คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย
แปลมาจากหนังสือนิยาย
[หน้า 171]
ตัดสินใจออกไปข้างนอก
ณ
ตอนนี้ไม่มีรายงานการพบเห็นในพื้นที่โรงเรียน
ออกไปข้างนอกคงจะมีความเป็นไปได้มากกว่า
“……บอกกับพี่ชายไว้ว่าอย่าทำเรื่องอันตราย แล้วตัวเองก็……เฮ้อ”
มองย้อนกลับมาดูตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา
ที่โคสุเกะเข้าไปยุ่งเรื่องต่างๆโดยรู้ถึงอันตรายอยู่แล้วนั้นเป็นสภาพจิตใจแบบนี้รึเปล่านะ
เพราะคนที่รู้ความเป็นไปมีแค่ตัวเองเท่านั้น เลยลงแรงเพื่อคนอื่น……คิดว่านั่นเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง
ทั้งๆที่ปล่อยไว้ก็ดีแล้วแท้ๆ
แต่กลับทำแบบนั้นไม่ได้
รู้สึกว่าได้ทอดทิ้งผู้อื่น จนทรมานใจ
พอตกอยู่ในสภาพจิตใจแบบนั้นแล้ว
ขยับตัวไปจะสบายใจกว่า
พี่ชายตอนอยู่ที่หมู่บ้านมินาคามิเองก็มีความรู้สึกแบบนี้รึเปล่านะ
……ไม่สิ
ต่างกันแน่ๆ
สิ่งที่ตัวเองแบกรับไว้นั้นต่างไปจากพี่ชาย
สืบทอดสายเลือดของนางฟ้า แล้วครั้งหนึ่งก็เคยเกือบจะถูกดูดกลืนเข้าไป
ความทรงจำ,
ความรู้สึก และความสิ้นหวังในตอนนั้น
รู้สึกว่าเรื่องสัตว์ประหลาดสร้างความวุ่นวายที่มีต้นเหตุมาจากนางฟ้านั้นเป็นความรับผิดชอบของตัวเองเข้า
เรื่องนั้นครึ่งหนึ่งเป็นการปักใจเชื่อไปเอง
ไม่มีทางที่คนในอนาคตจะสามารถรับผิดชอบการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตได้
ทว่า อีกครึ่งหนึ่งก็ต้องคิดอยู่ที่ไหนซักแห่งภายในใจว่าสามารถทำอะไรซักอย่างได้ไม่ใช่เหรอไง
[หน้า 172]
ก่อนที่จะถูกครอบงำจิตใจ
ขัดขืนให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอไง
แล้วตั้งแต่ก่อนหน้านั้นไปอีก ในวัยเด็กถ้ายับยั้งมันไว้ได้ล่ะก็
ไม่ใช่ว่าตอนนี้เองแม่ก็ยังมีชีวิตอยู่หรอกเหรอ
ความรู้สึกละอายได้ฝังรากอยู่ในอกของซาคุยะไม่ยอมห่าง
ในขณะที่เดินไปในความมืด
ก็ตั้งใจฟังเสียงอย่างระมัดระวัง
ห้ามฟังพลาดแม้แต่เสียงเล็กน้อย
……ซาคุยะรู้สึกถึงความแปลกแยกเกี่ยวกับเรื่องที่มีสัตว์ประหลาดโผล่มาที่โรงเรียน
ในตอนที่พ้นจากป่ามาแล้วเห็นเมือง
จู่ๆก็นึกขึ้นมา
ถ้าจะโจมตีมนุษย์ล่ะก็
แม้จะไม่ถ่อมาถึงสถานที่แบบนี้ซึ่งห่างจากหมู่บ้านมินาคามิก็ยังมีบ้านคนอยู่เยอะ
แต่ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องที่ว่าแถวนี้มีความเสียหายขนาดใหญ่เกิดขึ้น
ถ้าอย่างนั้นไม่ใช่ว่ามีเหตุผลอื่นอยู่หรอกเหรอ
?
ความเป็นไปได้มีสามอย่าง
อย่างแรกคือเป็นเรื่องเข้าใจผิด
ซาคุยะแตกตื่นเกินไปกับคดีที่ไม่เกี่ยวข้องกับยามาวาโระ
อย่างที่สองคือเป็นเรื่องบังเอิญ
ถิ่นอาศัยของมนุษย์นั้นไม่ใช่ที่ๆสัตว์จะอาศัยอยู่
เรื่องที่สถานที่ๆออกจากภูเขา มุ่งหน้าไปยังอีกฟากของป่าแล้วดั้นด้นมาถึงอย่างยากลำบากคือโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในป่านั้น
ดูจากสามัญสำนึกของสัตว์แล้วไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ
[หน้า 173]
แล้วอย่างสุดท้ายคือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่โรงเรียนนี้มีซาคุยะซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับยามาวาโระเป็นอย่างมากอยู่
แล้วเรื่องที่มาปรากฏตัวขึ้นที่นั่นนั้นทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกัน
“…………”
ดั้นด้นมาถึงทางออกของป่า
เลยย้อนกลับไปยังถนนที่เดินมา
เคล็ดลับที่ทำให้ไม่เห็นเป็นพฤติกรรมน่าสงสัยคือการเปลี่ยนเป็นท่าทีจริงจังให้เห็นกันจะๆ
ถ้าเกิดถูกถามขึ้นมาล่ะก็ตั้งใจจะยืนกรานไปว่าลืมกระเป๋าสตางค์
แล้วกำลังรอให้คนรู้จักผ่านมาอยู่
โชคดี หรือควรจะเรียกว่าเป็นโชคร้ายด้วย
โอกาสได้ใช้ข้อแก้ตัวนั้นไม่มาเยือน
รู้สึกว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากในป่า
นั่นเป็นเพียงเสียงเล็กน้อยที่ไม่มีทางมาถึงหูคนได้แน่ๆ
แต่ซาคุยะในตอนนี้รู้สึกได้
เป็นเพราะผ้าคลุมนางฟ้าของกิงโกะงั้นเหรอ
หรือเป็นเพราะผลตกค้างจากการที่เคยได้รับประสาทสัมผัสของสัตว์มาแล้วครั้งหนึ่งงั้นเหรอ
หรือไม่ก็เป็นเพราะกำลังเพ่งสมาธิอย่างสุดขีดอยู่งั้นเหรอ เรื่องนั้นไม่รู้
สำหรับซาคุยะในตอนนี้แล้ว
เรื่องที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกตินั้นสำคัญกว่า เรื่องอื่นนอกเหนือจากนั้นจะเป็นยังไงก็ได้
วิ่งตัดผ่านป่าในยามค่ำคืนซึ่งมองไม่เห็นแม้แต่ที่หยั่งเท้า
[หน้า 174]
ทิวทัศน์ที่ปกติแล้วไม่มีทางเห็นได้นั้น
ซาคุยะในตอนนี้ได้เห็นมัน
“------เฮือก------”
พอพ้นจากป่า ทัศนวิสัยก็กว้างไกลออกไปทันที
เป็นที่ว่างเล็กๆในป่าที่ถูกรักษาให้อยู่ในสภาพดี
มีศาลาพักริมทางอยู่ เป็นทางเดินเล่นที่สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติภายในป่าได้
ตรงหน้าซาคุยะที่ดั้นด้นมาถึงโดยใช้ทางลัดตัดผ่านป่ามานั้น
มีสาวน้อยร่างเล็กที่กำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว------และมีสัตว์ประหลาดอยู่
ส่งเสียงคำรามออกมา
แล้วจ้องมองไปที่สาวน้อย
กำลังกลับจากซื้อของงั้นเหรอ
ที่พื้นดินมีถุงจากร้านสะดวกซื้อหล่นอยู่ และของข้างในกระจัดกระจาย
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ
?”
มองซาคุยะที่โผล่มาอย่างกะทันหัน
แล้วพยักหน้าซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง
จำใบหน้านั้นได้
เป็นโฮนามิจากชมรมเลี้ยงสัตว์ที่เจอกันตรงด้านหลังของตึกเรียนเมื่อตอนเย็น
ในขณะที่สะกดความเครียดกับความหวาดกลัวที่พุ่งสูงขึ้น
ก็ออกมายืนอยู่เบื้องหน้าสาวน้อย
ไม่ว่าจะพยายามอดกลั้นไว้เท่าไร
ถึงจะเกือบสะกดกลั้นไว้ได้ครั้งนึงแล้ว แต่ก็ต้องยืนตัวงอด้วยความหวาดกลัวกับรูปร่างประหลาดที่อยู่เบื้องหน้า
“ระ
รุ่นพี่……อะ ไอ้นั่น……มัน มันอะไรกันคะ……?”
“สงบใจไว้
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
พูดอย่างแน่วแน่กับรุ่นน้องที่จับยึดแผ่นหลังของซาคุยะไว้อยู่
[หน้า 175]
เพื่อไม่ให้เสียงของตัวเองสั่น
เพื่อให้ควรค่ากับที่ได้รับการพึ่งพาในทันที เลยพยายามใส่แรงเข้าไปบริเวณใต้ช่องท้องที่ทำท่าจะกลัวจนขยับไม่ได้อย่างสุดความสามารถ
ที่อยู่เบื้องหน้านั้นพูดได้แค่ว่าเป็นสัตว์ประหลาด
เดิมเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่นะ
เป็นสัตว์ป่าขนาดกลางอย่างกวางหรืออะไรงั้นเหรอ ตรงนั้นตรงนี้ของร่างกายผิดรูปไป ไม่ได้อยู่ในรูปร่างเดิม
ตรงกลางของร่างกายมีข้อต่อขนาดใหญ่อยู่ เนื้อก็ปูดขึ้นมาเหมือนกับอูฐ
มีข้อต่อกระดูกของขาหน้าเยอะกว่าสัตว์สี่เท้าธรรมดาทั่วไป
เหมือนกับว่าตั้งแต่กลางทางเป็นต้นไปได้ฝืนเอาของๆตัวอื่นมาติดยังไงยังงั้น
เรื่องอย่างที่กวางซึ่งเป็นร่างเดิมจะโจมตีสัตว์อื่นอะไรนั่น
น่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่สิ่งนั้น ตอนนี้ได้พ่นลมหายใจออกมาอย่างดุร้าย
แล้วจับจ้องมาที่ซาคุยะ
“ทำไมคุณถึงได้มาอยู่ในที่แบบนี้เหรอคะ
?”
“ฉะ
ฉันอยากจะแก้ข้อกล่าวหาผิดๆของคุโร่ ก็เลยตามหามาตลอด แล้วพอทำแบบนั้นก็มาเจอแบบนี้……”
“นั่นหมายถึงสัตว์ที่เคยให้การดูแลอยู่สินะคะ
หาเจอรึยังคะ ?”
“มะ
ไม่ค่ะ นั่น……ยัง……”
บางทีนั่นอาจจะเป็นซากศพที่กิงโกะเห็นก็ได้
“เหรอคะ…… ……เฮือก !?”
[หน้า 177]
สัตว์ร้ายได้เตะพื้น นัยน์ตาของซาคุยะสะท้อนภาพออกมาแค่นั้น
รีบปกป้องเด็กสาวที่อยู่ข้างหลังโดยการกอดไว้ในทันที
------ฝากด้วยนะคะ
คุณกิงโกะ…… !
ไม่รู้ว่าผ้าคลุมนางฟ้าป้องกันได้ประมาณไหน
เตรียมตัวรับการกระแทกโดยใช้หลังของตัวเองเป็นโล่
พร้อมๆกับเสียงฟาดโลหะอย่างแรงดัง
กึง ! ก็รู้สึกถึงการหายไปของแรงดึงดูด
ถูกเหวี่ยงกระเด็นไปไกลทั้งๆที่ยังโอบกอดไว้อยู่
ลอยไปชั่วพริบตาหนึ่งแล้วกลิ้งไปบนพื้นดิน
เนื่องจากกอดไว้แน่น
น้ำหนักในส่วนของสองคนเลยเทลงไปยังแขนข้างที่ถูกทับ
ถ้าเป็นตามปกติล่ะก็ถึงจะหักก็ไม่แปลกแน่ๆ
“……เอ๊ะ……”
แขนไม่หัก
เป็นการกระแทกที่รุนแรง
แต่ก็แค่นั้น ความเจ็บปวดทื่อๆแล่นไปทั่วร่างโดยมีแผ่นหลังที่ชนปะทะเป็นศูนย์กลาง
แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก
ทางเด็กสาวผู้ได้รับการปกป้องกำลังหอบหายใจไออย่างรุนแรงเพราะความเจ็บปวดจากการตกพื้นอยู่
ควรจะพูดว่าบาดเจ็บหนักกว่าซาคุยะที่เป็นฝ่ายปกป้องซะอีก
“ยืนไหวไหมคะ
?”
“ขะ
ค่ะ”
ถูกซัดกระเด็นไปไกลเลยได้ระยะห่างมา
[หน้า 178]
ช่วยให้เด็กสาวลุกขึ้นยืน
แล้วดันหลัง
“ไปซะ
วิ่งไปเถอะค่ะ”
“ตะ
แต่รุ่นพี่------”
“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ
เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแล้วด้วย”
“เอ๊ะ ? คะ ใครกันเหรอคะ ?”
กำลังสับสนอยู่งั้นเหรอ
ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงดี
“กรุณาไปซะเถอะค่ะ”
ดันหลังอีกครั้งแล้วผลักให้กระเด็น
กวางเล็งมาที่ซาคุยะแล้วรักษาระยะห่างไว้อยู่
เหมือนกับว่ากำลังสงสัยเรื่องที่ถึงจะโดนการโจมตีเมื่อกี้ไปแล้วก็ยังนิ่งเฉยได้อยู่
นั่นดูคล้ายมนุษย์เกินไปแล้ว
เป็นการเคลื่อนไหวที่เหมือนกับมีสติปัญญาอยู่
ยามาวาโระนั้นเดิมทีได้รับคำสาปของนางฟ้าแล้วถูกสั่งให้เคลื่อนไหว
ในบรรดาพวกที่นำเศษเสี้ยวของผ้าคลุมนางฟ้าเข้าไปในร่างกายมากนั้น
ถึงจะมีตัวที่มีวิธีคิดแบบมนุษย์อยู่ก็ไม่แปลกอะไร
ใช้ขาที่มีข้อต่อกระดูกเยอะเกลี่ยพื้นดินหลายครั้ง
นั่นราวกับจะพุ่งเข้ามา------
“------อึก !!”
คิดว่าบางทีคงใช้สองมือกันไว้
ซาคุยะรับรู้ได้แค่นั้น
[หน้า 179]
ในพริบตาที่คิดว่าจะวิ่งเข้ามา
ก็ถูกซัดกระเด็นไป
แทนการไม่ได้รับบาดแผลภายนอก
แรงกระแทกสะเทือนมาทั่วร่าง
“อุก……”
รับการโจมตีแบบนั้นหลายครั้งไม่ได้
ดูเหมือนยามาวาโระกำลังเล็งซาคุยะเป็นเป้าหมายอยู่
“อ๊ะ------”
กลิ้งหลบไปทั้งๆที่ยังอยู่ในสภาพที่ถูกซัดกระเด็น
กีบเท้าได้พุ่งผ่านสถานที่ๆร่างของซาคุยะเคยอยู่จนถึงเมื่อกี้ไป
“แฮ่ก……แฮ่ก”
อันตราย
เมื่อกี้อันตรายจริงๆ
ถึงจะถูกเหยียบก็อาจจะไม่เป็นไรก็ได้
แต่ไม่มีความกล้าที่จะลองทดสอบต่อหน้าร่างขนาดใหญ่ที่วิ่งมาแบบพื้นดินสะเทือน
ข่มการสั่นเทาของร่างกายเอาไว้
ต้องยื้อเวลาให้มากกว่านี้อีกหน่อย
จนกว่ากิงโกะจะมาถึงแล้วเด็กคนนั้นหนีรอดไปได้
“โทษทีที่ให้รอ
!”
เสียงอันสดใสที่ดังก้องขึ้นมาอย่างกะทันหันนั้น
ได้ยินราวกับเป็นการชี้นำของพระเจ้าก็มิปาน
[หน้า 180]
กิงโกะที่โดดลงมายืนข้างหน้าซาคุยะนั้น
จ้องมองไปที่ร่างของสัตว์ประหลาดโดยไม่ประมาท
“……ไม่คิดเลยนะว่าตัวที่ใหญ่ขนาดนี้จะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมมาจนถึงตอนนี้”
“ไหวรึเปล่าคะ……?”
“สบายมากๆ
แต่เพราะจะขอผ้าคลุมนางฟ้าคืน คราวนี้ระวังบาดเจ็บด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
นำมือไปวางซ้อนกับมือที่ยื่นมาหาซาคุยะ
มีความรู้สึกเหมือนกับว่าอะไรบางอย่างบนร่างกายของตัวเองได้หลุดออก
แล้วไหลไปทางกิงโกะ
“ช่วยถอยไปทีนะ
แล้วถ้าเกิดมันไปทางนั้นล่ะก็ให้หาสิ่งกีดขวางอะไรมาขวางไว้แล้วค่อยหนีนะ
เพราะรู้สึกว่าท่าทางจะอ้อมไม่เก่ง”
“ค่ะ”
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกิงโกะแล้วถอยไปอย่างว่าง่าย
แผ่นที่ถืออยู่ในมือกลายเป็นคาตานะเล่มยาวในพริบตา
ใช้ผ้าคลุมนางฟ้าที่เหลือพันแขนอีกข้างไว้อยู่
คงตั้งใจจะใช้เป็นโล่
พุ่งออกไปข้างหน้าโดยไม่มีแม้แต่เสียง
สัตว์ร้ายกระโดดไปไกล
หลบคมดาบที่ฟันลงมา
คมดาบที่หยุดไม่อยู่ได้แทงพื้นดิน
ความคมเป็นเลิศส่งผลตรงข้ามออกมางั้นเหรอ ใบมีดได้ไถลเข้าไปลึกในพื้นดิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น