Chapter 1 (Part 13) : คำขอบคุณ
- Epilog -
หลายวันต่อมา
หลังจากวันนั้นฟุคิงามิ ชินจิก็ตามเช็คข่าวทุกวัน
ทว่า การตายปริศนาของเชฟโมริยาสุ อาคิโอะก็ไม่ได้กลายเป็นข่าวแต่อย่างใด
ตำรวจคงมีการจัดการเรื่องนั้นกันภายใน
ส่วนร้านฟอร์ซา
ซากุระโนะโมรินั้นก็ปิดตัวลง แล้วพอผ่านไปไม่นานก็มีกระดาษมาแปะว่าที่ว่างให้เช่า
ที่นั่งของโทโนะ วันนี้ก็ยังว่างอยู่เช่นเคย
พ่อแม่ของเธอกำลังรอคอยการกลับมาของลูกสาวอยู่รึเปล่านะ ?
นับจากตอนนั้นเธอก็ไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็นอีกเลย
เธอเป็นยังไงบ้างนะ ไปสู่สุคติแล้วหรือเปล่านะ
เขามีแฟนเป็นวิญญาณแท้ๆ
แต่กลับไม่ค่อยรู้เรื่องทางนั้นมากเท่าไรนัก
หากถามไป เธออาจจะตอบให้ก็เป็นได้
ทว่า เขากลับรู้สึกว่าตนไม่ควรรับรู้เรื่องนี้
จึงไม่ได้ทำเช่นนั้น
เด็กหนุ่มรู้ตัวดีอยู่แล้วว่ามาโดกะเองก็ใช่ว่าจะอยู่กับเขาไปตลอด
ทั้งที่เข้าใจอยู่แล้ว
แต่…
“ไม่กลับเหรอ ?”
อาคิสึ มาโดกะ แฟนสาวของเขาทัก
คงเป็นเพราะเธอเห็นเขานั่งเหม่ออยู่คนเดียวมาตั้งแต่ตอนคาบสุดท้ายจบลง
“กลับสิ”
เด็กหนุ่มกล่าวแล้วเดินออกไปจากห้องเรียนที่ไร้ผู้คน
“เอ๊ะ……? คุเรฮะจังไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ”
เด็กสาวเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังเดินออกจากโรงเรียน
“? ที่ไหนเหรอ ?”
“ดาดฟ้า”
“…………”
ชินจิมองตามขึ้นไป
ตรงนั้น คิริโต้ คุเรฮะ
เพื่อนร่วมชั้นของเขายืนอยู่ข้างราวเหล็กและกำลังทอดสายตามองออกไปที่ไกลๆ
ใบหน้าของเธอดูหม่นหมอง
เห็นแล้วเขาก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมานิดหน่อย
“ลองไปดูเป็นไง ?” แฟนสาวของเขาแนะนำ
“อืม……งั้นเอาแบบนั้นละกัน”
เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดขึ้น
เด็กสาวที่กำลังมองออกไปที่ไกลๆก็หันมา
พอเห็นว่าเป็นเขา
เธอก็ตกใจเล็กน้อย
“รู้ดีจังเลยนะ” เพื่อนร่วมชั้นสาวทักเขา
“บังเอิญน่ะ บังเอิญ”
พอเขาพยักหน้าตอบไป เธอก็ทอดสายตามองออกไปที่ไกลๆอีกครั้ง
“สีหน้าดูไม่ดีเท่าไรเลยนะ”
“อื~ม……”
“ทั้งที่คลี่คลายคดีได้แล้วแท้ๆ”
“นั่นสินะ……แต่ก็เพราะแบบนั้นล่ะ”
“เอ๊ะ ?”
“ชั้น
ทุกครั้งที่คลี่คลายคดีได้จะต้องเป็นแบบนี้น่ะ……จะว่ายังไงดีล่ะ รู้สึกว่าความพยายามไร้ผล……หรือสิ่งที่ทำสูญเปล่า”
“……หมายความว่ายังไงเหรอ ?”
เด็กสาวหันหลังพิงราวเหล็กเบาๆ แล้วเริ่มเล่าความในใจออกมา
เธอบอกว่าในตอนที่อีกฝ่ายกลายเป็นเป้าหมายที่ซากุระโนะโมริดรีมเมอร์สต้องจัดการ
ผู้เคราะห์ร้ายก็ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว
แต่ถ้าแค่นั้นก็เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป
คดีฆาตกรรมที่ปู่ของเธอเคยดูแลสมัยเป็นตำรวจก็ใช่
ทว่า
ในกรณีนั้นหากคลี่คลายได้ก็ยังได้รับคำขอบคุณจากครอบครัวของผู้ตาย
แต่สำหรับซากุระโนะโมริดรีมเมอร์สแล้วไม่มีสิ่งแบบนั้น
เด็กสาวไม่ได้ต้องการให้ใครมาขอบคุณ
ครอบครัวของผู้ตายไม่มีสิทธิได้รับรู้แม้แต่ความจริงที่ว่าผู้ตายถูกฆาตกรรม
เพราะแบบนั้นจึงไม่มีวันโล่งใจที่คดีคลี่คลายได้
ความจริงนั้นทำให้เธอต้องถามตัวเองทุกครั้งไปว่าเธอพยายามไปเพื่ออะไรกันนะ
เด็กหนุ่มฟังเด็กสาวเล่าจนจบ แล้วเอ่ยขึ้น…
“……ชั้นเองก็คิดแบบเดียวกัน”
“งั้นเหรอ” เพื่อนร่วมชั้นสาวยิ้มจางๆ
เขาเคยลองคิด แต่ไม่พบคำตอบ จึงเลิกคิดเรื่องนั้นไป
คุเรฮะคงคิดเรื่องนั้นมาตลอด
ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่พบคำตอบ…
“……งั้นชั้นไปแล้วนะ” เขาบอกลา
เธอพยักหน้าให้อย่างเงียบๆ
ในตอนนั้นเอง…
“ชะ……ชินจิ !
ชินจิ !” มาโดกะเรียกเขาด้วยท่าทางรีบร้อน
พอเด็กหนุ่มหันกลับไปตามเสียงเรียกก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า
เขารีบกลับมายังราวเหล็กที่เพื่อนร่วมชั้นยืนพิงอยู่ทันที
“เอ๊ะ ?
มี……อะไรเหรอ” คุเรฮะแสดงท่าทีตกใจออกมา
ตรงนั้น
เลยราวเหล็กไป…
โทโนะ คานะอยู่ที่นั่น
“โทโนะล่ะ…” เขาบอกกับคุเรฮะ
“เอ๊ะ……ตอนนี้……อยู่เหรอ ? ตรงนั้นน่ะ……” เธอฟังแล้วก็รีบหันมาทันที
“อา……”
เขาตอบคุเรฮะแล้วตะโกนเรียกชื่อของเพื่อนร่วมชั้นผู้ล่วงลับ
“โทโนะ……!”
อีกฝ่ายเป็นเด็กสาวที่ตอนมีชีวิตเขาไม่เคยคุยด้วยมาก่อน
แต่ตอนนี้เขากลับตะโกนเรียกเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
“อ๊ะ……ชั้นเองก็……สัมผัสได้……ไม่รู้ทำไม……ถึงจะมองไม่เห็น……”
“……แต่ว่าความรู้สึกอบอุ่นมัน……ส่งมาถึง……”
คุเรฮะเองก็สัมผัสได้ว่าโทโนะอยู่ตรงนั้นเช่นกัน
“โทโนะ……กำลังยิ้มอยู่” เด็กหนุ่มบอก
“ที่ผ่านมาชั้นเคยเห็นใบหน้าของเธอแค่อย่างเดียว
เป็นใบหน้าที่มืดมน……เหมือนกับทรมานอยู่ตลอด……แต่ตอนนี้……เธอกำลังยิ้มอยู่”
“งั้นเหรอ” น้ำเสียงของคุเรฮะสั่นเล็กน้อย
โทโนะทำท่าเหมือนกับจะพยายามบอกอะไรบางอย่าง
โดยปกติแล้วจะไม่สามารถพูดคุยกับวิญญาณได้
ทว่า มีกรณียกเว้นอยู่
ในยามที่วิญญาณมีความรู้สึกแรงกล้าที่จะเล่าอะไรบางอย่างออกมา
เสียงนั้นจะส่งมาถึงเขา
“โทโนะ……!” เด็กหนุ่มตะโกน
“……ขอบคุณนะ……”
เสียงของเพื่อนร่วมชั้นผู้ล่วงลับได้ส่งมาถึงเด็กหนุ่ม
ตามมาด้วยแสงสว่างลานตา
โทโนะ
คานะหายไปในแสงสว่างนั้น
“…………”
“…………”
“ไปแล้วเหรอ”
“อื้ม……โทโนะยิ้มตลอดจนถึงตอนสุดท้ายเลยน่ะ”
“งั้นเหรอ……”
“แล้วก็บอกว่า ‘ขอบคุณนะ’ ด้วยนะ”
“…………”
“ดูเหมือนจะพบ……คำตอบ……แล้วนะ”
ใบหน้าของคิริโต้ คุเรฮะนั้นสดใส ผิดกับเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
“……อา……”
ฟุคิงามิ
ชินจิเองก็เช่นกัน
“ดีจริงๆที่ได้เธอมาเป็นพวกพ้อง……”
คุเรฮะยิ้มด้วยรอยยิ้มที่สดใสราวกับดวงตะวัน
“ถ้างั้น……ชั้นไปก่อนนะ”
“อืม……อ๊ะ เดี๋ยวก่อน”
“ชั้นเองก็จะกลับด้วย……ช่วยไปด้วยกันจนถึงป้ายรถเมล์ได้ไหม”
เด็กสาวยิ้มด้วยท่าทางเขินอาย
ขอจบการ Spoil เพียงเท่านี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น