เนื่องจากเป็นงานแปลชิ้นแรกในชีวิต ถ้าจะอ่านขอให้ทำใจกับสำนวนและความถูกต้องของภาษาไว้ได้เลย
Music: play Track 3
"อะ... อรุณสวัสดิ์, ยูมิซึกะ"
"อื้อ อรุณสวัสดิ์จ้ะ โทวโนะคุง ดูเหมือนเธอจะจำชื่อชั้นได้นี่"
ผมคลายความไม่สบายใจลง, ยูมิซึกะ ซัตสึกิ ยิ้มจางๆให้กับผม
"ฉันจำชื่อของเพื่อนร่วมห้องได้นะ, รู้ไหม? อย่างที่ฉันไม่ได้พูดกับเธอมากนักไง"
"...?"
มันดูแปลกๆ คนอย่างผมจะย้ายบ้านทำไมถึงมีคนสนใจ
"แต่... เธอกำลังย้ายออกไปจากบ้านอาริมะเหรอ?"
"อืม ผมรู้สึกดีที่ได้อยู่กับพวกเขา แต่จะอยู่เกาะพวกเขาตลอดไปไม่ได้หรอก"
...... ฮะ?
ยูมิซึกะรู้ได้ยังไง? ไม่มีใครในโรงเรียนนี้รู้ว่าผมอยู่บ้านอาริมะ , ยกเว้นเด็กผู้ชายคนนึง...
ผมไม่สนใจอาริฮิโกะ, ผมเดินไปยังโต๊ะของผม
วางกระเป๋า นั่งลง, แล้วก็ยืดหลัง
"ว่าแต่, อาริฮิโกะ, ทำไมนกฮูกกลางคืนที่ไม่เคยโผล่หัวมาจนถึงคาบสองอย่างนาย มาทำอะไรในคาบโฮมรูมล่ะ? เล็กน้อยงั้นเหรอ… ไม่ล่ะ, มันแปลกมากเลย"
"ฮะฮะ... ชั้นก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน ชั้นคิดว่าการมาโรงเรียนทันจะไม่เกี่ยวกับการที่ชั้นตื่นเช้าซะอีก"
"...... ชั้นไม่ได้ถามถึงงานอดิเรกของนาย, แต่ชั้นถามว่าทำไมนายถึงได้ตื่นเช้าต่างหาก"
"ทำไมชั้นถึงตื่นเช้างั้นเรอะ? อะ... ชั้นว่ามันคงเป็นเพราะว่าชั้นออกไปเที่ยวตอนกลางคืนไม่ได้ ตั้งแต่ที่บ้านเริ่มบ่นมา, ดังนั้นตั้งแต่นี้ไปชั้นจะนอนตอนกลางคืนแล้ว นายเคยได้ยินเรื่องฆาตกรต่อเนื่องมาบ้าง, ใช่มะ"
"...... ออ พอมาคิดดูแล้ว, ชั้นไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นเลยนะ"
ผมรู้สึกเสียใจนิดๆ ที่ต้องให้อาริฮิโกะมาเตือน
สองสามวันที่ผ่านมา ผมมีเรื่องถกเถียงว่าจะกลับหรือไม่กลับไปบ้านโทวโนะ ผมจึงไม่ได้แตะหนังสือพิมพ์เลย
"มันเกิดขึ้นอีกแล้วเรอะ? แล้วผู้คนก็ตั้งชื่อแปลกๆให้มัน, อย่างเช่น 'ฆาตกรต่อเนื่อง
------------------------------
ครูโฮมรูมของพวกเรา ซึ่งเป็นครูสอนเลขของพวกเราเช่นกัน ได้เรียกผมในตอนที่เขาได้เดินออกนอกห้องไป
"โทวโนะ, เอกสารของเธอขาดรายละเอียดอะไรไปนิดหน่อย เดี๋ยวไปที่ห้องพักครูด้วย"
มันไม่น่าจะใช้เวลานานมากนัก ดังนั้น ผมจะไปห้องพักครูก่อนที่คาบสามจะเริ่ม
"ผมขอโทษ เป็นอะไรไหม?" ตอนนี้ผมยังคงมองเห็นรอบตัวได้ไม่ดีนัก , แต่ผมก็ได้
"อะ... อือ, ผมไม่เป็นไร"
ผมสั่นหัวและลุกขึ้นยืน
ในที่สุด, ผมก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
"ไม่, มันไม่เป็นไร จริงๆ แล้วผมก็ผิดเหมือนกันล่ะ ผมขอโทษที่วิ่งไปชนรุ่นพี่"
ผมมาถึงห้องเรียนก่อนเวลาที่ควรจะเป็น
"ฟู่ว" ผมเดินไปยังโต๊ะของผมซึ่งอยู่ริมหน้าต่าง
"อรุณสวัสดิ์ โทวโนะคุง"
เสียงที่ไม่คุ้นเคยทักทายผม
"---เอ๊ะ? "
ผมหันไปด้วยความงุนงง
"โทวโนะคุง , อาจารย์กำลังตามหาเธออยู่จ้ะ เขาบอกว่าอยากพูดเรื่องบ้านของเธอน่ะ"
"อืมม... บ้านของผม? มันต้องเป็นเรื่องที่ผมย้ายบ้านแน่นอน"
...... ผมควรจะแจ้งตามระเบียบไปเมื่อวาน บางทีนั่นคงเป็นสิ่งที่ผมลืมทำไป
...... ผมควรจะแจ้งตามระเบียบไปเมื่อวาน บางทีนั่นคงเป็นสิ่งที่ผมลืมทำไป
"-----"
สาวน้อยเบื้องหน้ายังไม่ได้ขยับไปไหน เธอยังคงยืนมองผมอยู่
สาวน้อยเบื้องหน้ายังไม่ได้ขยับไปไหน เธอยังคงยืนมองผมอยู่
"อะ... อรุณสวัสดิ์, ยูมิซึกะ"
"อื้อ อรุณสวัสดิ์จ้ะ โทวโนะคุง ดูเหมือนเธอจะจำชื่อชั้นได้นี่"
ผมคลายความไม่สบายใจลง, ยูมิซึกะ ซัตสึกิ ยิ้มจางๆให้กับผม
"ฉันจำชื่อของเพื่อนร่วมห้องได้นะ, รู้ไหม? อย่างที่ฉันไม่ได้พูดกับเธอมากนักไง"
"แต่ฉันรู้สึกประหม่านิดๆนะ
ในตอนที่พูดกับเธอ"
ยูมิซึกะยิ้มอีกครั้ง
ดูเหมือนเธอกำลังดีใจกับอะไรบางอย่าง
"......"
ยูมิซึกะยังคงจ้องมาที่ผมเหมือนกับว่าเธออยากที่จะพูดอะไรบางอย่าง
ยูมิซึกะยิ้มอีกครั้ง
ดูเหมือนเธอกำลังดีใจกับอะไรบางอย่าง
"......"
ยูมิซึกะยังคงจ้องมาที่ผมเหมือนกับว่าเธออยากที่จะพูดอะไรบางอย่าง
...... ให้พูดตรงๆ, ผมไม่รู้จักเธอมากนัก ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ห้องเดียวกัน, แต่ผมแทบจะนับจำนวนครั้งที่เราคุยกันได้เลย
แต่ยูมิซึกะเธอเป็นจุดสนใจของห้อง
เธอเป็นหัวข้อสนธนาในหมู่ผู้ชายบ่อยๆ, และก็ไม่มีข่าวลือแย่ๆ อะไรในหมู่พวกผู้หญิง
แต่ยูมิซึกะเธอเป็นจุดสนใจของห้อง
เธอเป็นหัวข้อสนธนาในหมู่ผู้ชายบ่อยๆ, และก็ไม่มีข่าวลือแย่ๆ อะไรในหมู่พวกผู้หญิง
พูดสั้นๆ เธอเป็นไอดอลของห้อง
โดยปกติ, ทุกครั้งเธอจะถูกห้อมล้อมด้วยฝูงชน
เธอตรงข้ามกับคนเงียบๆ อย่างผมโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ผมอาจจะจำชื่อ 'ยูมิซึกะ ซัตสึกิ' ไว้ได้ , มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เธอจะจำชื่อ
'โทวโนะ ชิกิ' เอาไว้ ดูเหมือนว่าจะเรื่องยุ่งๆ กวนใจหลายๆ เรื่องจะมาพร้อมกันในวันนี้
"โทวโนะคุง อ...เอ่อ...
ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม"
"ถ้าผมตอบได้นะ
เธอถามมาได้เท่าที่อยากถามเลย"
"เอ่อ... เอ่อ...
ขอโทษนะถ้ามันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่... เธอพูดว่าเธอกำลังย้ายบ้าน...
เธอกำลังจะย้ายไปที่ไหนไกลๆซักแห่งรึเปล่า"
เธอลากเสียงยาวยืด ราวกันมันเป็นเรื่องลำบากมากสำหรับเธอที่จะถามออกมา
เธอกุมมือทั้งสองข้างของเธอไว้ด้วยกันเพื่ออยู่นิ่งๆ
"ฉันรู้ว่ามันกระทันหัน,
แต่... เธอกำลังจะย้ายไปที่ไหนไกลๆ ซักแห่งเหรอ?"
"อ๊ะ, ไม่ ไม่ ผมแค่ย้ายที่อยู่เฉยๆ แต่ไม่ได้ย้ายโรงเรียน บ้านใหม่ของผมยังอยู่ในเมืองนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก"
"อ๊ะ, ไม่ ไม่ ผมแค่ย้ายที่อยู่เฉยๆ แต่ไม่ได้ย้ายโรงเรียน บ้านใหม่ของผมยังอยู่ในเมืองนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก"
"โอ... ดีจัง"
ยูมิซึกะถอนหายใจ เหมือนว่าความลำบากใจของเธอได้หายไป
ยูมิซึกะถอนหายใจ เหมือนว่าความลำบากใจของเธอได้หายไป
"...?"
มันดูแปลกๆ คนอย่างผมจะย้ายบ้านทำไมถึงมีคนสนใจ
"แต่... เธอกำลังย้ายออกไปจากบ้านอาริมะเหรอ?"
"อืม ผมรู้สึกดีที่ได้อยู่กับพวกเขา แต่จะอยู่เกาะพวกเขาตลอดไปไม่ได้หรอก"
...... ฮะ?
ยูมิซึกะรู้ได้ยังไง? ไม่มีใครในโรงเรียนนี้รู้ว่าผมอยู่บ้านอาริมะ , ยกเว้นเด็กผู้ชายคนนึง...
"เป็นไงมั่ง , โทวโนะ"
เสียงปราศจากความกังวลดังขึ้นมาจากประตูห้องเรียน
เป็นอย่างที่คิด , เด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่ ม.ต้น โผล่มา
เสียงปราศจากความกังวลดังขึ้นมาจากประตูห้องเรียน
เป็นอย่างที่คิด , เด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่ ม.ต้น โผล่มา
"เฮ้, เหมือนไม่ใช่ยูมิซึกะเลยนะ! หายากนะที่ชั้นเห็นเธอไปคุยกับโทวโนะ"
"... อรุณสวัสดิ์, อินุอิคุง" ยูมิซึกะตอบไปแบบไม่กระตืนรือร้น
... ผมคิดว่าเธอคงไม่ใช่คนแบบที่จะพูดดีๆ กับคนอย่างเขา
"... อรุณสวัสดิ์, อินุอิคุง" ยูมิซึกะตอบไปแบบไม่กระตืนรือร้น
... ผมคิดว่าเธอคงไม่ใช่คนแบบที่จะพูดดีๆ กับคนอย่างเขา
"โทวโนะจีบสาวอยู่เรอะ
มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ชั้นคิดว่านายจะไม่สนในพวกเธอซะอีก"
อาริฮิโกะเล่นมุขตลกของเขาเสียงดัง
อาริฮิโกะเล่นมุขตลกของเขาเสียงดัง
"ไอบ้า,เลิกพูดได้แล้ว ชั้นเป็นผู้ชายนะ แน่นอนก็ต้องสนใจผู้หญิงเป็นธรรมดาสิ"
"จริงเรอะ? ดีมาก! ถึงอย่างนั้น, ในทุกวันนี้, พวกผู้หญิงจะคิดว่ามันจะสนุกกว่านี้มากถ้านายเป็นพวกไล่มีอะไรกับคนไปทั่ว
แต่พวกเธอคงแค่คิดว่ามันน่าสนุก และมันก็จะไม่มีอะไรคืบหน้า"
เสียงหัวเราะร่าเริงไร้ที่สิ้นสุดดังก้องสะท้อนทั่วห้องเรียนในยามเช้า
ผมกำลังแปลกใจ ก่อนหน้านี้มีเวลามากมาย
ทำไมสุดท้ายผมถึงได้มารู้จักคนๆ นี้กันนะ
เขาย้อมผมสีส้มและเจาะหู
ดวงตาของเขาเหมือนกับจะตะโกนบอกว่าเขาจะหาเรื่องกับใคร, ตอนไหนก็ได้, และเขาใส่เสื้อผิดระเบียบ
เขาย้อมผมสีส้มและเจาะหู
ดวงตาของเขาเหมือนกับจะตะโกนบอกว่าเขาจะหาเรื่องกับใคร, ตอนไหนก็ได้, และเขาใส่เสื้อผิดระเบียบ
อินุอิ
อาริฮิโกะคือผู้ชายที่มีความเป็นอิสระ นอกกฎ
เพียงคนเดียวในโรงเรียนมัธยมปลายของพวกเรา
"เสียงดังแต่เช้าเลยเหรอ?
ชั้นกำลังซึมเศร้ากับหลายๆ เรื่องอยู่นะ
ดังนั้นวันนี้ช่วยอยู่ให้ห่างจากชั้น, โอเคนะ?"
ผมโบกมือไล่เขาไปไกลๆ
"ซึมเศร้าเรอะ? เกิดอะไรขึ้น? เป็น 'วันนั้น' ของเดือนเรอะไง?"
"...... เดี๋ยวก่อน, เดี๋ยวชั้นก็หาย แต่คงจะไม่ใช่วันนี้,ช่วยอยู่ไกลๆชั้น ชั้นจะได้พักผ่อนบ้าง อาการของชั้นจะแย่ลงถ้านายมาอยู่ใกล้ๆ"
ผมโบกมือไล่เขาไปไกลๆ
"ซึมเศร้าเรอะ? เกิดอะไรขึ้น? เป็น 'วันนั้น' ของเดือนเรอะไง?"
"...... เดี๋ยวก่อน, เดี๋ยวชั้นก็หาย แต่คงจะไม่ใช่วันนี้,ช่วยอยู่ไกลๆชั้น ชั้นจะได้พักผ่อนบ้าง อาการของชั้นจะแย่ลงถ้านายมาอยู่ใกล้ๆ"
ผมไม่สนใจอาริฮิโกะ, ผมเดินไปยังโต๊ะของผม
วางกระเป๋า นั่งลง, แล้วก็ยืดหลัง
"เฮ้, นายจะไม่สนใจคนอื่นแบบนั้นไม่ได้นะ นายจะทำร้ายคนอื่นด้วยท่าทางไม่สนใจโลก
แบบนั้นของนาย"
"โอ๊ะ , เพิ่งรู้นะนั่น มันไม่มีทางที่จะฆ่าพวกนั้นแทนเรอะ?
ถ้านายบอกชั้นตอนนี้ จะตอบแทนให้ด้วยการลองกับนายเลยนะนั่น"
"…… ฟังดูเลือดเย็นมาก
ไม่ใช่ว่าเช้านี้นายแค่หงุดหงิดกว่าปกติหรอกเรอะ?"
"ชั้นไม่ได้บอกนายเรอะว่ากำลังซึมเศร้าอยู่? นอกจากคนอื่นๆแล้ว ชั้นจะไม่ดีกับนายแน่นอน"
อาริฮิโกะถอนหายใจ
"...... ทำไมนายใจแคบกับชั้นนักนะ, โทวโนะ? แล้วทำดีกับทุกคน มันไม่แฟร์"
"อะไร, ทำไมถึงได้คิดอย่างนั้นล่ะ? โลกนี้มันไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว"
"...... นายใจแคบกับชั้นคนเดียวแน่ๆ"
อาริฮิโกะถอนหายใจแรงๆ อีกครั้ง
ผมไม่ได้ทำตัวเย็นชากับอาริฮิโกะ แค่นั่นเป็นความสัมพันธ์แบบที่ผมมีกับอาริฮิโกะเป็นประจำอยู่แล้ว
"...... ทำไมนายใจแคบกับชั้นนักนะ, โทวโนะ? แล้วทำดีกับทุกคน มันไม่แฟร์"
"อะไร, ทำไมถึงได้คิดอย่างนั้นล่ะ? โลกนี้มันไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว"
"...... นายใจแคบกับชั้นคนเดียวแน่ๆ"
อาริฮิโกะถอนหายใจแรงๆ อีกครั้ง
ผมไม่ได้ทำตัวเย็นชากับอาริฮิโกะ แค่นั่นเป็นความสัมพันธ์แบบที่ผมมีกับอาริฮิโกะเป็นประจำอยู่แล้ว
"ว่าแต่, อาริฮิโกะ, ทำไมนกฮูกกลางคืนที่ไม่เคยโผล่หัวมาจนถึงคาบสองอย่างนาย มาทำอะไรในคาบโฮมรูมล่ะ? เล็กน้อยงั้นเหรอ… ไม่ล่ะ, มันแปลกมากเลย"
"ฮะฮะ... ชั้นก็คิดอย่างงั้นเหมือนกัน ชั้นคิดว่าการมาโรงเรียนทันจะไม่เกี่ยวกับการที่ชั้นตื่นเช้าซะอีก"
"...... ชั้นไม่ได้ถามถึงงานอดิเรกของนาย, แต่ชั้นถามว่าทำไมนายถึงได้ตื่นเช้าต่างหาก"
"ทำไมชั้นถึงตื่นเช้างั้นเรอะ? อะ... ชั้นว่ามันคงเป็นเพราะว่าชั้นออกไปเที่ยวตอนกลางคืนไม่ได้ ตั้งแต่ที่บ้านเริ่มบ่นมา, ดังนั้นตั้งแต่นี้ไปชั้นจะนอนตอนกลางคืนแล้ว นายเคยได้ยินเรื่องฆาตกรต่อเนื่องมาบ้าง, ใช่มะ"
"...... ออ พอมาคิดดูแล้ว, ชั้นไม่เคยได้ยินอะไรแบบนั้นเลยนะ"
ผมรู้สึกเสียใจนิดๆ ที่ต้องให้อาริฮิโกะมาเตือน
สองสามวันที่ผ่านมา ผมมีเรื่องถกเถียงว่าจะกลับหรือไม่กลับไปบ้านโทวโนะ ผมจึงไม่ได้แตะหนังสือพิมพ์เลย
"มันเกิดขึ้นอีกแล้วเรอะ? แล้วผู้คนก็ตั้งชื่อแปลกๆให้มัน, อย่างเช่น 'ฆาตกรต่อเนื่อง
โรคจิต' หรืออะไรบางอย่าง"
"มันมากกว่านั้นอีก เยอะเลย, ผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดเป็นเด็กสาว แถมเหยื่อรายที่แปดถูกพบเมื่อสองวันก่อน! และเหนืออื่นใด, เหยื่อทั้งหมด... รอแปบ, อะไรเกิดขึ้นกับเหยื่อกันนะ?"
อาริฮิโกะเอียงหัวเหมือนกำลังคิดอะไร
"มันมากกว่านั้นอีก เยอะเลย, ผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดเป็นเด็กสาว แถมเหยื่อรายที่แปดถูกพบเมื่อสองวันก่อน! และเหนืออื่นใด, เหยื่อทั้งหมด... รอแปบ, อะไรเกิดขึ้นกับเหยื่อกันนะ?"
อาริฮิโกะเอียงหัวเหมือนกำลังคิดอะไร
"......"
ผมรู้สึกว่าผมเป็นไอ้โง่ที่ไปถามเขา
ผมรู้สึกว่าผมเป็นไอ้โง่ที่ไปถามเขา
"ใช่เลย , ตอนนี้ชั้นจำได้ละ! เหยื่อทุกรายถูกตัดเป็นชิ้นๆ
และถูกเรียงเป็นรูปอะไรบางอย่างหรืออะไรซักอย่างนั่นล่ะ! "
"… ไม่ใช่เลยจ้ะ, อินุอิคุง ทุกคนที่ถูกฆ่าตายมีเลือดหายไปมากต่างหาก"
"โอ๊ะ ใช่ๆ ,
ไอนั่นล่ะ หลายคนบอกว่าคนร้ายเป็นแวมไพร์ในยุคปัจจุบัน
หรืออะไรซักอย่าง"
"อืม ดูเหมือนเธอจะรู้ดีเรื่องนี้ดีนี่,
ยูมิซึกะซัง"
"ไม่ซะทีเดียวหรอกจ้ะ
มันเกิดขึ้นในเมืองนี้ และมันก็เป็นข่าวด้วย เธอจะจำได้ถึงแม้เธอไม่อยากจะจำน่ะ"
….. เข้าใจแล้ว
ผมคิดว่ามันเกิดขึ้นในเมืองข้างๆซะอีก.....
แต่ผมคาดว่ามันคงย้ายมาเมืองนี้แล้ว
"เอาล่ะ , ยังไงก็ตาม นั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้แต่ชั้นยังไม่ออกไปเดินบนถนนตอนกลางคืนเลย ถนนที่มีฆาตกรเดินไปเดินมา นั่นล่ะเป็นเหตุผลที่ทำไมชั้นถึงได้ตื่นนอนตอนเจ็ดโมง"
"...... อะไร, เป็นอย่างนั้นเหรอ? เหตุผลดีแต่แต่งเรื่องได้ไม่ดีเลยนะ, เรื่องมันสนุกตรงไหนล่ะนั่น?"
"โอ นายใจเย็นมาก ตอนเช้าเป็นลมล้มไปเพราะโรคโลหิตจางเรอะ"
"ชั้นยังอยู่ดี, ขอบใจที่ถาม ถ้าชั้นเป็นโลหิตจางยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน ป่านนี้ชั้นคงตายไปแล้วล่ะ"
"ใช่, นายพูดถูก ถ้านายพูดว่านายไม่เป็นอะไร, ชั้นก็จะคิดว่านายไม่เป็นอะไร"
"...... อะไร, เป็นอย่างนั้นเหรอ? เหตุผลดีแต่แต่งเรื่องได้ไม่ดีเลยนะ, เรื่องมันสนุกตรงไหนล่ะนั่น?"
"โอ นายใจเย็นมาก ตอนเช้าเป็นลมล้มไปเพราะโรคโลหิตจางเรอะ"
"ชั้นยังอยู่ดี, ขอบใจที่ถาม ถ้าชั้นเป็นโลหิตจางยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน ป่านนี้ชั้นคงตายไปแล้วล่ะ"
"ใช่, นายพูดถูก ถ้านายพูดว่านายไม่เป็นอะไร, ชั้นก็จะคิดว่านายไม่เป็นอะไร"
---และแล้ว---
เสียงออดได้ดังขึ้น , หยุดการสนธนาของพวกเราลง
"เฮ้, คาบเรียนเริ่มแล้ว รีบกลับไปนั่งที่ได้แล้ว"
พร้อมกับคำว่า "อือ" อาริฮิโกะได้กลับไปนั่งที่
"แล้วเจอกันใหม่นะ,โทวโนะคุง"
"อะ... อือ
โทษทีที่ทำให้เสียเวลา, ยูมิซึกะซัง"
เสียงฝีเท้าเบาๆของเธอดังขึ้นบนพื้น
ในขณะที่เธอกำลังกลับไปที่โต๊ะของเธอ
Music: Stop
------------------------------
คาบสองได้จบลงแล้ว
ครูโฮมรูมของพวกเรา ซึ่งเป็นครูสอนเลขของพวกเราเช่นกัน ได้เรียกผมในตอนที่เขาได้เดินออกนอกห้องไป
"โทวโนะ, เอกสารของเธอขาดรายละเอียดอะไรไปนิดหน่อย เดี๋ยวไปที่ห้องพักครูด้วย"
มันไม่น่าจะใช้เวลานานมากนัก ดังนั้น ผมจะไปห้องพักครูก่อนที่คาบสามจะเริ่ม
ห้องพักครูอยู่ที่ชั้นหนึ่ง
ห้องเรียนของชั้นปีสองอยู่บนชั้นสาม, ผมอาจจะได้กลับมาก่อนคาบสามเริ่มถ้าผมวิ่ง
ห้องเรียนของชั้นปีสองอยู่บนชั้นสาม, ผมอาจจะได้กลับมาก่อนคาบสามเริ่มถ้าผมวิ่ง
------- ผมวิ่ง
-------
และวิ่ง
------- และ วิ่...
…!?
ผมล้มลงกับพื้นเสียงดัง! หัวผมไปชนอะไรบางอย่าง และโลกตรงหน้าผมก็หมุนไปมา
"โอย... โอยยยย..."
ผมได้ยินเสียงดังมาจากใกล้ๆ เป็นเสียงของผู้หญิงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
รู้สึกว่าผมจะวิ่งไปชนคน
ผมได้ยินเสียงดังมาจากใกล้ๆ เป็นเสียงของผู้หญิงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
รู้สึกว่าผมจะวิ่งไปชนคน
"ผมขอโทษ เป็นอะไรไหม?" ตอนนี้ผมยังคงมองเห็นรอบตัวได้ไม่ดีนัก , แต่ผมก็ได้
ขอโทษคนที่ผมวิ่งไปชน
"ไม่, ฉันไม่เป็นอะไร ... แล้วเธอล่ะ? เป็นอะไรไหม?"
"ไม่, ฉันไม่เป็นอะไร ... แล้วเธอล่ะ? เป็นอะไรไหม?"
ไม่มีคำตำหนิแฝงอยู่ในน้ำเสียงอันอ่อนโยน
ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร, แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงผม
ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร, แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงผม
"อะ... อือ, ผมไม่เป็นไร"
ผมสั่นหัวและลุกขึ้นยืน
ในที่สุด, ผมก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน
Music:
Play Track 2
"เธอไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ?
หัวเธอโนนะ"
"เอ๊ะ...? "
ผมรู้สึกเจ็บเหมือนถูกหนามตำ
ตอนที่ผมลองจับด้วยมือ
.....เป็นอย่างที่เธอพูด หน้าผากผมปูดขึ้นมา
"ฉันขอโทษที่ไม่ระวัง
หน้าผากเธอต้องเจ็บมากแน่เลย, ใช่ไหม? "
นักเรียนหญิงตรงหน้ามองมาที่ใบหน้าของผมอย่างรู้สึกผิด
จากท่าทีสุภาพที่เธอพูดในตอนแรก, ผมคิดว่าเธอเป็นนักเรียนปีหนึ่ง, แต่พอดูจากสีของริบบิ้นของเธอ,
ผมพบแล้วว่าเธออยู่ชั้นปีสาม ...หรือก็คือ,
รุ่นพี่ของผม
"ไม่, มันไม่เป็นไร จริงๆ แล้วผมก็ผิดเหมือนกันล่ะ ผมขอโทษที่วิ่งไปชนรุ่นพี่"
ผมก้มหัวลงขอโทษ
"อ๊ะ, พอมาคิดดูแล้ว เธอพูดถูก เธอไม่ควรวิ่งลงมาบนทางเดินนะ,รู้ไหม บางทีอาจจะมีคนอย่างฉันยืนเหม่อมองสนามโรงเรียนอยู่ก็ได้"
"ครับ
ผมจะระวังให้มากกว่านี้... ว่าแต่เป็นอะไรไหมครับ,รุ่นพี่"
"ไม่เป็นไร
พี่แค่ล้มเฉยๆ คงเป็นเพราะตอนโทวโนะคุงวิ่งมาแล้วพี่พยายามหลบล่ะมั้ง"
"จริงเหรอครับ?
ถ้างั้นผมไม่แปลกใจเลยที่ผมได้เห็นดาวบนหัว"
"พี่โชคดีน่ะที่หลบทัน
แล้วเธอก็วิ่งไปชนกับกำแพงเต็มแรง"
"เรื่องนั้นผมขอโทษ, แต่มายืนตรงทางลงบันไดแบบนี้ มันอันตรายนะครับรุ่นพี่"
"อือ, พี่จะระวังให้มากกว่านี้"
รุ่นพี่พยักหน้าและยิ้มให้ผม
"......"
มันเป็นรอยยิ้มอย่างจริงใจ
"อือ, พี่จะระวังให้มากกว่านี้"
รุ่นพี่พยักหน้าและยิ้มให้ผม
"......"
มันเป็นรอยยิ้มอย่างจริงใจ
"อะ...
ขอตัวก่อนนะครับ, ผมรีบไปน่าจะดีที่สุด"
ปัดฝุ่นจากกางเกงของผม, ผมเริ่มที่จะเดินไปยังห้องพักครู
แต่นักเรียนหญิงที่แก่กว่าคนนั้นก็ยังคงจ้องมองผมผ่านแว่นตาของเธอต่อไป
"....."
เดี๋ยวก่อน, เธอเป็นใครกันนะ?
ตอนแรกผมกำลังว้าวุ่นเพราะผมวิ่งไปชนกับเธอ, แต่พอมาคิดดูแล้ว, เธอสวย
ถ้าเธอสวยขนาดนี้, พวกนักเรียนชายต้องพูดคุยกันเรื่อง 'นักเรียนปีชั้นสามใส่แว่นที่สวยๆ' แล้วสิ
"อ่า... ผมกำลังจะไปแล้ว
พี่ควรจะกลับไปห้องเรียนด้วยนะ, รุ่นพี่
อ๊ะ ถ้าบาดเจ็บอะไร มาที่ห้องเรียนผมนะ ผมโทวโนะปีสอง, ห้องสาม ผมจะรับผิดชอบเอง"
เธอพยักหน้า
...... ถึงแม้ว่าเธอจะแก่กว่าผม, แต่มันเหมือนกำลังพูดอยู่กับคนที่อายุน้อยกว่าเลย
"โอเค ถ้ามันมีปัญหาอะไร, พี่จะไปหาเธอตอนกินข้าว จำไว้นะ, ชิกิคุง เธอไม่ควรมาวิ่งตรงบันได"
"ครับ, แต่พี่ก็ไม่ควรมายืนตรงทางลงบันไดเหมือนกัน"
----เดี๋ยวก่อน
ชิกิคุง? ผมยังไม่ได้บอกชื่อจริงของผมกับเธอเลยนะ
พอลองมาคิดๆ ดูแล้ว... ก่อนหน้านั้นเธอก็พูดชื่อผม...?
อ๊ะ ถ้าบาดเจ็บอะไร มาที่ห้องเรียนผมนะ ผมโทวโนะปีสอง, ห้องสาม ผมจะรับผิดชอบเอง"
เธอพยักหน้า
...... ถึงแม้ว่าเธอจะแก่กว่าผม, แต่มันเหมือนกำลังพูดอยู่กับคนที่อายุน้อยกว่าเลย
"โอเค ถ้ามันมีปัญหาอะไร, พี่จะไปหาเธอตอนกินข้าว จำไว้นะ, ชิกิคุง เธอไม่ควรมาวิ่งตรงบันได"
"ครับ, แต่พี่ก็ไม่ควรมายืนตรงทางลงบันไดเหมือนกัน"
----เดี๋ยวก่อน
ชิกิคุง? ผมยังไม่ได้บอกชื่อจริงของผมกับเธอเลยนะ
พอลองมาคิดๆ ดูแล้ว... ก่อนหน้านั้นเธอก็พูดชื่อผม...?
"….. ฮะ? ผมเคยรู้จักกับรุ่นพี่มาก่อนรึเปล่า"
"เอ๊ะ!? "
รุ่นพี่ร้องออกมาอย่างประหลาดใจ, และเริ่มมีสีหน้าเศร้า
"แย่มากนะ, โทวโนะคุง! เธอลืมเรื่องของพี่ไปแล้วเหรอ! "
"-----?"
ลืม? ไม่, ผมไม่คิดอย่างนั้น ถ้าผมได้ไปเกี่ยวข้องกับผู้หญิงสวยๆ อย่างเธอซักครั้ง, มันไม่มีทางที่ผมจะลืมแน่นอน...
"...... อืม.."
เธอมองผมอย่างไม่พอใจนิดๆ
ตาคู่นั้น... ผมมั่นใจ ว่าผม... จำมันได้จากที่ไหนซักแห่ง ... ไม่ใช่หรอกเหรอ?
...... พอมาคิดดูแล้ว, พวกเราเคยทักทายกันครั้งรึสองครั้ง... ไม่ใช่เหรอ?
เธอมองผมอย่างไม่พอใจนิดๆ
ตาคู่นั้น... ผมมั่นใจ ว่าผม... จำมันได้จากที่ไหนซักแห่ง ... ไม่ใช่หรอกเหรอ?
...... พอมาคิดดูแล้ว, พวกเราเคยทักทายกันครั้งรึสองครั้ง... ไม่ใช่เหรอ?
"รุ่นพี่ซิเอล...
ใช่ไหมครับ? "
ผมพูดชื่อของเธออย่างหวั่นๆ
"ใช่จ้ะ, พี่ดีใจนะที่เธอจำได้ โทวโนะคุง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นพวกขี้ลืมนะ"
...ผมไม่คิดว่าผมลืม , แต่มันคงทำอะไรไม่ได้กับใบหน้าที่ผมจำไม่ได้แล้ว
"อือ ถ้างั้น บายนะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนพักกลางวัน"
รุ่นพี่ซิเอลก้มหัวอีกครั้ง
ผมมองเธอเดินลงทางเดินไป
Music: Stop
------------------------------
------------------------------
ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว
ถ้างั้น, ผมจะไปกินข้าวที่ไหนดี
1. ออกไปที่ทางเดิน แล้วค่อยคิด
2.
ไปกินข้าวในโรงอาหาร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น