คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย
แปลมาจากหนังสือนิยาย
[หน้า 141]
“……ค่ะ”
เพราะแบบนั้นเลยมีปัญหาอยู่
จากการสนทนาเมื่อกี้
เพราะโจมตีคนเลยน่าจะเป็นยามาวาโระแน่ๆ
ทั้งๆที่โคสุเกะน่าจะทำให้คำสาปที่นางฟ้าเหลือทิ้งไว้หายไปแล้วแท้ๆ
ทว่าตอนนี้เองก็ยังเหลือรอดอยู่ต่อไป
“แต่ว่านั่น
สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องของพวกเราที่รู้ที่มาที่ไป
คนที่ตั้งชื่อนั้นให้กับสัตว์ประหลาดที่อยู่ในภูเขาไม่ได้รู้เรื่องราวลึกขนาดนั้น
เพราะแบบนั้นเลยเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าน่ะ
แค่ว่าเพราะเป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ในภูเขาเลยเรียกแบบนั้น และตอนนี้ทางนั้นก็เป็นฝ่ายถูกไปแล้วนะ”
“อย่างงั้นเหรอคะ……?”
“อื้อ ถ้าชวนให้สับสนล่ะก็ ฉันคิดวิธีเรียกอื่นให้เอาไหม
?”
“ถ้าอย่างนั้น
จะคิดว่าเรื่องแบบที่เข้าโจมตีคนอย่างบ้าคลั่งไม่มีแล้วก็ได้สินะคะ”
“แน่นอน ก็แกนกลางของผ้าคลุมนางฟ้าที่ออกคำสั่งแบบนั้นต่อไปเรื่อยมาน่ะ
โคจังเขียนคำสั่งทับจนรีเซตไปแล้วด้วยนี่นะ”
“……ดีจังเลยค่ะ”
รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
ความคิดอันมืดมนที่อยู่ภายในส่วนลึกของจิตใจมาตั้งแต่ตอนได้ยินเรื่องสัตว์ประหลาดได้หายไปหนึ่งอย่าง
[หน้า 142]
“แต่ว่านี่เองก็เป็นจุดที่ชวนให้สับสนอีกเหมือนกันนั่นล่ะ……”
จะอธิบายยังไงดีนะ
แล้วกิงโกะก็เกาศีรษะ
“สัตว์เนี่ย
เป็นสิ่งที่ถึงจะไม่ได้รับคำสั่งอะไรก็ยังโจมตีคนอยู่บ้างเหมือนกันสินะ
ถึงจะเห็นเหมือนๆกัน แต่ว่าแต่ละตัวนิสัยก็ต่างกันออกไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นถึงจะเป็นหมาเหมือนกัน
แต่ถ้ามีตัวที่ขี้ขลาดหนีจากคนอยู่ ก็มีตัวที่พอเห็นคนก็พยายามจะเข้ามากัดทันทีอยู่ด้วย”
“นั่นก็มีแบบนั้นอยู่ด้วยสินะคะ……”
“แล้ว
ในกรณีที่ทางตัวดุๆเอาผ้าคลุมนางฟ้าเข้าไปในร่างกายล่ะก็
จะกลายเป็นสัตว์ที่อึดถึกทนทานตายยากที่พอเห็นคนก็จะเข้ามากัดทันทีไปล่ะ ……แต่ว่านี่เนี่ย
แค่ไม่ได้รับคำสั่งจากใครทั้งสิ้นเฉยๆ เรื่องที่ทำก็เหมือนกับยามาวาโระที่ได้รับคำสาปเลยล่ะนะ”
“อู……จะ จริงด้วยนะคะ”
เผลอครวญครางให้กับคำพูดที่ตรงเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อ๊ะ
ตะ แต่ว่า เรื่องผ้าคลุมนางฟ้าเอง พี่ชายได้เก็บรวบรวมกลับคืนมาแล้วแน่ๆ
เพราะแบบนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหาหรอกเหรอคะ ?”
“เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกนะ
แล้วโคจังเองก็รู้อยู่แล้วด้วย ตอนนั้นคิดว่าเก็บรวบรวมคืนมาจากพวกสัตว์ที่พยายามรวมร่างเป็นนูเอะโดยใช้ซาคุยะจังเป็นแกนกลางได้แล้ว
แต่ก็คิดว่ามีตัวที่มาไม่ทันเวลาแล้วก็หนีไปทั้งๆอย่างนั้นอยู่ด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอไงนะ”
“ถ้าอย่างงั้นที่ถูกเรียกว่าเป็นสัตว์ประหลาดในครั้งนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสัตว์ประหลาดตามความหมายจริงๆ……”
[หน้า 143]
“อื้อ
มี”
ความหวังอันริบหรี่ถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี
จากนั้นก็ไหล่ตก
สุดท้ายแล้ว
เรื่องที่กิงโกะตามสะสางปัญหาที่ต้นตระกูลมินางามิก่อไว้ต่อไปเรื่อยๆก็ไม่เปลี่ยนไปเลย
สถานการณ์ที่มนุษย์จะเผชิญกับความเสียหายแบบก่อนหน้านี้คงจะลดลงไป
แต่ก็ไม่รู้ว่าแอบอยู่ที่ไหนเมื่อไรบ้าง
“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ
ถ้ามองจากฉันแล้วก็ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าสัตว์ที่ตายยากตายเย็นน่ะนะ เพราะสัตว์ประหลาดของจริงเนี่ย
เป็นสิ่งที่ไม่มีทางทำอะไรได้น่ะ”
ตอนเกิดคดีมีสิ่งที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดตามคำพูดอยู่
อย่างนูเอะที่กำลังก่อร่างเป็นสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาโดยใช้ตัวซาคุยะเป็นแกนกลาง
เพราะตอนนี้ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นพวกนั้นแล้ว
เลยสามารถพูดได้ด้วยว่าสบายใจนิดหน่อย
“อาวล่ะ ได้เวลาแล้ว นอนกันมั้ย
พรุ่งนี้จะยุ่งนะ”
“ค่ะ”
ปิดไฟแล้วเข้านอน
ผมที่เป่าไว้เองก็แห้งสนิทแล้ว
ภายในห้องที่แสงสว่างหายไปนั้น
ในขณะที่ฟังเสียงหายใจยามนอนหลับที่แผ่วเบาของกิงโกะไปก็คิด
พรุ่งนี้จะลองติดต่อกับพี่ชายดู
ตั้งแต่เรื่องในคราวนี้เริ่มขึ้นก็ยังไม่ได้ส่งเมล์เลยด้วยเหมือนกัน
แต่ก็ตั้งใจจะเล่าความเป็นไปไว้ก่อน
[หน้า 144]
ถึงจะเป็นการทำให้เป็นห่วง แต่ฉันก็จะบอกเอาไว้ว่าไม่เป็นไร
ทุกอย่างเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น