Chapter 1 (Part 7)

posted on 11/21/2560 07:56:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ที่ http://vermillionend.exteen.com

คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย

[หน้า 131]
หืม แบบนี้นี่เอง แล้วเมื่อไม่นานนี้เองก็มีตัวที่บาดเจ็บหลงเข้ามา……
เป็นอะไรทำนองนั้นสินะคะ
อืม ไปแอบดูทีหลังดีมั้ยน้า
เพราะรู้สถานที่ ให้พาไปชมตั้งแต่ตอนนี้เลยไหมคะ
ไม่เป็นไร ฉันจะลองไปคนเดียวดู ถ้าทุกคนกำลังเรียนอยู่ล่ะก็ไม่ต้องมากังวลกับสายตาของคนอื่นด้วยน่ะนะ
หลังจากนั้นก็พากิงโกะชมพื้นที่ของโรงเรียนจนตะวันตกดิน
ลองกวาดสายตามองรั้วล้อมโรงเรียนหรือทางเข้าออกดู แต่ก็ไม่มีรูโหว่แบบที่เหมือนจะถูกอะไรซักอย่างทำพัง

แต่ยังไงก็สนุกดีเนอะ~”
อย่างงั้นหรือคะ ?”
ที่ได้ยินคำๆนี้เองก็หลายรอบแล้ว ในเรื่องของกิงโกะผู้เดินอยู่บนเวลาที่ต่างไปจากมนุษย์นั้น สามารถคิดได้ว่าท่าทางจะไม่มีพวกของแปลกที่ไม่เคยเห็น แต่ดูเหมือนว่าสำหรับเจ้าตัวแล้วจะไม่ได้เป็นแบบนั้น
ยังไม่เคยถามยุคสมัยที่แน่ชัดไป แต่ตั้งแต่ที่กิงโกะมายังโลกนี้ก็น่าจะผ่านไปเกิน 500 ปีแล้วแน่ๆ
ไม่รู้ว่าใช้ชีวิตอยู่ที่โลกเดิมมานานเท่าไร แต่ดูเหมือนว่าถึงจะมีชีวิตอยู่มานานขนาดนั้น ความอยากรู้อยากเห็นก็ไม่ได้ลดหายลงไป



[หน้า 132]
ที่ๆมีแต่เด็กผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเนี่ย ยังไงก็คิดแบบนั้นนะ แถมเป็นเพราะฉันไม่เคยไปเรียน เลยรู้จักจากแค่ที่รู้มาเท่านั้นน่ะ
คุณกิงโกะ รูปร่างภายนอกดูยังไงก็เห็นเป็นแค่วัยยี่สิบเท่านั้นค่ะ ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยล่ะก็ ถึงจะเป็นตอนนี้ก็ท่าทางจะเข้าไปเรียนในฐานะเพื่อนร่วมชั้นได้ค่ะ
จริงเหรอ ยังไงก็ควรทำอะไรไว้หลายๆอย่างระหว่างที่ยังสาวรึเปล่านะ
…………พูดได้แค่ว่าตรงนั้นก็เป็นแบบนั้นสินะคะ
แม้จะเดินไปเดินมาในหอพัก ก็ไม่มีคนพบตัวกิงโกะเลย
ถึงอย่างนั้นพอเป็นที่ๆมีมนุษย์คนอื่นอยู่ก็จะสงบใจไม่ลง
ทั้งคู่เลยตัดสินใจรีบกลับไปที่ห้อง
ว่าแต่คุณกิงโกะคะ คืนนี้จะเอายังไงเหรอคะ ?”
อา~ จะทำยังไงดีนะ
ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ค้างที่นี่ไหมคะ ทางรูมเมทกลับไปบ้านน่ะคะ ตอนนี้ก็เลยเหลือฉันคนเดียวด้วย
อ๊ะ งั้นเหรอ เพราะแบบนั้นก็เลยมีเตียงสองเตียง ทั้งๆที่ของมีแค่ของๆซาคุยะจังคนเดียวนี่เอง
ค่ะ



[หน้า 133]
ถ้ามีใครอยู่ล่ะก็ ตั้งใจว่าพอกลับมาแล้วจะออกไปข้างนอก แต่ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วล่ะก็ขอยืมห้องไว้เลยดีรึเปล่าน้า……แล้วขอใช้อ่างอาบน้ำไปด้วยเลยได้มั้ย ?”
เรื่องแบบนั้นไม่ต้องขออนุญาตอะไรฉันก็ได้ค่ะ รู้วิธีใช้รึเปล่าค่ะ ?”
ถ้าเป็นห้องอาบน้ำธรรมดาล่ะก็เข้าใจอยู่หรอก
ถ้าอย่างนั้น……”
ลุกขึ้นยืน แล้วพาไปห้องอาบน้ำ
ที่ถูกติดตั้งไว้ในห้องของหอพักคือห้องอาบน้ำแบบประกอบสำเร็จ
กว้างกว่าของปกติทั่วไปมาก และระหว่างห้องน้ำกับห้องอาบน้ำเองก็มีธรณีประตูแบบง่ายๆจัดเตรียมไว้อยู่
โอ~ ดูมีประสิทธิภาพยังไงไม่รู้แฮะ
หลังจากที่ถูกให้ดูผ้าคลุมนางฟ้าที่ยังไงก็เห็นได้แค่ว่าเป็นพลังเหนือธรรมชาติหรือไม่ก็เวทมนตร์แล้ว ถึงจะมาชื่นชมห้องอาบน้ำประกอบสำเร็จไป ทางนี้ก็ไม่รู้จะตอบอะไรกลับไปดีค่ะ……
หมุนก๊อกน้ำร้อน
กดลงไปตรงส่วนลูกศรที่แสดงอุณหภูมิน้ำร้อน
ปรับอุณหภูมิน้ำร้อนได้ตรงนี้ค่ะ ตอนนี้ปรับเป็นอุ่นเล็กน้อยอยู่ ค่อยๆปรับเพิ่มให้เป็นอุณหภูมิที่พอดีนะคะ



[หน้า 134]
ค่า~ ว่าแต่ตอนใช้น้ำร้อนล้างตัวจะล้างที่ไหนดีเหรอ ท่าทางจะไม่มีที่ให้ล้างตัวน่ะ
โดยพื้นฐานแล้วจะเป็นในอ่างอาบน้ำค่ะ  เพราะไม่ได้ทำน้ำในอ่างให้ร้อน ในกรณีที่จะแช่กรุณาใช้ฝักบัวเติมน้ำร้อนในอ่างทั้งๆอย่างนั้นด้วยค่ะ
แบบนี้นี่เอง……เพราะแคบเลยต้องใช้งานแบบนั้นสินะ นี่ก็ไม่สะดวกในแบบของมันเองเหมือนกันน้า
เป็นอะไรที่เหมือนกับเอาข้อเสียมารวมกันไว้ที่เดียวเลยสินะคะ
นอกจากนั้นก็อธิบายพวกการถ่ายเทอากาศของห้องอาบน้ำกับอุปกรณ์ห้องน้ำ แล้วกลับมาในห้อง
มื้อเย็นจะเอายังไงเหรอคะ ?”
ยังไม่ได้คิดเลย ซาคุยะจังจะทำยังไงล่ะ ?”
เนื่องจากฉันเป็นนักเรียนหอพักเลยสามารถทานที่โรงอาหารได้ค่ะ แต่การจะขอให้เตรียมส่วนของคุณกิงโกะให้อาจจะยากนิดหน่อยก็ได้ค่ะ
เรื่องนั้นช่วยไม่ได้นี่นะ ก็แอบเข้ามาโดยไม่บอกอะไรนี่นา แล้วก็นะ ฉันน่ะ ถ้าแค่วันสองวันล่ะก็สามารถอยู่ได้โดยไม่หิว เพราะแบบนั้นสบายมาก
จริงๆเหรอคะ ?”
จริงๆ จริงๆ
ไม่ได้ฝืนทนอยู่แน่นะคะ
ก็บอกว่าสบายมากไง แล้วก็ระหว่างทางที่มามีร้านอยู่ ถ้าไม่ว่ายังไงก็รู้สึกอยากกินอะไรขึ้นมาล่ะก็จะไปทางนั้นนะ



[หน้า 135]
……ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ
แล้วก็นะ ถ้าซาคุยะจังไปกินข้าวอยู่ล่ะก็ ในระหว่างนั้นจะยืมใช้อ่างอาบน้ำเลยดีรึเปล่านะ……มีแต่เรื่องนี้เท่านั้นที่ถึงจะเป็นผู้หญิงด้วยกันก็ยังอายน่ะนะ
นั่นอาจจะไม่ใช่การพูดเล่นเหมือนทุกที แต่เป็นความรู้สึกที่แท้จริงก็เป็นได้
ที่ผิวขาวๆของกิงโกะมีสีแดงปรากฏขึ้น แล้วก็แดงไปจนถึงต้นคอ


ที่โรงอาหารของหอพักนั้นสามารถเลือกของที่ชอบจากเมนูหลายอย่างที่มีในวันนั้นๆได้
นอกจากแกงกะหรี่ที่เป็นอาหารพื้นฐานแล้ว ยังมีอาหารญี่ปุ่นกับอาหารสไตล์ตะวันตกอยู่อย่างละแบบ สามารถเลือกได้อย่างอิสระตามใจตัวเอง
ซาคุยะตัดสินใจเอาเป็นปลาแซลมอนย่างเกลือ
นั่นน่ะ เรื่องจริงเหรอ ?”
เรื่องจริง เรื่องจริง ได้ยินว่าเมื่อคืนมีเด็กไปเข้าเห็นล่ะ
ในขณะที่แกะปลาแล้วเลาะก้างออก ก็ตั้งใจฟังบทสนทนา
หากมีผู้เห็นเหตุการณ์อยู่ล่ะก็ การไปถามเรื่องราวดูทีหลังอาจจะเป็นวิธีหนึ่งก็เป็นได้
ถ้ารู้ชั้นปีของคนๆนั้นหรือช่วงเวลาที่เห็นแล้วล่ะก็ เวลาที่ใช้ในการตามหาเองก็จะลดลงไปด้วย



[หน้า 136]
ได้ยินมาว่านักเรียนปีสามเห็นอะไรบางอย่างในป่าระหว่างที่ไปซื้อของล่ะ
เห~ แต่เรื่องแบบนั้นเนี่ย ก็มีออกจะบ่อยไม่ใช่เหรอไง ?”
ไม่ๆ เฉพาะเรื่องนั้นเท่านั้นที่ต่างออกไปไม่ใช่เหรอ
……นักเรียนปีสาม อยู่ปีเดียวกับตนเอง ถ้าอย่างนั้นการเข้าหาเองก็ง่ายด้วย ช่วยได้มาก
เรื่องที่เป็นระหว่างทางตอนไปซื้อของเมื่อคืนเองก็เหมือนกัน
ถ้าอย่างนั้น เป็นไปตามที่คิดไว้ บางทีตรงนั้นอาจจะมีเบาะแสอยู่ก็ได้
แล้ว คนที่เห็นเนี่ยใครเหรอ ?”
นั่นไง อยู่ตรงนั้น……
ผู้เห็นเหตุการณ์อยู่ที่นี่งั้นเหรอ ?
จ้องมองไปรอบๆโดยพยายามไม่ให้ดูเป็นคนน่าสงสัย……แต่ก็สบตากับกลุ่มรุ่นน้องสองคนที่มองมาทางซาคุยะเข้า
ทั้งคู่รีบหลบสายตาไป
หลังจากนั้นก็ลดระดับเสียงที่ใช้ในการสนทนาลงไปราวกับเป็นการก้มหน้าหนี
…………
……แปลว่ามีข่าวสารที่ตรงกับตัวเธอเองอยู่เยอะ
ดูเหมือนว่าจะถูกได้ยินการสนทนาเมื่อเช้าเข้า แล้วก็แพร่กระจายออกไปโดยที่มีใครซักคนพูดเสริมเติมแต่งให้เกินจริง



[หน้า 137]
คิดว่าเป็นอะไรที่ไปได้ไม่ง่ายดายขนาดนั้น จากนั้นก็ถือภาชนะที่ว่างเปล่าไปแล้ว แล้วลุกออกมาจากที่นั่ง


คุณกิงโกะคิดยังไงกับยามาวาโระเหรอคะ ?”
หลังจากที่กลับมาที่ห้องก็เข้าไปอาบน้ำต่อจากกิงโกะ จากนั้นก็เป่าผมให้แห้ง เนื่องจากเป็นผมยาว เลยไม่สามารถออกห่างจากเก้าอี้ได้จนกว่าจะแห้งในระดับนึง
กิงโกะเองก็สวมเสื้อยืดบางๆที่ใช้แทนชุดนอน แล้วนั่งอยู่บนเตียง
คงเป็นเพราะชินกับห้องนี้แล้วด้วยรึเปล่านะ ดูเหมือนจะทำตัวตามสบายโดยสิ้นเชิงแล้ว
นั่นสินะ……ตอนนี้เป็นคำถามที่ยากนิดหน่อยรึเปล่านะ
แต่ไหนแต่ไรก็มีข้อสงสัยอยู่ค่ะ ยามาวาโระเนี่ยยังมีอยู่อีกเหรอคะ ?”
อืม เพราะคิดว่ามีอยู่ ซาคุยะจังก็เลยติดต่อมาหาฉันสินะ แต่ว่าทำไมถึงได้คิดแบบนั้นล่ะ
เรื่องนั้นเป็นเพราะพี่……”
โคสุเกะผู้เป็นพี่ชายได้ยอมเสี่ยงตัวเองไปชำระล้างร่างรวมของยามาวาโระที่กำลังจะดูดกลืนคำสาปของนางฟ้ากับซาคุยะเข้าไป
ในตอนนั้นได้รับบาดแผลหนักทั้งร่างกายและจิตใจจนไปอยู่ระหว่างความเป็นความตาย ที่ทำให้โคสุเกะบาดเจ็บนั้นก็คือตัวซาคุยะเองที่เกือบจะถูกยามาวาโระดูดกลืนเข้าไป





[หน้า 139]
ถ้าตอนนี้เองก็ยังมีสัตว์ประหลาดที่เรียกว่ายามาวาโระเหลือรอดอยู่ล่ะก็ รู้สึกว่าการกระทำของโคสุเกะในตอนนั้นสูญเปล่า
ทั้งๆที่พี่น่าจะทำให้ทุกอย่างจบลงไปแล้วแท้ๆ แต่รู้สึกว่ายังไม่จบลง……
แบบนี้นี่เอง…… อื้ม นั่นสินะ…… เคยคุยเรื่องทำนองนี้กับโคจังหลายครั้งแล้วล่ะ……อืม~”
อาจจะเป็นการทำให้คุณกิงโกะต้องเสียเวลาซ้ำอีกก็ได้ แต่ถ้าได้ล่ะก็ช่วยกรุณาเล่าให้ฟังได้รึเปล่าคะ ?”
เข้าใจแล้ว ถ้างั้น เริ่มจากทางข้อสงสัยของซาคุยะจังก่อนเลยดีรึเปล่านะ
ตรงข้ามกับซาคุยะที่ซึมเศร้าโดยสิ้นเชิง ยิ้มร่าออกมา
ก่อนอื่นคือเรื่องการกระทำของโคจังที่กำลังคาใจอยู่มากที่สุด เรื่องอย่างสูญเปล่าอะไรเนี่ย ไม่มีทางแน่นอน เพราะความช่วยเหลือนั่น พวกสัตว์ที่กลายเป็นยามาวาโระไปเองก็ได้รับการช่วยไว้ไม่ผิดแน่
เป็นอย่างนั้นเหรอคะ ?”
ใช่แล้วล่ะ พวกแบบที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดโดยสมบูรณ์เนี่ย คงจะไม่โผล่มาแล้วด้วยน่ะนะ
……อา……”
เดิมทียามาวาโระเนี่ยก็เป็นสิ่งนี้ด้วยน่ะนะA



[หน้า 140]
หยิบแผ่นสีฟ้า……ผ้าคลุมนางฟ้าออกมาจากกระเป๋า  แล้วให้ซาคุยะดู
ซาคุยะที่ถูกจิตสำนึกของนางฟ้าครอบงำแล้วควบคุมเหล่ายามาวาโระนั้น แน่นอนว่าต้องมีความทรงจำนั้นอยู่ด้วย
นางฟ้าที่เป็นต้นตระกูลมินางามิและเป็นพี่สาวของกิงโกะนั้นได้หลงรักมนุษย์ แล้วก็ถูกมนุษย์หักหลัง
พวกคนที่ฆ่าสามีของเธอซึ่งเป็นบรรพบุรุษของซาคุยะนั้น ตั้งใจจะค้นหาความลับของพลังที่นางฟ้ามีกับการไม่แก่ไม่ตาย เลยมอบการทรมานไม่มีที่สิ้นสุดให้กับนางฟ้า
ความเกลียดชัง, ความโกรธ ที่สั่งสมขึ้นจากการทรมานที่ยาวมากเป็นเวลาหลายสิบปี และความสิ้นหวังกับความแค้นก็ได้จารึกคำสั่งหนึ่งอย่างลงไปในผ้าคลุมนางฟ้าของเธอ
หายนะจงมาสู่มนุษย์
ผ้าคลุมนางฟ้าที่สูญเสียรูปร่างไป แล้วถูกทำให้กระจัดกระจายไปทั่วภูเขามินาคามินั้นได้ถูกนำเข้าไปในร่างกายของสัตว์
พร้อมๆกับวงจรการเกิดการตายของสิ่งมีชีวิต ผ้าคลุมนางฟ้าได้แพร่กระจายต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็กระจายออกไปทุกหนทุกแห่งโดยมากับน้ำและสายลม
สิ่งมีชีวิตที่นำมันเข้าไปในร่างกายจนถึงปริมาณหนึ่งนั้น จะได้รับคำสั่งที่ถูกสลักไว้ในแกนกลางของผ้าคลุมนางฟ้าแล้วหันมาโจมตีมนุษย์
นั่นคือยามาวาโระที่ซาคุยะได้รู้จักและเผชิญหน้าในคดีเมื่อฤดูร้อน
ตามที่ซาคุยะจังเองก็รู้ มนุษย์จะเรียกสัตว์ที่นำผ้าคลุมนางฟ้าเข้าไปในร่างกาย รับคำสั่ง แล้วโจมตีมนุษย์ว่ายามาวาโระ ต่อมาก็กลายเป็นชื่อของสัตว์ประหลาดที่โจมตีมนุษย์ไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดแม้แต่อะไรที่เรียกว่าสัตว์ไม่ได้แล้วก็ถูกเรียกแบบนั้นด้วย หลังจากนั้นก็เป็นไปตามที่รู้นั่นล่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น