คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย
แปลมาจากหนังสือนิยาย
[หน้า 231]
นั่นคือหินสีฟ้าที่เป็นเศษเสี้ยวของผ้าคลุมนางฟ้า
ใช้ปากคาบแล้วยื่นมาทางซาคุยะ
“อันนี้……”
พอหยิบไปทั้งๆที่ยื่นมาให้อย่างนั้น
คราวนี้ก็ดึงนิ้วแล้วพาไปทางซากศพ
“……อย่าบอกนะว่า……บอกให้ช่วยงั้นเหรอ ? ให้ฉันช่วยเด็กคนนี้เหรอ……?”
ร้องเสียงแหลมนานเป็นพิเศษราวกับเก็บการตอบให้กับการพูดพึมพำ
เสียงคร่ำครวญเล็กๆของสัตว์ดังก้องกระจายไปในป่า
เสียงที่เศร้าซึ่งฟังดูชัดเจนมากนั้นจับใจผู้ฟัง แล้วจู่ๆก็รู้สึกร้อนที่บริเวณตา
“……ฮึ……ก……”
ไม่อาจกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นได้
“ขอโทษ ขอโทษนะ……”
กายของมนุษย์ที่ไม่อาจเป็นพระเจ้าได้นั้นทำอะไรไม่ได้เลย
ตอนนี้ได้แต่เศร้าใจกับความไร้พลังของตนเอง
“ขอโทษจริงๆ……ฮึก”
ซาคุยะในตอนนี้ได้แต่ขอโทษเพียงอย่างเดียว
แล้วถึงจะทำตามที่ขอร้องมาได้
นั่นก็แค่เป็นการให้กำเนิดสัตว์น่าสงสารที่ถึงจะตายแต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อขึ้นมาเท่านั้น
ใช้ความคิดของสัตว์เข้าใจความหมายการร้องไห้สะอึกสะอื้นของซาคุยะได้จริงๆงั้นเหรอ
[หน้า 232]
เสียงร้องที่สูงและดังไปไกลราวกับขลุ่ยดังก้องภายในป่าอีกครั้ง
ไม่ต้องถึงกับนำไปเทียบกับขามา
ขากลับนั้นเป็นเวลาแค่ชั่วพริบตา
เหลือสัญลักษณ์ทิ้งไว้
แล้วใช้ผ้าคลุมนางฟ้าของกิงโกะกลับมาถึงบนหน้าผา
ความตกใจที่มีต่อการบินบนท้องฟ้าจนพูดนั่นพูดนี่ตอนขามาเองก็ไม่เกิดความรู้สึกอะไรทั้งสิ้นแล้ว
ราวกับว่าจิตใจได้แข็งเป็นน้ำแข็งไป
ทว่า ร่างของทานูกิที่เล็กลงไปเบื้องล่างกับเสียงร้องที่เหมือนจะไล่ตามมานั้น
ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรก็ยังตราตรึงติดแน่นอยู่ไม่ยอมห่าง
ลงมายืนบนหน้าผา
ความรู้สึกของการบินไปบนท้องฟ้าด้วยฟ้าคลุมนางฟ้ากลายเป็นความรู้สึกขัดๆอย่างรุนแรงแล้วตกค้างอยู่
เลยไม่มีความรู้สึกว่าได้เหยียบพื้นจริงๆ
ปลายทางของหน้าผาที่มองลงไปนั้นเป็นผืนแผ่นสีเขียวแผ่ขยายออกไป
ไม่ต่างไปจากเมื่อซักครู่นี้
รู้สึกท้อแท้กับป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล
ทั้งๆที่น่าจะผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่พูดเรื่องนั้นไปแท้ๆ
แต่ตอนนี้กลับเห็นเป็นสถานที่ที่ต่างกันออกไป
“คิดว่าเด็กคนนั้นคงจะไม่ไหวแล้วล่ะ”
[หน้า 233]
กิงโกะพูดขึ้นในขณะที่มองลงไปยังป่าใต้หน้าผาเช่นเดียวกับทั้งสอง
“อีกประมาณไหนเหรอคะ”
“บางทีคงจะเป็นช่วงไม่กี่วันหลังจากนี้
เพราะที่ๆฉันฟันไปเป็นแผลที่ใหญ่ที่สุดเลยไม่ใช่ข้อแก้ตัวสำหรับเรื่องนั้นหรอกนะ
แต่เดิมทีภายในร่างกายก็โทรมไปหมดแล้ว
เพราะแบบนั้นถึงจะไม่มีแผลนั่นก็อาจจะข้ามปีนี้ไปไม่ได้ไม่ใช่เหรอไงกันนะ”
“เด็กแบบนั้น……ตอนนี้เองก็มีอยู่ในภูเขานี้ด้วยรึเปล่าคะ
?”
“อืม มีเยอะเลยล่ะ”
“……อย่างงั้นเหรอคะ……”
หน้าซีด และท่ายืนก็ไม่มั่นคง
โคสุเกะดึงมือซาคุยะแล้วประคองไว้เพื่อไม่ให้ลื่นตกไปใต้หน้าผา
“เคยคิดสงสัยอยู่ค่ะ……ว่าถ้ายามาวาโระโจมตีมนุษย์ล่ะก็ ทำไมถึงได้มาถึงโรงเรียนแล้วไม่มีความวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นเลยกันนะ……แน่นอนค่ะ
คิดว่าการที่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องดี
แต่ยามาวาโระอีกตัวที่เจอที่โรงเรียนมุ่งความเป็นศัตรูเข้ามาหาฉันค่ะ……”
“ซาคุยะ”
“ต้องเป็นเรื่องแบบนี้แน่ๆเลยสินะคะ เด็กคนนั้นต้องการความช่วยเหลือจากฉัน
ส่วนยามาวาโระอีกตัวมาเพื่อระบายความโกรธที่ทำให้ชีวิตของพวกตัวเองแปดเปื้อน
ฉันไม่แม้แต่จะรู้ตัวเรื่องแบบนั้นเลย มองร่างที่ผิดปกติแล้วก็ได้แต่กลัว
เผลอคิดว่าน่ากลัวไปซะแล้วค่ะ……”
[หน้า 234]
“ซาคุยะ”
“ฉัน……จะชดใช้……ยังไงดี……”
“ซาคุยะ !”
ถูกโคสุเกะเรียกชื่อสามครั้ง
พอซาคุยะที่เพิ่งรู้ตัวเป็นครั้งแรกว่าถูกเรียกเงยหน้าขึ้นก็พบกับดวงตาคู่หนึ่งที่มองมาด้วยความห่วงใย
“ตอนนี้ตั้งใจว่าจะลงจากภูเขาครับ
ถึงอาจจะทำให้เจ้านั่นต้องทรมานต่อไปอีกหน่อยก็เถอะ”
“อื้อ ยังไงฉันก็ดูอยู่
ไม่มีปัญหาหรอก”
“……ขอบคุณค่ะ”
โค้งศีรษะให้อย่างไร้เรี่ยวแรง
แค่นั้นเข่าก็ทำท่าจะทรุดลงไปแล้ว
“อ๊ะ ซาคุยะจัง รอเดี๋ยว”
“……?”
“ซาคุยะจังไม่ผิดหรอก อย่าไปคิดมากเลย……ถึงจะพูดไปก็คงเปล่าประโยชน์สินะ
แต่เฉพาะเรื่องนั้นเท่านั้นนะที่ห้ามลืม”
[หน้า 235]
“…………”
“ที่มาแรกสุดของเรื่องไม่ใช่ซาคุยะจัง
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่สาวของฉัน
เพราะแบบนั้นห้ามแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดไว้นะ
ถ้าทำแบบนั้นจะกลายเป็นว่าซาคุยะจังได้ทาสีทับตัวตนของพี่สาวจนหายไปด้วย
การกระทำของพี่สาวทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีไม่ใช่ของๆใครทั้งนั้น เป็นของพี่สาว……เป็นของบรรพบุรุษของซาคุยะจัง
เพราะแบบนั้นห้ามคิดว่าจะแบกรับทั้งหมดไว้นะ แล้วคนที่ฟันยามาวาโระก็คือฉันด้วย
เด็กคนนั้นปกป้องซาคุยะจังไว้”
“แต่ว่าเรื่องนั้นทำไปเพื่อขอให้ช่วยลูกของตัวเอง”
“ที่ไม่มีของอย่างหลักประกันว่าจะทำแบบนั้นได้เนี่ย
เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้วแน่นอน
คิดว่าถึงอย่างนั้นก็ได้แต่พึ่งพาอย่างเดียว”
“…………”
“อยากจะพูดแค่นั้นล่ะ
ไม่ใช่เรื่องที่ซาคุยะจังต้องมากังวลหรอกนะ ทางฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องขอโทษด้วยซ้ำ
เพราะพี่สาวเคยนำจิตใจไปซ้อนทับกับซาคุยะจัง ก็เลยคิดว่าที่รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องของตัวเองคงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ด้วย
คิดว่านั่นเองก็เป็นบาปที่พี่สาวเหลือทิ้งไว้เหมือนกัน”
“คุณกิงโกะ……”
“ฝากซาคุยะจังด้วยนะ”
[หน้า 236]
“ครับ ไว้พรุ่งนี้จะมาอีกครับ ถึงตอนนั้นก็……”
โคสุเกะลังเลที่จะพูด แต่ก็สื่อไปถึงกิงโกะกับซาคุยะ
ยามาวาโระตัวนั้นอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
เพราะตอนนี้อยู่ในสภาพที่ถูกผ้าคลุมนางฟ้าทำให้มีชีวิตอยู่
ต้องตัดสินใจว่าจะทำยังไงดี
แม้จะเข้าใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว
แต่ทั้งคู่ในตอนนี้นั้นไม่มีท่าทางว่าจะทำอะไรได้เลย
ได้ยินเสียงสูงที่เหมือนกับเสียงขลุ่ยดังมาจากในป่า
สายลมที่ไต่หน้าผาขึ้นมาได้กระทบกับหินทำให้เกิดเสียงแปลกๆดังก้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น