Chapter 2 (Part 3)

posted on 11/22/2560 08:19:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ที่ http://vermillionend.exteen.com

คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย

[หน้า 161]
ไม่มีปัญหา เพราะจบลงด้วยการหาไม่เจอน่ะ……เอ๊ะ นี่เป็นคำตอบที่แปลกสินะ ทั้งๆที่ไปตามหาแท้ๆ
ก็เป็นอย่างนั้นล่ะค่ะ แต่……
ทางซาคุยะจังเป็นยังไงบ้างล่ะ ?”
ข่าวลือซับซ้อนขึ้นมายังไงไม่รู้ อาจจะใช้อ้างอิงไม่ได้เท่าไรค่ะ
ยังไงเหรอ ?”
มีเรื่องสองเรื่องผสมปนเปกันจนไม่รู้ว่าตรงไหนเป็นความจริงบ้างค่ะ จะเรียกว่าเป็นโชคดี……ได้รึเปล่าฉันก็กำลังสับสนอยู่ ……แต่ได้ฟังเรื่องราวมาจากท่านที่ได้รับบาดเจ็บค่ะ
อะไรกัน ถ้าอย่างนั้นของอย่างข่าวลือจะเป็นยังไงก็ได้ไม่ใช่เหรอไง แล้ว เป็นยังไงเหรอ ?”
ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรค่ะ
…………พอว่าแบบนั้นแล้ว ?”
เรื่องนั้น……
นึกถึงเรื่องเมื่อตอนเย็น
เธอได้ออกไปซื้อของตอนกลางคืนแบบที่ซาคุยะทำ
เวลาที่ไปนั้นค่อนข้างดึกเล็กน้อย
ถึงอย่างนั้น เนื่องจากตั้งแต่กลางดึกเป็นต้นไปจะไม่สามารถออกไปนอกพื้นที่ของโรงเรียนได้ เลยเป็นเวลาก่อนสี่ทุ่มไม่ผิดแน่



[หน้า 162]
ทีแรกได้ยินเสียง
พลั่ก พลั่ก !  กร็อบ มีเสียงกำลังทุบอะไรบางอย่างดังขึ้น
ตอนแรกที่ได้ยินคิดว่าเป็นเสียงกำลังหักกิ่งไม้
ถึงจะเป็นการทำพวงมาลัยคริสต์มาส ก็ยังถือว่าเร็วเกินไป
ตอนที่ถูกความอยากรู้อยากเห็นรบเร้าว่ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ แล้วแอบมองเข้าไป------ก็พบว่ามีสิ่งนั้นอยู่
บอกว่าเห็นเงาขนาดใหญ่ค่ะ ดูเหมือนร่างกายเป็นตะปุ่มตะป่ำเลยไม่เห็นเป็นรูปร่างสัตว์ที่รู้จัก แล้วตอนที่กำลังจะหนีก็หกล้มจนขาแพลงเข้า หลังจากนั้นดูเหมือนจะอยู่ในสภาพนั้นไปจนได้รับการช่วยพยุงให้ลุกขึ้นค่ะ
หืมม เงาขนาดใหญ่งั้นเหรอ ……ถ้าเกี่ยวข้องกับยามาวาโระล่ะก็เป็นธรรมดานะ แต่ว่าถ้าแบบนี้ล่ะก็รู้ขนาดชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง ที่บอกว่าไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรอะไรนั่นน่ะ ไม่เป็นแบบนั้นหรอกนะ
เรื่องนั้น……จะมีสัตว์ใหญ่แบบนั้นอยู่จริงๆรึเปล่าก็ยังไม่แน่ชัดค่ะ
อ๊ะ ไปดูสถานที่เกิดเหตุมาแล้วหรอกเหรอ
ค่ะ
พอฟังเรื่องไปแล้วก็ถามถึงสถานที่เกิดเหตุ
เพราะเป็นถนนที่เป็นกลางทางระหว่างออกจากพื้นที่ของโรงเรียนไปยังร้านสะดวกซื้อ เลยอยู่ใกล้พื้นที่มาก



[หน้า 163]
ถ้าทำอะไรซักอย่างที่ทำให้เกิดเสียงดังอยู่ในที่แบบนั้นล่ะก็ ตอนนี้เองก็น่าจะเหลือร่องรอยอยู่
คิดแบบนั้นแล้วลองไปดู แต่ก็ไม่สามารถพบอะไรได้เลย
สรุปคือ……จู่ๆทางตัวที่บาดเจ็บแล้วได้รับการดูแลก็หายไป แล้วทางตัวที่เห็นตอนกลางคืนก็กำลังทำอะไรบางอย่างเสียงดังอยู่
ดูเหมือนเด็กที่ชมรมเลี้ยงสัตว์กำลังกังวลจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวว่ามีสัตว์ประหลาดอยู่จริงๆแล้วสัตว์ที่เคยดูแลก็โดนกินไปซะแล้วรึเปล่าอยู่น่ะค่ะ
นั่นก็เป็นไปได้เหมือนกันสินะ
รู้สึกเหมือนกับว่าเด็กที่ได้รับบาดเจ็บกำลังสงสัยว่าเป็นการปล่อยให้หนีไปก่อนที่จะถูกจับน่ะค่ะ
……นั่นก็เป็นไปได้เหมือนกันสินะ……”
กิงโกะไหล่ตก
สุดท้ายแล้ว ถ้าถกกันโดยใช้แค่ความเป็นไปได้ล่ะก็ จะกลายเป็นว่าไม่ว่าอะไรก็เป็นไปได้หมด
เพราะแบบนั้นเลยไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรค่ะ
ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็คิดว่าช่วยไม่ได้นะ ……แล้วจริงๆ เรื่องเกี่ยวกับยามาวาโระเนี่ยให้ความรู้สึกแบบนี้เสมอนั่นล่ะ
อ๊ะ แล้วก็มีคำถามน่ะค่ะ ได้รึเปล่าคะ ?”
เชิญเล้ย



[หน้า 164]
เป็นการต่อจากเรื่องที่คุยเมื่อวานนะคะ เรื่องการเรียกสัตว์ตายยากที่มีผ้าคลุมนางฟ้าเหลืออยู่ในร่างกายเฉยๆไม่ได้รับคำสั่งให้โจมตีมนุษย์แล้วว่ายามาวาโระต่อไปน่ะค่ะ แต่ว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็แปลว่าตอนนี้ทุกตัวไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสัตว์ธรรมดาแล้ว เพราะแบบนั้นป่านนี้ยังล่าของแบบที่ปกติธรรมดาไม่กินอยู่อีกเหรอคะ ?”
คิดว่าตอนนี้ยังล่าอยู่น้า……เวลายังผ่านไปไม่นานเท่าไรด้วยสิ
เวลา……หมายถึงจำนวนวันที่ผ่านมานับจากฤดูร้อนสินะคะ นั่นมีความเกี่ยวข้องกันเหรอคะ ?”
มีๆ มีมากเลยล่ะ ก็จะให้เปลี่ยนนิสัยที่ติดตัวมาอย่างกะทันหันอะไรเนี่ย แม้แต่มนุษย์เองทำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ทั้งๆที่ทานของอย่างเดียวกันมาตลอดจนถึงตอนนั้น วันหนึ่งจู่ๆจะให้เปลี่ยนเนี่ย คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอกนะ
แบบนี้นี่เอง……ยิ่งเพราะเป็นสัตว์ธรรมดา ก็เลยทำตามนิสัยติดตัวที่ทำมาจนถึงตอนนั้นสินะคะ
ก็เป็นแบบนั้นล่ะนะ เรื่องนี้ถ้าเวลาผ่านไปมากกว่านี้ วันคืนผ่านไปขนาดที่ชีวิตของสัตว์ธรรมดาหมดอายุขัยลงล่ะก็ อาจจะต่างกันไปอีกก็เป็นได้
ท่าทางจะใช้เป็นเบาะแสไม่ได้
สุดท้ายแล้วก็มีแต่ต้องเดินหาเอาแบบที่พี่ชายเคยทำรึเปล่านะ แต่ต่อมากิงโกะยกมือขึ้นเล็กน้อยให้กับซาคุยะที่ครุ่นคิด
คราวนี้เป็นทางฉันบ้าง พบซากสัตว์ที่เหมือนจะโดนอะไรบางอย่างกินในป่าล่ะ
……เป็นแบบไหนเหรอคะ ?”



[หน้า 165]
ดูจากขนสัตว์ที่เหลือแล้ว เดิมเป็นหมาหรือไม่ก็แมวรึเปล่านะ โดนกินหายไปเยอะจนแทบดูไม่ออกเลยน่ะ
เป็นอย่างที่คิด เสียงที่ท่านที่ได้รับบาดเจ็บได้ยินเองก็เป็นเสียงตอนกำลังกินใช่ไหมคะ
ถ้ากินแม้แต่กระดูกล่ะก็ นั่นก็ท่าทางจะเป็นไปได้นะ แต่ว่าถ้าแบบนั้นแล้วก็จะกลายเป็นข้อสงสัยที่ว่าทั้งๆที่มีมนุษย์อยู่ตรงหน้าใกล้ๆ ทำไมตัวที่ดุร้ายแบบนั้นถึงไม่เข้าไปโจมตีกันนะ ?  ด้วยน่ะ
อย่างที่คิดไว้ นั่นก็เป็นนิสัยติดตัวเหมือนกัน……”
ถ้าเป็นสัตว์รอบคอบ คอยระวังมนุษย์ ไม่ประมาทล่ะก็ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้พอสมควรเลยล่ะนะ
เพราะมีอคติที่ว่าเป็นสิ่งที่โจมตีมนุษย์ ก็เลยมีข้อสงสัยโผล่มา
ทว่า พอคิดว่ายังไงก็เป็นแค่สัตว์ธรรมดาแล้ว จะคิดได้ด้วยว่าท่าทางจะหาเหตุผลให้กับเหตุการณ์ที่เห็นว่าไม่อาจเข้าใจได้ แต่ไม่ว่ายังไงก็มีความรู้สึกขัดแย้งตามมาด้วย
นั่นยังไงก็แปลกค่ะ
ทำไมเหรอ ?”
ถ้าเป็นสัตว์ที่มีความระมัดระวังสูงขนาดนั้นจริงๆล่ะก็ ทำไมถึงได้เลือกพื้นที่ใกล้สถานที่ที่มีคนเยอะขนาดนี้เป็นพื้นที่หากินเหรอคะ ถึงจะแค่วันสองวันก็เถอะ แต่ยังอยู่ในที่เดียวกันต่อไปเนี่ย มันแปลกค่ะ
ถึงตัวเองจะเป็นคนพูดเอง แต่ก็กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าถ้าอย่างนั้นแล้วเป็นเรื่องแบบไหนกันนะ
ยามาวาโระในตอนนี้ไม่ได้รับคำสั่งให้ทำอันตรายมนุษย์ เป็นแค่สัตว์ธรรมดา
ทว่า สัตว์แต่ละตัวก็มีความแตกต่างของลักษณะเฉพาะหรือนิสัยอยู่เช่นกัน ถึงจะเป็นสุนัขพันธุ์เดียวกันก็ใช่ว่าจะมีนิสัยแบบเดียวกัน แม้แต่ความชอบในการกินเองก็น่าจะต่างกัน



[หน้า 166]
เมื่อครู่ได้คุยเรื่องนิสัยติดตัวของแต่ละตัวไป
คำสั่งที่เป็นเหมือนคำสาปได้หยุดลงแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนของกินกะทันหันได้ เพราะนั่นทำไปเพื่อการมีชีวิตอยู่ของตัวเอง
ถ้าอย่างนั้นการที่สัตว์ที่เคยสร้างอันตรายให้กับมนุษย์เรื่อยมายังปักหลักอาศัยอยู่ใกล้ๆสถานที่ที่มีฝูงชนอาศัยอยู่ต่อไปก็แปลว่า……
……ไม่อยากจะคิดเท่าไรเลยค่ะ แต่”                                                      
เรื่องอย่างพวกตัวเองกำลังถูกมองแบบนั้นอยู่อะไรนั่น ไม่อยากจะคิดเลย
ทั้งๆที่เคยเห็นคอกสัตว์มาแล้วแท้ๆ ถึงตัวเองจะคิดว่าวิธีพูดที่เอาแต่ใจ แต่ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างรุนแรงก็เอ่อล้นขึ้นมา
กำลังคิดว่าโรงเรียนเป็นพื้นที่หากินอยู่……เป็นต้น……”
…………ไม่สามารถพูดได้เต็มปากหรอกนะว่าไม่เป็นแบบนั้น
คำพูดของกิงโกะเองก็ดูเลี่ยงๆยังไงไม่รู้


จะปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเกินไปไม่ได้
นั่นคือข้อสรุปที่ทั้งคู่ได้มา



[หน้า 167]
แยกกันหาเถอะค่ะ
จนมาถึงตอนนี้เองก็มีข้อมูลการพบเห็นออกมาอยู่ ถ้าจะตามหาล่ะก็รีบๆน่าจะดีกว่า
ซาคุยะจังอาจจะเป็นอันตรายก็ได้ เลยคิดว่าควรจะอยู่ที่นี่นะ
ถ้าแค่พอเจอตัวแล้วติดต่อไปล่ะก็ไม่มีปัญหาค่ะ
โคจังเองก็เป็นแบบนั้น แต่วางใจเถอะ ยอมแพ้ที่จะหยุดแล้วล่ะ ก่อนอื่นถอดเสื้อผ้าออกทีสิ
เอ๊ะ เอ๋…… ! ?”
แค่ข้างบนก็ได้
ดะ เดี๋ยวสิคะ คุณกิงโกะ !?”
กางผ้าคลุมนางฟ้าออกจากสภาพแผ่นให้กลายเป็นผ้าแล้วถือไว้ในมือ โดยไม่สนใจซาคุยะที่ตกใจ
ทั้งๆที่ส่องประกายใกล้เคียงกับโลหะซึ่งไม่เห็นว่ามีความยืดหยุ่นแท้ๆ พอดึงไปด้านข้างก็จะยืดออกไปเรื่อยๆเท่าที่ดึง
จับมือซาคุยะแล้วพันรอบมือ
ก่อนอื่นจะพันส่วนที่มองเห็นหรือส่วนที่ถ้าโดนกัดจะเป็นอันตรายไว้ คิดว่าแค่นี้ก็ปลอดภัยไปได้ระดับหนึ่ง แต่อย่าทำอะไรเกินควรนะ
ขะ ขอบคุณค่ะ
เพราะเข้าใจเจตนาแล้ว เลยเลิกขัดขืนแล้วถอดเสื้อนอกออก



[หน้า 168]
คิดไปว่าจำเป็นต้องโป๊รึเปล่า แต่กิงโกะก็พันผ้าคลุมนางฟ้าทับด้านบนของชุดชั้นในไปโดยไม่สนใจ
แค่พริบตาที่สัมผัสกับผิวเท่านั้นที่รู้สึกขัดๆ แต่ก็ชินไปทันทีจนเลิกคิดไป
มีความทนทานประมาณไหนเหรอคะ ?”
ความรู้สึกประมาณนี้ล่ะมั้ง ?”
หยิบปากกาลูกลื่นบนโต๊ะขึ้นมาไว้ในมือ
หันส่วนด้ามเข้ามา จากนั้นเล็งไปที่ท้องของซาคุยะแล้วเหวี่ยงลงมาอย่างแรง
“------------ !”
เผลอหลับตาไป……แต่แรงกระทบที่คิดว่าจะมาถึงนั้นเบา แค่เกิดเสียงสูงสั้นๆคล้ายเสียงกระทบโลหะดัง แก๊ง !
เพราะจะสะท้อนแรงที่เกินจากระดับที่กำหนดไว้ไป ถึงจะถูกยิงด้วยปืนก็สบายมาก คิดว่าถ้าแค่เขี้ยวสัตว์ล่ะก็ผ่านไปไม่ได้หรอก แต่อย่าทำอะไรเกินควรล่ะ
เฮ้อ……สะดวกดีนะคะ นี่น่ะ
แต่ถ้าเป็นยามาวาโระตัวที่แข็งแกร่งก็ไม่ค่อยมีความหมายเท่าไรหรอกนะ
เป็นอย่างนั้นหรือคะ การป้องกันจะถูกทำลายเหรอคะ
เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก แต่เพราะใช้ผ้าคลุมนางฟ้าพันร่างกายไปเยอะ พลังโจมตีเลยตกลงไปมากน่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็แม้แต่ยามาวาโระตัวที่แข็งแกร่งเล็กน้อยก็ล้มไม่ได้แล้วด้วย ถ้าแค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยราวๆแขนหายไปล่ะก็เดี๋ยวก็หาย สำหรับตัวฉันเองแล้วเลยไม่ค่อยมีความหมายอะไรเท่าไรน่ะ โดยเฉพาะตอนนี้กำลังใช้งานหลายๆแบบอยู่ ทำให้คนอื่นมองไม่เห็นบ้าง ทำให้เสียงลอดออกไปไม่ได้บ้าง ทางด้านเสียงตั้งใจจะยกเลิกกลับเป็นผ้าคลุมนางฟ้าไว้ก่อนออกไปน่ะ



[หน้า 169]
นั่นไม่มีทางเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อยไปได้แน่ๆค่ะ แต่ยังไงก็ป่านนี้แล้ว พักเรื่องนี้ไว้ก่อน……เพราะปริมาณโดยรวมของผ้าคลุมนางฟ้าถูกกำหนดไว้ เลยกลายเป็นเรื่องที่ว่าจะแบ่งใช้ยังไงเหรอคะ
ก็เป็นเรื่องแบบนั้นล่ะน่ะ
ว่าแต่พลังลดลงไประดับไหนเหรอคะ ?”
ถ้าเป็นระยะใกล้ก็ประมาณสร้างมีดเล่มเล็กๆได้ ประเภทระยะไกลนี่ไม่ไหวสินะ อย่างอันที่ใช้มัดหรือใช้ติดตั้งอะไรที่คล้ายกล้องไว้ที่อื่นน่ะ วัตถุดิบที่จะเอามาใช้เป็นอาวุธตั้งใจว่าจะเก็บคืนมาใช้จากอันที่วางไว้ข้างนอก เลยทำให้สังเกตการณ์ไม่ได้อีกจนกว่าจะเอาไปติดตั้งใหม่ ที่เหลือการโจมตีด้วยไฟฟ้าเองก็เบาลงด้วยสิน้า……เพราะเป็นไฟฟ้าสถิตที่สร้างมาจากการเสียดสีอนุภาคของผ้าคลุมนางฟ้าด้วยกัน พอผ้าคลุมนางฟ้าที่มีอยู่ลดลง ปริมาณอิเล็กตรอนก็เลยลดลงตามไปด้วยสินะ
เป็นอะไรที่เปลี่ยนไปขนาดนั้นเหรอเลยคะ
ถ้าเป็นตอนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แล้วหลังจากนั้นถึงพลังจะตกลงไปชั่วขณะก็ไม่เป็นไรล่ะก็ จะปล่อยออกมาได้ราวๆครึ่งนึงของฟ้าผ่าเลยนะ ราวๆห้าสิบล้านโวลต์รึเปล่านะ
……ละ แล้วตอนนี้เหลือประมาณไหนเหรอคะ ?”



[หน้า 170]
ประมาณเครื่องช็อตไฟฟ้ารึเปล่าน้า ราวๆทำให้ส่งเสียงเปรี๊ยะๆได้น่ะ
เปลี่ยนแปลงไปมาก
ถึงมองจากสายตาของซาคุยะแล้วจะเห็นเป็นอุปกรณ์ที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ก็ดูเหมือนจะมีข้อจำกัดในตัวมันเองอยู่ด้วย
แต่เพราะไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนการป้องกันของผ้าคลุมนางฟ้า อย่าฝืนนะ ไม่ได้คลุมหน้าไว้ด้วยเพราะจะหายใจไม่ออก หลังจากนั้นถ้าฉันเป็นฝ่ายเจอก่อนล่ะก็จะยกเลิกผ้าคลุมนางฟ้าที่ติดไว้ที่ซาคุยะจัง ใช้นั่นเป็นสัญญาณนะ ในกรณีที่ทางนั้นเป็นฝ่ายเจอก่อน เพราะรู้เสียงกับตำแหน่งอยู่แล้ว เชื่อมาแล้วฝากได้เลย
เข้าใจแล้วค่ะ

                                    
แยกกันเป็นสองทางที่หน้าหอพัก
กิงโกะไปยังป่าที่มีสิ่งที่คิดว่าเป็นร่องรอยการกินอยู่
ซาคุยะมุ่งหน้าไปทางประตูทางเข้าที่เคยมีผู้เห็นเหตุการณ์
ที่ห้องยามนั้น วันนี้เองก็มีแสงไฟสว่างอยู่เช่นเคย
คิดเล็กน้อยว่าจะออกไปข้างนอกหรือจะเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ในพื้นที่โรงเรียน
สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ คืออยากจะออกไปข้างนอกน่ะค่ะ ได้รึเปล่าคะ
ได้ค่ะ ระวังทางด้วยนะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น