Chapter 2 (Part 5)

posted on 11/23/2560 06:41:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ที่ http://vermillionend.exteen.com

คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย

[หน้า 181]
คุณกิงโกะ !”
ส่งเสียงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เป็นเพราะสัตว์ร้ายเองก็เห็นว่าเป็นความเพลี่ยงพล้ำเหมือนกันงั้นเหรอ เลยพุ่งเข้าใส่กิงโกะ
ไม่คิดเลยว่าจะมีสติปัญญาอยู่บ้าง……
กิงโกะหมุนตัวทั้งที่ใบมีดยังปักอยู่ในดิน แล้วดึงออกมา
…………เอ๊ะ
เจอกับการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นเกินไปเข้า เลยไม่อาจเชื่อในภาพที่ปรากฏแก่สายตาได้
ดาบที่ปักคาอยู่นั้น ไม่ได้แก้ด้วยการทำให้ผ้าคลุมนางฟ้าเปลี่ยนรูปร่าง แต่ตวัดเป็นวงกลมเข้ากับการเคลื่อนไหวของกิงโกะโดยไม่ทำให้รู้สึกถึงแรงต้านจากการจมลงไปในดินเลย
ขาหน้าที่เป็นกีบเท้าได้ถูกตัด
ไม่สามารถรักษาการพุ่งไว้ได้ เลยล้มลงไปราวกับลื่นไถลไปบนพื้นดิน
อีกที
ใช้ขาหลังกระโดดหลบคมดาบที่เหวี่ยงลงมาหมายจะสับกลางลำตัว
สะ……สุดยอด……”
เพิ่งเคยเห็นวิธีการต่อสู้ของกิงโกะเป็นครั้งแรก



[หน้า 182]
ตอนที่กำลังถูกนูเอะกลืนเข้าไป การต่อสู้ของกิงโกะได้ถ่ายทอดมาในฐานะข้อมูล
ที่กำลังประจันหน้ากับกิงโกะอยู่ในตอนนั้นคือสัตว์ประหลาดที่ชื่อมิซึจิ ซึ่งก่อร่างมาจากน้ำที่ผ้าคลุมน้ำฟ้าได้ละลายเข้าไป แต่การที่มีฝ่ายตรงข้ามเป็นน้ำนั้นคมดาบไม่มีความหมาย ข้อมูลที่ว่ากำลังต่อสู้อยู่อย่างยากลำบากนั้นได้ถ่ายทอดมา
ไม่คิดว่าเคยดูถูกความสามารถ แต่แม้จะเป็นการเข้าคู่กับอาวุธที่เปลี่ยนมาจากผ้าคลุมนางฟ้าเองก็ยังแข็งแกร่งเกินกว่าที่จินตนาการ
ทุกครั้งที่กวัดแกว่งคาตานะสีฟ้า ก็ได้ตัดร่างกายของสัตว์ประหลาดไปเรื่อยๆ
เพราะหลบไปหลบมา เลยยังไม่สามารถสร้างบาดแผลที่ถึงตายให้ได้ แต่ก็เป็นความเสียหายที่ถ้าเป็นสัตว์ธรรมดาล่ะก็จะสูญสิ้นชีวิตไปนานแล้ว
สัตว์ประหลาดเห่าหอนให้กับท้องฟ้าเป็นครั้งแรก
ทำให้เสียงแหลมเล็กที่ชวนให้นึกไปถึงกวางที่น่าจะเป็นร่างพื้นฐานดังก้อง
จบกันแค่นี้ล่ะ……ฮึบ !”
คมดาบที่ง้างขึ้นนั้นไม่หยุด ได้ฟันคอยาวๆร่วงลงไป
ศีรษะได้ร่วงลงมา ทำให้เลือดสีดำสาดกระเซ็น จากนั้นก็กลิ้งไปแล้วจึงหยุดลง
ร่างขนาดใหญ่ที่สูญเสียส่วนหัวไปได้ทรุดลง
เฮ้อ……
พื้นดินสะเทือน ขาหน้าที่เสียไปแล้วเหยียบพื้นดินอย่างมั่นคง ------ในชั่วพริบตานั้น ร่างกายที่สูญเสียหัวไปแล้วได้กระโจนขึ้นมา



[หน้า 183]
เอ๊ะ------ว๊าย !”
ซัดกิงโกะกระเด็น แล้วพุ่งเข้าใส่ซาคุยะ
“-----------”
ขาที่ขาดไปเองก็ขยับ ชีวิตที่สูญเสียส่วนหัวไปแล้วได้วิ่งเข้ามาหาซาคุยะ
ในตอนนั้นเห็นไม่ผิดแน่ เห็นแววตาอันเฉียบคมมองลอดมาจากลำตัวที่เคยเห็นเป็นข้อต่อขนาดใหญ่
ไม่ใช่แค่ขาหน้าเท่านั้น เกิดขึ้นมาด้วยการประกอบเข้าด้วยกันของสัตว์หลายตัว
ตอนนี้ไม่มีการป้องกันของผ้าคลุมนางฟ้า
ถ้าโดนพุ่งเข้าใส่ล่ะก็ ครั้งนี้นี่ล่ะที่จะทนไม่ไหวจริงๆ
ไม่ได้หลับตา
ในตอนนั้นที่ซาคุยะเกือบจะถูกกลืนเข้าไป ถึงโคสุเกะจะถูกยามาวาโระกัดไปทั่วร่างก็ยังไม่หลับตาแล้วจ้องมองมา
เพราะแบบนั้นเลยเห็นร่างของอีกตัวที่วิ่งเข้ามาจากด้านข้างได้อย่างชัดเจน
เป็นทานูกิตัวใหญ่ประมาณที่ท่าทางจะอุ้มไว้ได้
ขยับร่างเล็กๆวิ่งมาอย่างงุ่มง่าม
ถึงจะเป็นความมืดในยามค่ำยืน ผ้าพันแผลที่ถูกพันไว้ที่ขาหน้านั้นก็ยังเห็นเป็นสีขาว
คุณกิงโกะ



[หน้า 184]
วิ่งตรงเข้ามาหากิงโกะที่กำลังจะลุกขึ้นมา
อุก……
พอกิงโกะลุกขึ้นยืน ก็ยืดใบมีดที่ใช้ผ้าคลุมนางฟ้าสร้างขึ้นออกไป
ให้ความสำคัญกับการปกป้องซาคุยะมากกว่าร่างกายของตัวเอง ถ้าเป็นตัวของกิงโกะเองล่ะก็ถึงจะเป็นบาดแผลที่หากเป็นมนุษย์คงตายทันทีแล้ว ก็ยังฟื้นฟูได้โดยไม่มีปัญหา
เหวี่ยงดาบขึ้นที่นั่น แล้วก็ฟันลงมายังสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้าใส่ซาคุยะ
อ๊ะ------
ทานูกิที่วิ่งเข้ามา วิ่งผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามองกิงโกะ
พอกระโจนเข้าใส่สัตว์ที่เคยเป็นกวางจากด้านข้างราวกับลอดผ่านไปใต้คมดาบ ก็กัดเข้าที่ใบหน้าของสุนัขซึ่งโผล่มาจากกลางลำตัว
แย่ล่ะ…… !”
เสียงลนลานของกิงโกะดังขึ้น
คมดาบที่ฟันลงมานั้นได้ผ่าร่างที่เคยเป็นกวางขาดเป็นสองเสี่ยง จากนั้นก็ฝังเข้าไปครึ่งนึงในลำตัวของทานูกิที่แม้แต่ตอนนี้ก็ยังกัดอยู่ แล้วในที่สุดก็หยุดลง
ผ่านช่วงจังหวะหนึ่ง ร่างขนาดใหญ่ซึ่งถูกคาตานะที่ยาวมากฟันกระเด็นก็ได้ร่วงลงไปดัง ตุบ !
ดะ เด็กคนนั้น…… ?”



[หน้า 185]
ในขณะที่โซเซไป ทานูกิที่ถูกฟันไปครึ่งนึงก็โผล่ร่างออกมาจากเงาของสัตว์ที่ล้มอยู่
แผลที่ลำตัวนั้นลึก ทุกครั้งที่เดินของเหลวในร่างกายจะหยดลงพื้นดัง แปะๆ
พอเข้าไปใกล้ยามาวาโระที่อยู่ในสภาพล้มอยู่ทั้งอย่างนั้น ก็ยื่นศีรษะเข้าไปตรงลำตัวที่ถูกฟันขาด แล้วเริ่มเคี้ยว
……คุณกิงโกะ……”
อืม……เด็กคนนั้นเองก็เป็นเหมือนกันสินะ……”
ต่อมาก็หยุดเคี้ยว แล้วพยายามลากสังขารมาตรงที่ซาคุยะกับกิงโกะอยู่
ที่ปากคาบหินสีฟ้าไว้อยู่
พอวางสิ่งนั้นไว้บริเวณเท้าของซาคุยะ ก็มองขึ้นมาด้วยสายตาที่เหมือนกับคาดหวังอะไรบางอย่าง
นี่ ให้ฉันเหรอ ?”
ไม่คิดว่าถ้อยคำจะสื่อไปรู้เรื่อง แต่คงจะคาดเดาเจตนาได้
พอใช้ขาหน้าดันสิ่งนั้นมาหาซาคุยะ ก็เริ่มเดินไปยังทิศที่อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียน
เดี๋ยว !”
หยุดเดินให้กับการร้องเรียกให้หยุด
พอหันมาทางซาคุยะก็ทำท่าทีรอเล็กน้อย จากนั้นก็เริ่มเดินอีกครั้ง
ในไม่ช้าก็หันมาอีกรอบ
……ราวกับกำลังคอยอยู่



[หน้า 186]
ซาคุยะจัง ฉันจะตามไปเอง
ช่วยพยาบาลเด็กคนนั้นทีนะคะ รุ่นน้องกำลังตามหาอยู่ค่ะ แล้วก็ยังช่วยฉันไว้ด้วย
เข้าใจอยู่แล้วล่ะ วางใจได้เลย……แต่ก่อนหน้านั้น……”
กิงโกะเข้าไปใกล้ยามาวาโระที่ปราบไป แล้วใช้ผ้าคลุมนางฟ้าคลุมไว้ราวกับเป็นการสวม
แสงสีฟ้าเอ่อล้นออกมาเรื่อยๆ
ตอนที่นำผ้าคลุมนางฟ้าออก เปลวไฟสีฟ้าก็ได้แผ่ขยายแล้วเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นเถ้าถ่านไปอย่างเงียบสงบ
ถ้ารู้แล้วว่าเด็กคนนั้นไปไหน จะติดต่อไปนะ
……ค่ะ ขอฝากด้วยนะคะ
พอกิงโกะตามทานูกิที่กำลังรออยู่ทัน ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วผูกที่ลำตัวไว้
ดูจากความยาวแล้ว อาจจะเคยเป็นส่วนหนึ่งของผ้าคลุมนางฟ้าแบบที่เคยใช้พันซาคุยะก็เป็นได้
ในไม่ช้าร่างของกิงโกะก็หายลับเข้าไปในป่ายามค่ำคืนราวกับถูกนำทางเข้าไป
…………เฮ้อ……”
มีเรื่องหลายๆเรื่องเกิดขึ้น
ไม่รู้สึกว่าอยากจะลุกขึ้นในทันทีด้วย เลยนั่งลงไปเพื่อฝากแผ่นหลังไว้กับเสาของศาลาพักริมทาง
อยู่แบบนั้นไปนานเท่าไรกันนะ
ได้ยินเสียงคนหลายคนมาจากที่ไกลๆ



[หน้า 187]
กำลังตามหาซาคุยะแล้วส่งเสียงเรียกอยู่ เด็กผู้หญิงที่จำเสียงได้กำลังส่งเสียงเรียกชื่อปนกับเสียงยืนยันความปลอดภัยซ้ำไปซ้ำมาอยู่
ที่อยู่หน้าสุดคือเด็กผู้หญิงรุ่นน้องที่ซาคุยะช่วยให้หนีไปเมื่อครู่


วันต่อมา การปฏิบัติต่อซาคุยะที่โรงเรียนต่างไปจากเดิมเล็กน้อย
ตอนที่อาจารย์กับยามวิ่งมาถึง สถานที่เกิดเหตุมีรอยเลือดขนาดใหญ่ และมีซาคุยะที่เลอะไปทั้งตัวนั่งอยู่คนเดียว
กังวลอยู่ว่าท่าทีเผชิญหน้าอย่างสงบเยือกเย็นเพื่อทำให้สบายใจนั้นจะถูกเข้าใจว่าเป็นการเสี่ยงอันตรายปกป้องรุ่นน้องจนไปต่อสู้ตะลุมบอนมารึเปล่า แต่พอถึงวันต่อมากลับกลายเป็นว่าต้องมานั่งเสียใจภายหลังกับเรื่องนั้นแล้วทรมานชักดิ้นชักงออยู่ที่โต๊ะ
ผลลัพธ์คือเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืนได้แพร่กระจายออกไปในพริบตาในฐานะข่าวลือใหม่ ได้เล่าต่อกันไปในฐานะเรื่องราวผู้กล้า
บอกปัดการซักไซ้จากเพื่อนร่วมชั้นไปอย่างรีบๆ ได้ถามไปว่าเรื่องแพร่กระจายไปแบบไหน แต่ไม่ว่าจะเนื้อหาไหนก็มีความใฝ่ฝันปนอยู่ซึ่งห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
……จากที่ได้ฟังตอนหลังเลิกเรียน ดูเหมือนว่าสมาชิก MSF ได้เพิ่มจากสี่คนเป็นยี่สิบคนภายในเวลาแค่วันเดียว




[หน้า 188]
ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆกับคำพูดที่พูดอย่างภาคภูมิใจของมิยูกิผู้เป็นประธานชุมนุม MSF ที่บอกว่าถ้าเป็นท่านซาคุยะล่ะเป็นธรรมดาค่ะ

แล้วตอนที่มีการติดต่อมาจากกิงโกะก็เป็นวันถัดไปอีก
เมล์ที่มาถึงเป็นข้อความง่ายๆ มีเขียนไว้แค่ว่าอยากให้มาที่หมู่บ้านมินาคามิ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น