Chapter 3 (Part 2)

posted on 11/23/2560 06:50:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ที่ http://vermillionend.exteen.com

คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย

[หน้า 191]
เงาสีขาวโปรยปรายลงมาที่นอกหน้าต่าง
ราวกับแสดงให้เห็นการมาถึงของฤดูกาล เม็ดสีขาวหนึ่งเม็ดตกลงมาสัมผัสกับหน้าต่างแล้วกลายเป็นหยดน้ำไป


ออกมาข้างนอกราวกับถูกประกาศในรถไฟดันหลัง
ไง ทางพี่เร็วกว่านะ
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ
โคสุเกะมาถึงก่อนแล้ว และกำลังรอซาคุยะอยู่
……รู้สึกไม่ได้เห็นชุดใส่หน้าหนาวของเธอมานานยังไงไม่รู้แฮะ
จะว่าไปอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้นะคะ เพราะช่วงปีใหม่ปีนี้ไม่ได้กลับไปบ้านค่ะ
ถ้านานๆให้เห็นได้ทีล่ะก็ ใส่ใจกับการแต่งกายให้มากกว่านี้อาจจะดีก็ได้
ลองมองดูเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของตัวเองใหม่อีกรอบ แต่คงไม่มีจุดที่ดูแปลกเป็นพิเศษ
คิดว่าเข้ากันนะ ชุดวันพีชสีขาวตอนหน้าร้อนเองก็เรียบง่ายดี แต่ถึงใส่ชุดธรรมดาไปก็ไม่ดูขัดกันนะ
คนที่ใส่ชุดธรรมดาแล้วดูขัดกันเนี่ย ไม่มีหรอกค่ะ……
ในขณะที่ตบมุกไป ก็มุ่งไปทางช่องตรวจตั๋ว



[หน้า 192]
หิมะที่ตกลงมาเมื่อวันก่อนนั้นไม่ได้ทับถมกัน และหายไปในคืนเดียว
ในการปีนเขาก็รู้สึกขอบคุณอยู่ แต่ก็คิดว่าไม่ได้บรรยากาศ พอมาคิดๆดู กับหมู่บ้านมินาคามินั้นก็มีแต่ความสัมพันธ์ในช่วงฤดูร้อน
คงจะมีหลายโฉมหน้าในแต่ละฤดูกาล เมื่อไม่นานมานี้ในที่สุดก็ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีของฤดูใบไม้ร่วง
ความทรงจำสี่ฤดูที่มีก่อนหน้านั้นจะกลายเป็นของเมื่อกว่าสิบปีก่อนหน้าเข้า     
โคสุเกะที่อยู่ข้างๆเองก็กำลังมองลานกว้างหน้าสถานีซึ่งกำลังอยู่ระหว่างแต่งแต้มให้เป็นบรรยากาศคริสต์มาสด้วยอย่างตรึงตาตรึงใจ
เฮ้ ทางนี้ๆ
อ๊ะ คุณอิโรฮะ
ผู้หญิงร่างสูงกำลังโบกมือให้ยกใหญ่
ผมที่ยาวมาจนถึงบ่านั้นยาวกว่าครั้งก่อนที่เจอกันเพียงเล็กน้อย แฟชั่นเสื้อโค้ทกับผ้าพันคอหลวมๆได้ซ่อนภาพลักษณ์ที่เธอมีไว้ เลยเห็นเป็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ธรรมดาๆ
อิโรฮะที่ไม่ได้ใส่ชุดมิโกะเองก็ดูแปลกใหม่ดีแฮะ
ถึงจะเป็นชั้น ก็ใช่ว่าจะใส่ชุดมิโกะตลอดเวลาหรอกนะ โดยเฉพาะตอนมาหน้าสถานี ถ้าใส่ชุดมิโกะมาก็แปลกใช่มั้ยล่ะ
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ





[หน้า 194]
โอ้ ซาคุยะจัง ชุดนั้นน่ารักจังเลยน้า ให้ใครเลือกให้เหรอ ?”
ขอบคุณค่ะ ท่านที่อยู่หอพักเดียวกันช่วยเลือกให้ค่ะ
โคสุเกะเองก็ควรขัดเกลาเซ้นส์แฟชั่นไว้ให้ได้ประมาณนี้นะ ก่อนที่จะเผลอส่งของขวัญพิลึกๆไปจนโดนตีตัวออกห่างน่ะ
เข้าใจแล้วๆ ของขวัญคริสต์มาสของเธอเอาเป็นคอสเพลย์ซานต้ามินิสเกิร์ตนะ
ไม่ต้องการย่ะ เดิมทีทางนี้ก็ฉลองคริสต์มาสอย่างโจ่งแจ้งอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
……เพราะยังไงคริสต์มาสในเขตศาลเจ้าก็ดูพิลึกนะคะ
ใช่มั้ยล่า ?”
หมู่บ้านมินาคามิมีศาลเจ้าที่มีตำนานนางฟ้าหลงเหลือตกทอดมาอยู่
ศาลเจ้าชินโตที่ชื่อศาลเจ้าคาสุกะซึ่งก่อตั้งมาเกินแปดร้อยปีและมีประวัติศาสตร์อยู่นั้น ก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฐานะผืนดินที่นางฟ้าลงมาเช่นกัน
คาสุกะ อิโรฮะคือลูกสาวคนเดียวของที่นั่น ปัจจุบันได้รับสืบทอดมาจากคุณย่าและประกอบพิธีกรรมชินโตทั่วไปอยู่
จนไปถึงหมู่บ้านมินาคามินั้นจะใช้ต้องเวลาซักพักในการนั่งรถประจำทางจากที่นี่ไป
จากนั้นพอถึงที่หมายก็รวมตัวกับกิงโกะ แล้วต้องปีนเขา
เป็นชุดที่อุตส่าห์ได้รับคำชม แต่พอถึงแล้วจะไม่เปลี่ยนก็คงไม่ได้
……ถ้าอย่างนั้นไปกันเลยไหมคะ



[หน้า 195]
นั่นสินะ
ทั้งซาคุยะและโคสุเกะตั้งใจจะไม่แสดงออกมาเบื้องหน้า แต่เพื่อนสมัยเด็กที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิดสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจากท่าทีของทั้งคู่งั้นเหรอ……
ทำสีหน้าคาใจอะไรซักอย่าง แล้วเอียงคอด้วยความสงสัย
แล้วมีอะไรงั้นเหรอ รีบร้อนมากันสองคนเนี่ย
อะไรล่ะนั่น มาไม่ได้งั้น------
……ไม่บอกว่ามาไม่ได้อะไรหรอกนะ เพราะไม่ต้องการวิธีพูดที่ใช้กันเกร่อแบบนั้นด้วย
อึก
พี่ถูกอ่านออกแล้วสินะคะ ยังอ่อนหัดอยู่มากค่ะ ละเลยการฝึกฝนมาสินะคะ
โทษทีนะ ซาคุยะ ที่เหลือต้องพึ่งเธอแล้วล่ะ
ไม่เห็นจะเข้าใจความหมายเลย
จงใจกระแอมไอดัง อะแฮ่ม แล้วอิโรฮะก็กลับเข้าเรื่อง
พอเห็นทั้งสองคนรีบร้อนแล้วก็ชวนให้คิดว่ามีอะไรเกิดรึไงน้า อย่างเช่นเรื่องคดีก่อนหน้านี้น่ะ
……มิโกะของญี่ปุ่นเนี่ย มีสัมผัสวิญญาณรึเปล่านะ
ได้ยินมาว่ามีค่ะ แต่ทางพี่น่าจะเชี่ยวชาญเรื่องทำนองนี้มากกว่ารึเปล่าคะ ?”



[หน้า 196]
เพราะความรู้ของพี่ก็โอนเอียงไปด้านหนึ่งเหมือนกันน่ะนะ แล้วจุดยืนของมิโกะและการปฏิบัติต่อมิโกะในช่วงก่อนยุคเมจิ, หลังยุคเมจิ, ก่อนสงคราม, หลังสงครามเองก็ต่างกันไปด้วย
ไม่ชอบเลย ยอมรับมาตรงๆก็ดีแล้วแท้ๆ ทำไมถึงได้อ้อมค้อมแบบนั้นเล่า ทั้งสองคน !”
ขอโทษครับ
ผิดไปแล้วค่ะ
ก้มหัวให้อิโรฮะด้วยกันสองคน
……เป็นเรื่องที่ยังไม่รู้เลยค่ะว่าจะอธิบายยังไงดี แต่ก็คิดว่าไม่มีอันตราย……มั้งนะคะ
ก็อยากให้เป็นแบบนั้นล่ะนะ เพราะเรื่องอย่างที่ซาคุยะจังแบกโคสุเกะที่โชกเลือดมาอีกรอบเนี่ยขอทีเถอะ
ตอนนั้นคิดว่าจะต้องตายแล้วรึเปล่าเลยน่ะน้า
รอดมาได้ดีจริงๆเลยนะ แผลก็หายไวด้วย
ความลึกลับของมนุษย์เนี่ย ยอดไปเลยนะ
……จริงด้วยนะ
นอกเรื่องกันอีกแล้วนะคะ ทั้งสองคน
เธอพูดได้เรอะ



[หน้า 197]
ซาคุยะพยักหน้าด้วยท่าทางพอใจให้กับการพูดบ่งชี้ของพี่ชาย
สนุกพอตัวเลยสินะคะ นี่น่ะ
ใช่มั้ยล่ะ ชักจะเลิกไม่ได้แล้วนะนั่น เพราะแบบนั้นสร้างที่ว่างให้ชั้นตบมุกมากกว่านี้ทีนะ
ชั้นอยากจะตบมุกการสนทนาของพวกเธอมากกว่า……
ซาคุยะกระแอมไอดังอะแฮ่มให้กับการตกตะลึงของโคสุเกะ
พี่น่ะเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ ทุกคนเป็นยังไงกันบ้างเหรอคะ ทั้งคุณอาคาเนะ ทั้งคุณมิซาโตะ ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย แต่ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปใช่รึเปล่าคะ
อื้อ ทุกคนสบายดี พอบอกไปว่าวันนี้จะมาก็ตั้งตาตั้งตารอที่จะได้เจอกันอยู่ เพราะแบบนั้นก่อนกลับโผล่หน้าไปบ้างนะ  คุณอาคาเนะเห็นบอกว่าจะคราวหน้าจะเข้ารับการสอบดนตรีกางาคุรึเปล่านะ ส่วนคุณมิซาโตะเพิ่งผ่านไปไม่กี่เดือนเลยไม่มีอะไรเปลี่ยนไปสินะ ตอนนี้ก็ยังเป็นครูประจำชั้นของโชวโกะจังกับซาจิโกะจังอยู่น่ะ
เรื่องนั้น ถ้าครูเปลี่ยนแปลงไปในเวลาสั้นๆ นักเรียนก็ลำบากเหมือนกันน่ะนะ สำหรับคุณมิซาโตะแล้วอาจจะปวดหัวกับช่วงปีการศึกษาใหม่ในปีหน้ามากกว่าก็ได้
อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้นะคะ ฉันเองก็ตั้งตาตั้งตารอที่จะได้พบกับทุกคนอยู่เหมือนกันค่ะ
ตอนที่การสนทนาธรรมดาๆกับเพื่อนสมัยเด็กจบลงจนบรรยากาศเองก็เข้าที่แล้ว ซาคุยะก็ตัดสินใจเข้าเรื่อง
น่าจะไม่มีเรื่องอันตรายเป็นพิเศษ แต่ในฐานะเจ้าของศาลเจ้าคาสุกะแล้วจะไม่กังวลก็คงไม่ได้



[หน้า 198]
ตอนที่สัตว์ทั่วญี่ปุ่นมีพฤติกรรมผิดปกติเกิดขึ้น พวกมันได้เริ่มอพยพมุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทางหนึ่ง
ปลายทางนั้นคือศาลเจ้าคาสุกะของอิโรฮะ ถ้าพูดให้ถูกขึ้นไปอีก เป้าหมายคือซาคุยะที่อยู่ที่ทะเลสาบด้านหลังซึ่งกันว่านางฟ้าเคยลงมา
ทั้งๆที่อยู่ใกล้จุดหมายปลายทาง แต่ศาลเจ้าก็ได้กลายเป็นสภาพอย่างหนึ่งที่ไม่มีสัตว์ย่างกรายเข้าไป
ด้วยเหตุนั้นที่นั่นเลยเต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บและผู้อพยพจำนวนมาก แสดงความวุ่นวายถึงขีดสุดออกมาให้เห็น
การต่อสู้สำหรับคือโคสุเกะคือการนำซาคุยะกลับมา แต่อิโรฮะได้ต่อสู้เพื่อปกป้องผู้คน
ในตอนนั้นเป็นเรื่องที่มีแต่ความอึดอัดใจ แต่ตอนนี้กลับเอามาพูดเป็นเรื่องตลกแบบนี้ได้ด้วย เพราะแบบนั้นซาคุยะเลยคิดว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการไหลไปของเวลานั้นช่างยิ่งใหญ่
คำสาปที่ข้ามผ่านเวลาอันยาวนานแล้วไม่เปลี่ยนแปลง ความสัมพันธ์กับพี่ชายที่ค่อยๆเปลี่ยนไปทีละน้อยจากเวลาที่เพิ่มพูนขึ้น
แต่ละอย่างนั้นได้มาถึงจุดจบที่ต่างกัน
เพราะแบบนั้น ก็เลยมีเรื่องที่บอกว่าเป็นเพราะผลจากเครื่องรางโผล่มาด้วยน่ะ
ถึงจะบอกว่าเป็นเครื่องรางก็เถอะ แต่ที่ถวายอยู่ที่ศาลเจ้าคาสุกะเนี่ยเป็นของในฐานะโยริชิโระไม่ใช่เหรอ ให้เป็นของที่มีคุณงามความดีแบบนั้นเต็มที่เนี่ยดีแล้วเหรอ ?”


อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล : โยริชิโระเป็นความเชื่อในศาสนาชินโต หมายถึงวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตที่สามารถเป็นเป้าหมายในการเชิญให้วิญญาณที่เรียกว่า คามิมาสถิตอยู่ได้  จะเป็น ต้นไม้, ก้อนหิน, ตุ๊กตา หรืออะไรก็ได้



[หน้า 199]
ระหว่างที่จมจ่อมอยู่กับการระลึกความหลัง หัวข้อสนทนาของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอีก
พวกตุ๊กตาที่ถวายอยู่ที่เรือนหลักของศาลเจ้าคาสุกะนั้น ซาคุยะเองก็เคยเห็น
เข้าใจได้ด้วยความรู้ว่าดูเหมือนจะเป็นบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนั้น
ขอโทษนะคะ ไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างเท่าไร แต่ว่าถ้าถวายให้กับศาลเจ้าล่ะก็ เป็นของที่มีคุณงามความดีไม่ใช่เหรอคะ ?”
ถ้าเป็นภาพลักษณ์ทั่วไปล่ะก็เป็นแบบนั้นล่ะ แต่ถ้าจำกัดอยู่ที่พิธีกรรมชินโตล่ะก็จริงๆแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น สถานที่ที่ถวายของไม่มีคุณงามความดีจะมีเยอะกว่าซะด้วยซ้ำ
เป็นอะไรแบบนั้นเหรอคะ ?”
ไม่ใช่ว่าสงสัยคำพูดของโคสุเกะ แต่ก็ถามยืนยันกับอิโรฮะที่ทำงานเป็นอาชีพหลัก
อิโรฮะพยักหน้าต่อ
ยกอย่างเช่น เทพเจ้าเองก็มีหลายด้านเหมือนกันสินะ ถ้าให้ฝืนพูดล่ะก็ส่วนไม่ดีของเทพเจ้าองค์นั้น……ที่เรียกกันว่าอารามิทามะน่ะ มีศาลเจ้าที่บวงสรวงแต่ทางนั้นอยู่ด้วยเหมือนกันนะ อย่างสุงาวาระ โนะ มิจิซาเนะเนี่ยมีชื่อเสียงรึเปล่าน้า ตอนนี้เป็นเทพเจ้าแห่งการเรียนรู้อยู่นี่ล่ะ แต่เดิมทีเพราะก่อให้เกิดฟ้าผ่าสร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้คน ศาลเจ้าก็เลยถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลที่ว่ากรุณาอภัยให้ซะทีเถอะ น่ะ
เรื่องนั้นเคยได้ยินมาก่อนค่ะ ……ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นเรื่องเล่าเล็กๆน้อยๆของอาจารย์ในชั่วโมงเรียน
แปลว่ามีชื่อเสียงประมาณนั้นเลยไงล่ะ แล้วโคสุเกะก็มองตุ๊กตาของที่บ้านเป็นแบบนั้นด้วย ก็เลยบอกว่าการที่คิดว่ามีคุณงามความดีเนี่ยมันผิดไม่ใช่เหรอไง น่ะนะ



[หน้า 200]
ถ้าเป็นเรื่องตุ๊กตาที่ศาลเจ้าล่ะก็ นอกจากโยริชิโระแล้วก็ไม่มีไม่ใช่เหรอไง
ถึงพี่จะบอกว่านอกเหนือจากนั้นไม่มีก็เถอะ แต่ก็จินตนาการไปถึงพวกตุ๊กตาฟางอะไรด้วยค่ะ ที่เหลือก็พวกตุ๊กตาญี่ปุ่นที่ผมยาวขึ้นด้วย
หยิบยกมาจากที่ตอนเด็กเคยเห็นในเรื่องสยองขวัญบนทีวีทั้งๆอย่างนั้นเลย แต่ก็ไม่กล้าไปแตะตรงจุดนั้น
ก็นั่นล่ะที่เป็นโยริชิโระ ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของตุ๊กตาฟางจะเป็นการปรับเป้าหมายที่ตอกตะปูใส่ให้เป็นใครซักคนที่เฉพาะเจาะจงแล้วสาป ทั้งใช้ตุ๊กตาที่โดนตอกตะปูเป็นตัวแทนของอีกฝ่าย หรือใส่วิญญาณอีกฝ่ายลงไปในตุ๊กตาฟางแล้วตอกตะปู ไม่ว่าจะอย่างไหนก็เป็นการเชื่อมเป้าหมายกับตุ๊กตาฟางเข้าด้วยกันอย่างเท่าเทียม นี่ก็เป็นโยริชิโระดีๆแล้ว
เข้าใจแล้วค่ะ……นั่นเป็นเรื่องในด้านที่ไม่ดีสินะคะ แต่ว่าถ้าเป็นเครื่องรางแล้วจะเป็นยังไงเหรอคะ ?”
เป็นด้านตรงข้ามของเรื่องที่ตุ๊กตาฟางเชื่อมความเสียหายของตุ๊กตากับความเสียหายของเจ้าตัวเข้าด้วยกันอย่างเท่าเทียม เลยเป็นความหมายแฝงที่ว่าให้ตุ๊กตาแบกรับความเสียหายที่เจ้าตัวน่าจะได้รับน่ะ
ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ตุ๊กตาที่รับภาระแทนจะต้องมีบาดแผลในส่วนนั้นสินะคะ
สังเกตเห็นจุดดีๆนี่นา สมแล้วที่เป็นน้องสาวของพี่
ได้รับคำชมอย่างกะทันหัน ซาคุยะเลยลืมตากว้างเล็กน้อย
ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมถึงได้รับคำชม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น