คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย
แปลมาจากหนังสือนิยาย
Epilogue
[หน้า
262]
สิ่งที่เรียกว่าการจบลงของสัปดาห์นั้นมีความรู้สึกเหนื่อยล้าที่บรรยายไม่ถูกตามมาอยู่ด้วย
ทั้งที่ตอนกลับมาจากป่ายังเป็นช่วงก่อนเที่ยงแท้ๆ
พอเล่นกับโชวโกะและอิโรฮะก็กลายเป็นยามเย็นของวันอาทิตย์ไปในชั่วพริบตา
“ทำตัวตามสบายกว่านี้อีกหน่อยก็ได้แท้ๆ”
“เพราะยังอีกซักพักกว่าจะถึงปิดเทอมหน้าหนาวน่ะน้า”
“หยุดซะเลยเป็นไง
?”
“ทำได้เรอะ เรื่องแบบนั้น !”
ในขณะที่รอรถประจำทาง ก็ฟังเรื่องสัพเพเหระของพี่กับอิโรฮะไปโดยไม่ตั้งใจ
หมู่บ้านมินาคามินั้นวันนี้เองก็ไม่เปลี่ยนไป
ได้ผ่านหนึ่งวันที่สงบสุขและราบรื่นไป
“แต่ก็อยากให้อยู่นานขึ้นอีกหน่อยน้า”
“พอปิดเทอมฤดูหนาวแล้วจะมาค่ะ”
“……เอ่อ เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่เหรอไง”
“ทำไมเหรอคะ ?”
ซาคุยะเอียงคอด้วยความสงสัย
ลืมแม้แต่กำหนดการที่ตัวเองวางไว้เลยเรอะ
โคสุเกะกุมขมับ
“เข้าประกวดนางงามในงานเลี้ยงคริสต์มาสไม่ใช่เหรอ ? มีของอย่างเวลาว่างให้กลับมาทางนี้ด้วยเหรอไง”
[หน้า
263]
“แต่แค่วันที่ 25
วันเดียวเองนะคะ ? คิดว่าอยู่ที่นี่ไปจนถึงตอนนั้นแล้วค่อยกลับไปราวๆวันก่อนหน้าก็คงไม่มีปัญหารึเปล่าคะ”
“เอ่อ ไม่ใช่แบบนั้น”
“ที่โคสุเกะกำลังพูดอยู่คือเรื่องที่ต้องมีเตรียมการล่วงหน้าอยู่ด้วยแน่ๆไม่ใช่เหรอน่ะนะ
ไม่ใช่แค่เข้าร่วม แต่เตรียมการด้วยกันกับทุกคนด้วยใช่ไหมล่ะ ?”
“อ๊ะ……นั่นสินะคะ”
พวกเด็กรุ่นน้องอาจจะปรึกษากันเองตามอำเภอใจอีกว่าจะให้ซาคุยะใส่ชุดอะไร
แล้วกำลังดำเนินการอยู่ก็เป็นได้
เพื่อไม่ให้เป็นชุดแปลกๆ
คงมีแต่ต้องโผล่หน้าไปเตือนเท่านั้น
ทว่า ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องคอยดูเป็นระยะไปจนถึงคริสต์มาส
หากจำเป็นล่ะก็ต้องไปซื้อของด้วยกัน และอาจจะมีการจัดเตรียมสถานที่ด้วยก็ได้
และเพราะเรื่องดูหนังสือเตรียมสอบเข้าก็ปล่อยปละละเลยไม่ได้เช่นกัน……
พอลองนับนิ้วดูถึงขนาดนั้นซาคุยะก็รู้ตัว
กำหนดการครึ่งแรกของปิดเทอมฤดูหนาวนั้นถมเต็มไปเรียบร้อยแล้ว
“เอ๋~ ถ้าอย่างงั้นซาคุยะจังจะไม่มาตอนคริสต์มาสเหรอ
?”
[หน้า
264]
“เปล่าค่ะ
วันถัดไปจะมาค่ะ ไม่มีปัญหา”
“จะพูดว่าวันที่
26 ก็เป็นคริสต์มาสด้วยเรอะไง”
“ในใจของหนูพูดค่ะ
เพราะแบบนั้นอย่าเพิ่งเก็บต้นไม้นะคะ”
“งั้นโชวโกะจัง
มาจัดอะไรที่บ้านกันมั้ย”
“……ยังไงคริสต์มาสที่ศาลเจ้าเนี่ย มันดูไม่ใช่ยังไงไม่รู้ไม่ใช่เหรอ……
เพราะชั้นจะมาทางนี้ด้วย มาจัดปาร์ตี้ด้วยกันทุกคนมั้ย”
“เย้ ไชโย”
“อ๊า ! นั่นขี้โกงนะคะ
หนูเข้าร่วมไม่ได้ไม่ใช่เหรอไงกันคะ”
“ก็จะจัดงานสนุกกับพวกเด็กผู้หญิงในหอพักไม่ใช่เหรอ
?
สองทางในเวลาเดียวกันเนี่ยเป็นไปไม่ได้หรอก
เพราะแบบนั้นคราวนี้ยอมแพ้ไปซะเถอะ”
“ก็เป็นแบบนั้นล่ะค่ะ แต่……อู……”
หัวเราะซาคุยะที่ไหล่ตกเข้าจริงๆ
ในขณะที่โคสุเกะมองซาคุยะก็จินตนาการได้ว่าคริสต์มาสในหอพักหญิงเองก็คงจะเป็นอะไรที่สนุกแน่ๆ
“จะว่าไปเมื่อวานได้พูดเรื่องโยริชิโระตุ๊กตาไปสินะ”
“จู่ๆก็พูดมา มีอะไรน่ะ”
“ไม่ใช่หรอก
เพราะเป็นตอนนี้ถึงได้นึกขึ้นได้น่ะ”
“……ตุ๊กตาที่สร้างขึ้นตอนเทศกาลโอบงเกี่ยวข้องกับคริสต์มาส
?”
[หน้า
265]
“ทางนั้นก็ไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไรหรอก
อ๊ะ ไม่สิ เกี่ยวข้องกันรึเปล่านะ ?
เมื่อวานพูดไปว่าเป็นของที่อธิษฐานให้คนใกล้ตัวปลอดภัยก็จริง
แต่จะกลายเป็นเรื่องที่ว่าแล้วพวกคนที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นล่ะจะเป็นยังไง ? ใช่ไหมล่ะ”
“……นั่นสินะ……”
นอกจากถูกยามาวาโระเล่นงานแล้ว
น่าจะมีที่ตายด้วยอุบัติเหตุหรือป่วยตายอยู่เยอะด้วย
ไม่จำเป็นว่าปีหน้าเองก็สามารถแลกตุ๊กตากับอีกฝ่ายที่แลกด้วยในปีนั้นได้เสมอไป
ตอนที่ได้ยินเรื่องแลกตุ๊กตากับคนอื่นก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ในเมื่อเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว
ก็เลยปล่อยผ่านไปโดยคิดว่าคงจะมีระบบที่ใช้กับตอนนั้นอยู่
“แต่ก็มีคนที่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังทำต่อไปอยู่นะ
เห็นบอกว่าเพื่อเป็นการระลึกถึงคนๆนั้นเลยขอใส่ส่วนของสองคนน่ะ ปีนี้เองก็มีหลายคนรึเปล่านะ”
“อย่างงั้นนี่เอง……”
“นอกนั้นก็มีที่อยากให้ใส่ไปตอนวันเกิดหรืออะไรทำนองนั้นด้วยนะ
เห็นบอกว่าเพื่อจะได้กลายเป็นเครื่องรางที่ปกป้องไปตลอดตั้งแต่เกิดน่ะ นี่เนี่ยเป็นการอวยพรที่เกิดมา
แล้วก็ทำเพื่อให้ไม่ลืมสินะ”
“จะว่าไปคริสต์มาสเองก็เป็นงานเลี้ยงวันเกิดนะ
แต่ไม่รู้หรอกนะว่ามีคนที่ใช้เวลากับมันไปโดยตระหนักรู้เรื่องนั้นอยู่เยอะแค่ไหน”
“แต่ถ้าทำแบบนี้ เมื่อมีโอกาสก็จะนึกขึ้นได้ แน่นอนว่าเพราะมีการคิดทำนองนั้นด้วย
ก็เลยต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ไม่ใช่หรือไงกันนะ”
[หน้า
266]
“……เพื่อให้ไม่ลืมผู้ล่วงลับ……เหรอคะ”
“แล้วก็เพื่อให้รู้สึกว่าอยู่ใกล้ตัวด้วยน่ะนะ
อาจจะมีความคิดที่ว่าเป็นไปได้ว่ากำลังลำบากอยู่ที่โลกโน้นด้วยเพราะแบบนั้นช่วยปกป้องให้ทีนะ
อยู่ด้วยเหมือนกันก็ได้นะ”
“ตายแล้วยังต้องลำบากอีกเนี่ย ไม่เอาด้วยหรอกนะ”
โคสุเกะพูดอย่างง่ายๆ
แต่ในคำพูดนั้นมีความรู้สึกตระหนักอย่างแรงกล้าแฝงอยู่อย่างน่าแปลกใจ
“จริงด้วยค่ะ”
“ไม่รู้หรอกนะว่ามีอะไรเป็นที่มาและเริ่มกันมาแบบไหน
แต่คนหลายๆคนก็จะหาความหมายมาให้กับเรื่องที่ทำต่อกันมาเรื่อยๆสินะ
น่าสนใจยังไงไม่รู้เนอะ”
“เป็นอย่างงั้นเหรอ
ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเลย”
“ตอนที่โชวโกะจังโตขึ้นอาจจะมีความหมายต่างออกไปอีกก็ได้นะ”
“เอ๋~~
ไม่มีหรอก เรื่องแบบนั้น”
“ไม่นะ
อาจจะมีก็ได้”
เสียงที่ฟังดูสนุกสนานดังก้องสะท้อนฟากฟ้ายามเย็น
[หน้า
267]
ยิ่งนั่นสนุกมากเท่าไร
รถประจำทางขากลับก็เงียบลงมากเท่านั้น
ซาคุยะมองออกไปนอกหน้าต่าง
ส่วนโคสุเกะกำลังจมอยู่กับความคิด
ร่างของโชวโกะที่โบกมือให้ตลอดนั้น
แม้แต่ตอนนี้เองก็ยังตราตรึงอยู่ในใจ
“……ถึงซะแล้วล่ะ”
ชานชาลาของสถานีเดียวกับตอนที่เจอกัน
จากนี้ไปโคสุเกะจะกลับโตเกียว
ส่วนซาคุยะจะกลับหอพัก
แต่ละคนไปยังเส้นทางที่ต่างกัน
การที่เส้นทางจะมาบรรจบกันที่นี่อีกครั้งนั้นจำเป็นต้องใช้วันเวลาอีกนิดหน่อย
“การเปลี่ยนแปลงของคนที่เห็นซึ่งจะมาเยือนพร้อมกับเวลา……อิโรฮะเนี่ย
นานๆทีก็พูดเรื่องมีสาระเหมือนกันนะ”
“คุณอิโรฮะพูดเรื่องมีสาระบ่อยอยู่แล้วค่ะ
อย่างที่คิดไว้
เป็นเพราะมีความแตกต่างของจุดยืนและประสบการณ์ใช้ชีวิตในสังคมอยู่รึเปล่านะคะ
ทั้งที่อายุก็ไม่ต่างกันเท่าไรแท้ๆ แต่กลับชวนให้คิดว่าเป็นผู้ใหญ่”
“ถึงจะมองจากพี่ที่อายุเท่ากัน
บางทีก็ยังคิดแบบนั้นเลยนะ ……แต่ถ้าไปบอกเจ้าตัวก็ท่าทางจะโดนโกรธล่ะนะ”
“ฮิๆ นั่นสินะคะ
แต่ว่านั่นเป็นเพราะพี่ทำให้โกรธบ่อย เลยถูกระแวงเข้าน่ะค่ะ”
“เฮ้ยๆ”
ซาคุยะหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเวลาเนี่ยน่ากลัวนะ
แม้แต่ของที่พวกเราปักใจเชื่อว่าจะคงอยู่ไปตลอด ซักวันหนึ่งอาจจะถูกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือก็ได้
ถึงตัวพวกเราจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่กลับถูกตีความในแบบที่ต่างออกไปบ้างในภายหลังน่ะนะ
ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปทั้งสิ้น ทั้งที่ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงแท้ๆ
แต่การคิดทึกทักไปเองของใครซักคนที่เห็นพวกเรากลับกลายเป็นความจริงเข้า……”
[หน้า
268]
“……นั่นสินะคะ
นั่นเป็นเรื่องน่ากลัวจริงๆอย่างที่พูดค่ะ เพราะจะกลายเป็นว่าบุคคลที่สามได้ครอบครองสิทธิ์ในการตัดสินความรู้สึกของพวกเราเข้า”
ซาคุยะพูดต่อ
ณ
จุดนั้นดูมีพลัง
“แต่ก็คิดว่ามีสิ่งที่จะคงอยู่ต่อไปขนาดที่จะกระดอนกลับไปแม้แต่สิ่งนั้นอยู่ด้วยเหมือนกันค่ะ
เป็นสิ่งที่แข็งแกร่ง และตรงไปตรงมาขนาดที่ไม่ทำให้เกิดพื้นที่ให้สงสัยหรือความเข้าใจผิด
เฉกเช่นยามาวาโระแม่ลูกที่ถึงจะตายไปแล้วก็ยังอยู่เคียงข้างกันต่อไป
ต้องมีสิ่งแบบนั้นอยู่ด้วยแน่นอนค่ะ”
คนที่จะตัดสินสิ่งนั้นคือตัวของพวกเราเอง
ซาคุยะจ้องตรงมาหาโคสุเกะแล้วกล่าวขึ้นเช่นนั้น
“เธอแข็งแกร่งขึ้นนะ”
“อย่างนั้นเหรอคะ……?”
มองลงไปที่ร่างของตัวเองอยู่
แต่โคสุเกะไม่ได้พูดถึงเรื่องอย่างความแข็งแกร่งทางกายภาพของร่างกายแบบนั้น
ในขณะที่หัวเราะกับการกระทำของน้องสาว
โคสุเกะก็เอ่ยขึ้น
“งั้น ไว้เจอกันนะ”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นไว้เจอกันนะคะ”
[หน้า
269]
รถไฟเข้ามายังชานชาลา
ในเวลาเดียวกับที่หันหลังไป
มีเมล์เข้ามาที่มือถือของโคสุเกะ
------เจอกันอีกแล้วนะคะ
พอตกใจกับข้อความแล้วหันกลับไปก็พบว่าซาคุยะที่มือข้างหนึ่งจับมือถือไว้กำลังยิ้มอยู่
“ฮิๆ ล้อเล่นค่ะ แต่หลังๆมานี้พี่ชอบอู้การส่งเมล์
เพราะแบบนั้นช่วยส่งมาให้มากกว่านี้หน่อยนะคะ”
“จะดำเนินการให้ตามความเหมาะสม ……เธอเองก็ถ่ายรูปตอนคริสต์มาสส่งมาให้ด้วยนะ”
“……จะรับไว้พิจารณาค่ะ”
ราวกับถูกเสียงระฆังสัญญาณรถไฟดันหลัง
ทั้งสองไปยังเส้นทางที่แตกต่างกันของแต่ละคน
สัมผัสได้ว่าแม้จะอยู่ห่างไกลกัน
หัวใจก็ยังผูกพัน……
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น