Day 1 Inversion Impulse I (Part 5)

posted on 4/29/2561 01:11:00 ก่อนเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2012 ที่ http://vermillionend.exteen.com
เนื่องจากเป็นงานแปลชิ้นแรกในชีวิต ถ้าจะอ่านขอให้ทำใจกับสำนวนและความถูกต้องของภาษาไว้ได้เลย


Music: stop


….. อากิฮะเธอไม่ใช่คนเดียวที่ผมไม่ได้เจอนับตั้งแต่ตอนนั้น
ผมจำอะไรไม่ค่อยได้เพราะมันผ่านมาตั้งแปดปีแล้ว, แต่มันยังมีเด็กคนอื่นๆ ที่อายุไล่เลี่ยกับผมอยู่ที่คฤหาสน์นั่นอีก

ผมจำชื่อพวกเธอไม่ได้, แต่พวกเธอเป็นเด็กผู้หญิงสองคนที่เป็นฝาแฝดกัน
พ่อของผมเคยพูดว่าพวกเธอไม่มีญาติอื่นๆ อยู่เลย เขาเลยรับพวกเธอมาทำงานในฐานะคนรับใช้

"...... มันแปลก พวกเราเล่นด้วยกันบ่อยๆ ตั้งแต่ยังเด็ก, แต่ผมกลับจำชื่อของพวกเธอไม่ได้"
ผมหลับตาลงและนึกย้อนไป




Music: play track 9


ผมควรจะจำได้

เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา... ร่าเริงมากขนาดที่คุณจะร่าเริงไปด้วยเลยทั้งที่แค่มองเธอเท่านั้น
เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ปราศจากความกังวลและเป็นที่รักของทุกคนในคฤหาสน์
เพราะอายุเธอไล่เลี่ยกับผม, ผมเลยเข้ากับเธอได้ดีมาก ดูเหมือนว่าทุกๆ วันเราจะไปวิ่งเล่นในสวนด้วยกัน

"ไปเล่นกันเถอะ ชิกิจัง"
เธอมักจะพูดแบบนี้ และผมจำได้ว่าเธอเป็นคนพาผมออกมานอกห้องในตอนที่ผมอยู่เงียบๆ คนเดียวข้างใน

เธอหัวเราะบ่อยมาก และได้จับมือกับอากิฮะที่ขี้อาย, พยายามชวนเธอมาเล่นกับเรา
บางทีเธออาจอายุมากกว่าพวกเรา

เธอชวนให้ผมกับอากิฮะมาเล่นกัน, แต่พอเราเล่นด้วยกันแล้ว เธอจะยืนดูพวกเราเล่นกันแทน

แม้แต่ครูสอนพิเศษของอากิฮะ,ซึ่งเป็นพ่อบ้านที่ดุมาก, ยังพูดว่า "ฉันจะไม่ว่าอะไร, ตราบใดที่ XXX ยังอยู่กับพวกเธอ", และปล่อยอากิฮะให้ออกมาเล่น ราวกับเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้

ตรงข้ามกับเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง




บนชั้นสอง
ขณะที่พวกเราเล่นกันอยู่ในสวน, ทุกครั้งที่ผมหันไปมองจะพบว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมองมาที่พวกเรา

เธอเป็นฝาแฝดกับเด็กผู้หญิงคนที่ร่าเริงคนนั้น, แต่เธอชอบมองมายังพวกเราอย่างไร้ความรู้สึก

เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่เคยออกมานอกบ้านเลยซักครั้ง
สิ่งที่เธอทำตลอดมาคือจ้องมองพวกเราด้วยดวงตาอันเยือกเย็น

--- สุดท้ายแล้ว, ผมก็ได้พูดกับเธอเพียงนิดเดียว




"ผมสงสัยว่าเด็กผู้หญิงพวกนั้นยังอยู่ที่คฤหาสน์รึเปล่านะ... "
ในขณะที่ผมคิดเรื่องนั้น, ผมหยิบริบบิ้นออกมาจากกระเป๋า
มันเป็นริบบิ้นเก่าๆ ที่เด็กผู้หญิงคนนั้นมอบให้ผมในตอนสุดท้าย




-----แปดปีก่อน
หลังจากผมได้รับอุบัติเหตุ
มันเป็นวันที่บ้านอาริมะรับผมไปเลี้ยง

ก่อนหน้าที่ผมจะออกไปจากคฤหาสน์, เด็กผู้หญิงคนนั้นได้มอบมันให้ผมด้วยเหตุผลบางประการ

..... ฉันให้เธอยืม, ดังนั้นต้องเอามาคืนให้ได้นะ
ตอนนั้นเธอพูดแล้วก็วิ่งจากไป

หลังจากนั้น, ผมถูกคนรับใช้คนหนึ่งเจอตัวอย่างรวดเร็ว และได้ถูกพาไปที่ประตูหน้า
ไม่มีใครมาส่งผม, ผมเดินออกไปนอกประตูของคฤหาสน์ พร้อมกับที่ผู้หญิงในตระกูล
อาริมะได้จูงมือผม
มันเป็นความทรงจำสุดท้ายในตอนที่ผมออกไปจากบ้านโทวโนะ, เมื่อแปดปีก่อน





*เฮ้อ*
ผมเก็บริบบิ้นกลับเข้าไปในกระเป๋า

"สุดท้ายมันก็ผ่านมาตั้งแปดปีแล้ว.. "
ไม่ใช่แค่ ผมไม่รู้ว่าพวกเธอยังอยู่ที่คฤหาสน์รึเปล่าเท่านั้น ผมยังจำชื่อพวกเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ
แย่ยิ่งกว่านั้น ผมจำไม่ได้เลยว่าเด็กผู้หญิงคนไหนที่เป็นคนมอบริบบิ้นให้ผม




"….. ถึงแม้นั่นจะไม่ใช่สัญญาที่สำคัญอะไร"
แต่ผมก็อยากจะรักษาสัญญา, ตราบใดที่ผมยังจำมันได้

ผมตกลงกลับไปคฤหาสน์เพราะอากิฮะอยู่ที่นั่นด้วยตัวคนเดียว
ผมทิ้งเธอไปแปดปี, ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้เธอในขณะที่ผมได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างเห็นแก่ตัว
ผมกลับไปเพราะผมรู้สึกผิดสำหรับสิ่งที่ผมได้ทำไว้กับเธอ

..... ผมไม่ได้อยากจะใช้เหตุผลนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมกลับไปคฤหาสน์นัก แต่ถ้าพวกเธอยังอยู่ที่คฤหาสน์ ผมอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อแปดปีก่อน

Music: stop




"----- มันใหญ่มาก"
นั่นเป็นคำพูดที่หลุดออกมาจากปากผม เมื่อผมไปถึงประตูใหญ่ของคฤหาสน์
สำหรับคนอย่างผมที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านธรรมดา คฤหาสน์โทวโนะดูเหมือนจะไม่ใช่ความจริง

"..... นี่ผมต้องเข้าไปในนี้เหรอเนี่ย"
.....ไม่ มันสายไปแล้วที่จะเสียใจ
ประตูไม่ได้ล็อก
ผมผลักมันให้เปิดออก, และมุ่งหน้าไปยังประตูทางเข้าคฤหาสน์




ดูราวกับว่าพวกเขาจะกดดันแขกทุกคนที่เข้ามา
ข้างๆ ประตูเหล็กสองบานคือกริ่งที่ดูไม่เข้ากันเลย

"..... ไม่เป็นไร"
ผมขจัดความกลัวทั้งหมดไป ผมกดมัน
มันไม่มีเสียงน่ารักๆอย่าง 'ดิ๊ง-ด่อง' ดังมาจากกริ่งประตูแต่อย่างใด
ความเงียบที่ชวนอึดอัดยาวต่อไปในอีกหลายวินาที
ต่อมา, ได้มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลังประตู บ่งบอกว่ามีใครกำลังมา

Music: play track 3

"พวกเรากำลังรอคุณอยู่เลยค่ะ"
ประตูเปิดออกส่งเสียงลั่นดังเอี๊ยด
ข้างในเป็นห้องรับแขกที่ผมจำได้ แล้วก็มีสาวน้อยในชุดผ้ากันเปื้อนคนหนึ่งอยู่ข้างใน




"ดีจังเลย ท่านมาช้ามากจนชั้นเริ่มเป็นห่วงว่าท่านอาจจะหลงทางไปแล้ว ชั้นกำลังคิดว่าจะออกไปตามหาท่านอยู่พอดี ถ้าท่านยังมาไม่ถึงจนพระอาทิตย์ตกดิน"
สาวน้อยในชุดผ้ากันเปื้อนย้อนยุคได้ยิ้มอย่างอบอุ่น

"อ่า,ไม่ เพราะว่า... เอ่อ... "
ผมกำลังตะลึงไปกับชุดเสื้อผ้าย้อนยุคของเธอ ขนาดแค่เรียบเรียงประโยคผมยังทำไม่ได้

คงเป็นเพราะท่าทางของผมทำให้เธอสงสัย
หญิงสาวเอียงหัวเล็กน้อย

"คุณคือท่านชิกิ, ใช่ไหมคะ?"
"อะ--ใช่, แต่ไม่ต้องเรียกผมว่า 'ท่าน' หรอก"
"ถูกใช่ไหมคะ? โอ, อย่าทำให้ชั้นตกใจแบบนี้สิคะ! ก่อนหน้านี้ชั้นคิดว่าชั้นต้องกำลังเข้าใจผิดไปแน่เลย"
เธอหัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติ




ผมไม่มีหลักฐานอะไรว่าใช่, แต่นั่นมันเหมือนกับนิสัยของเธอเลย




"อืม... อ่า... เธอใช่เด็กผู้หญิงที่เคยเล่นกันกับพวกเราในตอนที่ยังเด็กรึเปล่า"
ผมลองถามออกไปดู

เธอยิ้มตอบกลับมา, ท่าทางดูมีความสุขมาก

"เข้ามาเถอะค่ะ ท่านต้องเหนื่อยมากแน่ๆ, ใช่ไหมคะ? กรุณาตามมาด้วยค่ะ
ท่านอากิฮะกำลังรออยู่ในห้องนั่งเล่นนะคะ"
หญิงสาวรีบเดินผ่านห้องรับแขกและมุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น

เธอหันกลับมาเพราะเหมือนจะนึกอะไรได้, เธอโค้งให้ผม, พร้อมกับรอยยิ้มเต็มเปี่ยมที่อยู่บนใบหน้าของเธอ




"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ, ท่านชิกิ"
เธอต้อนรับผมพร้อมกับรอยยิ้มที่งดงามราวกับดอกไม้
ผมนึกไม่ออกว่าจะตอบกลับไปยังไงดี ดังนั้นผมจึงเดินตามเธอไปในทันที

Music: stop



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น