สวัสดีปีใหม่ครับ ตามที่บอกไปเมื่อเดือนที่แล้ว วันนี้จะนำ Preview
ชิ้นที่ 100 มาลง Blog ครับ……
ในที่สุดก็แปลข้อมูล Visual Novel มาเกิน 100
เกมแล้ว พอลองมองย้อนกลับไปดูแล้วถือว่ามาไกลอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่เชื่อเลยครับว่าจะมาได้จนถึงจุดนี้
เกมที่นำมาให้ดูวันนี้คือ Silverio Vendetta
ของค่าย light ที่ออกเมื่อปี 2015 ครับ…
ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดหรอก เป็นเกมของค่าย light ที่ได้ชื่อว่าภาษายากนรกแอคชั่นอลังการจูนิเบียวนั่นล่ะครับ
เพื่อให้สมกับเป็น Preview หมายเลข 100 ผมจึงได้ท้าทายกับความยากระดับที่ไม่เคยลองมาก่อนอย่างเกมของค่าย
light…… ผลลัพธ์คือเหนื่อยสุดๆครับ ทั้งเยอะ ทั้งยาก เจอตั้งแต่ศัพท์ปกรณัมอย่างชื่อออร์ฟิอัสกับยูริไดซ์ซึ่งปรากฏอยู่ในตำนานกรีก
ยันศัพท์วิทยาศาสตร์อย่างขอบฟ้าของเหตุการณ์ (Event Horizon), สภาพตัวนำยิ่งยวด (Superconductivity), สุริยวิถี (Ecliptic) ฯลฯ นอกจากนี้ยังต้องถอดเสียงคาตาคานะกับแปลชื่อท่าไม้ตายให้ได้อารมณ์อีก
เป็น Preview ที่ใช้เวลาแปลนานที่สุดเท่าที่เคยแปลมาครับ
แต่ผมก็สามารถทำมันได้สำเร็จ นั่นหมายความว่าตัวผมมีฝีมือขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากนั่นเอง
สาเหตุที่สนใจเกมนี้เพราะเป็นเกมแนวแอคชั่นอลังการจูนิเบียวเนื้อเรื่องดีที่มีน้องสาวให้จีบครับ
เกมแนวนี้ที่มีน้องสาวที่อยู่ด้วยกันมาตลอดให้จีบเนี่ยหายากสุดๆ แต่ตอนนั้นก็แค่สนใจเฉยๆ
ที่ทำให้ถูกใจเข้าจริงๆคือฉากร่ายท่าไม้ตายของตัวละครแต่ละตัวครับ(ตาม Step ค่าย
light เวลาจะใช้ท่าไม้ตายต้องมีฉากร่าย
Spell ก่อน) ฉากร่าย Calling Sphere Bringer สุดยอดท่าไม้ตายของแอชลีย์ โฮไรซอน ตัวเอกเกม Silverio Trinity ซึ่งเป็นภาคต่อของ Silverio
Vendetta นั้นอลังการ มีพลัง และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมาก
พอบังเอิญไปเห็นคลิปนั้น(Spoil นะเออ)ใน Youtube แล้วก็รู้สึกประทับใจเกมนี้ขึ้นมาทันทีทั้งๆที่ยังไม่เคยเล่น
เลยตั้งใจไว้ว่าสักวันหนึ่งจะหยิบซีรีย์ Silverio มาเล่นให้ได้ครับ
シルヴァリオ ヴェンデッタ
Silverio Vendetta
คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจาก Official Web Site (light)
Story
คริสต์ศักราช 2578------ในปีนั้นโลกได้ล่มสลาย
นี่คือเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ที่จะมาถึงในอีกไม่ช้า
เป็นยุคสมัยที่เชื้อเพลิงฟอสซิลเริ่มขาดแคลน แต่ละประเทศกำลังแก่งแย่งทรัพยากรที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด
ในตอนนั้นเอง ญี่ปุ่นได้ประสบความสำเร็จในการค้นพบ “แอสทรัล” อนุภาคมูลฐานที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน
ถือเป็นการเริ่มต้นไปสู่การแก้ไขปัญหาทรัพยากรอย่างก้าวกระโดด
ทว่า เหล่าประเทศที่ไม่ยอมให้ญี่ปุ่นมีอำนาจอยู่ประเทศเดียวได้เข้ามาแย่งชิงเทคโนโลยีใหม่
สงครามโลกครั้งที่ 5 ได้อุบัติขึ้นในทันใด
ไฟสงครามแผ่ขยายออกไป
ในขณะที่การต่อสู้ได้ลากทุกหนทุกแห่งในโลกเข้ามาพัวพันแล้วทวีความรุนแรงขึ้นนั้นเอง
สงครามครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติก็เผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด
เตาปฏิกรณ์รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานแอสทรัลได้หลุดจากการควบคุม------
จากการแทรกแซงกะทันหันไปยังมิติที่อยู่เหนือขึ้นไปทำให้เกิดการสั่นไหวของห้วงมิติเป็นวงกว้าง------
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นใจกลางการระเบิดได้มลายหายไปพร้อมๆกับครึ่งซีกตะวันออกของทวีปยูเรเชีย------
และจากการอุบัติขึ้นของอามาเทราสึ(ดวงอาทิตย์ที่สอง)ก็ทำให้สภาพแวดล้อมบนโลกเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน
วงจรอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดได้ตายลง การคงไว้ซึ่งอารยธรรมของมนุษย์ชาติได้ตกอยู่ในสภาพที่เป็นไปไม่ได้
มหาสงครามซึ่งไร้ผู้ชนะได้ทิ้งรอยแผลลึกไว้บนพื้นโลกแล้วปิดฉากลงไปอย่างเงียบงัน
World
Main Character
Sub Character
Status
และแล้ว------ระหว่างที่มนุษย์ชาติบูรณะฟื้นฟูอารยธรรมบ้าง หยุดนิ่งบ้าง เวลาก็ผ่านไปราวๆ 1000 ปี
คริสต์ศักราชใหม่ที่ 1027------ราวๆ 10 ศตวรรษนับจากที่แบ่งคริสต์ศักราชเก่าโดยใช้การล่มสลายครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นเกณฑ์
ณ จักรวรรดิทหารแอดเลอร์ซึ่งตั้งอยู่บนภูมิภาคยุโรปตะวันตกเก่า
เมืองหลวงได้ถูกจู่โจมโดยมหันตภัยที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์
เมืองลุกไหม้ เลือดไหลนอง เสียงกรีดร้องดังไปทั่ว
ท่ามกลางทิวทัศน์ที่รายล้อมด้วยความสิ้นหวังไร้ที่สิ้นสุดราวกับนรกภูมิก็มิปานนั้นเอง สัตว์ประหลาดสองตนที่สร้างทิวทัศน์นั้นขึ้นมาได้เอ่ยกับชายคนหนึ่งอย่างเรียบๆ
“จะทดสอบชะตาชีวิตของเจ้าให้” สัตว์ประหลาดกล่าว
“อย่ามาดูถูกดวงชะตาของข้า” ผู้กล้ารับคำท้า
การต่อสู้ทุ่มชีวิตของทั้งสองฝ่ายซึ่งรับพรจากแอสทรัลแล้วเข้าปะทะกันนั้นสุดที่จะบรรยาย
เพราะแบบนั้นจึงกลายไปเป็นตำนาน เกิดเป็นมหากาพย์ที่อุบัติขึ้นมาจากโศกนาฏกรรมและน้ำตา
เรื่องราวนั้นสุดยอด ห้าวหาญ เร่าร้อน และสะเทือนอารมณ์……
แต่เซเฟอร์ โคลเรนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์กลับคิด
ยังไงตนก็ตามความแข็งแกร่งขนาดนั้นไม่ไหว------แล้วก็ไม่คิดอยากจะตามให้ทันด้วย
เพราะแบบนั้นนี่ล่ะถึงได้หนีออกมา
หนีอย่างไม่คิดชีวิต ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทุ่มเทกับการหนีเพียงอย่างเดียว
ไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าหมายไว้ที่ชัยชนะแล้วเจ็บปวด จะมีชีวิตอยู่และตายลงแบบธรรมดา เขาปรารถนาเช่นนั้นเรื่อยมา
โดยสาบานไว้กับเด็กสาวเพียงคนเดียวที่ช่วยไว้ได้ เขาได้หันหลังให้กับทุกสิ่ง
ด้วยเหตุนี้ นี่จึงไม่ใช่เรื่องราวของแสงสว่าง(วีรบุรุษ)
นี่คือเรื่องราวของความมืด(ผู้แพ้)
เป็นเรื่องราวที่ชายซึ่งหนีไปแล้วครั้งหนึ่งดิ้นรนต่อต้านเพื่อนำแสงดาวของตนกลับคืนมา
ที่นำทางให้กับเขาคือเสียงกระซิบของเด็กสาวผู้รายล้อมด้วยความตาย
ณ ส่วนที่ลึกที่สุดของดินแดนแห่งความตาย ยูริไดซ์(บทเพลงรักคร่ำครวญถึงผู้วายชนม์)ได้บอกรักกับออร์ฟิอัส(นักกวีพเนจร)
“------ไม่มีทางหนีจาก ‘ชัยชนะ’ ไปได้ เอาล่ะ มาเริ่มเวนเดตต้า(การโต้กลับ)กันเถอะ”
World
Esperanto (นักดนตรีผู้เหนี่ยวนำร่างดารา)
เหล่าผู้ใช้พลังเหนือธรรมชาติด้วยการเหนี่ยวนำแอสทรัล------นามนั้นคือ “เอสเปรันโต” พวกเขาเป็นยอดมนุษย์แห่งยุคใหม่ที่จักรวรรดิทหารแอดเลอร์สร้างขึ้นมา เรียกกันโดยทั่วไปว่านักดนตรีแห่งหมู่ดาว
ทุกคนมีสมรรถภาพทางกายห่างชั้นกับมนุษย์ธรรมดา พวกพลังกาย, อวัยวะ, ประสาทสัมผัส ฯลฯ ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งขึ้นมาก ทำให้มีความสามารถในการต่อสู้ผิดจากทหารธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด ขนาดที่ว่าหากเป็นเอสเปรันโตที่ยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็แค่คนเดียวก็มีกำลังรบเทียบเท่ากองทัพขนาดกลางเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น จุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดคือลักษณะเฉพาะอันน่าทึ่งที่ว่าพวกเขาแต่ละคนใช้พลังพิเศษที่ปกติแล้วไม่อาจจินตนาการถึงออกมาได้
และเพราะเรื่องพลัง “แอสเทอริซึม” พลังพิเศษที่ใช้ออกมาได้โดยใช้อาวุธเฉพาะกำหนดให้ตัวเองเป็นดาวดวงหนึ่งด้วย ในคริสต์ศักราชใหม่นี้เอสเปรันโตจึงมีจุดยืนที่มั่นคงว่าเป็นอาวุธมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด
Astral (ร่างดารา)
อนุภาคไม่ทราบตัวตนซึ่งมีล่องลอยอยู่เต็มในอากาศ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้กฎของโลกเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงระหว่างช่วงก่อนและหลังการล่มสลายครั้งใหญ่ที่ทำให้ศักราชเก่าจบลง
ตัวตนที่แท้จริงของอนุภาคนั้นคืออนุภาคมูลฐานที่เกิดจากห้วงมิติชั้นที่สูงขึ้นไปซึ่งในอดีตประเทศที่ชื่อญี่ปุ่นเป็นคนค้นพบ เป็นผลผลิตทางเทคโนโลยีที่มีความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหาพลังงานระดับโลกหลับใหลอยู่
ทว่า ราวกับเป็นการลักลั่นย้อนแย้งก็มิปาน เพราะมีพลังที่จะช่วยเหลือสถานการณ์โลก นานาประเทศที่ต้องการเทคโนโลยีในการควบคุมมันจึงเข้ามาแทรกแซง จนกลายเป็นต้นเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 5 ไปด้วย
มีความเป็นไปได้ที่หยั่งไม่ถึงนับไม่ถ้วนแอบซ่อนอยู่ แต่ในทางกลับกัน ด้วยระดับเทคโนโลยีของคริสต์ศักราชใหม่แล้วปัจจุบันจึงยังไม่มีประเทศใดที่สามารถทำการวิเคราะห์โดยละเอียดได้
ปัจจุบันนี้เอง แอสทรัลก็ยังถูกปล่อยออกมาจากอามาเทราสึ(ดวงอาทิตย์ที่สอง)ซึ่งลอยอยู่บนฟ้าอย่างสม่ำเสมอ แม้จะมองไม่เห็นแต่ทั่วทุกหนทุกแห่งในโลกก็ปกคลุมไปด้วยแอสทรัลอย่างเท่าๆกัน
Asterism (แสงดาว)
พลังพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เหล่าเอสเปรันโตมี และถือเป็นไพ่ตายด้วย
พวกเขากำหนดให้ตนเองเป็นดวงดาวขนาดที่เล็กที่สุดโดยการเหนี่ยวนำแอสทรัลในอากาศ และจะนำกฎที่เรียกได้ว่าเป็นสภาพแวดล้อมบนดวงดาวของแต่ละคนมาปรับใช้กับโลกแล้วแสดงออกมาในรูปแบบของพลังเหนือธรรมชาติ
ทางการทหารเรียกพลังพิเศษนี้ว่าแอสเทอริซึม เป็นที่หลงใหลของพวกพ้องและเป็นที่พรั่นพรึงของศัตรูในฐานะท่าไม้ตายที่เป็นสัญลักษณ์ของเอสเปรันโต
ในด้านเกณฑ์การประเมินหลักๆแล้ว พลังที่ปล่อยออกมา = Average(ค่ามาตรฐาน)ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย, Drive(ค่าเปิดใช้งาน) แล้วยังมีการจัดอันดับที่เที่ยงตรงขึ้นไปอีกโดยวัดจากการแสดงลักษณะเฉพาะตัวของแอสเทอริซึมออกมา = แนวโน้มแสงดาวทั้ง 6 ได้แก่ “การรวมตัว” “การกระจาย” “การควบคุม” “การเกาะติด” “การคงสภาพ” และ “การแทรกแซง”
รายละเอียดของรายการก็ตามด้านล่าง
Average (ค่ามาตรฐาน) : พลังที่ปล่อยออกมาโดยพื้นฐานของเอสเปรันโต เนื่องจากเป็นพลังที่ปล่อยออกมาในสภาวะปกติ ทำให้ยิ่งค่านี้สูงเท่าไรก็ยิ่งได้เปรียบเท่านั้น
Drive (ค่าเปิดใช้งาน) : พลังที่ปลดปล่อยออกมาในสภาวะเหนี่ยวนำแอสทรัล เนื่องจากยิ่งค่านี้ห่างจากค่า Average มากเท่าไร ผลสะท้อนกลับมาหาร่างกายตัวเองก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ทำให้แค่มีค่านี้สูงก็ใช่ว่าจะได้เปรียบ
ยิ่งสองค่านี้ใกล้เคียงกันมากเท่าไรก็ยิ่งมีความสามารถในการรบต่อเนื่องดีเท่านั้น แต่จะด้อยในด้านการระเบิดพลัง ในทางกลับกัน หากสองค่านี้ห่างกันมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นสายเผด็จศึกในเวลาสั้นมากเท่านั้น วิธีการต่อสู้จึงมีแนวโน้มที่จะเทียบได้กับการพนันทอยลูกเต๋าดูแต้มคู่คี่
การรวมตัว : ค่าที่วัดว่าสามารถเพิ่มความหนาแน่นของแอสเทอริซึมได้มากแค่ไหน หากค่านี้ต่ำก็จะเปราะบางต่อพลังดาวที่อีกฝ่ายปล่อยออกมา ในทางกลับกันหากสูงก็จะแข็งแรงทนทานจนสามารถทะลุทะลวงพลังดาวของอีกฝ่ายได้
การกระจาย : ค่าที่วัดว่าสามารถขยายอิทธิพลของแอสเทอริซึมออกไปได้ไกลแค่ไหน ยิ่งมีค่านี้สูงเท่าไรก็ยิ่งสามารถแผ่ขยายประสิทธิผลของดาวออกไปจากตัวผู้ใช้ซึ่งเป็นศูนย์กลางได้เป็นวงกว้างมากขึ้นเท่านั้น
การควบคุม : ค่าที่วัดว่าสามารถบังคับการเคลื่อนไหวของแอสเทอริซึมได้อิสระตามใจนึกแค่ไหน หากมีค่านี้ต่ำก็ทำได้แค่ยิงตรงๆเรียบๆเท่านั้น ในทางกลับกันหากมีค่านี้สูงก็จะสามารถควบคุมให้เลี้ยวหรือหมุนวนหลังจากที่ยิงออกไปได้
การเกาะติด : ค่าที่วัดว่าสามารถมอบลักษณะเฉพาะของแอสเทอริซึมให้กับยุทธภัณฑ์หรือวัตถุโดยไม่สูญเสียพลังงานได้มากแค่ไหน หากมีคุณสมบัตินี้ดีก็จะสามารถ Enchant(เสริมพลัง)คุณสมบัติเฉพาะตัวของดาวของตัวเองให้กับวัตถุได้ เช่นหากเป็นผู้มีความสามารถปล่อยไฟก็จะเป็นดาบเพลิง หากเป็นความสามารถล่องหนก็จะเป็นการทำให้อาวุธโปร่งใส
การคงสภาพ : ค่าที่วัดว่าหลังเริ่มใช้แอสเทอริซึมแล้วสามารถคงสภาพปรากฏการณ์ที่ก่อขึ้นไว้ได้นานแค่ไหน หากค่านี้ต่ำก็จะคงสภาพระยะยาวได้ยากตามไปด้วย ยิ่งค่านี้สูงเท่าไรก็ยิ่งสามารถคงประสิทธิผลของดาวที่ใช้ไว้ได้เป็นเวลานานมากขึ้นเท่านั้น
การแทรกแซง : ค่าที่วัดว่าสามารถใช้แอสเทอริซึมของตัวเองแทรกแซงปรากฏการณ์ในธรรมชาติได้มากแค่ไหน หากพลังดาวที่ก่อร่างขึ้นมาเป็นสิ่งที่เอ่อล้นเต็มสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างสายลม, แสงสว่าง, ความร้อน ฯลฯ ก็จะสามารถใช้เป็นจุดตั้งต้นในการขยายพลังดาวของตนเองได้ ในบรรดาคุณสมบัติทั้งหกเองก็ยังว่าจัดเป็นคุณสมบัติที่พิเศษเหนือคุณสมบัติอื่น เพราะไม่ว่าจะมีความสามารถโดดเด่นแค่ไหน แต่หากพลังดาวที่ลืมตาตื่นขึ้นมาไม่สามารถตอบสนองต่อปรากฏการณ์ธรรมชาติทั่วๆไปได้ก็จะไม่ได้รับพรจากดาว
Catastrophe (การล่มสลายครั้งใหญ่) จุดจบของคริสต์ศักราช
คริสต์ศักราช 2578------สงครามโลกครั้งที่ 5 ได้อุบัติขึ้นจากปัญหาทรัพยากรที่ทั่วโลกเผชิญ
ขณะที่สงครามครั้งสุดท้ายระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกันกำลังดำเนินไป เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานแอสทรัลซึ่งญี่ปุ่นคิดค้นพัฒนาขึ้นก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นเพราะการโจมตีจากประเทศอื่น
ผลลัพธ์นั้นทำให้เกิดการสั่นไหวของห้วงมิติเป็นวงกว้าง พาเอาโลกทั้งใบติดร่างแหไปด้วย
ครึ่งซีกตะวันออกของทวีปยูเรเชียมลายหายไปพร้อมๆกับญี่ปุ่นที่เป็นศูนย์กลางการระเบิด อารยธรรมที่มีอยู่ได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงในคราวเดียว
คริสต์ศักราชมาถึงจุดจบ นี่คือการล่มสลายครั้งใหญ่ที่จะได้รับการเล่าขานสืบไปในภายภาคหน้า
นับจากนั้นเป็นต้นมาทั่วทุกแห่งบนโลกก็ปกคลุมไปด้วยแอสทรัล โลกจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่โดยฉับพลันอย่างเลี่ยงไม่ได้
การเปลี่ยนแปลงบนโลกที่เกิดจากแอสทรัล
แอสทรัลคืออนุภาคไม่ทราบตัวตนที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งบนโลกหลังเหตุการณ์การล่มสลายครั้งใหญ่ แม้มันจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎฟิสิกส์หลายๆข้อในโลกหลังการล่มสลาย ในบรรดานั้นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆคือ 3 ข้อด้านล่าง
“เชื้อเพลิงให้พลังงานต่ำ แต่อัตราการกินพลังงานก็ลดลงไปด้วย” “ค่าความต้านทานในโลหะทุกชนิดหายไป” “แรงต้านของอากาศเพิ่มขึ้น”
เนื่องจากโลหะทุกชนิดกลายเป็นสภาพตัวนำยิ่งยวดในอุณหภูมิปกติ ยิ่งไปกว่านั้นตัวเชื้อเพลิงเองยังใช้ได้นานขึ้น ทำให้แค่ด้วยทรัพยากรที่มีเหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ทำให้มนุษย์ชาติอยู่รอดต่อไปได้แล้ว นี่เป็นผลดีที่แอสทรัลนำมาให้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่แน่นอนว่าก็มีข้อเสียเช่นกัน
เทคโนโลยีสารกึ่งตัวนำทั้งหมดหายไป------เทคโนโลยีควบคุมคอมพิวเตอร์อันซับซ้อนก่อร่างสร้างขึ้นมาได้โดยการใช้ค่าความต้านทานของสารประกอบโลหะกับความต่างศักย์ไฟฟ้าซึ่งเกิดจากความต้านทานดังกล่าว แต่เนื่องจากค่าความต้านทานในโลหะทุกชนิดหายไป เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จึงตายลง อารยธรรมได้ย้อนกลับไปยังยุคสมัยของฟันเฟืองและบัตรเจาะรู รากฐานของวัฒนธรรมเครื่องจักรได้พังทลายลงจากการสูญเสียความสามารถในการคำนวณประมวลผลระดับสูงไป
เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสามารถทำงานเป็นเวลานานได้ด้วยเชื้อเพลิงเพียงน้อยนิด แต่ก็แลกมาด้วยแรงม้าที่ลดลงไปมากเพราะเชื้อเพลิงไม่สามารถให้พลังงานสูงได้ และนอกจากนี้พวกเครื่องบินยังสูญพันธุ์ไปโดยสิ้นเชิงตามแรงต้านของอากาศที่เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้การเดินทางด้วยการบินจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึง แล้วยังนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เส้นทางสู่อวกาศเองก็ถูกตัดขาดด้วย
กล่าวโดยรวมๆคือสามารถใช้ตัวเชื้อเพลิงและพลังงานที่เกิดมาจากเชื้อเพลิงได้โดยไร้ซึ่งความสูญเปล่า แต่ในทางกลับกันปริมาณพลังงานที่ดึงออกมาใช้ได้ในทันทีก็ลดลงไปมาก เลยไม่สามารถใช้พลังงานเหล่านั้นในกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนได้อีกแล้ว กล่าวคือกลายเป็นสภาพที่ถูกปิดกั้นไม่ให้ข้ามเส้นแบ่งเส้นหนึ่งซึ่งมีความเป็นไปได้ของความรุ่งเรืองของมนุษย์ชาติอยู่ข้างหน้า สุดท้ายจึงเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนศักราชใหม่ แต่แม้จะมาถึงคริสต์ศักราชใหม่ที่ 1032 แล้ว ระดับของอารยธรรมก็ยังคงต่ำอยู่ หยุดอยู่ที่อารยธรรมช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เหตุที่ปัจจุบันตกอยู่ในสภาพที่มาถึงขีดสุดได้แค่ระดับอารยธรรมสมัยที่ถ่านหินคือกระแสหลักและน้ำมันดิบยังไม่เป็นที่นิยมก็เพราะสาเหตุดังที่กล่าวไป
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล :
- สภาพตัวนำยิ่งยวด (Superconductivity) : วัสดุบางชนิดเมื่ออยู่ในสภาพอุณหภูมิที่ต่ำมากๆจะมีแรงต้านไฟฟ้าเป็นศูนย์และไม่มีสนามแม่เหล็กอยู่ภายใน กระแสไฟฟ้าสามารถไหลไปในตัวนำโดยปราศจากแรงต้านทานใดๆทั้งสิ้น จะเรียกสภาพนี้ว่าสภาพตัวนำยิ่งยวด(Superconductivity)และเรียกวัสดุที่อยู่ในสภาพนี้ว่าตัวนำยิ่งยวด(Superconductor)
- บัตรเจาะรู (Punched card) เป็นระบบบันทึกข้อมูลสมัยก่อน ถือเป็นก้าวแรกๆของวิวัฒนาการคอมพิวเตอร์
อามาเทราสึ (ดวงอาทิตย์ที่สอง) ต้นกำเนิดแห่งแอสทรัล
ดาวลึกลับที่เกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์การล่มสลายครั้งใหญ่ ลอยอยู่บนอวกาศซึ่งอยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของชั้นสตราโทสเฟียร์
ตัวตนที่แท้จริงคือรูที่เปิดอยู่บนมิติที่สาม
หลุมดำเป็นภาวะเอกฐานเชิงความโน้มถ่วงซึ่งเกิดจากการที่แกนกลางของดาวยุบตัวลงเข้าหาศูนย์กลางเพราะแรงโน้มถ่วง ทว่า นี่เป็นขอบฟ้าของเหตุการณ์ชนิดที่ต่างไปจากหลุมดำ เขตแดนมิตินี้ได้ถูกตรึงให้อยู่ในสภาวะที่เสถียรทั้งๆที่ยังไม่เสถียร และคงสภาพแปลกประหลาดเช่นนั้นตลอดเรื่อยมา
รูปลักษณ์ภายนอกนั้นดูคล้ายกับดาวฤกษ์ธรรมดาทั่วๆไปมาก กลางวันจะส่องแสงออกมาประมาณดวงอาทิตย์ที่มีแดดอ่อนๆ ส่วนกลางคืนจะส่องแสงประมาณจันทร์เพ็ญที่ส่องประกายลึกลับออกมา
เป็นต้นกำเนิดของแอสทรัลที่ปกคลุมพื้นผิวโลกอย่างสม่ำเสมอ
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล :
- ภาวะเอกฐานเชิงความโน้มถ่วง (Gravitational Singularity) เป็นศัพท์เฉพาะทางของดาราศาสตร์ฟิสิกส์ คร่าวๆคือเป็นที่ๆสนามโน้มถ่วงกลายเป็นอนันต์
- ขอบฟ้าของเหตุการณ์ (Event horizon) คือขอบเขตของกาลอวกาศ โดยมากมักจะเป็นพื้นที่โดยรอบหลุมดำ ผู้สังเกตไม่สามารถรับรู้เหตุการณ์ใดๆที่เกิดขึ้น ณ อีกฟากของขอบฟ้าของเหตุการณ์ได้ (ในกรณีของหลุมดำคือทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงแสงไม่สามารถหลุดพ้นจากแรงโน้มถ่วงของหลุมดำออกมาได้ จึงไม่มีทางรับรู้ได้)
Lost Technology (เทคโนโลยีที่สูญหาย) มรดกทางวิทยาการของญี่ปุ่นเก่า
หลักๆแล้วหมายถึงวิทยาการของประเทศญี่ปุ่นเก่าซึ่งมีเทคโนโลยีรากฐานในการควบคุมจัดการแอสทรัลแอบซ่อนอยู่
แอสทรัลทำให้เกิดสภาพแวดล้อมในคริสต์ศักราชใหม่ ผลประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถควบคุมหรือนำแอสทรัลมาใช้ได้นั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับประเทศชาติ
หากเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ในอดีตก็เคยมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าถึงขนาดทำให้การควบคุมสภาพแวดล้อมในขอบเขตจำกัดเป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่าการผูกขาดเทคโนโลยีที่สูญหายให้ได้มากขึ้นแม้เพียงชิ้นเดียวคือหนทางที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มอำนาจให้กับประเทศ
ตามจริงเทคโนโลยีแขนงนี้ทั้งหมดน่าจะปลิวหายไปพร้อมกับประเทศญี่ปุ่นแล้ว แต่เพราะการสั่นไหวของห้วงมิติที่เกิดขึ้นตอนการล่มสลายครั้งใหญ่จึงกระจัดกระจายไปทั่วผืนแผ่นดินที่รกร้าง
มักจะมีการค้นพบในสถานที่ที่คาดไม่ถึงอยู่บ่อยๆ
Adamantite
โลหะผสมพิเศษเฉพาะ
เอสเปรันโตจะใช้ยุทธภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากอดามันไทด์ และจะใช้อาวุธนั้นเป็นสื่อกลางในการเหนี่ยวนำแอสทรัลปริมาณมาก
กล่าวคือหากปราศจากอุปกรณ์ที่ทำจากโลหะผสมพิเศษนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่อาจก่อร่างแอสเทอริซึมซึ่งเป็นพลังเหนือธรรมชาติได้
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่สุดแห่งความลับทางการทหารที่คอยค้ำจุนจักรวรรดิ วิศวกรที่สามารถถลุงและปรับแต่งโลหะนี้ได้จะถูกควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดโดยรัฐ
Harmonizer (ผู้ปรับท่วงทำนองโลหะ)
จะเรียกพวกอาชีพด้านศิลปะเชิงอุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมโลหะในคริสต์ศักราชใหม่โดยรวมๆว่า Engineer (วิศวกรอุตสาหกรรมโลหะ) แล้วในบรรดานั้นก็ยังมีการแบ่งประเภทเป็นฮาร์โมไนเซอร์ ซึ่งหมายถึงอาชีพชั้นสูงพิเศษที่มีทักษะในการปรับแต่งอดามันไทด์
ซึ่งในผลงานชิ้นนี้ก็คือจิน แล้วก็มิลี่ที่ยังเป็นเด็กฝึกงาน
ในคริสต์ศักราชใหม่ซึ่งกระบวนการเทคโนโลยีที่ละเอียดแม่นยำโดยคอมพิวเตอร์กับการผลิตปริมาณมากเป็นไปไม่ได้แล้วนั้น แทบทุกอย่างจำเป็นต้องใช้มือมนุษย์เข้าช่วย ด้วยเหตุนี้อาชีพช่างเทคนิคจึงกลายเป็นหนึ่งในอาชีพสำคัญที่คอยค้ำจุนโลกไป
โดยเฉพาะทางจักรวรรดิซึ่งทุ่มเทกับการฝึกอบรมฮาร์โมไนเซอร์ที่ยอดเยี่ยมเพื่อจัดการกับเทคโนโลยีทางการทหารจำนวนมาก ทว่า ความยากในการเรียนรู้เทคโนโลยีนี้สูงมาก จำนวนของฮาร์โมไนเซอร์จึงไม่อาจเรียกว่ามีเยอะได้เลย
ด้วยลักษณะเฉพาะของอดามันไทด์กับเอสเปรันโต ฮาร์โมไนเซอร์จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการที่จะทำให้เอสเปรันโตแสดงสมรรถภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ สาเหตุที่เซเฟอร์ซึ่งเป็นทหารหนีทัพยังคงความสามารถในการต่อสู้ไว้ได้เองก็มีความเกี่ยวข้องกับตัวตนของพวกมิลี่เป็นอย่างมาก
จักรวรรดิทหารแอดเลอร์
จักรวรรดิทหารที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตกเก่าซึ่งเป็นเวทีของเรื่อง ให้ความสำคัญกับความสามารถเหนือสิ่งอื่นใด ยึดถือเอาคำว่า “จริงจัง จริงใจ และเข้มแข็ง” กับ “เดินทัพเพื่อพิชิต” เป็นนโยบายของประเทศ
ปกติแล้วทหารจะเป็นฝ่ายกุมอำนาจที่แท้จริงของประเทศไว้ ภายในประกอบขึ้นจากโซดิแอค(กองทัพสิบสองราศีแห่งสุริยวิถี)------กองทัพทั้งสิบสองซึ่งจัดแบ่งขึ้นโดยแยกตามเป้าหมายของแต่ละกอง
ช่วงไม่กี่ปีมานี้เทคโนโลยีในการสร้างเอสเปรันโตได้ประสบความสำเร็จ การออกไปตีข้าศึกจึงชนะตลอดไร้พ่าย เศรษฐกิจเองก็ดีขึ้น เรียกได้ว่ากำลังอยู่กลางยุคทองเลยจริงๆ
ทว่า อาจเป็นเพราะรุกคืบอย่างต่อเนื่องเลยมีศัตรูเยอะ โดยเฉพาะกับศาสนจักรวรรดิแคนเทอร์เบอรีและสมาพันธรัฐการค้านั้นถือเป็นศัตรูกันจริงๆ เป็นความสัมพันธ์ที่จ้องเขม่นกันมาหลายปีและแอบมีการปะทะกันอยู่บ่อยครั้ง
การสังหารโหดโดยอัสคลิปิอุส
ปีคริสต์ศักราชใหม่ที่ 1027 เมืองหลวงของจักรวรรดิทหารแอดเลอร์ได้ถูกจู่โจมโดยมหันตภัยที่ไม่เคยมีมาก่อน
อาวุธมีชีวิตปริศนาชื่อมาร์สกับอูรานอสได้บุกจู่โจมเมืองหลวงกะทันหัน ส่งผลให้ส่วนหนึ่งของเมืองไหม้กลายเป็นธุลีและมีผู้เสียชีวิตมากมายมหาศาลทั้งทหารและพลเมือง รวมๆแล้วประมาณเจ็ดหมื่นสามพันคน ถือเป็นโศกนาฏกรรมขนาดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์จักรวรรดิ
วาลเซไลด์ซึ่งตอนนั้นเป็นแค่พันเอกสามารถยุติโศกนาฏกรรมนี้ลงได้จึงกลายเป็นวีรบุรุษ แล้วก็ไต่เต้าขึ้นมาเป็นถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด
จากเรื่องที่สัตว์ประหลาดสองตนใช้แอสทรัล แล้วก็เรื่องที่พวกมันน่าจะถูกสร้างขึ้นที่โดยประเทศอื่นนอกเหนือจากจักรวรรดิ จึงเล่าต่อกันมาด้วยชื่ออัสคลิปิอุส(กลุ่มดาวคนแบกงู) ซึ่งอยู่ในสุริยวิถี แต่ไม่ได้รับการรวมเข้าไปในสิบสองราศี
ในเรื่องอย่างสภาพความเป็นมาของคดีที่เกิดขึ้น, ความเกี่ยวพันเบื้องหลังของพวกมาร์สนั้น แม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีปริศนาอยู่มาก
Main Character
“หวา โหดหินเป็นบ้าเลย ที่บอกว่าผลประโยชน์ในอนาคตไม่ใช่ผลประโยชน์เนี่ย”
Zephyr Colerain
ゼファー・コールレイン
ไม่มีกะจิตกะใจ ไม่มีเงิน ไม่มีงาน เป็นตัวเอกของเรื่องที่มีปัจจัยสามอย่างที่กล่าวไปครบหมด
แม้จะมีความสามารถที่จะทำการให้สำเร็จในเวลาที่ตั้งใจทำ แต่อาจเป็นเพราะประสบการณ์อันยาวนานในสนามรบได้กลายไปเป็นฝันร้าย เลยมีนิสัยเสียที่หากยังไม่โดนไล่ต้อนจนมุมจนถึงขีดสุดก็จะไม่เอาจริง
ในทางกลับกัน ความสามารถในการต่อสู้ซึ่งไม่เข้ากับนิสัยนั้นเป็นสิ่งที่ได้มาจากประสบการณ์อันดุเดือดในอดีต ความสามารถค่อนไปทางวิธีการต่อสู้แบบที่ไม่ยอมให้อีกฝ่ายตั้งตัว โดยเฉพาะการลอบสังหาร, ซุ่มโจมตี และการปลิดชีพในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
หนีออกมาตอนการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ จึงอยู่ในจุดยืนที่หากมองจากกองทัพแล้วจะเป็นทหารหนีทัพ เลยกลัวว่าตัวตนของตัวเองจะถูกจักรวรรดิล่วงรู้เป็นอย่างมาก ปัจจุบันใช้ชีวิตธรรมดาที่แสนเรียบง่ายอยู่กับมิลี่ผู้เป็นน้องสาว ทำให้กลายเป็นซิสค่อนไปพอสมควร
ในอดีตเคยได้เห็นการต่อสู้ของวาลเซไลด์ จึงรู้ซึ้งว่าคำว่า “วีรบุรุษ” มีความหมายเดียวกับคำว่า “สัตว์ประหลาด” เหตุที่ทั้งที่มีร่างกายแข็งแรงทนทานแบบเอสเปรันโต แต่กลับไม่เชื่อในพลังของตัวเองเลยแม้แต่น้อยและประเมินตนเองไว้ต่ำเสมอก็คงเป็นเพราะเรื่องนั้น
“------ไม่มีทางหนีจาก ‘ชัยชนะ’ ไปได้ เอาล่ะ มาเริ่มเวนเดตต้า(การโต้กลับ)กันเถอะ”
Vendetta
ヴェンデッタ
เด็กสาวลึกลับผู้ลืมตาตื่นขึ้นเพราะได้พบกับเซเฟอร์โดยบังเอิญในคดีหนึ่ง มีชื่อเล่นว่าเวตี้
เป็นเด็กสาวปริศนาที่ทั้งภูมิลำเนา, เป้าหมาย, หลักเกณฑ์ในการลงมือทำสิ่งต่างๆล้วนเป็นปริศนาทั้งสิ้น มักจะพูดคำพูดที่มีความหมายลึกซึ้งหรือทำให้รอบข้างสับสนด้วยกิริยาวาจาที่น่าฉงนอยู่บ่อยๆ
มีนิสัยที่ยังไงก็คาดเดาไม่ถูกว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ก็ไม่ใช่คนน่ารังเกียจแน่นอน ถึงจะไม่เข้ากับรูปลักษณ์ที่เห็นแต่ก็มีด้านที่แสดงให้เห็นว่าดูแลคนอื่นดีราวกับแม่ดูแลลูกอยู่ด้วย
ดูเผินๆจะเห็นว่าปากร้ายกับเซเฟอร์ แต่ความจริงแล้วก็แสดงความรู้สึกดีๆออกมาให้เห็นอยู่ ทว่า ตัวเซเฟอร์เองกลับพยายามหลบเลี่ยงเธอ ไม่รู้ทำไมถึงได้กลัวเธอเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ชื่อเวนเดตต้าก็เป็นเพียงคำที่เธอใช้เรียกตัวเอง
ดูเหมือนเหล่าคนที่รู้จักเธอจะเรียกเธอด้วยชื่อ “ยูริไดซ์(บทเพลงรักคร่ำครวญถึงผู้วายชนม์)” ทว่า สุดท้ายแล้วความจริงจะเป็นเช่นไร……
“ของขวัญที่ได้รับมาจากพี่ชาย
เพียงเท่านั้นก็เป็นสมบัติล้ำค่าไปทั้งชีวิตแล้วล่ะ”
Milliarte
Blanche
ミリアルテ・ブランシェ
น้องสาวของเซเฟอร์ อาศัยอยู่ด้วยกัน
มีชื่อเล่นว่ามิลี่
สูญเสียพ่อแม่ไปเพราะเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อห้าปีก่อน แต่ก็มีความเข้มแข็งและอ่อนโยนขนาดที่ไม่ชวนให้รู้สึกถึงเรื่องนั้นเลย
เป็นเด็กสาวที่ดีมากเกินวัย ทั้งทำงานบ้านได้สารพัดและให้ความสำคัญกับครอบครัว
แถมนิสัยก็ดีด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักในวัยที่กำลังเริ่มมีความรัก
โอบอุ้มหัวใจรักเล็กๆน้อยๆที่มีต่อพี่ชายไว้อยู่
กำลังฝึกฝนเพื่อเป็นฮาร์โมไนเซอร์อยู่ มีฝีมือยอดเยี่ยมมากขนาดที่ห่างชั้นกับพวกเอ็นจิเนียร์(วิศวกรอุตสาหกรรมโลหะ)ทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด
ทว่า อาจเป็นเพราะความมุ่งมั่นนั้นเลยมีด้านที่พอให้พูดถึงความรู้เฉพาะทางแล้วจะจ้อไม่หยุดด้วย
เคารพจินในฐานะอาจารย์และกำลังฝึกฝนอยู่ทุกๆวันที่โรงงานของเขา
ตอนนี้ได้ก้าวข้ามบาดแผลในอดีตไปแล้ว และกำลังใช้ชีวิตในแต่ละวันไปอย่างเต็มที่
เรียกเซเฟอร์อย่างรักใคร่ว่าพี่ชาย
แต่จริงๆแล้วทั้งคู่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกัน
“ทุกสิ่งทุกอย่างของแกเป็นของฉันไปตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้วล่ะ
เซเฟอร์”
จิโตเสะ โอโบโระ อามาสึ
チトセ・朧・アマツ
หญิงเก่งผู้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพของไลบรา(คันชั่งดาบพิพากษา)
กองทัพที่เจ็ดซึ่งรับผิดชอบดูแลภารกิจพิเศษและเป็นหนึ่งในโซดิแอค(กองทัพสิบสองราศีแห่งสุริยวิถี)ที่เป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิ
แล้วตัวเธอเองก็เป็นเอสเปรันโตชั้นยอดของจักรวรรดิด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นอามาสึ(ชนชั้นสูง)ซึ่งสืบสายเลือดญี่ปุ่นมาอย่างเข้มข้นด้วย
แต่แม้จะเกิดมาในชนชั้นที่มีสิทธิพิเศษ ก็มีความมุ่งมั่นอันยอดเยี่ยมในการขัดเกลาพัฒนาตัวเอง
พอใจที่จะพยายามอย่างไม่ลดละ กล่าวคือเป็นคนแบบที่เรียกกันว่า “อัจฉริยะที่แท้จริง”
ความสามารถในการต่อสู้อันเหนือชั้นของเธอก็เป็นสิ่งที่ได้มาจากความมุ่งมั่นนั้น
หากคนที่ละเลยการฝึกฝนเอาแต่พึ่งพาพรสวรรค์อย่างเดียวไปสู้กับเธอแล้วล่ะก็มีแต่จะโดนซัดร่วงในทีเดียวเท่านั้น
ทว่า
อาจเป็นเพราะยึดมั่นในหลักการที่ว่าความสามารถสำคัญที่สุดอย่างจริงจัง
เลยมีด้านที่เป็นคนทะเยอทะยานด้วย เพื่อหน้าที่ที่ตนพึงจะทำแล้วก็เตรียมใจไว้ขนาดที่จะทรยศได้แม้แต่วาลเซไลด์
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนปัจจุบัน ด้วยเหตุนั้นทำให้แม้จะมีความสัมพันธ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับอาโอย
แต่ก็ถูกอาโอยเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ
ในเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อห้าปีก่อนได้ร่วมต่อสู้ด้วยกันกับคู่หูที่มีใจออกห่าง
ผลคือได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ในตอนนั้นได้สูญเสียตาขวาไป
ที่ตอนนี้ใส่ผ้าปิดตาอยู่ก็เพราะเหตุนั้น
Sub Character
“ที่จะชนะก็คือ
‘ชั้น’ ”
Christopher
Valzelide
クリストファー・ヴァルゼライド
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนที่ 317 แห่งจักรวรรดิทหารแอดเลอร์ เป็นตำนานมีชีวิต
ถ้าจะให้บรรยายเขาด้วยคำคำเดียวก็คือ “วีรบุรุษ” เป็นเอสเปรันโตคนแรกและเป็นเอสเปรันโตที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิด้วย
สามารถปราบมาร์สกับอูรานอสลงได้ด้วยตัวคนเดียวแล้วยุติเหตุการณ์การสังหารหมู่ครั้งใหญ่ลงไปได้
จากความสำเร็จนั้นตัวเขาซึ่งตอนนั้นเป็นแค่พันเอกจึงได้ไต่เต้าขึ้นมาสู่จุดสูงสุดของกองทัพในทีเดียว
ตามจริง หากไม่ได้มีสายเลือดที่ดี
พรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่เกิดเองก็จะด้อยไปด้วย
ทว่า ความสามารถในการต่อสู้ของเขาซึ่งได้มาจากพลังใจอันน่าตกตะลึงและการฝึกฝนที่ผิดธรรมดานั้นได้ไปถึงขอบเขตที่แซงหน้าทุกคนและไม่ยอมให้ใครไล่ตามได้ทัน
เพื่อค้ำจุนยุคทองของจักรวรรดิจึงได้ยึดถือคำว่า “ยุติธรรมถูกต้อง” กับ “เสียสละเพื่อส่วนรวม” เป็นหลักประจำใจ
และทุกวันนี้เขาก็ยังคงสู้ต่อไปเพื่อใครสักคน สู้ต่อจนกว่าจะพังทลาย
จนกว่าจะแหลกสลาย สู้ต่อไปเรื่อยๆเพราะว่านั่นคือหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะ “ผู้ชนะ”
ปัจจุบันเป็นบุคคลเพียงหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์จักรวรรดิที่เกิดมาจากชนชั้นที่ต่ำที่สุดอย่างสลัม
แต่กลับได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
“ต้องตรวจสอบดูให้แน่ใจไม่ใช่เหรอไง ทั้งตัวเจ้า
แล้วก็ตัวพวกเราเองด้วย”
Mars-No.
Epsilon
マルス-No.ε
สัตว์ประหลาดไม่ทราบตัวตนแน่ชัดที่สวมหน้ากากอสูร เป็นตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์การสังหารหมู่ครั้งใหญ่ร่วมกับอูรานอส
และเป็นอาวุธที่ใช้แอสทรัลเหล็กกล้าซึ่งเหนือชั้นกว่าเอสเปรันโตไปอีก
รูปร่างหน้าตาเป็นเอกลักษณ์มาก มีรูปร่างที่ชวนให้นึกถึง
“อสูร”
ที่ปรากฏอยู่ในนิทานปรัมปราของประเทศญี่ปุ่นซึ่งล่มสลายไปเมื่อพันปีก่อน
จากดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์นั้นเลยคาดเดากันว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นโดยศาสนจักรวรรดิแคนเทอร์เบอรี
แต่ปัจจุบันก็ยังไม่ทราบความจริงแน่ชัด
ครั้งหนึ่งเคยเปลี่ยนส่วนหนึ่งของเมืองหลวงให้กลายเป็นนรกด้วยความรุนแรงอันเหลือล้น
มีวิธีพูดที่ไม่เข้ากับรูปลักษณ์ จะพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบเยือกเย็นแล้วยังดูมีสติปัญญา
บางครั้งยังแสดงให้เห็นว่ามีการศึกษาดีอย่างคิดคำนึงถึงสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้าม------พอเผลอคิดเช่นนั้นก็กลับเปลี่ยนไปมีท่าทีเจ้าสำราญโดยสิ้นเชิง
เป็นเรื่องยากมากที่จะหยั่งถึงเจตนาที่แท้จริงได้
เมื่อห้าปีก่อนน่าจะถูกวาลเซไลด์กำจัดไปพร้อมๆกับอูรานอสแล้วแน่ๆ
แต่------
“จงตะเกียกตะกายดิ้นรนให้เต็มที่ซะ
โชว์เพื่อความบันเทิงจบแล้ว”
Uranus-No.
Zeta
ウラヌス-No.ζ
สัตว์ประหลาดไม่ทราบตัวตนแน่ชัด
สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าที่แท้จริงไว้ เป็นตัวการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์การสังหารหมู่ครั้งใหญ่ร่วมกับมาร์ส
และเป็นอาวุธที่ใช้แอสทรัลเหล็กกล้าซึ่งเหนือชั้นกว่าเอสเปรันโตไปอีก
มีนิสัยหยิ่งทะนงและเลือดเย็น
อาจเป็นเพราะหมดหวังกับมนุษย์ชาติแล้วก็เป็นได้จึงมีท่าทีดูถูกเหยียดหยามอยู่ตลอดเวลา
กล่าวคือไร้ความเมตตา การไปยืนอยู่ต่อหน้าเธอก็คงจะหมายถึงความตายทั้งๆอย่างนั้นเลย
ดูเหมือนในอดีตจะถูกวาลเซไลด์เล่นงานไว้หนักเลยมีความเกลียดชังฝังลึก
เช่นเดียวกับมาร์ส
น่าจะถูกกำจัดไปพร้อมๆกันเมื่อห้าปีก่อนแล้ว แต่ว่า------
“สำหรับเนินที่เกินคัพ
B นั้นต้องขอแสดงความเสียใจด้วย ไม่มีความสนใจเลยแม้แต่น้อย”
Lucido Grand Scénic
ルシード・グランセニック
คุณชายของบริษัทแกรนด์เซนิค ตระกูลพ่อค้าผู้ร่ำรวยที่ลงหลักปักฐานในสมาพันธรัฐการค้า
ดูเผินๆจะเห็นเป็นเด็กหนุ่มสดใส, สะอาดสะอ้านและมีมารยาท แต่ความจริงแล้วเป็นเด็กหนุ่มน่าเสียดายที่มี
Karma(รสนิยมทางเพศ)ยากที่จะบรรยาย เป็นเดอะ M ระดับที่ต้องเติมคำว่าสุดๆต่อท้าย แล้วยังเป็นโลลิค่อนขั้นฮาร์ดคอร์ จากรสนิยมนั้นทำให้หลงรักเวนเดตต้าในแวบแรกที่เห็นราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่าง
แต่แน่นอนว่าไม่มีหวังเลยแม้แต่น้อย โดนทำเหมือนเป็นของเล่นอย่างถูกปฏิบัติด้วยเหมือนเป็นหมูเลยมีความสุขบ้าง,
โดนขี่หลังจนฟินบ้าง จนส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเวนเดตต้าแย่ลงไปอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
แต่ในด้านการงานนั้นมีความสามารถเป็นอย่างมาก พอสับสวิตซ์เข้าโหมดทำงานไปแล้วบางทีก็จะเผยฝีมือราวกับปีศาจในด้านการเจรจา, วางแผนออกมาให้เห็น
อาจเป็นเพราะเห็นอกเห็นใจที่เป็นคนไม่ได้เรื่องเหมือนกัน เลยสนิทกับเซเฟอร์มาก
ให้ที่ซ่อนกับเขาที่เป็นทหารหนีทัพ แล้วก็นำคำไหว้วานที่เปิดเผยสู่สังคมเบื้องหน้าไม่ได้มาให้เซเฟอร์ทำในฐานะค่าให้ที่ซ่อน
“นายที่ซายะควรรับใช้มีเพียงท่านพี่คนเดียวเท่านั้นค่ะ”
Saya
Kirigakure
サヤ・キリガクレ
รองแม่ทัพของไลบรา(คันชั่งดาบพิพากษา) กองทัพที่เจ็ดซึ่งรับผิดชอบดูแลภารกิจพิเศษและเป็นหนึ่งในโซดิแอค(กองทัพสิบสองราศีแห่งสุริยวิถี)ที่เป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิ
ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บังคับบัญชาของจิโตเสะ
เป็นเอสเปรันโตที่ยอดเยี่ยม
ความสามารถของเธอใช้งานได้ครอบคลุมหลากหลายตั้งแต่การต่อสู้ยันการข่าวกรอง
แล้วยังมีอีกด้านที่เป็นหน่วยลอบสังหารของไลบราด้วย โดยเฉพาะด้านการกำจัดศัตรูภายนอกอย่างลับๆนั้นจะเรียกว่าเป็นอัจฉริยะก็ได้
ยึดถือว่าจิโตเสะที่เป็นหัวหน้าคือนายตลอดชั่วชีวิตของเธอ
กับจิโตเสะนั้นมีความสัมพันธ์เป็นลูกน้องกับเจ้านาย แล้วก็ยังมีความรู้สึกพิเศษที่ก้าวความเพศสภาพให้กับจิโตเสะด้วย
ดูเหมือนจะไม่ใช่พวกมีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน
ไม่ว่ายังไงเป้าหมายที่ความรู้สึกรักนั้นจะมุ่งไปหาก็จำกัดอยู่แค่นายท่านของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
มีความรักที่หนักแน่นและมั่นคง ด้วยเหตุนี้จึงตั้งใจจะกำจัดศัตรูของนายท่านให้สิ้นซาก
จะไม่อภัยให้กับคนที่หันดาบเข้าหานายของเธอเป็นอันขาด
“ด้วยเหตุนี้ล่ะ เอ้า ลูบหัวๆ”
Eve
Agape
イヴ・アガペー
หญิงโสเภณีที่เป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงในการคุมย่านสถานบันเทิงซึ่งตั้งอยู่
ณ มุมหนึ่งของเมืองหลวง
เป็นหญิงสาวผู้มีรูปร่างหน้าตางดงามเย้ายวนและมีบรรยากาศยั่วยวนใจ
ที่ย่านสถานบันเทิงนั้นเป็นคนที่ไม่มีใครไม่รู้จัก มีลักษณะนิสัยที่ทำให้เป็นที่รักใคร่จากผู้คนมากมายทั้งชายและหญิง
ดูเหมือนว่าจะมีงานอดิเรกคือการช่วยเยียวยาบาดแผลในอดีต
ถ้าเพื่อการนั้นแล้วล่ะก็ไม่เสียดายที่จะยอมให้ใช้ร่างกายของตัวเองฟรีๆบ้างอะไรบ้าง
และเนื่องจากมีนิสัยที่ถ้ามีคนมาขอความช่วยเหลือก็จะช่วย เลยมีเรื่องเล่าที่ว่าชีวิตได้รับการช่วยเหลือไว้โดยเธออยู่มากมายจนนับไม่หวั่นไม่ไหว
ลักษณะที่เหมือนกับความเป็นเพศแม่และเพศเมียมารวมกันของเธอนั้น
ในความหมายหนึ่งแล้วคงจะเรียกได้ว่าเป็นความเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ
“ไม่ได้ยินเหรอไง ? ท่านผู้บัญชาการสูงสุดบอกว่าไม่มีปัญหาไง”
อาโอย ซาซานามิ อามาสึ
アオイ・漣・アマツ
หญิงเก่งอายุน้อยที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บังคับบัญชาของผู้บัญชาการทหารสูงสุดวาลเซไลด์
แล้วยังเป็นคนที่ได้รับมอบอำนาจตัวแทนสั่งการทัพแอเรียส(องครักษ์แกะขาว) กองทัพที่หนึ่งรักษาพระองค์ซึ่งเป็นหนึ่งในโซดิแอค(กองทัพสิบสองราศีแห่งสุริยวิถี)ที่เป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิอีกด้วย
เป็นหญิงแกร่งที่อุทิศตนให้กับกฎระเบียบ เคารพเทิดทูนผู้บัญชาการทหารสูงสุดยิ่งกว่าใครในกองทัพจักรวรรดิ
ความจงรักภักดีนั้นหนักแน่นมั่นคงมาก แต่ในทางกลับกันก็ขาดความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก
กับพวกจิโตเสะหรือแลนซ์โรวเลยมักจะมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่บ่อยๆ
แต่หัวใจที่ปรารถนาความรุ่งเรืองของจักรวรรดินั้นเป็นของจริง
จึงคิดอยู่ว่าภายใต้ธงที่วีรบุรุษยกชูขึ้นมานี้ควรจะวางแผนให้ประเทศมีเศรษฐกิจเฟื่องฟูเพื่อจะได้เพิ่มกำลังทหารขึ้นไปอีก
เป็นเอสเปรันโตก็จริง
แต่พรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเธอคือการเป็นผู้บัญชาการสั่งการกองทหารจำนวนมาก
ความสามารถนั้นเป็นหนึ่งในจักรวรรดิ ในด้านนี้ไม่มีใครยอดเยี่ยมไปกว่าอาโอยอีกแล้ว
“เข้าใจละ เอาเถอะ จะยอมเชื่อเฉพาะตรงที่บอกว่ามีกำหนดการอยู่ก่อนก็ได้”
Albert
Lodeon
アルバート・ロデオン
ลุงวัยกลางคนที่ดูเรียบๆจืดๆแต่จริงๆแล้วเป็นคนน่าคบหาอย่างคาดไม่ถึง
เป็นเจ้าของร้านอาหารควบตำแหน่งพ่อครัว
นิสัยดี ไม่คิดเล็กคิดน้อย มีศีลธรรมดี เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา
แต่น่าเสียดายที่เป็นคนไร้ฝีมือ ตรงตัวตามความหมายของคำ
ความสามารถในการทำอาหารซึ่งเป็นส่วนสำคัญนั้นจะดีร้ายยังไงก็อยู่แค่ในระดับอาหารทำกินในครัวเรือนเท่านั้น
เรื่องทุกข์ใจในตอนนี้คือร้านมีกำไรน้อยมาก
ถึงอย่างนั้นก็ยังเผลอยอมให้เซเฟอร์ดื่มกินที่ร้านแบบติดเงินไว้ก่อนโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
สภาพการบริหารร้านเลยยิ่งดิ่งลงเหวขึ้นไปอีก
เข้าใจดีว่าแค่รอยยิ้มกับคำขอบคุณมันกินไม่ได้
แต่ดูเหมือนหลังๆมานี้จะเริ่มกึ่งๆเปลี่ยนท่าทีมาทำใจยอมรับว่านั่นคือนิสัยของตัวเองแล้ว
“เมนูแนะนำวันนี้คือคอร์สพิเศษปรนนิบัติโดยฝาแฝดค่า~”
Tina
Kujo
ティナ・クジョウ
“รับร่างกายสาวน้อยราดครีมสดเป็นออฟชั่นเสริมด้วยเป็นยังไงคะ
? รับทราบค่ะ อิหึหึ”
Tesse
Kujo
ティセ・クジョウ
บริกรหญิงฝาแฝดที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารของอัลเบิร์ต
ที่เห็นแวบแรกเหมือนจะเรียบร้อยแต่จริงๆแล้วชอบแซวคนอื่นเล่นเป็นกิจวัตรราวกับหายใจคือทีน่า
ส่วนที่กระปรี้กระเปร่าตามรูปลักษณ์ที่เห็นและชอบแซวคนอื่นเล่นเป็นกิจวัตรราวกับหายใจก็คือทีเซ่
ปกติแล้วจะมีนิสัยพูดจาตรงไปตรงมาไม่เกรงใจใครทั้งคู่ คำพูดที่คมกริบราวกับมีดนั้นจะทิ่มแทงหัวใจของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา
โดยเป้าหมายหลักอันดับต้นๆคือเซเฟอร์ที่ไม่มีงานทำและอัลเบิร์ตที่มีรายได้น้อย
วันนี้เองปีศาจน้อยสองตนก็คงจะใช้คำพูดถล่มพวกเขาอย่างร่าเริงและน่ารักเหมือนเช่นเคย
“แล้ว…
ว่าแต่แกจะอยู่ตรงนี้ไปจนถึงเมื่อไร ?
ขวางหูขวางตา รีบๆไปให้พ้นซะ”
Gin
Hazell
ジン・ヘイゼル
ฮาร์โมไนเซอร์วัยชราผู้มีฝีมือระดับสุดยอด
เป็นอาจารย์ของมิลี่
เกลียดการคบหากับผู้อื่นสุดๆ ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็จะด่าไปตรงๆ
มีนิสัยที่ต่อให้โดนวิพากษ์วิจารณ์เสียๆหายๆก็ไม่แปลก แล้วยังมีความเข้มงวดที่ไม่ยอมประนีประนอมทั้งกับตัวเองและผู้อื่นตรงตามภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาทางสีหน้าอันเคร่งขรึม
นอกจากนี้ยังหัวรั้นแบบที่ควรจะเรียกว่าจู้จี้จุกจิกด้วย
แต่งานที่ทำออกมานั้นแม่นยำหาใครเปรียบ
เชี่ยวชาญในทุกสาขาตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม, งานฝีมือโลหะ แล้วยังเชี่ยวชาญไปจนถึงการปรับแต่งเอสเปรันโต
มีฝีมือช่างมากมายขนาดที่หากมองจากคนอื่นแล้วจะเป็นไปไม่ได้เลย
ในเมื่อรู้ละเอียดเรื่องวิทยาการปรับแต่งโลหะผสมพิเศษอดามันไทด์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลับของกองทัพจักรวรรดิ
ก็เป็นที่แน่นอนว่าในอดีตต้องเคยสังกัดกับกองทัพ แต่ในภูมิหลังที่เจ้าตัวเงียบไว้ไม่เล่าออกมานั้นมีปริศนาอยู่มาก
ทว่า
สำหรับเจ้าตัวแล้วแม้แต่เรื่องนั้นก็อาจเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ
ไม่ว่าจะเวลาไหนชายแก่ก็เพียงเล่าเรื่องของตัวเองออกมาผ่านเหล็กกล้าอย่างเงียบงันเท่านั้น
“ไม่ว่าจะว่ายังไง
นี่ล่ะคือการจู่โจมจุดตาย------แก่นแท้ของเพลงหมัดสังหารมนุษย์ยังไงล่ะ เคี๊ยกๆๆๆ !”
อาชูร่า เดอะ เดดเอนด์
アスラ・ザ・デッドエンド
アスラ・ザ・デッドエンド
หนุ่มผู้ปกครองสลัม ใช้ความสามารถรวบรวมสลัมได้เป็นปึกแผ่น
ไม่ว่าจะเวลาไหนก็กระหายการต่อสู้ที่จะทำให้เลือดเดือดเนื้อเต้นอยู่เสมอตามแบบฉบับของผู้คลั่งการต่อสู้
เอสเปรันโตนั้นจะต้องผ่านกระบวนการเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายมาก่อนเพื่อจะได้เหนี่ยวนำแอสทรัลได้ ทว่า
ทั้งที่ไม่น่าจะเคยผ่านกระบวนการนั้นมาก่อนแน่ๆ
แต่กลับมีความสามารถในการต่อสู้สูงจนน่าตกใจ
พละกำลังนั้นอยู่ในระดับที่แซงหน้าเอสเปรันโตทั่วๆไปได้สบาย เจ้าตัวบอกไว้ว่าเป็น “จุดสูงสุดของเพลงหมัด”
ถนัดวิธีโจมตีแบบพิเศษที่จะทำลายอวัยวะภายในร่างกายมนุษย์
ลีลาการต่อสู้ที่ทำให้ศัตรูระเบิดจากภายในนั้นในคริสต์ศักราชใหม่แล้วถือว่าโดดเด่นแปลกตา
จากปากคำของเจ้าตัวบอกไว้ว่าเป็นแก่นแท้ของวิชาหมัดในยุคคริสต์ศักราชเก่า
ส่วนจะจริงเท็จยังไงนั้นก็ไม่ทราบ
“ขอขอบคุณจากใจที่ช่วยจัดการให้อย่างใจกว้างครับ”
Shinn
Lancerow
シン・ランスロー
แม่ทัพของเจมินี่(ฝาแฝดจอมวางแผน)
กองทัพที่สามซึ่งรับผิดชอบดูแลการข่าวกรองและเป็นหนึ่งในโซดิแอค(กองทัพสิบสองราศีแห่งสุริยวิถี)ที่เป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิ
เป็นหัวหน้าที่บัญชาการหน่วยข่าวกรอง
เนื่องจากขาดความเข้ากันได้กับกระบวนการเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย
จึงไม่ใช่เอสเปรันโต ทักษะด้านร่างกายเองก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่ก็มีสติปัญญา, ความสามารถในการประเมินสิ่งต่างๆ
และความสามารถในการคาดการณ์ล่วงหน้าเหลือล้นขนาดที่จะทดแทนสมรรถภาพทางกายได้อย่างเหลือเฟือ
ทว่า กลับมีนิสัยอ่อนน้อมไม่เข้ากับตำแหน่ง เวลาพูดแสดงความคิดเห็นเองก็ดูถ่อมตัวยังไงไม่รู้
ถ้าจะให้พูดตรงๆก็คือเป็นผู้มีจิตใจดีงาม
ด้วยเหตุนั้นจึงมักจะชอบเสนอความคิดที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทหารมากกว่าชัยชนะของกองทัพหรือแสดงความเห็นโดยคำนึงถึงการหลีกเลี่ยงอันตรายเป็นอันดับแรก
จากผลลัพธ์นั้นทำให้มีภาพลักษณ์ไม่ดีเท่าไรในสายตาของอาโอยที่มองว่านั่นเป็นการใจเสาะ
พอเห็นภาพวาลเซไลด์ที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบอันหนักหน่วงในฐานะ
“วีรบุรุษ”
ไว้แล้วก็แอบรู้สึกเจ็บปวดอย่างลับๆ
Status
Silverio
Cry (จงเห่าหอนอย่างบ้าคลั่ง
มนุษย์หมาป่าสีเงินผู้บาปหนาเอ๋ย)
Average :
D
Drive : A
การรวมตัว :
C
การกระจาย : C
การควบคุม : C
การเกาะติด : C
การคงสภาพ :
D
การแทรกแซง :
A
พลังควบคุมการสั่นสะเทือน
เป็นแอสเทอริซึมของเซเฟอร์ มีคุณสมบัติที่โอนเอียงไปทางหนึ่งมากคือมุ่งเน้นไปที่การแทรกแซงเพียงอย่างเดียว
ความต่างระหว่างค่า Average กับค่า Drive เองก็กว้างมาก
ทำให้ในแง่ของการตัดสินในเสี้ยววินาทีนั้นจะเหนือชั้นกว่าเอสเปรันโตทั่วๆไป
แต่ในทางกลับกันก็เป็นดาบสองคมที่มีผลสะท้อนรุนแรงกลับมาโจมตีร่างกายของตัวเองด้วย
เขาบอกเกี่ยวกับความสามารถของตัวเองไว้ว่า “ประเภทเฉพาะทางคือพวกล้มเหลวที่ไม่อาจมีความสามารถรอบด้าน”
Silverio
Vendetta (จงดังไปให้ถึงยมโลก
บทเพลงรักคร่ำครวญแด่ผู้วายชนม์ของพวกเรา)
Average :
E
Drive : D
การรวมตัว :
E
การกระจาย : E
การควบคุม : E
การเกาะติด : E
การคงสภาพ :
E
การแทรกแซง :
EX
พลังในการเหนี่ยวนำแอสทรัล
แอสเทอริซึมของเวนเดตต้าที่มุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติการแทรกแซงอย่างเดียวจนถึงขีดสุด
เป็นพลังประหลาดที่จะเหนี่ยวนำกับตัวแอสทรัลโดยตรง
มีพลังน่ากลัวอย่างสามารถทำการแทรกแซงโดยตรงได้แม้แต่กับแอสเทอริซึมของผู้อื่น
เรียกได้ว่าเป็นผู้พิฆาตดวงดารา
ไม่รู้ทำไม ดูเหมือนตอนนี้เธอจะตกอยู่ในสภาพที่ใช้พลังนี้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ทั้งๆที่เป็นพลังดาวของตัวเอง
แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จากการ Link (ประสานคลื่น)กับเซเฟอร์จะทำให้สามารถใช้พลังอันน่าพรั่นพรึงของดาวปีศาจนี้ออกมาในรูปแบบซึ่งตามจริงแล้วเป็นไปไม่ได้
เช่นเดียวกับเจ้าตัว
เป็นแอสเทอริซึมที่เต็มไปด้วยปริศนามากมาย
Libra
of the Astrea (เทพธิดาแห่งดวงดาราผู้เป็นนิรันดร์เอ๋ย จงชูคันชั่งแห่งความยุติธรรมขึ้น)
Average :
B
Drive : AA
การรวมตัว :
B
การกระจาย : A
การควบคุม : A
การเกาะติด : B
การคงสภาพ :
A
การแทรกแซง :
A
พลังควบคุมกระแสอากาศ
แอสเทอริซึมของจิโตเสะที่จะปกครองปรากฏการณ์ที่ชื่อ “บรรยากาศ” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ในยามที่ใช้พลังนี้เธอจะกลายเป็นอาวุธสงครามควบคุมสภาพอากาศ
ตั้งแต่สร้างพายุทอร์นาโดยันปล่อยสายฟ้าฟาดที่สร้างขึ้นมาจากเมฆคิวมูโลนิมบัส
เนื่องจากมีพลังแรงสูง
แล้วยังเป็นอุดมคติของพลังประเภทใช้งานรอบด้านที่ว่ายอดเยี่ยมไปหมดทุกด้าน
จึงสามารถสร้างผลงานโดดเด่นได้ทุกสถานการณ์
พอประกอบกับฝีมือและความสามารถในการตัดสินใจของเจ้าตัวแล้วก็ไร้ช่องโหว่อย่างแท้จริง
หากมองแค่ตัวเลขพลังโดยรวมแล้วคงพูดได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอคือเอสเปรันโตที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่มนุษย์ชาติ
????
Average :
B
Drive : AAA
การรวมตัว :
AAA
การกระจาย : E
การควบคุม : E
การเกาะติด : A
การคงสภาพ :
D
การแทรกแซง :
E
ไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด
แอสเทอริซึมของวาลเซไลด์ที่โอนเอียงอย่างหนักไปทางคุณสมบัติการรวมตัว
จะใช้การฟาดฟันที่ใส่ความร้อนสูงมหาศาลลงไปในคมดาบหรือความร้อนที่ปล่อยออกมาจากการฟาดฟันนั้นโค่นล้มศัตรู
นอกจากจะมุ่งเน้นไปทางคุณสมบัติการรวมตัวซึ่งทำให้ความหนาแน่นเพิ่มขึ้นแล้ว
ยังมีความต่างมหาศาลระหว่างค่า Average กับค่า Drive อีก
ทำให้ทุกครั้งที่ใช้พลังนี้จะมีความเจ็บปวดรุนแรงมหาศาลแล่นผ่านร่างกายเขาเป็นผลสะท้อนกลับ
ทว่า ดูเหมือนตัววาลเซไลด์จะใช้พลังนี้โดยใช้พลังใจสะกดกลั้นผลสะท้อนนั้นไว้
ด้วยลางสังหรณ์ด้านการต่อสู้กับความคิดด้านยุทธวิธีที่ได้รับการขัดเกลาจนถึงขีดสุด
แอสเทอริซึมนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของวีรชนเหล็กกล้า
มีหน้าที่ในฐานะท่าพิฆาตตรงตัวตามความหมายของคำ
เซเฟอร์บอกไว้ว่าเป็นพลังประเภทเฉพาะทางแบบสุดโต่ง
???
Average :
A
Drive : AA
การรวมตัว :
C
การกระจาย : B
การควบคุม : D
การเกาะติด : AAA
การคงสภาพ :
AA
การแทรกแซง :
D
ไม่ทราบข้อมูลแน่ชัด
แอสเทอริซึมอันน่าสะพรึงของมาร์สที่จะปล่อยคลื่นพลังสีดำสนิทออกมา
ซึ่งจะทำให้สสารมลายหายไปไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย
มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในด้านการเกาะติดและการคงสภาพ จากเรื่องนั้นจึงถนัดวิธีการต่อสู้โดยการคลุมแอสเทอริซึมสีดำสนิทนี้ไว้ทั่วร่างเป็นเวลานาน
ซึ่งจะเป็นทั้งการป้องกันและโจมตีในเวลาเดียวกัน
เนื่องจากใช้พลังคลุมไว้ทั่วร่างเสมอ
ทำให้หากปราศจากพลังแรงสูงในระดับนึงกับคุณสมบัติการรวมตัวที่ยอดเยี่ยมแล้ว จะไม่มีทางปราบอสูรตนนี้ลงได้เลย
???
Average :
A
Drive : AA
การรวมตัว :
A
การกระจาย : AA
การควบคุม : B
การเกาะติด : D
การคงสภาพ :
AA
การแทรกแซง :
B
พลังแช่แข็ง
แอสเทอริซึมของอูรานอสที่จะแช่แข็งทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว
เนื่องจากมีคุณสมบัติยอดเยี่ยมในหลายด้านจึงไม่มีช่องโหว่
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็สามารถแสดงสมรรถภาพการต่อสู้ระดับสูงออกมาได้ ปรากฏการณ์ศูนย์องศาสัมบูรณ์ที่สร้างขึ้นมานั้นจะช่วงชิงความร้อนในร่างกายไปจากเหยื่อ
ผลลัพธ์รองของพลังเช่นแค่เผชิญหน้ากันเฉยๆก็ทำให้การเคลื่อนไหวอีกฝ่ายช้าลงได้นั้นก็จัดว่ายอดเยี่ยม
เจ้าตัวเรียกทิวทัศน์หลังจากที่ทุกอย่างกลายเป็นน้ำแข็งไปเพราะพลังดาวอย่างภูมิใจว่า “สวนดอกไม้”
Judgement
Tear (จงซัดสาดลงมา
หยาดน้ำตาแห่งเปลวเพลิงเอ๋ย โหมกระหน่ำเข้าใส่ผืนแผ่นดินซึ่งความยุติธรรมได้สูญสิ้นไป)
Average : C
Drive : B
การรวมตัว :
A
การกระจาย : D
การควบคุม : A
การเกาะติด : E
การคงสภาพ :
B
การแทรกแซง :
D
พลังสร้างลูกไฟความร้อนสูงระเบิดได้
แอสเทอริซึมของซายะที่จะสร้างระเบิดพลาสมาขึ้นโดยการตรึงปฏิกิริยาการเผาไหม้ให้อยู่ในขอบเขตหนึ่ง
เป็นพลังดาวที่ดึงคุณสมบัติ 3 อย่างอันได้แก่การการควบคุม,
การคงสภาพ และการรวมตัวออกมาใช้ประโยชน์ได้จนถึงขีดสุด
แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม
ในขณะที่คงสภาพบอลไฟพลังทำลายสูงไว้เป็นเวลานาน เธอก็ควบคุมมันให้ขยับได้ดังใจนึกและใช้มันระเบิดทำลายอีกฝ่าย
นอกจากนี้ยังสามารถทำเรื่องอย่างสร้างบอลไฟขนาดใหญ่ได้โดยการจำกัดปริมาณบอลไฟไว้ที่ลูกเดียว
คงจะเรียกได้ว่าเป็นแอสเทอริซึมที่เรียบง่ายแต่ก็ทรงพลัง
????
Average : C
Drive : B
การรวมตัว :
B
การกระจาย : B
การควบคุม : C
การเกาะติด : D
การคงสภาพ :
D
การแทรกแซง :
B
UNKNOWN
????
Average : -
Drive : -
การรวมตัว :
-
การกระจาย : -
การควบคุม : -
การเกาะติด : -
การคงสภาพ :
-
การแทรกแซง :
-
------แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ใช่เอสเปรันโตอยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น