เนื่องจากเป็นงานแปลชิ้นแรกในชีวิต ถ้าจะอ่านขอให้ทำใจกับสำนวนและความถูกต้องของภาษาไว้ได้เลย
เสียงเห่าหอนดังต่อเนื่อง
มันไม่มีทางที่ผมจะหลับไปแบบนี้ได้
..... ผมนอนไม่หลับ, แต่นั่นมันคงเป็นเรื่องปกติล่ะมั้ง
"ตอนนี้ง่วงแล้ว
ดังนั้นขอผ่าน"
ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว, แล้วลงไปนอนแผ่บนเตียง
ผมพยายามคิดว่าเสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นเสียงปกติของมนุษย์, อย่างเช่นเสียงรถวิ่งบนถนน
*เฮ้อ*
วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนาน
ผมเหนื่อยใจจากการทานอาหารเย็นในคฤหาสน์ที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงการพูดคุยกับอากิฮะแล้วก็คนอื่นๆ
สุดท้ายแล้ว, เสียงเห่าหอนนั่นก็เป็นแค่ดนตรีประกอบฉาก
ผมเหนื่อยใจจากการทานอาหารเย็นในคฤหาสน์ที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงการพูดคุยกับอากิฮะแล้วก็คนอื่นๆ
สุดท้ายแล้ว, เสียงเห่าหอนนั่นก็เป็นแค่ดนตรีประกอบฉาก
ผมหลับตาลง แล้วก็ค่อยๆหลับไป
Music: play track 7
-----ผมได้ฝันถึงเรื่องที่ชวนคิดถึง
ช่วงสิ้นสุดฤดูร้อนของเมื่อแปดปีก่อน
เป็นช่วงหลังจากผมที่ได้รับบาดเจ็บ, ถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยที่ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย แล้วได้พบกับอาจารย์
ในขณะที่ผมกลับมายังคฤหาสน์ ผมได้ยินมาจากพ่อว่าผมจะต้องไปอยู่กับครอบครัวที่แม้แต่ผมยังไม่เคยได้ยินชื่อ
เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
ในทันทีหลังจากวันที่ผมออกจากโรงพยาบาล , ผมก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านอาริมะ
ในวันนั้นไม่มีแม้แต่เมฆบนท้องฟ้าสีคราม
ช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง
ผมโดนพาออกไปจากคฤหาสน์โทวโนะ
แต่ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย...
มีเด็กผู้หญิงมาหาผม, โดยหลบเลี่ยงผ่านสายตาของพวกผู้ใหญ่
ผมโดนพาออกไปจากคฤหาสน์โทวโนะ
แต่ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย...
มีเด็กผู้หญิงมาหาผม, โดยหลบเลี่ยงผ่านสายตาของพวกผู้ใหญ่
"ถ้าเธอจะต้องไปแล้ว, ช่วยมาที่ต้นไม้หลังสนามทีนะ"
หลังจากผมถูกบอกแบบนั้น ผมก็ย่องออกไปจากสายตาของพ่อแบบเงียบๆ
และออกไปที่ด้านหลังของสนาม
ท้องฟ้าเป็นสีคราม
ภายใต้ท้องนภาสีฟ้าเข้มที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุดนั้น, เธอรอผมอยู่ที่นั่น
ภายใต้ท้องนภาสีฟ้าเข้มที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุดนั้น, เธอรอผมอยู่ที่นั่น
เท่าที่ผมรู้, นี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกมานอกคฤหาสน์
"รับสิ่งนี้ไป."
ตอนที่พูด, เธอแก้ริบบิ้นที่ผูกผมเธอไว้ออก แล้วยื่นมันมาให้ผม
ผมคิดว่ามันคงเป็นของขวัญจากลาที่เธอมอบให้ผม, แต่เพราะตอนนั้นผมยังเด็ก, ผมเลยไม่แม้แต่รู้สึกที่จะดีใจสำหรับเรื่องนั้น
"รับสิ่งนี้ไป."
ตอนที่พูด, เธอแก้ริบบิ้นที่ผูกผมเธอไว้ออก แล้วยื่นมันมาให้ผม
ผมคิดว่ามันคงเป็นของขวัญจากลาที่เธอมอบให้ผม, แต่เพราะตอนนั้นผมยังเด็ก, ผมเลยไม่แม้แต่รู้สึกที่จะดีใจสำหรับเรื่องนั้น
...... ยังไงก็ตาม, จะมีเด็กผู้ชายอายุเก้าขวบแบบไหนกัน ที่จะดีใจถ้าเขาได้ริบบิ้นมา?
"นั่นเป็นริบบิ้นอันที่ฉันชอบมากที่สุด, ดังนั้นช่วยเอามาคืนฉันทีหลังด้วย,โอเคนะ?"
แต่มันเป็นเพราะคำพูดพวกนั้นที่ทำให้ผมได้จดจำเอาไว้ได้
"เอามันมาคืนด้วยล่ะ" เธอพูด
"กลับมาให้ได้นะ," นั่นคือสิ่งที่ผมได้ยินจากคำพูดเหล่านั้น
---,นั่นดีพอแล้วสำหรับผม
ในวันสุดท้ายนั้น, ที่ไม่มีใครมาส่งผมเลย
สำหรับเธอ, คนที่ผมไม่เคยแม้แต่จะพูดด้วย,
ได้พูดสิ่งนั้นกับผม... มันทำให้ผมมีความสุขมาก
---แต่ตอนนั้นผมไม่สามารถพูดว่า
"ผมจะนำมันกลับไปคืนให้แน่นอน" ได้
คงเป็นเพราะความเฉลียวฉลาดในตอนนั้นของผม, ทำให้ผมคิดได้ว่าผมจะไม่มีทางได้กลับมาที่คฤหาสน์หลังนี้อีกตลอดไป
.....
นั่นเป็นคำพูดที่พวกเราเคยพูดกันเพียงครั้งเดียว
บางส่วนในนัยต์ตาอันเยือกเย็นของเธอนั้นดูเศร้าโศกมาก
เด็กผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ที่นั่นราวกับตุ๊กตา
, เฝ้ามองผมจากไป
เป็นความฝันถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในวันหนึ่ง
เมื่อนานมาแล้ว
ภายใต้ท้องนภาสีครามซึ่งไร้เมฆบดบัง
Music: stop
ภายใต้ท้องนภาสีครามซึ่งไร้เมฆบดบัง
Music: stop
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น