Chapter 1 (Part 5)

posted on 11/21/2560 07:36:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ที่ http://vermillionend.exteen.com

คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย

[หน้า 111]
ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องคล้ายๆแบบนี้ด้วยนี่นะ
จิคาเงะเองก็มาร่วมวงสนทนาด้วย
เอ๊ะ อะไรล่ะนั่น มีด้วยเหรอ ?”
กลายเป็นข่าวตั้งขนาดนั้นเลยไม่ใช่เหรอไง ข่าวพฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เนี่ย ถูกทีวีหยิบยกไปด้วย
อ๊ะ ดูแล้วๆ เมื่อเร็วๆนี้ก็มีฉายในรายการพิเศษด้วยสินะ
…………
พอหัวข้อสัตว์ประหลาดโผล่มาแล้ว ไม่ว่ายังไงก็นึกถึงเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาจนได้
เดิมทีผ้าคลุมนางฟ้าที่เป็นต้นเหตุนั้น โคสุเกะผู้เป็นพี่ชายได้ถึงกับยอมเสียสละร่างกายของตัวเองส่วนหนึ่ง แล้วส่งกลับท้องฟ้าไปแล้ว
ไม่ใช่ว่าตัวตนของสิ่งเรียกว่ายามาวาโระได้หายไปตอนนั้นแล้วหรอกเหรอ เพราะแบบนั้นครั้งนี้เลยแค่ดูผิดไป เป็นไปไม่ได้ด้วยที่จะเกิดเรื่องแบบที่ทำให้วิตกกังวล
อ๊ะ !”
จู่ๆมีอะไรงั้นเหรอ ?”
ลืมของหรืออะไรทำนองนั้นรึเปล่า ?”
อะ อื้อ ตามนั้นล่ะค่ะ จะไปหยิบมาเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ



[หน้า 112]
เป็นของที่ต้องใช้ในคาบแรกเหรอ ถ้าเป็นหนังสือเรียนล่ะก็แค่ขอคนอื่นดูก็ได้นี่
ปะ เปล่า ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ
อาจารย์คงใกล้จะมาแล้วด้วย ไว้ตอนพักก็ได้ไม่ใช่เหรอไง ?”
……นั่นสินะคะ เอาแบบนั้นแล้วกันค่ะ……”
มีเรื่องที่นึกขึ้นได้ เลยร้อนรนอยู่ภายในใจไม่หยุด
เมื่อวานได้พูดเกี่ยวกับตัวตนของสิ่งนั้นไป
แม้จะไม่สามารถเรียกว่าเป็นยามาวาโระได้ แต่ตัวตนที่ใกล้เคียงกันนั้นตอนนี้เองก็ยังเหลือรอดอยู่ ถึงจะไม่ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาด แต่สัตว์ที่ถูกทำให้แข็งแกร่งขึ้นขนาดที่สามารถต่อกรกับสัตว์ประหลาดได้อย่างเกินพอนั้น ถ้ามองจากสายตาของมนุษย์แล้วไม่แตกต่างไปจากสัตว์ธรรมดามากเท่าไร
มีหมาจิ้งจอกถูกเลี้ยงไว้ตรงด้านหลังของศาลเจ้าหมู่บ้านมินาคามิ
เป็นสัตว์ที่ครั้งหนึ่งเกือบกลายเป็นยามาวาโระไป แต่ต่อมาก็ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะตัดขาดออกมาให้เห็นด้วยตัวเอง

ในทันทีที่ถึงตอนพัก ก็ลุกจากเก้าอี้
รู้สึกว่าถูกพูดอะไรซักอย่างกับท่าทีรีบร้อนของซาคุยะจากข้างหลัง แต่ไม่มีเวลาพอที่จะตอบกลับไป
ออกไปที่ระเบียง แล้วมองซ้ายมองขวา
ในอาคารเรียนใช้โทรศัพท์มือถือไม่ได้ กฎห้ามไว้ด้วย แล้วถ้าถูกใครได้ยินก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากด้วย



[หน้า 113]
พอเป็นแบบนั้นก็มีแต่ต้องออกไปข้างนอกอีกรอบเท่านั้น
เดินผ่านระเบียงด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับการวิ่งเหยาะๆ แล้วลงบันไดไป
นักเรียนที่เดินสวนกันตกใจกับท่าทางของซาคุยะแล้วชะงัก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น แล้วมุ่งไปที่ทางเข้าด้านหน้าต่อ
แม้ว่าจะถูกใครซักคนเรียกให้หยุด ตอนนี้การออกไปข้างนอกเป็นสิ่งที่ควรทำก่อน
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่คำศัพท์ที่ได้ยินหลังจากนั้นเพียงเล็กน้อยนั้นก็เพียงพอที่จะหยุดการก้าวเดินของซาคุยะ
มีเด็กถูกเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ------
“------ ! !”
ตั้งใจฟังการสนทนาที่หลุดลอดออกมา
เมื่อเช้าเห็นบอกว่าแค่บังเอิญไปเจอเข้าแล้วเห็นเป็นสัตว์ประหลาดเท่านั้น สถานการณ์เปลี่ยนแล้วเหรอ หรือว่าปิดบังไว้อยู่ ไม่ว่าจะยังไงดูเหมือนว่ามีคนได้รับบาดเจ็บแล้วไม่ผิดแน่
………….
ตรงบอร์ดติดประกาศซึ่งอยู่หน้าตู้รองเท้ามีโปสเตอร์งานเลี้ยงคริสต์มาสแปะอยู่
ป้ายประกาศที่ถูกตกแต่งอย่างสนุกสนานนั้น ระหว่างที่เกิดคดีขึ้นก็ดูหดหู่ยังไงไม่รู้

ไปที่ด้านหลังของตึกเรียน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา



[หน้า 114]
พอเรียกเบอร์โทรศัพท์มาจากรายชื่อที่บันทึกไว้แล้ว ก็กดปุ่มโดยไม่ลังเล
………………
รู้สึกหงุดหงิดไม่ทันใจกับเสียงรอสาย
ทั้งๆที่ดังขึ้นสองครั้ง สามครั้งแล้วก็ยังไม่รับ ตอนที่ดังซ้ำเป็นครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้าและกำลังจะตัดสายนั้นเอง ในที่สุดก็มีใครรับสาย
เอ่อ สวัสดีค่ะ ซาคุยะค่ะ คุณกิงโกะ……มีเรื่องอยากจะคุยด้วยน่ะค่ะ ได้รึเปล่าคะ
มีเสียงสดใสของหญิงสาวดังมาจากมือถือ
ถึงจะดีใจที่ได้คุยกับซาคุยะหลังจากที่ไม่ได้คุยกันมาซักพัก แต่ก็ปรับบรรยากาศให้เข้ากับเสียงที่ดูจนปัญญาไม่รู้จะทำยังไงดี


บ้านของกิงโกะนั้นถึงจะอยู่ที่หมู่บ้านมินาคามิ แต่ก็อยู่ในภูเขาลึก
ต้องข้ามสะพานแขวนที่พาดไว้ตรงลาดเขาของภูเขาที่แทบจะไม่มีคนเข้าไป จากนั้นก็ยังต้องก้าวเข้าไปในส่วนลึกของป่าที่ไม่มีถนนอีก จึงจะมาถึงที่หมายได้อย่างยากลำบากในที่สุด
แทบจะไม่มีมนุษย์คนอื่นนอกจากเจ้าของบ้านมา แต่ในบ้านกลับถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เกี่ยวกับยามาวาโระหลังจากนั้นงั้นเหรอ



[หน้า 115]
ในขณะที่นอนอยู่บนเสื่อทาทามิอย่างไม่เรียบร้อย ก็ใช้นิ้วเล่นปลายผมของผมยาวสีเงินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชื่อไปพลางๆ
หน้าอกที่อวบอึ๋มและได้รูปขนาดที่ถึงจะมองจากบนเสื้อผ้าก็ยังรู้ได้นั้น พอกิงโกะขยับตัวก็จะกระเพื่อมยืนยันการมีอยู่ของมัน
ตามที่ว่า เพราะความช่วยเหลือของโคสุเกะคุง นูเอะที่พยายามจะกลืนซาคุยะจังเข้าไปก็เลยหายไปแล้ว พวกสัตว์ที่กลายเป็นวัตถุดิบเองก็……ถึงจะน่าสงสาร แต่ก็หายไปพร้อมๆกันน่ะ ก้อนเนื้อที่เหลืออยู่ฉันก็เผาไปแล้ว เพราะแบบนั้นสรุปว่ายามาวาโระที่กำลังจะกลายเป็นนูเอะได้หายไปแล้วล่ะ……
ดูเหมือนว่าซาคุยะที่อยู่ในสายโทรศัพท์กำลังร้อนรนอยู่
คดีที่สัตว์ประหลาดสร้างความวุ่นวายและมีคนบาดเจ็บซึ่งเกิดขึ้นที่โรงเรียนนั้นได้ทำให้ซาคุยะผู้สุขุมเยือกเย็นกำลังร้อนรนอยู่
กิงโกะไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด
เพราะเป็นเรื่องของซาคุยะที่มีความรับผิดชอบสูง บางทีอาจจะกำลังคิดว่าถ้าปัญหาเกี่ยวข้องกับยามาวาโระล่ะก็ต้องเป็นเพราะตัวเองแน่ๆ อยู่ก็เป็นได้
และสำหรับกิงโกะเองก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง
เป็นไปตามที่ซาคุยะจังคาดไว้นั่นล่ะ ตัวยามาวาโระเองนั้นไม่ได้หายไป ตอนนี้เองก็ยังเหลือรอดอยู่เยอะด้วยนะ
ถ้าอย่างงั้น แปลว่าตอนนี้เองก็กำลังอาละวาดอยู่ที่ไหนซักแห่งแล้วสร้างอันตรายกับมนุษย์อยู่เหรอคะ ?’
ไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปนะ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้คิดว่าจะทำยังไงดีน้า อยู่น่ะ
ครุ่นคิดว่าจะอธิบายยังไงดี ได้ข้อสรุปออกมาแล้ว แต่ในการสื่อสารโดยไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดนั้นจำเป็นต้องใช้ความพยายาม แค่โทรศัพท์อย่างเดียวท่าทางจะยาก



[หน้า 116]
ยังไงก็เถอะ ถ้าไม่ลองไปดูก็ไม่รู้หรอก เพราะแบบนั้นจะไปทางนั้นซักพักนะ เรื่องที่จะคุยเอาไว้หลังจากนั้นได้ไหม ?”
ค่ะ ถ้าคุณกิงโกะช่วยมาให้ล่ะก็อุ่นใจได้ ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วค่ะ……แต่ก็มีปัญหาอยู่นิดหน่อยน่ะค่ะ
เอ๊ะ อย่างเช่น ?”
การนำคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางโรงเรียนเข้ามาจะเป็นปัญหาไม่ทางใดก็ทางหนึ่งน่ะค่ะ
อ๊ะ ไม่เป็นไรไม่เป็นไร เพราะจะไม่ทำพลาดให้คนอื่นเจอตัว เชื่อมาแล้ววางใจได้เลย
……เข้าใจแล้วค่ะ ขอฝากด้วยนะคะ
คงจะมีข้อสงสัยอยู่ แต่กลับพูดแค่นั้นแล้ววางสายไป
โคสุเกะเองก็เป็นแบบนั้น ซาคุยะที่เป็นน้องสาวเองตัดสินใจได้ไว
คิดไปเพลินๆว่าความสามารถในการลงมือปฏิบัติจริงของพี่น้องมินางามิคงจะได้รับมาจากแม่แน่ๆ
เอาล่ะ ออกไปค้างข้างนอกนานๆทีสินะ
คงต้องเตรียมชุดไว้สำหรับเปลี่ยนแล้วค่อยไป ไม่ว่าจะเป็นยามาวาโระจริงๆหรือเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดาก็ตั้งใจจะทำให้มันจบลงทันที แต่การที่เริ่มโดยเริ่มตั้งแต่สำรวจนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะได้กลับมาภายในวันนี้
ในขณะที่หยิบเสื้อผ้าชิ้นนั้นชิ้นนี้ออกมาจากตู้เก่าๆซึ่งทำจากไม้ ก็รู้ตัวว่ากำลังดีอกดีใจอยู่



[หน้า 117]
เคยออกห่างจากหมู่บ้านมินาคามิเพราะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดี แต่ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้จนถึงขั้นนี้มาก่อนเลย
เห็นบอกว่ามีคนบาดเจ็บแล้ว เลยรู้สึกอยากจะคลี่คลายให้ได้โดยเร็ว เรื่องนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่ผ่านมา ที่กำลังดีใจอยู่นั้นเป็นเพราะมีเหตุผลอื่นอยู่อีก
……อ๊ะ งั้นเหรอ
ถึงจะเป็นการออกห่างจากหมู่บ้าน แต่สถานการณ์นั้นต่างไปจากที่ผ่านมา      
ครั้งนี้เป็นการออกไปเพื่อช่วยคนอย่างบริสุทธิ์ใจครั้งแรกนับตั้งแต่ที่มายังหมู่บ้านนี้


เวลาผ่านไปทั้งที่ยังไม่มีการติดต่อจากกิงโกะ
ไม่รู้ว่าจะนั่งอะไรมา แต่คงจะเป็นรถไฟเหมือนกับตอนที่เชิญมางานโรงเรียนก่อนหน้านี้
ถ้าอย่างนั้นถึงจะติดต่อมาราวๆช่วงที่มาถึงสถานีหรือแถวๆหน้าพื้นที่ของโรงเรียนก็ไม่แปลก
…………
ทว่า หน้าจอกลับไม่เปลี่ยนไปเลย ทั้งเมล์ทั้งสายที่ไม่ได้รับ ไม่มีทั้งสองอย่างเลย
พอเห็นซาคุยะหยิบมือถือออกมาทุกครั้งที่ถึงเวลาพัก ก็มีเสียงที่ไม่ได้พูดเรื่องดีๆดังมาจากรอบข้าง



[หน้า 118]
ดูมือถืออีกแล้วสิน้า
พอคิดว่าหลังๆมานี้สงบลงแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะกลับมาเป็นอีกน่ะนะ
สาเหตุคือไอ้ที่ดูรีบร้อนสุดๆเมื่อกี้รึเปล่านะ
กลายเป็นการบอกเลิกไปงั้นเหรอ หรือว่าเป็นปัญหาความรัก……
……เฮ้อ
เก็บโทรศัพท์มือถือพร้อมกับถอนหายใจ
ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ อีกฝ่ายที่รอการติดต่ออยู่ก็เป็นเพศเดียวกันด้วย เรื่องน่าละอายอะไรแบบนั้นไม่มีหรอกค่ะ
เห ใครเหรอ คนรู้จักเหรอ ?”
ก็  ประมาณนั้นล่ะค่ะ เป็นคนที่รู้เกี่ยวกับสัตว์ดี เลยกะจะลองถามดูว่านึกอะไรออกบ้างไหม……
อืม แบบนี้นี่เอง ถ้ายังวุ่นวายต่อไปทั้งๆแบบนี้ล่ะก็ กิจกรรมอาจจะต้องยกเลิกกลางคันก็ได้นี่นะ
นั่นเป็นคำพูดที่อยู่เหนือความคาดหมาย
ถึงจะเข้าเดือนธันวาคมไปและคริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว แต่ก็ยังอีกหลายวัน
ไม่สามารถคิดได้ว่าเหตุการณ์ในคราวนี้จะลากยาวไปถึงขนาดนั้น
พอถามเรื่องนั้นดู คำตอบของจิคาเงะกลับเป็นอะไรง่ายๆ
ก็คริสต์มาสน่ะเป็นของที่จัดขึ้นในปิดเทอมหน้าหนาวใช่ไหมล่ะ ถ้ายังไม่รู้สาเหตุอยู่ทั้งๆอย่างนั้นล่ะก็ จะมีประกาศว่าช่วงปิดเทอมให้กลับบ้านน่ะ



[หน้า 119]
เป็นอย่างนั้น……เหรอคะ ?”
แบบนั้นนี่เอง สมแล้วที่เป็นประธานหอ
ถ้าเป็นฉันล่ะก็จะทำแบบนั้น หรือควรจะพูดว่าไม่ทำแบบนั้นไม่ได้ เวลาอย่างช่วงปิดเทอมเนี่ยเกือบทั้งหมดที่อยู่ก็มีแค่นักเรียนด้วย ในกรณีที่ยังคลี่คลายไม่ได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่มีแค่พวกเด็กๆอยู่กันเท่านั้นล่ะ คิดว่ามีคนคิดแบบนี้อยู่เยอะนะ
……อาจจะเป็นอย่างที่ว่ามาจริงๆก็ได้ค่ะ
ซาคุยะอุตส่าห์มีใจแล้วแท้ๆเนอะ
ตัวฉันนั้น ตอนนี้เองก็ไม่ใช่ว่าอยากจะไปเข้าร่วมประกวดขนาดนั้นหรอกนะคะ แต่……
แต่รุ่นน้องพวกนั้นคงจะเศร้าสลด
ทั้งๆที่อยากจะสร้างความทรงจำข้ามชั้นปีแท้ๆ แต่การที่สิ่งที่ทำมากลับต้องมายกเลิกกลางคันก่อนหน้าวันจริงไม่นานนั้นมันเกินไปแล้ว
ถึงแม้ว่าจะกลายเป็นการยกเลิกกลางคัน แต่ให้จบแบบนี้ไม่เอาหรอกนะคะ
นั่นสิน้า~……
มองออกไปนอกหน้าต่าง
ป่าที่เห็นจนชินนั้นตอนนี้กลับคิดได้ว่าเป็นสถานที่ลึกลับที่ไม่รู้ตัวตนแน่ชัด



[หน้า 120]
หลังจากนั้นก็ลองรอการติดต่อไปจนถึงหลังเลิกเรียน แต่กลับไม่มีการติดต่อมาจากกิงโกะเลย

------รีบกลับไปที่หอพักดีกว่า
สิ่งที่ซาคุยะซึ่งกระโจนออกไปนอกห้องเรียนทันทีที่เสียงออดดังขึ้นคิดเป็นอย่างแรกคือเรื่องนั้น
ถ้าเป็นในห้องของตัวเองล่ะก็สามารถคุยกับกิงโกะอย่างสบายๆได้
บางทีอาจจะมาอยู่ใกล้ๆแล้ว แล้วกำลังรอให้ชั่วโมงเรียนของซาคุยะจบลงอยู่ก็เป็นได้
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ควรจะย้ายไปยังที่ๆไม่เตะตาผู้คนและสามารถทำตัวสบายๆได้
เดินผ่านทางที่ใช้เดินไปโทรศัพท์เมื่อซักครู่ด้วยความเร็วที่เกือบจะเท่าๆกัน
ไม่ใช่จะไม่มีนักเรียนวิ่งเลย แต่เนื่องจากที่โรงเรียนนี้แทบจะไม่มีนักเรียนวิ่งบนระเบียงทางเดิน ทำให้การวิ่งเต็มกำลังนั้นสะดุดตามาก
ไม่มีนักเรียนที่ย้อมผม ทุกคนใส่ชุดนักเรียนธรรมดาๆ เรื่องพฤติกรรมเองก็รักษากฎระเบียบเพื่อจะได้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
เรื่องที่พวกตนเองซึ่งปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดขนาดนั้นกำลังเผจิญกับเหตุการณ์ผิดธรรมดาอยู่นั้น คิดได้ว่าดูลักลั่นย้อนแย้งยังไงไม่รู้
ออกจากทางเข้าออกที่มีตู้รองเท้าอย่างรวดเร็ว แล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องของตนเอง
อ๊ะ ซาคุยะจัง กลับมาแล้วเหรอ โรงเรียนเลิกแล้วสินะ
ไม่เชื่อในหูของตัวเองที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยทักมาโดยไม่ทันตั้งตัว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น