Day 3 Inversion Impulse III (Part 1)

posted on 4/29/2561 05:12:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2012 ที่ http://vermillionend.exteen.com
เนื่องจากเป็นงานแปลชิ้นแรกในชีวิต ถ้าจะอ่านขอให้ทำใจกับสำนวนและความถูกต้องของภาษาไว้ได้เลย



3/แรงกระตุ้นย้อนกลับ III
วันที่สาม/ 23 ตุลาคม (วันเสาร์)


"ท่านชิกิ......!"


----มีเสียงกำลังเรียกผมอยู่

"ช่วยแข็งแรงดีด้วยเถอะนะคะ ฉันจะไปหาอะไรมาให้ดื่ม"

----ผมรู้สึกได้ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าผมได้ถอยห่างออกไป

เสียงฝีเท้า
มันทำให้ผมรู้ว่านี่เป็นตอนเช้าแล้ว




"-----"
ผมลืมตาขึ้น
ไม่มีใครอยู่ในห้องเลยแม้แต่คนเดียว
ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ไม่ต่อเนื่องกัน

"..... เสียงนั่น..... คืออะไร? "
พอพูดแล้ว, ผมก็นึกได้ว่านั่นคือเสียงลมหายใจของผมเอง

"ฮ.....? "
ร่างกายของผมเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ความเหน็ดเหนื่อยทำให้ผมหายใจไม่ออก, เหนื่อยขนาดที่ว่าเหมือนกับเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนมา

"อึกกก......"
หัวของผมเจ็บ
...... เป็นเพราะผมไปเห็นความฝันที่น่าขยะแขยงนั่น
ยูมิซึกะที่ย้อมไปด้วยเลือด, และผม, จ้องมองไปที่เธออย่างอิจฉา เป็นฝันร้ายอย่างสมบูรณ์แบบ

"...... มีอะไรบางอย่างผิดปกติ......"
ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการที่จะพูดออกมาได้สำเร็จ, โดยที่ยังคงหายใจได้ลำบากอยู่
ความฝันเมื่อคืนยังคงค้างอยู่ในหัวของผม
มันเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวจริงๆ
ผมยังคงเหม่อลอยกับความฝันของผม, ราวกับว่าผมไม่สามารถที่จะตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายได้เลย แม้ว่าจะพยายามก็ตามที



Music: play track 2 


"ท่านชิกิ.....! "
และต่อมา
ฮิซุยรีบร้อนเข้ามาในห้องของผม

"ฮิซุย.....? เกิดอะไรขึ้นเหรอ? เธอไม่แม้แต่จะเคาะประตูด้วยซ้ำ"
"เอ่อ.... ตื่นแล้วเหรอคะ, ท่านชิกิ"
"อื้อ, ผมเพิ่งตื่นเมื่อกี้นี้เอง, อรุณสวัสดิ์, ฮิซุย ขอบคุณนะที่มาปลุกผม"
"อ่า---ค่ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ"
หลังจากตอบกลับคำทักทายผมในเชิงขอโทษ, ฮิซุยเข้ามาใกล้เตียง

"ฉันนำอะไรมาให้ดื่มค่ะ ท่านดูไม่ค่อยดีนัก, ดังนั้นกรุณาดื่มมันด้วยค่ะ."
มองไปที่มัน, ดูเหมือนเธอจะนำเครื่องดื่มที่วางอยู่บนถาดเงินมาให้เหมือนกับที่เธอทำเมื่อวาน

"......? ผมไม่ได้รู้สึกแย่หรืออะไรเลยจริงๆ ผมหลับสนิทไปเมื่อวานแล้วก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว"
"แต่---"
ฮิซุยจ้องมาที่ผม

"ก่อนหน้านี้ดูเหมือนท่านจะอยู่ในสภาพที่แย่มากๆ เลยค่ะ ท่านชิกิ, แผลเป็นที่อกไม่เจ็บแล้วหรือคะ?"




"ไม่, ไม่จริงๆ..... อืม,บางทีมันอาจเป็นเพราะฝันที่น่ากลัวนั่น ผมฝันร้ายมากจริงๆ"

..... ผมรู้สึกวิงเวียนในทันทีนึกมันออก
ฮิซุยมองจดจ่ออยู่ที่ใบหน้าของผม

"..... ผมนึกออกแล้ว, ฮิซุย, เธอทำให้ผมตื่น"
"….. ค่ะ, ฉันขอโทษจริงๆค่ะ"
"เธอกำลังพูดอะไรอยู่น่ะ? ขอบคุณนะ, ฮิซุย เธอช่วยผมได้มากเลย"
ผมหมายความว่าอย่างนั้น จากใจของผมจริงๆ
ถ้าเธอไม่ทำให้ผมตื่น, ผมคงยังติดอยู่ในฝันร้ายที่น่าสยดสยองต่อไป

"ผมจะเปลี่ยนเสื้อแล้วไปที่ห้องอาหาร ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ--และสำหรับเรื่องที่เอาเครื่องดื่มนี้มาให้ผม โทษทีนะสำหรับเรื่องนั้น"

"ไม่, ท่านไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกค่ะ ฉันจะรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นนะคะ"

ฮิซุยออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

พูดตรงๆ, ความคิดของผมเปลี่ยนไปจริงๆ
ผมคิดว่าเธอไม่มีความรู้สึกอะไรเลยอย่างแท้จริง, แต่บางทีเธออาจแค่แสดงมันออกมาได้ไม่ดีก็เป็นได้
เธอไม่สบายใจเรื่องที่ผมฝันร้ายจริงๆ, นั่นทำให้ผมยิ้มในขณะที่ผมนึกภาพเธอกำลังรีบร้อนแบบนั้น
บางทีมันอาจไม่ยากนักที่จะได้เห็นรอยยิ้มของฮิซุย




"-----อืม, ได้เวลาตื่นแล้ว! "
ผมโยนผ้าห่มออกไปแล้วลุกขึ้นมา

---ในทันทีนั้นเอง

ความเจ็บปวดได้ระเบิดผ่านร่างกายของผม

"กรอดด.......! "
มันมาจากส่วนที่ลึกมากๆ, น่าเจ็บใจกับเรื่องการเต้นของหัวใจของผม

"อั---กกกก---"
ยึดผ้าห่มเอาไว้แน่น, ผมผ่านความเจ็บปวดไปได้เพราะอะไรบางอย่าง

"อ๊ะ--"
มันค่อยๆ จางหายไปแล้ว
มันไม่เหลืออยู่เลย บางทีคงหายอย่างกระทันหันล่ะมั้ง?

"...... แผล... ที่อก"
ผมนำมือไปที่เหนืออกของผม

มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่ที่นั่น, และถึงแม้ว่ามันจะได้รับการรักษาจนหายแล้ว, บางครั้งมันก็ยังคงเจ็บอยู่ เหมือนอย่างที่ผมเป็นเมื่อครู่
หมอเคยบอกว่าบาดแผลทางกายคงหายอย่างสมบูรณ์แล้ว, แต่เป็นส่วนของจิตใจที่จะย้อนความเจ็บปวดกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

โดยปกติ, แผลเป็นจะเริ่มแสดงอาการออกมาหลังจากที่ผมเห็นอุบัติเหตุจราจรหรือศพ
ภาพของเลือดและความตายจะทำให้ผมนึกถึงอุบัติเหตุเมื่อแปดปีก่อนได้

"...... คงเป็นเพราะเมื่อคืน, ผมคิดว่าอย่างนั้น"
ตรอกด้านหลังสีแดง
และใบหน้าปกติ, ยิ้มแย้มแจ่มใสของยูมิซึกะ

"อัก--!"
อกของผม--เจ็บ
ภาพของยูมิซึกะไม่ออกไปจากจิตใจของผม
แต่ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำอะไร, และอะไรคือสิ่งที่ผมทำได้
ผมทำได้แค่ใช้ชีวิตไปเหมือนทุกวัน

"...... ชิ... ..."
สบถกับตัวเอง, ผมลงไปนอนแผ่บนเตียง
หลังจากเปลี่ยนจากชุดนอนไปเป็นชุดนักเรียนแล้ว, ผมมุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น




อากิฮะและฮิซุยอยู่ในห้องนั่งเล่น
โคฮาคุซังคงทำอาหารเช้าให้ผมอยู่ในครัว

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ, พี่"
นั่งอยู่บนโซฟา, อากิฮะทักทายผมและมองดูท่าทีของผม

"...... อ๊ะ, อรุณสวัสดิ์อากิฮะ"
ตอบคำทักทายของเธอกลับไป, ผมมุ่งหน้าไปที่ห้องอาหาร
มันมีเวลาไม่มากจริงๆ สำหรับผมที่จะอยู่คุยกับอากิฮะ---และผมก็รู้สึกไม่อยากที่จะพูดคุยกับใครทั้งนั้นเลยจริงๆ

"พี่คะ, หนูอยากจะคุยกับพี่นิดหน่อย---นั่นจะเป็นอะไรไหมคะ?"


"นั่นไม่เป็นไร, แต่ช่วยเร็วๆหน่อยนะ ในเมื่อพี่มีเวลาไม่มากนัก"
ผมนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับอากิฮะ

"ถ้าอย่างนั้น หนูจะเข้าเรื่องเลยนะคะ พี่คะ, เมื่อคืนพี่ไปไหนมาคะ?"
อากิฮะมองตรงมาที่ผมในขณะที่เธอถาม
...... โคฮาคุซังคงเก็บมันเป็นความลับแล้ว, แต่ผมคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะปิดมันหลังจากที่ผมไปได้สองชั่วโมง




"ไม่มีอะไร, ก็แค่ไปเดินในเมือง พี่ขอโทษที่กลับมาดึก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่นา"
ในเมื่อผมไม่อยากโกหกอากิฮะ, ผมเลยตอบแบบเลี่ยงๆ ไปให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"แค่ไปเดินเล่นบนถนนก็เป็นเรื่องอะไรบางอย่างแล้วล่ะค่ะ พี่ยังเด็กอยู่นะคะ, ดังนั้นช่วยอย่าออกไปเดินเถลไถลตอนกลางคืนเลยนะค่ะ ถึงแม้พี่จะไม่ได้ไป, มันก็มีปัญหาความไม่สงบมากมายกำลังเกิดขึ้นอยู่"


"------อ๊ะ"

ปัญหาความไม่สงบฆาตกรซ่อนตัวอยู่รอบๆ เมืองในตอนกลางคืน
ทำไม?
ทำไมผมถึงคิดไม่ได้?
ฆาตกรที่ฆ่าคนและดื่มเลือดของพวกนั้น
ประโยคนั้นตรงกับพฤติกรรมของยูมิซึกะเมื่อวานอย่างสมบูรณ์แบบ----




"..... หนูก็ไม่ควรที่จะมาพูดแบบนี้นะคะ, แต่พี่ไม่ควรที่จะฝืนร่างกายเกินไป, ถ้าพี่กลับมาพร้อมกับใบหน้าอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแบบเมื่อคืนอีกครั้ง หนูจะกังวลจริงๆ
ถ้าพี่กำลังลำบากอยู่ ช่วยบอกหนูเถอะค่ะ หนูอาจทำอะไรไม่ได้มากนัก, แต่ถ้าหากพี่สามารถ... "

---ผมไม่อยากจะคิดเรื่องมัน, แต่...

ยูมิซึกะ, ยูมิซึกะอาจจะเป็นฆาตกรที่กำลังคุกคามเมืองนี้อยู่

"...... พี่คะ? พี่ฟังหนูอยู่รึเปล่าคะ?"
"เอ๊ะ----อ่ะ, อื้อ พี่ฟังอยู่"
ผมได้ยินเสียงของอากิฮะ
แต่, สิ่งเดียวที่อยู่ภายในจิตใจของผมคือภาพของยูมิซึกะเมื่อวาน




อากิฮะจ้องมาที่ผม
"ถ้าอย่างนั้น พี่ไม่สามารถพูดเรื่องสถานการของพี่ได้เลยหรือคะ, พี่คะ?"
"อืม มันไม่เกี่ยวกับเธอ, อากิฮะ"
ในขณะนี้, ผมคิดได้แค่เรื่องของยูมิซึกะเท่านั้น
ผมอยากจะอยู่คนเดียว--และเพราะอย่างนั้นผมเลยพูดแบบนั้นออกไป

"พี่จะเดินไปในเส้นทางของตัวเองต่อไป, นั่นคือสิ่งที่พี่กำลังพูดอยู่ใช่ไหมคะ, พี่?"
"..............."
"หนูเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้น, เชิญ, ตามสบายเถอะค่ะ ถ้านั่นคือสิ่งที่พี่ต้องการ, พี่ค่ะ, หนูก็จะทำอย่างเดียวกัน"

อากิฮะยืนขึ้น, และเดินออกไปที่ห้องรับแขก

"ท่านชิกิ? นี่ดีแล้วเหรอคะ?"
"...... ดีแล้วเหรอ? อะไรกันล่ะที่ดีแล้ว?"
"ฉันเชื่อว่าท่านอากิฮะเป็นห่วงเรื่องของท่านอยู่ลึกๆนะคะ,ท่านชิกิ แต่ฉันคิดว่ามันคงยากสำหรับท่านอากิฮะ เพราะท่านไม่ค่อยได้พูดเรื่องความรู้สึกของตัวท่านเองออกมาบ่อยนัก----"
"ผมรู้ แต่ว่าตอนนี้, หัวของผมไม่โล่ง, และผมทำไม่ได้... ผมเสียใจ"
"............"




ฮิซุยจมอยู่ในความเงียบ

"ชิกิซังงงง, ข้าวเช้าค่ะ! "
เสียงของโคฮาคุซังดังมาจากห้องอาหาร
ผมยืนขึ้นและเดินเข้าไปหาต้นเสียง

"ท่านชิกิ, วันนี้จะกลับมาราวๆกี่โมงคะ?"
"อ๊ะ... ในเมื่อวันนี้เป็นวันเสาร์... –ไม่ มันคงเป็นช่วงเย็น มันมีอะไรบางอย่างที่ผมอยากจะไปตามหา"

"เข้าใจแล้วค่ะ กรุณา, ดูแลตัวเองจนถึงตอนนั้นด้วยนะคะ"
เธอโค้งให้ลึกๆ

หลังจากฮิซุยมาส่งผม, ผมออกไปจากคฤหาสน์

Music: stop



Music: play track 1


---มันไม่มีประโยชน์ที่จะมาโรงเรียน
ยูมิซึกะ ซัตสึกิถูกปฏิบัติเหมือนกับคนที่ขาดเรียน, และไม่มีใครซักคนที่ดูเหมือนจะกังวลกับเรื่องของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
เวลาได้ผ่านไปโดยที่ผมไม่รู้สึกถึงมัน บางทีก่อนหน้านี้อาริฮิโกะหรือไม่ก็รุ่นพี่คงจะมา, แต่ผมจำไม่ได้จริงๆ


เวลาเที่ยงมาถึง, และโรงเรียนก็เลิก
ผมไม่มีความคิดอะไรเลย
ผมไม่มีความคิดอะไรเลย, แต่ผมก็ต้องไปตามหายูมิซึกะอยู่ดี








พระอาทิตย์กำลังลับจะขอบฟ้า
แม้ว่าจะวิ่งไปทุกหนทุกแห่งในเมืองแล้วก็ตาม,  มันก็ยังไม่มีเค้าลางของยูมิซึกะ ซัตสึกิอยู่ที่ไหนเลย

"............ กรอด"
ผมกัดริมฝีปากตนเองอย่างโกรธเคือง
...... แต่มันไม่ใช่โกรธที่หาเธอไม่พบ

สองวันก่อน
ผมโกรธตัวเองที่ไปสัญญาอะไรแบบนั้นในตอนแรก

---ช่วยฉันเมื่อฉันตกอยู่ในอันตราย, โอเคนะ?

ยูมิซึกะพูดนั่นออกมา, และผมได้ตอบกลับไปอย่างร่าเริง
ผมจะช่วย, เท่าที่ผมสามารถทำได้
...... ช่างเป็นคำตอบที่ไร้ความรับผิดชอบเหลือเกิน
มันไม่มีอะไรที่ผมสามารถทำได้เลยจริงๆ
เธอพูดว่ามันเจ็บ
ผมยังไม่สามารถหายูมิซึกะที่กำลังเจ็บปวดทรมาณอยู่ในความมืดอันหนาวเหน็บพบเลยด้วยซ้ำ

"---"
ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
...... ผมไม่อยากที่จะยอมรับมัน, แต่บางทีผมอาจจะหายูมิซึกะพบหลังเวลาพระอาทิตย์ตกตินเท่านั้นก็เป็นได้

"...... ผมบอกกับฮิซุยไปว่าผมจะกลับไปในตอนเย็น"
บางทีมันอาจเร็วเกินไป
ผมจะกลับไปที่คฤหาสน์และคิดเรื่องนี้ดีๆ อย่างใจเย็น

"ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ, ท่านชิกิ"
ฮิซุยรออยู่ในห้องรับแขก

"ผมกลับมาแล้ว...... ฮิซุย, อากิฮะอยู่ไหน?"

"ท่านอากิฮะยังไม่กลับมาค่ะ ในเมื่อท่านจะกลับมาช้า, พวกเราเลยต้องทานอาหารเย็นกันไปก่อน"
"เข้าใจแล้ว...... ผมจะพักผ่อนอยู่ในห้องจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็น, เพราะอย่างนั้นผมจะไปที่ห้องอาหารเมื่อถึงเวลา"
"ค่ะ กรุณาพักผ่อนจนกว่าฉันจะไปเรียกท่านนะคะ"

ผมหันหลังให้กับฮิซุยที่กำลังโค้งให้และเดินไปยังห้องของตนเอง


---หลังจากมื้ออาหารเย็น, ผมนั่งลงไปบนเตียงของผม

เข็มนาฬิกาชี้บอกว่ามันเป็นเวลาสามทุ่ม
ในเมื่อการออกไปนอกคฤหาสน์หลังสองทุ่มนั้นเป็นเรื่องที่ถูกห้ามไว้, ผมไม่สามารถออกไปข้างนอกได้อีกต่อไปแล้ว

"............"
แต่, นั่นมันก็เป็นแค่กฏ
ถ้าผมรู้สึกแบบนั้น, ผมก็สามารถที่จะออกไปข้างนอกได้อย่างง่ายดาย




---บ๊าย-บาย ไว้พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนนะ โทวโนะคุง

...... ผม...... กำลังคิดอะไรอยู่? มันเป็นแค่ความคิดโง่ๆ
ผมไม่สามารถที่จะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับยูมิซึกะ
ผมรู้อยู่แก่ใจว่าเธอเป็นแวมไพร์ฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเมือง

ถึงอย่างนั้น
ผมก็ไม่สามารถลืมคำพูดสุดท้ายของเธอที่พูดขึ้นในตอนที่พระอาทิตย์กำลังลับจะขอบฟ้า บนทางกลับบ้านของพวกเราไปได้----

Music: stop

...... ก่อนที่ผมจะคิดได้, มันก็เกือบจะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว
ในขณะที่หลงทางอยู่ในความคิดที่ว่าอะไรคือสิ่งสิ่งที่ผมควรจะทำ, ผมก็ได้ผ่านการตื่นตัวในยามคืนไปบางส่วนแล้ว

"...... ท่านชิกิ, ตื่นอยู่รึเปล่าคะ......?"
...... เสียงของฮิซุย
ทำไมเธอถึงได้ขึ้นมาในตอนดึกป่านนี้?




"ผมตื่นอยู่ ว่าแต่ทำไมเหรอ, ฮิซุย? "
"---ค่ะ ฉันไม่แน่ใจ, แต่ถ้าท่านยังตื่นอยู่ ฉันคิดว่าฉันควรจะบอกท่าน"
"บอกอะไรผมเหรอ? "
"เมื่อซักครู่ก่อนหน้า, มีโทรศัพท์ถึงท่านค่ะ, ท่านชิกิ ส่วนข้อความคือ 'ฉันจะรออยู่ในสวนสาธารณะ' "
"โทรศัพท์มา..... ดึกป่านนี้เนี่ยนะ? "
"ใช่ค่ะ, โทรศัพท์วางหูไปก่อนที่ฉันจะถามชื่อ, เพราะอย่างนั้นฉันเลยไม่แน่ใจว่าฉันควรจะบอกท่านดีไหมน่ะค่ะ, ท่านชิกิ--"

"ไม่--นั่นมันคือ......"

...... นี่มันไม่จำเป็นต้องคิดเลยแม้แต่น้อย
โทรศัพท์นั่นต้องมาจากยูมิซึกะแน่นอน

"...... ขอบคุณนะ แต่ว่า, มันดึกไปหน่อยแล้ว, ดังนั้นไว้ผมจะรอจนถึงพรุ่งนี้ เธอเป็นเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งของผม, เพราะอย่างนั้นไว้ผมค่อยไปเจอเธอพรุ่งนี้ก็ได้"

"นั่นมันไม่จริงค่ะ มันมีอะไรบางอย่างแปลกไป กับการที่จะยิ้มแบบนั้นด้วยสีหน้าเครียดขนาดนั้นค่ะ"

"โง่น่า, ผมไม่ได้โกหกเลยแม้แต่นิดเดียว ผมยังปกติดี, ผมจะไม่ออกไปข้างนอกตอนดึกขนาดนี้ อากิฮะจะโกรธ, และเธอก็ต้องลำบาก, ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลเลยที่ผมจะต้องไปทำแบบนั้น"
"....................."
ฮิซุยตกลงไปสู่ความเงียบ
การสนธนาของพวกเราหยุดลง




"….. ท่านชิกิ กรุณาอย่าฝืนตัวเองเกินไปนะคะ"
"..... ไม่, ผมไม่ได้ฝืนอะไรทั้งนั้น ผมกำลังจะไปนอน, ดังนั้นช่วยกลับไปที่ห้องของเธอเองเถอะ"
"……………….."
ฮิซุยเพียงแค่จ้องมาที่ผม

"---อืม, ราตรีสวัสดิ์"
ไม่สามารถที่จะทนกับการจ้องมองของเธอต่อไปได้ ผมปิดประตูเสียงดัง

"...... ชิ ผมไม่สามารถปิดบังอะไรกับฮิซุยได้เลย"

ผมนำมีดของผมออกมาจากลิ้นชัก
...... ผมไม่มีเจตนาที่จะใช้มัน, แต่ผมแค่รู้สึกว่ามันจะเป็นการดีกว่าที่มีมันอยู่ข้างๆ

"---สวนสาธารณะเหรอ? ทำไมเธอถึงได้เรียกผมออกไปในเวลาแบบนี้กันนะ---"

บ่นพึมพำ, ผมคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องเล่าโง่ๆเหล่านั้น
แวมไพร์สามารถออกมาได้ระหว่างช่วงกลางคืนเท่านั้น
ถ้าอย่างนั้น ดูเหมือนนั่นจะเป็นความจริง, ไม่อย่างนั้นยูมิซึกะคงไม่เรียกผมออกไปในเวลาแบบนี้
มันยิ่งดูเหมือนกับว่า ถ้ามันไม่ใช่เวลาแบบนี้, แล้วเธอจะไม่สามารถโทรหาผมได้เลย

"...... ขอโทษนะ, ฮิซุย แม้แต่ผมยังคิดว่าตัวเองโง่เลย เธอบอกผมว่าอย่าหักโหมเกินไป, แต่ผมคงไม่สามารถหลับไปทั้งๆแบบนี้ได้หรอก"
กล่าวขอโทษให้กับห้องว่างๆ, ผมออกจากคฤหาสน์ไปอย่างเงียบๆ



Music: play track 1


*แฮ่ก*--*แฮ่ก*--*แฮ่ก*
ผมพักร่างกายของผม, ซึ่งถูกเผาผลาญพลังจากไปจากการวิ่ง
มันเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว

สวนสาธารณะตั้งอยู่ห่างจากถนนหลักออกไป
เป็นเพราะฆาตกรต่อเนื่อง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้, มันไม่มีคนอยู่ให้เห็นแถวๆนี้เลย

 "........."
ตุบ หัวใจผมเต้นเสียงดัง
คอของผมแห้งผากจากความเครียด
ถ้าโทรศัพท์ที่ฮิซุยรับนั่นมาจากยูมิซึกะจริง,
ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอจะต้องรอผมอยู่ที่นั่น




สวนสาธารณะโล่งในตอนกลางคืน
ไม่มีเสียงอะไรทั้งสิ้นเกิดขึ้นภายใต้แสงจันทร์
ผมไม่รู้ว่าทำไม, แต่ความหนาวยะเยือกได้แล่นผ่านตัวผมไป

"----------ซัต"

ภายในหัวของผมรู้สึกมึนงง
หนาวสะท้านอย่างน่ากลัว, ราวกับว่าร่างกายของผมได้แข็งเป็นน้ำแข็งไปจนถึงปลายนิ้ว

ผมพยายามตามลมหายใจของตัวเองให้ทัน
ตรงกันข้ามกับร่างกายที่หนาวเย็นของผม, คอของผมกำลังแสบร้อนมาก
มันแห้งและรู้สึกกระหายน้ำ
ผมเอามือซุกไว้ในกระเป๋า
ผมก็แค่---อยากให้มีดมาอยู่ในมือ

"ทำไม...?"
ก็แค่...
ปวดหัวเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำ
จิตใจของผมเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

อะไรบางอย่างแปลกไป
สวนนี้, มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ดีอยู่แถวๆนี้

"...... อะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมกลัว?"
ผมสะบัดอาการปวดหัวออกไป, และเดินลึกเข้าไปข้างใน




มันไม่มีใครอยู่รอบๆเลย
เป็นความมืดอันน่ากลัวและสถานที่อันอ้างว้างเพื่อที่จะได้พบกับใครคนหนึ่ง

ตรงนั้นมีใครบางคนก้มลงไปอยู่ที่พื้น

กำลังหายใจแรงๆ อยู่
ใบหน้าของเธอ, ขาวซีด, ในขณะที่เธอกำลังข่วนคอของเธออย่างเจ็บปวดอยู่
ไม่ต้องสงสัยเลย, นั่นคือยูมิซึกะ ซัตสึกิ




Music: play track 9 


"ยูมิ... ซึกะ? "
ท่าทางเธอกำลังทรมานอยู่ โดยที่ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ผมวิ่งตรงไปหาเธอ

"เดี๋ยวก่อน... ! "
ยูมิซึกะหยุดผมด้วยคำพูดของเธอ

"...... รอก่อน, ชิกิคุง ฉันดีใจนะที่เธอมา, แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากให้เธอเข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้ ขอร้องล่ะนะ, อย่าเข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้เลย"
การหายใจของเธอเหมือนจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ร่างกายของเธอสั่นไปทั่วในขณะที่เธอพูด, ราวกับว่าตอนนี้เธอสามารถจะล้มลงไปได้ในทุกๆ วินาที




"อย่าบ้าน่า! ผมจะไม่ทิ้งใครบางคนที่ดูเจ็บปวดทรมานอย่างเธอไว้คนเดียวหรอก"
"ไม่จ้ะ, ฉันไม่เป็นไรแล้ว... เธอมาแล้ว, เพราะอย่างนั้นตอนนี้ฉันเลยไม่เป็นไรแล้ว"
บังคับตัวของเธอให้ลุกขึ้นยืน, ยูมิซึกะยิ้มให้ผม

"...... มันเกิดอะไรขึ้น, ยูมิซึกะ? ทำไมเธอถึงไม่กลับบ้าน? แล้วเรื่องเมื่อวานมันคืออะไร? ทำไม, นั่นถึง----"
"อืม? นั่นอะไรเหรอ?"
"นั่น--- เธอก็รู้นี่ว่าผมกำลังพูดถึงอะไรอยู่!"

"ถ้าเธอหมายถึงเมื่อวาน---อืม, เธอก็เห็นแล้วนี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วฉันก็บอกเธอไปแล้วนี่ว่า, 'ฉันฆ่าคนพวกนั้น,' ไม่ใช่เหรอ?"
เธอตอบอย่างตรงไปตรงมา
...... มันแทบจะเหมือนกับว่าเธอกำลังหัวเราะเยาะความรู้สึกของผมที่พยายามที่จะปฏิเสธมัน

"ถ้าอย่างนั้น... ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในเมืองเมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นฝีมือของเธอน่ะสิ,
ยูมิซึกะ...!"
"ฉันก็ไม่อยากจะพูดถึงมัน, แต่... นั่นมันก็เป็นไปในทางนั้นล่ะ, ใช่จ้ะ"
"เธอกำลังพูดความบ้าอะไรอยู่, 'นั่นมันก็เป็นไปในทางนั้น' เหรอ ...!?"
"มันก็แค่เป็นไปในทางที่มันเป็น ฉันฆ่าคนพวกนั้น, และฉันก็จะทำในสิ่งเดียวกันต่อไป ฉันโกหกเรื่องนั้นไม่ได้นี่, จริงไหม?"
"ยูมิ... ซึกะ, เธอ--"
"ขอร้องล่ะ ช่วยหยุดเรียกฉันแบบนั้นเถอะ ฉันเรียกเธอว่าชิกิคุงแล้ว, ดังนั้นมันจะเป็นการยุติธรรมสำหรับเธอที่เธอจะเรียกชื่อจริงของฉันด้วย "




"หวา... "
ผมหายใจเข้าลึกๆ
ยูมิซึกะยังคงเหมือนเมื่อก่อน
ถึงแม้ว่าเธอจะมีท่าทางเหมือนกับที่เธอเป็นอยู่ทุกที---เธอได้พูดสิ่งที่น่ากลัวพอสมควรออกมา

"ตอนที่ฉันคิดเรื่องนั้น, ฉันเหมือนกับเป็นคนโง่ ฉันไม่เคยได้พูดคุยกับเธอแบบนี้เลย, ทุกๆปี ฉันได้แต่มองเธออยู่ไกลๆ"
"เอ๊ะ--ยูมิ... ซึกะ......?"
"ฉันมองเธอตลอดมา, ชิกิคุง แม้แต่ก่อนหน้าที่ฉันจะถูกช่วยไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์นั่น, ฉันก็มองเธอมาตลอด
ฉันมัน... ขี้ขลาดจริงๆ ฉันแค่เห็นพ้องกับผู้คนที่อยู่รอบๆตัวฉันเสมอ, และก็ยิ้มเมื่อเห็นว่ามันถูกต้อง ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว, ทุกคนก็ปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นไอดอลไปแล้ว

"ดังนั้นโรงเรียนมันจึงไม่สนุกสำหรับฉันเลย แต่นั่นมันก็เปลี่ยนไป, หลังจากที่เธอได้คุยกับฉันตอนอยู่ ม.ต้น ปีสอง, ชิกิคุง"
"เอ๊ะ--?"
"ไม่จ้ะ มันไม่ใช่สิ่งที่เธอจะจำได้หรอก ฉันจะพูดยังไงดีล่ะ... เธอเป็นธรรมชาติเสมอ, ไม่เคยทำตัวโดดเด่น บางทีเธออาจจะไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าก่อนหน้านั้นเธอได้พูดอะไรออกไป"




"-------"
อะไรที่ผมจะพูดออกไปได้
เป็นอย่างที่ยูมิซึกะพูด, ผมจำอะไรไม่ได้เลย
ผมไม่รู้ว่าผมได้พูดอะไรกับเธอไป, หรือแม้แต่ที่ผมได้พูดกับเธอตอนก่อนหน้านี้ด้วย

"นั่นไม่เป็นไรจ้ะ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เธอก็แค่สนิทกับอินุอิคุงคนเดียวเท่านั้น, ดังนั้นมันก็เป็นธรรมดาสำหรับเธอที่จะไม่สนใจเพื่อนคนอื่นเลย"
"แต่นั่นมันก็ไม่เป็นไร ฉันมีความสุขที่ได้อยู่ห้องเดียวกับเธอ, ชิกิคุง มันเป็นเป้าหมายสูงสุดของฉันที่จะได้พูดคุยกับเธอและให้เธอเรียกฉันว่ายูมิซึกะซัง พอตอนนี้ฉันมาคิดเรื่องนั้น, มันช่างเป็นความปรารถนาที่เล็กมากๆ เหลือเกิน"

เธอหวนคิดถึงเรื่องราวที่น่าคิดถึง
วันเก่าๆ เหล่านั้น
...... ราวกับว่าเธอนึกอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วขึ้นมาได้




"ฉัน... มองเธอมาตลอด"
ฉันรู้ว่าเธอคงไม่มีวันสังเกตุเห็นฉัน, แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะมองเธออยู่ดี

"-------"

อืมถ้าให้พูดตรงๆ ผมมีความสุข, แต่ว่า...

"เธอชอบฉันไหม, ชิกิคุง? "
ตอนนี้ผมจะตอบเธอยังไงดี---?

1. ผมชอบเธอ

2. ผมเกลียดเธอ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น