“เรื่องนั้นพอดูจากท่าทางแล้วก็พอคาดเดาได้ค่ะ ……มีอะไรเหรอคะ ?”
“นี่ค่ะ”
ที่ยื่นมาให้คือแฟ้มทำจากกระดาษ
ถูกเย็บรวมเข้าไว้ด้วยที่เย็บ ที่หน้าปกมีภาพลายคริสต์มาสกับชื่องานวาดไว้ด้วยภาพสีสดใส
“ไปขอให้เด็กที่ชมรมศิลปะวาดให้ค่ะ ! ทุกคนตั้งใจทำให้แล้วบอกว่าต้องทำให้สำเร็จให้ได้นะ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น