คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย
แปลมาจากหนังสือนิยาย
Chapter 2
[หน้า 146]
ตอนที่ซาคุยะตื่น
กิงโกะก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เช้านี้ไม่ได้ฝันอะไรทั้งนั้น
เลือดไม่ไปเลี้ยงหัว
ถ้าปล่อยไว้ซักครู่ความคิดจะทำงานได้
เลยสะลึมสะลือเปลี่ยนเสื้อผ้าไป รอให้ตาสว่างในตอนเช้าไป
“ฉันจะไปดูในป่าหรืออะไรดีมั้ยนะ
หลังจากที่กลับมาแล้วขอเข้ามาในห้องเองเลยได้มั้ย ?”
“ค่ะ……ไม่มีปัญหา……ค่ะ”
“ซาคุยะจังเนี่ย
ตื่นยากตอนเช้าจริงๆด้วยนะ”
“……ไม่ต้องเป็นห่วง ค่ะ ตื่นแล้วค่ะ”
“จริงรึเปล่าน้า”
คงจะตื่นได้สนิทดีในระหว่างเปลี่ยนเสื้อ
ถอดเสื้อผ้าออกแล้วหยิบชุดนักเรียนมาไว้ในมือ
“จะว่าไปเมื่อวานโผล่มาอีกแล้วล่ะ”
“………………
!”
รู้สึกว่าเลือดไหลเวียนอย่างรวดเร็ว
[หน้า 147]
ทัศนวิสัยที่พร่ามัวได้ชัดเจนขึ้น
หัวใจกำลังสูบฉีดเลือดในร่างกายอย่างเต็มกำลัง รู้ว่าหัวใจเต้นอย่างรุนแรงและร่างกายมีเหงื่อที่ทำให้รู้สึกไม่ดีไหลอยู่
“แต่เพราะฉันได้ทำให้เข้ามาในพื้นไม่ได้เอาไว้แล้ว
เลยดูเหมือนจะหนีไปน่ะ คืนนี้อาจจะมาอีกก็ได้ แต่ ณ ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“……ดีจังเลยค่ะ……ขอบคุณค่ะ”
“แต่เพราะดันปล่อยให้หนีไปได้ ของจริงเลยเป็นหลังจากนี้ไปน่ะนะ”
“ฉันเองก็จะลองหาดูค่ะ
ว่าทางโรงเรียนมีผู้พบเห็นอยู่รึเปล่า”
กำหนดเวลานัดพบคร่าวๆ แล้วออกไปข้างนอก
เป็นเพราะได้ยินเรื่องดีๆตั้งแต่เช้ารึเปล่านะ
เลยรู้สึกได้ว่าความหนาวของฤดูหนาวทุเลาลงไป
ซาคุยะที่เข้ามาในห้องเรียนนั้นได้มองหาพวกเพื่อนๆก่อนเป็นอันดับแรก
ทิวทัศน์ของห้องเรียนที่แทบจะไม่มีคนได้แผ่ขยายออกไปเบื้องหน้า
เป็นเพราะวันนี้ออกมาพร้อมกับกิงโกะทั้งๆอย่างนั้นเลยรึเปล่านะ เลยดูเหมือนจะมาเร็วเกินไปซะแล้ว
มาถึงที่นั่ง
จากนั้นก็ยืนยันเรื่องที่ควรจะทำวันนี้
ก่อนอื่นคือการรวบรวมข้อมูลความคืบหน้าเรื่องสัตว์ประหลาด
[หน้า 148]
ถึงจะแค่เรื่องเดียว
จะเป็นแค่ข่าวสารที่ไม่ชัดเจนก็ได้ ถ้ามีอะไรซักอย่างอยู่ล่ะก็คงจะใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนรับมือได้
ถึงจะจบลงอย่างสูญเปล่า
แต่ถ้าเทียบกับเรื่องที่พี่ชายเคยทำแล้วถือว่าง่ายกว่ามากแน่ๆ
“สัตว์ประหลาดเหรอ ? อา
ที่แตกตื่นอะไรกันเมื่อวานสินะ”
“ค่ะ อยากจะรู้ว่าหลังจากนั้นเป็นยังไงน่ะค่ะ”
“เห็นว่าเป็นอะไรแบบที่น่าร้ากสุดๆไปเลยน่ะ”
"…………คะ ?”
“ไม่ใช่ว่าชั้นไปเห็นเองหรอกนะ
แต่ได้ยินเรื่องแบบนั้นมาน่ะ”
“ดะ เดี๋ยวก่อนสิคะ
ถ้าแบบนั้นแล้วเรื่องสัตว์ประหลาดนั่นมันมาจากไหนกันคะ”
“อืม
ไม่ใช่ว่าดูผิดไปเองหรอกเหรอ ?”
“…………”
เป็นอะไรแบบนั้นหรอกเหรอ ?
แล้วแต่ไหนแต่ไร ที่มาของเรื่องซึ่งตรงข้ามกับเรื่องนี้โดยสิ้นเชิงมันคือที่ไหนกันแน่นะ
?
แต่ท่าทางจะไม่สามารถถามไปมากกว่านี้ได้
ซาคุยะกล่าวขอบคุณแล้วล้มเลิกไป
หลังจากนั้นเอง
ทุกครั้งที่ถึงเวลาพักระหว่างคาบก็จะลองไปเดินในอาคารเรียนดู
[หน้า 149]
พอได้ยินข่าวลือก็จะลองตั้งใจฟังดู
แต่ก็มีเรื่องที่บอกว่าเมื่อวานซืนตัวซาคุยะเองนั่นล่ะที่เป็นคนถูกสัตว์ประหลาดในเรื่องเล่นงาน
กับเรื่องที่บอกว่าเป็นการเข้าใจผิดไปผสมปนอยู่ด้วย
‘นั่นคงเป็นเพราะสภาพการณ์เปลี่ยนไปล่ะมั้ง’
ตัดสินใจปรึกษาพี่ชายตอนพักเที่ยง
“พูดเจาะจงชี้ชัดได้ง่ายๆเลยสินะคะ
สภาพการณ์ที่พี่คิดอยู่เป็นอะไรแบบไหนกันเหรอคะ ?”
‘เรื่องแบบนั้นพี่จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ
เพราะคนที่อยู่ในสถานที่จริงคือเธอ’
“……ล้อกันอยู่เหรอคะ ?”
‘ไม่ใช่แบบนั้น’
พอได้เสียงของซาคุยะที่มีความโกรธปนมาด้วย
เป็นเพราะคิดว่าคำพูดไม่เพียงพอรึเปล่านะ เลยรีบพูดเสริมมา
‘เพราะเนื้อหาที่เล่ากันมาจนถึงเมื่อวานมีการเปลี่ยนแปลง
ถ้าเรียกว่ามีข่าวสารใหม่ออกมาคงจะใกล้เคียงกว่า
เรื่องเดิมมีข่าวสารที่ว่ามีคนบาดเจ็บแล้วดูเหมือนจะเห็นสัตว์ประหลาดเป็นต้นเรื่อง
แถมจินตนาการยังถูกเสริมด้วยเรื่องอย่างที่ซาคุยะเกือบจะไปเจออะไรเข้า
จนก่อร่างมาในฐานะข่าวลือน่ะ แต่ว่าเรื่องเดิมเองก็มีข้อมูลปลีกย่อยเพิ่มมาอีกนิดหน่อยแล้ว’
“เป็นอย่างนั้นเหรอคะ ? ถ้าทางท่านที่บาดเจ็บได้เห็นสัตว์ประหลาด แล้วนั่นก็กลายเป็นที่มาของข่าวลือไปอยู่ล่ะก็
ไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลกหรอกนะคะ”
[หน้า 150]
‘อ๊ะ……อืม อย่างงี้นี่เอง……ปกติเผลอคิดแบบนั้นไปซะแล้วเหรอเนี่ย……’
ซาคุยะซึ่งคิดว่าความเห็นบ่งชี้ของตัวเองเป็นสิ่งที่ตรงตามสามัญสำนึกทั่วไปนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆโคสุเกะถึงได้จดจ่ออยู่กับความคิด
ที่บอกว่าปกตินั้นแปลว่าพูดได้ว่าโคสุเกะได้โต้แย้งอยู่บนพื้นฐานที่ไม่ปกติธรรมดา
สามารถเดาได้ว่ากำลังจะยกตัวอย่างกรณีที่ถึงจะไม่ใช่กรณีที่สุดโต่งขนาดนั้น แต่ก็เป็นกรณีที่มีน้อยขึ้นมา
แน่นอนว่าไม่ได้เข้าใจไปจนถึงพื้นฐานของเรื่อง
รอให้ความคิดของโคสุเกะเรียบเรียงเข้าที่ไปโดยไม่ได้เร่งให้พูดต่อ
‘เรื่องนี้มีความแตกต่างในการรับรู้เรื่องเกี่ยวกับยามาวาโระของพวกเราเป็นสาเหตุ’
“ความแตกต่างในการรับรู้เหรอคะ ? ระหว่างหนูกับพี่เหรอคะ ?”
‘บ้าน่า
ระหว่างพวกเรากับคนอื่นสิ ระหว่างพวกเราที่ถูกเล่นงานบ้าง ได้รับบาดเจ็บบ้าง ยุ่งเกี่ยวกับยามาวาโระมาเป็นปี
กับคนที่รู้จักแค่ว่าเป็นสัตว์ประหลาดในจินตนาการที่ครุมเครืออย่างเดียวน่ะ
ถึงจะเห็นคำศัพท์คำเดียวกันหรือของอย่างเดียวกันไปก็ยังมีความแตกต่างออกมา’
“คิดว่านั่นก็เป็นแบบนั้นล่ะค่ะ”
‘ถ้าอย่างนั้น คนได้รับบาดเจ็บที่ซาคุยะคิดเนี่ย
บาดเจ็บประมาณไหนล่ะ ?’
“……เรื่องแบบนั้น ป่านนี้แล้วไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้ค่ะ ถ้าเป็นการถูกยามาวาโระเล่นงานล่ะก็
เรื่องความรุนแรงของบาดแผลทางพี่น่าจะรู้ดีกว่าไม่ใช่เหรอไงค่ะ”
‘น่า เรื่องนั้นก็เป็นแบบนั้นล่ะ ได้ลิ้มรสมากับตัวด้วย
เกือบตายจริงๆแล้วด้วย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับพี่หรือสำหรับซาคุยะ
ความรู้สึกที่ตราตรึงอยู่ในใจก็รุนแรงเกินไป
พอได้ยินว่าเป็นอาการบาดเจ็บที่เกิดจากฝีมือสัตว์ประหลาด ก่อนอื่นภาพทางนั้นจะผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรก’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น