Day 4 Cradle Garden (Part 1)

posted on 5/01/2561 08:52:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2012 ที่ http://vermillionend.exteen.com
เนื่องจากเป็นงานแปลชิ้นแรกในชีวิต ถ้าจะอ่านขอให้ทำใจกับสำนวนและความถูกต้องของภาษาไว้ได้เลย



4/สวนแห่งเปลเด็ก
วันที่สี่/ 24 ตุลาคม (วันอาทิตย์)


Music: play track 2

ผมตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลอันยาวนาน
แสงอาทิตย์จากหน้าต่างดูแล้วน่าจะเป็นช่วงใกล้เที่ยงมากกว่าเช้า
มันต้องเป็นเพราะการที่เมื่อคืนผมกลับมาดึกมาก
ดูเหมือนว่าผมจะนอนนานเกินไปหน่อย

"..............."
หลังจากที่ดึงตัวเองขึ้นมาจากเตียง, ผมมองลงไปที่มือของผม
----ความรู้สึกที่ผมแทงยูมิซึกะยังคงอยู่

สองคืนก่อนหน้า
ในตอนที่ผมได้เจอกับยูมิซึกะและได้เห็นความฝันอันน่าขยะแขยงนั่น

"...... ถ้าเมื่อวาน...... เป็นแค่ความฝันเท่านั้น"
แต่แค่หวังถึงมัน มันไม่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างนั้น
ผมไม่มีเบาะแสเลยว่าทำไมหรือยังไงที่ยูมิซึกะถึงได้กลายเป็นแวมไพร์, และผมไม่สามารถทำอะไรเลยที่จะช่วยเธอได้




---ไม่
ตั้งแต่ที่ยูมิซึกะได้เป็นอย่างนั้น, มันคงไม่มีทางแล้วสำหรับใครก็ตามที่จะไปช่วยเธอ
เธอตายไปตั้งแต่แรกแล้ว
ทุกอย่างที่ผมทำไปก็คือทำให้ศพนั่นซึ่งขยับได้ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะเหตุผลบางประการ กลับไปเป็นร่างกายที่ตายแล้วเหมือนเดิม นั่นเป็นอย่างเดียวที่ผมสามารถคิดในเรื่องนั้นได้

ถึง, กระนั้น---

"ขออนุญาตินะคะ, ท่าชิกิ"
พร้อมกับเสียงนั่นซึ่งผมเริ่มชินแล้ว ฮิซุยเข้ามาในห้อง

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ, ท่านชิกิ วันนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ?"
"อืม...... อ่า, ผมหลับสบายดี, เพราะแบบนั้นผมเลยไม่รู้สึกแย่แม้แต่น้อย"
"เป็นอย่างนั้นเหรอคะ? ฟังแล้วทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจขึ้นมากเลยค่ะ"
...... ถึงแม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น, แต่ผมไม่เห็นว่าเธอจะหย่อนไหล่ของเธอลง, หรือแสดงอาการบ่งบอกใดๆ ถึงมันเลยด้วยซ้ำ

"..............."
แต่ว่า, ผมก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก
เป็นเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน, คืนที่ยาวนานได้จบลง
เป็นเพราะว่าผมไม่ต้องเข้าไปในโลกที่ผิดธรรมดาอีกแล้ว, หัวใจของผมสามารถพักผ่อนได้

"...... ขอบคุณนะ, ฮิซุย เธอจะมาตรวจดูผมในตอนเช้าตรู่ทุกๆวัน, ใช่ไหม? การที่เธอเป็นห่วงผม มันมีความหมายมากสำหรับผม"

"----ไม่ใช่เลยค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว ที่จะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสวัสดิภาพของท่าน"
มันมีการบอกใบ้ถึงความสุขอยู่ในท่าทีการแสดงออกของฮิซุย




….. นอกจากนั้น, ผมรู้สึกว่าผมได้ถูกช่วยเอาไว้นิดหน่อย
ในขณะที่ผมนอนนอนหลับอยู่บนเตียงแบบนี้, ฮิซุยได้มาปลุกผมเหมือนกับทุกที
ด้วยสิ่งเล็กๆ น้อยๆนั่น, ผมรู้สึกจริงๆว่า ผมได้กลับมาสู่ชีวิตปกติธรรมดาของผมแล้ว
"เอ่อ...... ท่านชิกิคะ, นี่มันเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากสำหรับฉันที่จะพูดออกมา, แต่... ให้ฉันพูดออกมาได้ไหมคะ?"

"......? ลำบากที่จะพูดเหรอ? ถ้ามันเกี่ยวกับเรื่องที่ผมนอนหลับไปจนถึงเที่ยง, ผมทำอะไรไม่ได้จริงๆ นอกจากขอโทษ "

"ไม่ค่ะ, นั่นไม่ใช่เรื่องที่ฉันตั้งใจจะพูดถึง, แต่บางทีมันอาจจะเกี่ยวกับเวลาตอนที่ท่านไปนอนก็ได้"
ฮิซุยขยับนิ้วไปมาในขณะที่เธอพยายามสรรหาคำพูดที่ถูกต้องมาพูด

"...... เอ่อ, ฉันไม่ได้พูดอะไรไปเลยนะคะ, แต่ว่าท่านอากิฮะรู้เรื่องเมื่อคืนแล้ว"
"เอ๊ะ...... เรื่องเมื่อคืน...... อะไร?"
"ฉันหมายถึงตอนที่ท่านออกไปเมื่อคืนตอนดึกน่ะคะ, ท่านชิกิ"
"โอ๊ะ----"
ผมหลบตาเธอโดยที่ไม่รู้ตัว
ผมคิดว่าผมสามารถออกไปโดยที่ไม่ถูกจับได้ ได้สำเร็จ, แต่ผมควรจะรู้ไว้ว่ายังไงฮิซุยก็คงจะรู้อยู่ดี




"ท่านชิกิ, ท่านอากิฮะเริ่มสนใจเรื่องที่ท่านกลับมาดึกๆดื่นๆ แล้วค่ะ, เพราะแบบนั้นฉันเชื่อว่าในไม่ช้าก็เร็ว ท่านจะต้องโดนขอร้องให้อธิบายเรื่องของท่าน
ท่านอากิฮะอยู่ในห้องนั่งเล่นและบางทีอาจจะโกรธอยู่ด้วย, ดังนั้นกรุณาเตรียมตัวไว้ด้วยค่ะ"
"……. ผมเข้าใจแล้ว, ทำยังไงได้ล่ะ, ผมคงไม่สามารถบ่นอะไรได้, ในเมื่อมันเป็นผมที่ออกไปข้างนอกหลังเวลาปิดบ้านแล้ว"
"เกี่ยวกับเรื่องนั้น, มันจะเกิดขึ้นอีกเหรอคะ? ฉันไม่สามารถหยุดท่านได้ก็จริง, แต่ถ้าท่านยังคงทำเรื่องแบบนั้นต่อไป, ฉันจะต้องบอกท่านอากิฮะ"
"----ไม่, จะไม่มีอะไรแบบเมื่อคืนเกิดขึ้นอีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง...... ได้จบลงไปเมื่อคืน...... มันจะไม่มีโทรศัพท์มาอีกแล้ว"

---ใช่.มันได้จบลงไปจริงๆ
พร้อมกับคำพูดพวกนี้, มันได้สิ้นสุดลงไปอย่างแท้จริง
จะไม่มียูมิซึกะ ซัตสึกิอีกแล้ว
แวมไพร์ที่ซ่อนตัวอยู่ตามถนนได้หายไปแล้ว
ผม, ด้วยมือของผมเอง, ได้ทำให้เพื่อนร่วมห้องที่บอกว่าเธอชอบผมให้หายไป, ไปตลอดกาล

"........................"
ฮิซุยมองมาที่ผมพร้อมกับสีหน้าทุกข์ทรมานอยู่บนใบหน้าของเธอ
...... เฮ้อ, ถ้าฮิซุยทำหน้าแบบนั้น, ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ผมต้องดูแย่มากแน่นอน

"---เอาล่ะ, ผมควรจะลุกขึ้นมาในไม่ช้าก็เร็ว ฮิซุย, อากิฮะยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ? เธอเป็นคนที่ยุ่งมากๆ, เพราะแบบนั้นไม่ใช่ว่าวันหยุดเธอก็ต้องไปทำงานเหมือนทุกๆ วันหรอกเหรอ?"

"ค่ะ, ท่านอากิฮะมีกำหนดการที่จะต้องไปทำในวันหยุด, แต่ว่าวันนี้ท่านยังคงอยู่ในคฤหาสน์ "
".........?"
เธอมีกำหนดการที่ต้องไปทำ, แต่เธอยังอยู่ที่นี่งั้นเหรอ......?




"ผมค่อยไม่เข้าใจมันเท่าไรนัก, แต่...... อืม ผมจะเปลี่ยนเสื้อแล้วรีบไป, เพราะแบบนั้นช่วยล่วงหน้าไปห้องนั่งเล่นก่อนผมได้เลย"
"ค่ะ, ถ้าอย่างนั้น, ขอตัวก่อนนะคะ"
เหมือนทุกครั้ง, ฮิซุยเดินจากไปโดยมีไม่มีเสียง

---แต่, ผมลืมอะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆไป

"ฮิซุย"
"คะ? อะไรเหรอคะ, ท่านชิกิ?"
"ใช่, ผมลืมที่จะพูดอะไรบางอย่างไป ขอบคุณมากนะที่มาปลุกผม มันอาจจะช้าไปหน่อย, แต่อรุณสวัสดิ์นะ, ฮิซุย"




"---ค่ะ ขอให้เป็นวันที่ดีนะคะ, ท่านชิกิ"

ถ้าอย่างนั้น
ผมควรจะรีบมากขึ้นและไปเปลี่ยนเสื้อ, แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น

ในห้องนั่งเล่น, อากิฮะอยู่บนโซฟา, โคฮาคุซังอยู่ด้วยกับกับเธอ, และฮิซุยยืนอยู่ข้างๆกำแพง

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ, ชิกิซัง"
"อรุณสวัสดิ์, โคฮาคุซัง ขอโทษนะที่รบกวน, แต่รบกวนเธอช่วยหาอะไรให้ผมทานหน่อยได้ไหม? ผมเริ่มหิวเล็กน้อยแล้วเพราะนอนนานเกินไป"

"ได้ค่ะ, ฉันจะไปเตรียมมันให้เดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ, เพราะแบบนั้นช่วยรอแปบนะคะ"

โคฮาคุซังรีบวิ่งตั๊กๆ ออกไปทางห้องอาหาร




นั่นทำให้เหลือแค่อากิฮะกับฮิซุย , ซึ่งยืนอยู่โดยที่ไม่พูดอะไรราวกับรูปปั้น

"….. โย่ว อากิฮะ, รุณ'สวัสดิ์"
"........................."
อากิฮะเพียงแค่มองผมพร้อมกับท่าทางไม่พอใจบนใบหน้าของเธอ และไม่ได้ตอบกลับคำทักทายของผม

"............... อะ"
เหมือนอย่างที่ฮิซุยได้เตือนผมไว้เลย, ดูเหมือนเธอจะโกรธเรื่องเมื่อคืน
เธอบอกกับผมในตอนเช้าว่าการออกไปข้างนอกในตอนดึกๆ เป็นอะไรที่ห้ามทำ แล้วผลที่ออกมาก็คือผมยังออกไปข้างนอกตอนดึกๆอีก มันก็เป็นธรรมดาสำหรับเธอที่จะโกรธ

"อากิฮะ เมื่อคืน, มันเป็น---"

"พี่คะ นอนจนสายป่านนี้แล้ว... พี่กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่คะ?"
"เอ๊ะ---เอ่อ, อืม, พี่... ขอโทษ"

"...... เฮ้อ, หนูไม่ได้โกรธเรื่องนั้นนะคะ มันเป็นวันหยุดของพี่, แล้วพี่ดันเลือกที่จะนอนจนถึงป่านนี้ มันเป็นเพราะความขี้เกียจของพี่ที่ทำให้หนูโกรธค่ะ!"

พร้อมๆกับ "ฮึ่ม", อากิฮะหันหน้าไปทางอื่นอย่างโกรธเคือง
...... อืม, บางทีมันคงเป็นสิ่งที่ผมคิดไปเอง, แต่ใช้คำว่า "งอน" น่าจะดีกว่าคำว่า "โกรธ"

"อืม, พี่คงช่วยอะไรมันไม่ได้ พี่กลับมาดึกมากเมื่อคืน, และตัวพี่เองก็เหนื่อยมาก"

"นั่นเป็นความผิดของพี่เต็มๆ เลยค่ะ อยู่ข้างนอกจนเลยเที่ยงคืนไป... นั่นเป็นวิถีชีวิตแบบที่พี่ทำอยู่ตอนที่พี่อยู่ที่บ้านอาริฮะเหรอคะ, พี่!?"
"อะ...... พี่เข้มงวดกับกฎระเบียบของที่นั่นด้วย, เหมือนกัน พี่ไม่ได้รับอนุญาติให้ออกไปหลังเที่ยงคืน, แล้วก็......"

"โอ๊ะ, นั่นมันเป็นอย่างนั้นนี่เอง ที่บ้านอาริมะ, พี่ทำตามกฎ, แต่พี่มาที่นี่แล้วก็แหกกฎเหรอคะ?
...... ถ้าให้พูดในอีกทางหนึ่งก็คือ, พี่ไม่แม้แต่จะทำตามคำขอร้องง่ายๆของหนู? ถ้าเป็นกรณีแบบนั้น, หนูอาจจะต้องใช้วิธีการลงโทษแล้วล่ะคะ"
ความโกรธจากความตั้งใจของเธอได้แผ่ซ่านออกมาจากดวงตาของเธอด้วยเช่นกัน
...... ผมควรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงดี? เธอแค่พูดเล่นเฉยๆ, แต่เธอไม่ได้พูดเหมือนกับว่าเธอกำลังล้อเล่นอยู่, และมันเหมือนเป็นการขู่พอสมควร




"….. ลงโทษ อากิฮะ? เธอกำลังขู่พี่อยู่เหรอ"
"นั่นแค่ยกตัวอย่างค่ะ อยู่จนดึกมากจริงๆอย่างนั้นแล้วก็นอนหลับไปจนกว่าจะอยากตื่นขึ้นมาเอง? แน่นอน หนูควรจะเข้มงวดให้มากๆ"
อากิฮะพึมพำให้ได้ยินอย่างชัดเจน
..... ผมเกลียดที่จะต้องยอมรับมัน, แต่ว่าเธอเป็นฝ่ายถูก

"อีกเรื่องหนึ่ง, พี่คะ พี่ไม่ควรจะให้ฮิซุยมาปลุกในตอนเช้านะคะ?
มันยังดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์, แต่ทุกๆครั้ง, ทุกครั้งพี่จะนอนขี้เกียจอยู่บนเตียงนานเกินไป, ค่ะพี่"
"...... เอิ่อ, อากิฮะ บางทีพี่อาจจะไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดมันออกมา, แต่มันไม่ใช่ว่าที่พี่นอนเพราะว่าพี่อยากจะนอนนะ"

"อะไรกันคะ? ถ้าอย่างนั้นทำไมทุกๆ ครั้งพี่ถึงได้หลับจนถึงนาทีสุดท้ายในทุกๆ เช้าได้คะ? พี่ไม่รู้หรอกว่าหนูรู้สึกยังไงในตอนที่หนูต้องรอพี่จนถึงนาทีสุดท้าย, แล้วก็----"




"ท่านอากิฮะคะ"
"อ๊ะ-----"
"..........?"
บรรยากาศที่น่ากลัว, คุกคาม เมื่อกี้หายไปไหนกัน? ในทันทีนั้นเอง, อากิฮะได้ตกลงไปสู่ความเงียบ

"เฮ้, อากิฮะ พี่พูดไปก่อนหน้าแล้วนี่, ว่าเรื่องที่พี่ตืนมาตอนหลังที่มันเลยเจ็ดโมงเช้าไปแล้วมันไม่ใช่ความตั้งใจของพี
แม้ว่าพี่อยากจะตื่นให้เช้ากว่านี้, แต่ร่างกายของพี่ไม่ฟังในสิ่งที่พี่บอกมันไป
ถ้าเธออยากจะช่วยให้พี่ตื่นเช้ากว่านี้, ช่วยซื้อนาฬิกาปลุกที่แรงมากจริงๆ ให้พี่ที พี่แน่ใจว่านั่นจะทำให้พี่ตื่นได้แน่นอน"

"...... อ่า, พี่คะ? บางทีนี่อาจจะดูเป็นคำถามโง่ๆ นะคะ, แต่พี่เคยบอกฮิซุยรึเปล่าคะว่าพี่อยากให้เธอไปปลุกตอนไหน?"
"----อ๊ะ"
นั่นก็จริง, ผมลืมอะไรที่มันง่ายขนาดนั้นไปเลย

"โอ๊ะ ใช่ ฮิซุยจะมาปลุกพี่ทุกๆเช้า, ดังนั้นมันคงไม่เป็นไรสำหรับเธอที่จะทำแบบนั้น
ถ้าอย่างนั้น... ฮิซุย, เธอช่วยปลุกผมตอนหกโมงครึ่งทุกๆ เช้าได้ไหม? มันคงจะช่วยผมได้มากเลย......"
ผมหมุนไปข้างหลังเพื่อที่จะมองหน้าฮิซุย
เธอจ้องกลับมาที่ผมในทันที

"ฉันขอปฏิเสธค่ะ"
"เอ๊ะ?"

"อภัยให้ฉันด้วยนะคะ, แต่ฉันปฏิเสธที่จะไปปลุกท่านค่ะ, ท่านชิกิ"
"อืม, เอ่อ--"

ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ความตกตะลึงทำให้สมองผมหยุดทำงานไปชั่วคราว

มองดูในสถานการที่เกิดขึ้น , อากิฮะก็อ้าปากค้างไปที่ฮิซุยอย่างตกตะลึกด้วยเหมือนกัน

"ฮิซุย, ทำไมเธอถึงไปปลุกพี่ไม่ได้เหรอ?"

"ฉันไม่อาจรับหน้าที่ ที่ฉันทำไม่สามารถทำให้สำเร็จไปได้ค่ะ
ฉันไม่คิดว่าฉันจะสามารถปลุกท่านชิกิได้ด้วยความสามารถที่ฉันมีอยู่หรอกนะคะ"
"----ทำไม่ได้เหรอ? ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ"
ผมไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งกับการสนธนาของพวกเธอ
ฮิซุยยังคงจ้องมาที่ผมต่อไป




"ในสามวันที่ผ่านมา, ความพยายามทั้งหมดของฉันมันไร้ผลค่ะ
ท่านชิกิ, ท่านจำได้ไหมคะ ว่าเช้านี้ฉันเรียกชื่อท่านไปมากขนาดไหน? "

"ไม่, ผมจำไม่ได้----ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของเธอเหรอ? ผมคิดว่าผมตื่นขึ้นมาด้วยตัวเองนะ......"
"นั่นหมายความว่า นี่มันไม่มีแม้แต่ความทรงจำที่ว่าฉันไปเรียก ----ท่านอากิฮะคะ, นั่นเป็นสถานการที่เกิดขึ้นค่ะ"

"โอ๊ะ, เข้าใจแล้ว," อากิฮะพูดและมองมาที่ผมอย่างขบขัน
...... ผมจะพูดเรื่องนี้ยังไงดี...... มันคงดูเหมือนว่าจุดยืนของผมที่นี่จะต่ำลงพอสมควร

"พูดสั้นๆ, เธอพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อจะปลุกพี่, แต่พี่ไม่ตอบสนองเลยแม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ---มันเป็นอย่างนั้นใช่ไหม, ฮิซุย?"
ฮิซุยพยักหน้าอย่างเงียบๆ

".................."
ผมพยักหน้าแบบเงียบๆ ด้วยเช่นกัน
...... เข้าใจแล้ว ความจริงก็คือ, ฮิซุยพยายามที่จะปลุกผมในตอนเช้าตรู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ผมไม่อยากจะเป็นคนพูดมันเองนัก, แต่ผมต้องเก่งมากในเรื่องการนอนหลับจริงๆนั่นล่ะ

".........พี่คะ ทำไมพี่ดูเหมือนจะภูมิใจในตนเองอย่างนั้นล่ะคะ?"
"ไม่มีอะไร พี่ก็แค่แปลกใจที่รู้ว่าการปลุกพี่มันเป็นเรื่องยากขนาดไหน"
"...... อืมม หนูเข้าใจแล้วค่ะ ฮิซุย, เหมือนทุกที, ช่วยพยายามลองปลุกพี่เท่าที่เธอจะทำได้นะ"
ฮิซุยพยักหน้ายอมรับ

ดูเหมือนว่าบทสนธนาได้จบลงไปแล้ว
สุดท้าย, บางทีมันอาจกลายจะเป็นว่าผมจะตื่นขึ้นมาในตอนที่ผมอยากตื่นอีกครั้ง




"นี่, ว่าแต่,ฮิซุย? "
"คะ, อะไรเหรอคะ? "
"เอ่อ, พี่ไม่ตื่นจริงๆเหรอ? ถึงแม้ว่สเธอจะเรียกชื่อพี่, พี่ก็ไม่ตอบสนองอะไรเลยเหรอ"
"---ใช่ค่ะ ท่านชิกินอนได้เงียบมากๆ, แล้วยังนอนหลับเหมือนกับเป็นรูปปั้น"
"……………?"
….. เหมือนกับรูปปั้น? อะไร?

"โอ๊ะ? ดูท่าทางพี่จะมีท่านอนที่เยี่ยมมากๆ, สินะ?"

"ไม่ใช่ค่ะ, มันไม่ใช่แบบนั้น---ฉันจะพูดมันยังไงดี... อ่า, ท่านชิกิดูเหมือนกับเป็นคนอื่น ที่ต่างออกไปอย่างสมบูรณ์ในตอนที่ท่านนอนหลับ
ฉันไม่เคยเห็นใบหน้าที่นอนหลับอย่างสงบแบบนั้นมาก่อนเลย, เพราะแบบนั้นในตอนที่ฉันเป็นท่านชิกิครั้งแรก, ฉันคิดไปว่าท่านตายจากไปแล้ว, ฉัน---"




"เพราะแบบนั้น มันเลยไม่ใช่ว่าท่านชิกิปลุกให้ตื่นยาก แต่นั่นมันเหมือนจะเป็นการหยาบคายมากๆที่จะทำแบบนั้น, ดังนั้นฉันเลยช่วยอะไรไม่ได้นอกจากปลุกอย่างอ่อนโยนค่ะ
ในตอนที่ท่านชิกิกำลังจะตื่นขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง, ความอบอุ่นได้กลับมาสู่ใบหน้าขาวซีดของท่าน, และฉันก็จะรู้ว่าท่านจะตื่นขึ้นมาในเร็วๆนี้, แต่ว่า---"
ในขณะที่เธอก้มหน้า, ฮิซุยพูดเรื่องที่ผมเป็นยังไงในตอนที่ผมนอนหลับ

"..............."
...... ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรู้สึกเขินอาย
พอมาคิดเรื่องนั้นแล้ว, คนที่กำลังนอนหลับอยู่นั้นไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง, และหลังจากที่ฟังการอธิบายนั่น, ใบหน้าผมแดงราวกับเธอได้พูดว่าเธอเห็นผมโป๊อยู่ยังไงอย่างงั้น

ฮิซุยจมลงไปสู่ความเงียบ, และอากิฮะพยายามไม่มองมาทางผมอย่างเห็นได้ชัด

"............"
บรรยากาศเริ่มหนักขึ้น, เล็กน้อย




"ขอบคุณนะคะที่รอ! ชิกิซัง, ข้าวเช้าเสร็จแล้วค่า! "
เสียงอันสดใจร่าเริงมากู้สถานการไว้ได้

"ขะ, ขอบคุณ อืม, ผมจะไปกินแล้ว! "
"ค่ะ, เชิญทานตามสบายเลยนะคะ"
หลังจากที่หันหลังกลับไปหารอยยิ้มของโคฮาคุซัง ผมมุ่งหน้าไปยังห้องอาหารเพียงลำพัง

หลังจากผมกินข้าวกลางวันแล้ว, อากิฮะกับฮิซุยก็ยังคงอยู่ในห้องนั่งเล่น
มันคงจะไม่ดีนักถ้าผมจะไม่สนใจพวกเธอและกลับไปที่ห้องของผม, ดังนั้นผมเลยนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับอากิฮะ

"นี่ค่ะ, ชิกิซัง คุณชอบชาเขียว, ใช่ไหมคะ?"
โคฮาคุซังวางชาหลังอาหารลงบนโต๊ะข้างๆผม
"อืม, ขอบคุณนะ ถ้าเธอไม่รังเกียจ, ถ้างั้น"
"ไม่, ไม่เลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ นี่เป็นบ้านของคุณนะ, เพราะแบบนั้นนั้นช่วยทำตัวตามสบายกว่านี้หน่อยนะคะ"
โคฮาคุซังต้องพยายามทำให้ผมรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่แน่นอน เพราะเธอดูแลผมดีมาก




"….. เฮ้อ, ผมคิดว่าผมชินกับที่นี่แล้ว ผมยังดูเครียดๆ อยู่อีกเหรอ? "
"ใช่ค่ะ, แต่ก็แค่นิดหน่อย ไหล่ของคุณดูเหมือนจะเกร็งๆ ไปหน่อย, ฉันไม่ได้กำลังพูดว่าคุณควรจะเป็นเหมือนกับก่อนหน้านะคะ, แต่คุณสามรถที่จะทำตัวตามสบายกว่านี้ได้แน่นอนค่ะ"

"โคฮาคุ, เธอไม่ควรจะไปขัดขวางพี่นะ
พี่ไปใช้ชีวิตเฉื่อยชายังกับตัวสลอธที่บ้านอาริมะนานมาก, มันคงจะดีกว่าสำหรับพี่ที่จะเครียดในตอนแรก"




"ฮิฮิ ท่านอากิฮะ, ท่านเข้มงวดกับชิกิซังจริงๆ, ใช่ไหมคะ? "
"ชั้นก็ไม่อยากจะเข้มงวดนักหรอกนะ นั่นมันเป็นเพราะว่าพี่ชอบเหม่อลอย, ชั้นเลยต้องมาคอยระวังเรื่องของพี่ๆ"

"......... ฮะ?"
ผมตกใจเล็กน้อย
ในตอนที่อากิฮะพูดกับโคฮาคุซัง, มันไม่มีความเย็นชาเหมือนปกติของเธอแฝงอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
บางทีมันคงเป็นเพราะพวกเธออายุใกล้กันมาก, แต่พวกเธอดูเหมือนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากจริงๆ

"........."

ผมเหลือบตามองไปที่ฮิซุย
ในเมื่ออากิฮะไล่คนรับใช้คนอื่นๆ ออกไปหมดนอกจากฮิซุยกับโคฮาคุซัง, ผมคิดว่าฮิซุยต้องได้รับความไว้วางใจจากอากิฮะเหมือนกัน

แต่, ในเมื่อบุคลิกของโคฮาคุซังตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง, ผมรู้สึกว่ามันคงไม่มีการพูดคุยกันมากนักระหว่างอากิฮะกับฮิซุย


"มีอะไรให้รับใช้ไหมคะ, ท่านชิกิ?"
ฮิซุยนึกได้ว่าผมกำลังมองไปที่เธอและได้ถามผมว่ามีอะไรให้เธอช่วยไหม

"ไม่, มันไม่มีอะไร ผมแค่กำลังคิดว่าเธอนิ่งมากจริงๆ "

"---ใช่ค่ะ มันเป็นอะไรบางอย่างที่ท่านมากิฮิสะได้สอนฉันค่ะ"

เธอตอบมาอย่างชัดเจนมากๆ
...... คำตอบของเธอชัดเจนมากๆ, ผมไม่สามารถที่จะต่อการบทสนธนาออกไปแล้วเลย

".................."
ความเงียบที่น่าอึดอัดใจได้ตามมา




เหมือนกับว่าเธอรู้สึกได้ถึงเรื่องนี้, โคฮาคุจึงซังเริ่มการสนธนาขึ้นมา

"ชิกิซัง มันจะเป็นอะไรไหมคะ ถ้าฉันจะถามอะไรซักหน่อย?"
"เอ๊ะ---อ๊ะ, อื้อ อะไรเหรอ?"
"ดูเหมือนว่าเมื่อคืนคุณจะออกไปอีกแล้วนะคะ, เพราะแบบนั้นชั้นเลยกำลังสงสัยว่าปกติแล้วคุณมีกำหนดการอะไรที่ต้องไปทำทุกๆ คืนด้วยเหรอคะ"

"อะ ---ไม่, ผมไม่มีอะไรแบบนั้นทั้งนั้น สองวันที่ผ่านมามันแค่เป็นอะไรที่ไปพิเศษกว่าปกติ "

ผมมองไปที่ฮิซุย

เธอแค่มองดูเราสองคนอย่างเงียบๆ

"ไม่เป็นไร, โคฮาคุซัง ผมจะไม่ออกไปข้างนอกตอนดึกๆ อีกแล้ว อีกอย่าง, ผมไม่ใช่เด็กแล้วด้วย, ดังนั้นมันจึงไม่อันตรายหรืออะไรทั้งนั้น"

"โอ๊ะ! คุณยังคงพูดอะไรแบบนั้นอยู่อีกรึคะ, ชิกิซัง!? ฮิซุยจัง, เธอไม่รู้สึกเหมือนกันเหรอ?"

"มันก็เป็นอย่างที่พี่พูดล่ะค่ะ ท่านชิกิ, ท่านเป็นลูกชายคนโตของตระกูลโทวโนะ, เพราะแบบนั้นช่วยกรุณาละเว้นจากการทำอะไรโดยไม่ระมัดระวังด้วยค่ะ"
"เห็นมั้น, แม้แต่ฮิซุยจังก็ยังโกรธ คุณเป็นโรคโลหิตจางนะ, เพราะอย่างนั้นคุณไม่ควรที่จะหักโหมตัวเองนะคะ, เข้าใจไหมคะ?
ชั้นก็ได้รับการบอกเรื่องนี้มาจากแพทย์ส่วนตัวของคุณด้วยเหมือนกันค่ะ, ชิกิซัง"
"...... อืม, นั่นมันก็จริง, แต่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ออกไปข้างนอกตอนกลางคืน ถ้าผมเดินไม่ได้ด้วยตัวเอง, ผมก็ไม่ควรไปโรงเรียนด้วยเหมือนกัน, ใช่ไหม?"

"มันเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกันค่ะ ในช่วงกลางวันข้างนอกมันสว่างและคนอื่นก็สามารถช่วยคุณได้, ใช่ไหมคะ? แต่ในตอนกลางคืนมันต่างกัน ทั้งหมดมันเป็นเพราะแวมไพร์ฆาตกรเมื่อเร็วๆนี้, ดังนั้นถ้าคุณออกไปข้างนอกแล้วล้มลงไป, คุณคิดว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นคะ?"
"อ๊ะ............"




โดยไม่ทันได้คิด, ร่างกายของผมสั่นสะท้าน
"...... ไม่, ไม่เป็นไร, โคฮาคุซัง มันจะไม่มีแวมไพร์ออกมาอีกต่อไปแล้ว ...... เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั่น, มันจะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป"

เป็นเพราะว่ายูมิซึกะ ซัตสึกิ... ไม่ได้อยู่ในโลกนี้อีกต่อไปอีกแล้ว

"โอ๊ะ? นั่นจริงเหรอคะ, ท่านอากิฮะ?"

"ชั้นไม่เคยได้ยินอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย คนที่จะต้องถามคงเป็นพี่มากกว่า, ในเมื่อพี่ดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างกับเรื่องนั้น
โอ๊ะ ใช่, มันมีเหยื่อจากโรงเรียนของพี่ด้วยนะ, พี่ ปีสองห้องสามมันเป็นห้องของพี่, ใช่ไหมคะ?"
"เอ๊ะ......? มันไม่มีเหยื่อจากห้องของพี่เลยนะ"

"อ๊ะ, ชิกิซัง, คุณยังไม่ได้ดูข่าวของเช้านี้เลย เมื่อคืน, พวกเขาพบเลือดจำนวนมากของใครบางคนที่ชื่อว่ายูมิซึกะ ซัตสึกิ ในตรอกที่อยู่ห่างออกไปจากถนนหลัก

ดูเหมือนว่าเลือดจะอยู่ตรงนั้นมาครู่หนึ่งแล้ว, แต่จากปริมาณของเลือดตรงนั้น, พวกเขาเลยพูดกันว่าเธอคงตายไปแล้วมากกว่า"

"-------"
...... หัวใจของผมเริ่มเต้นอย่างรุนแรง
ในความจริงที่ว่ายูมิซึกะ ซัตสึกินั้นตายไปแล้ว, ผมรู้ดีกว่าใครทั้งหมด
แต่ในตอนที่พวกเธอพูดว่าเธอตายไปแล้ว, สำหรับผมมันฟังดูเหมือนกับว่า, "คุณฆ่าเธอไป, ใช่ไหม?" ----


"---พี่คะ? เป็นอะไรไปคะ, พี่ดูซีดมากจริงๆ"
"---ไม่, มัน, ไม่มีอะไร ---"

อารมณ์ของผมเริ่มห่อเหี่ยว
ต้องขอบคุณฮิซุย, หัวใจของผมเริ่มสงบลงไปได้แล้ว, แต่แค่พูดคุยแค่นี้, ผมก็จวนเจียนจะล้มลงไปแล้ว หัวใจผมอ่อนแอถึงขนาดนี้จริงๆเหรอ?




"ทุกคน คืนนี้มาจัดงานเลี้ยงต้อนรับกันเถอะ! "
โดยที่ไม่ทันได้คาดคิด
โคฮาคุซังประกาศเสียงดัง

-----ฮะ?
อากิฮะกับผมพูดในสิ่งที่เหมือนกันออกมาดังๆ, และแม้แต่ฮิซุยยังเอียงหัวของเธอเล็กน้อย




"งานเลี้ยงต้อนรับสำหรับชิกิซัง! ทุกคนอยู่พร้อมกันที่นี่, และพวกเรายังไม่ได้ฉลองที่ชิกิซังมาถึงเลย
ดังนั้น, คืนนี้ควรจะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับของชิกิซัง"
"ถูกใช่ไหมคะ? " โคฮาคุซังมองมาที่ผมและก็ยิ้ม

".............."
..... บ้าน่า
ทำไมฮิซุยกับโคฮาคุซังสามารถอ่านความรู้สึกของผมได้กันนะ?




"ท่านอากิฮะ, นั่นมันยอมรับได้ใช่ไหมคะ? ถ้าคุณอนุญาติมัน, พวกเราจะสามารถเริ่มเตรียมการได้ในทันที"
"ได้สิ, ในที่สุดพี่ก็กลับมาและพวกเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย ชั้นว่ามันคงเป็นความคิดที่ดี ฮิซุย? เธอก็เห็นด้วย, ใช่ไหม? "
"อ๊ะ---ใช่คะ, ถ้ามันยอมรับได้สำหรับท่านชิกิ ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นอะไรที่แย่หรอกค่ะ"
ทั้งสามคนหันมาจ้องที่ผม
ผม---

1. ไม่, ผมไม่รู้สึกชอบมันจริงๆ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น