[Spoil] Chapter 1 (Part 4)

posted on 6/04/2563 02:00:00 ก่อนเที่ยง by VermillionEnd Categories:
Chapter 1 (Part 4) : ซากุระโนะโมริดรีมเมอร์ส

เช้าวันต่อมา
ที่นั่งทุกที่ในห้องเรียนล้วนมีนักเรียนนั่งจับจองอยู่ เว้นแต่เพียงที่หนึ่ง
ชินจิจับจ้องไปยังที่นั่งของโทโนะ
นาย เมื่อวานก็สนใจที่นั่งของโทโนะสินะ ?  แอบชอบอยู่จริงๆเหรอ ?” มีเสียงทักจากเพื่อนผู้ชาย
แต่เด็กหนุ่มก็เพียงส่ายหน้า

จังหวะนั้นเอง เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังมองเขา
พอหันไป คุเรฮะก็ยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะกลับไปนั่งหลังตรงมองไปข้างหน้าเหมือนเดิม
บรรยากาศในห้องเรียนยามเช้านั้นครึกครื้น นักเรียนส่วนใหญ่จะคุยเล่นกันบ้าง เล่นมือถือบ้าง มีเพียงส่วนน้อยบางคนที่จริงจังเท่านั้นที่จะนั่งอ่านหนังสือเรียน นอกนั้นก็ยังมีกลุ่มหนึ่งที่กำลังทำการข่มเหงรังแกอยู่ตรงมุมห้อง
ทว่า ตัวคุเรฮะกลับไม่ได้กลมกลืนไปกับบรรยากาศเหล่านั้น รอบตัวเธอนั้นราวกับเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ใช่ห้องเรียน
เธอเพียงนั่งเรียบร้อยหลังเหยียดตรงมองตรงไปข้างหน้า
จึงดูโดดเด่นขึ้นมา
แต่ก็ไม่ใช่ว่าโดดเดี่ยวจากสังคมรอบข้าง เธอเอ่ยคำทักทายเมื่อมีนักเรียนหญิงที่รู้จักเดินผ่าน
เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ตนไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลยจนถึงเมื่อวาน




เอ้า นั่งที่ได้แล้วครูสึคาดะเดินเข้ามา จากนั้นก็เริ่มทำการเช็คชื่อ
ครูบอกว่าโทโนะจะหยุดเรียกสักพัก
เอ๋ ทำไมล่ะคะ ครู ?” นักเรียนหญิงที่รู้จักกับโทโนะถาม
ครูสึคาดะเลยบอกไปว่าทางโรงเรียนก็ไม่รู้ละเอียดอะไรเท่าไร แค่ผู้ปกครองแจ้งมาแบบนั้น
แปลว่ายังหาร่างของโทโนะไม่พบ
แค่หายตัวไปเฉยๆ พ่อแม่คงไม่คิดว่าลูกสาวจะตาย แล้วก็ไม่อยากจะคิดด้วย
โทรไปก็ไม่ติดค่ะ เมื่อวานลองดูหลายรอบแล้ว……” นักเรียนหญิงบอก
โทรศัพท์งั้นเหรอ……ทางโรงเรียนเองก็ลองโทรไปด้วยดีไหมนะ……” ครูครุ่นคิด

แล้วในตอนนั้นเองก็มีใครบางคนพูดขึ้น
ไม่ใช่ว่าโดนผีลักซ่อนไปซะแล้วหรอกเหรอ
บรรยากาศในห้องเรียนเปลี่ยนไปทันที
จากนั้นก็มีเสียงซุบซิบดังขึ้นไปทั่ว
จะว่าไป ซากุระโนะโมริเนี่ยมีคนหายเยอะเนอะ……”
คุณภรรยายังสาวที่อยู่ข้างบ้านเองก็หายไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเหมือนกัน เห็นพ่อแม่พูดกันอยู่ว่านอกใจรึเปล่าอะไรทำนองนั้นน่ะ แต่ว่า……”
ใช่เลย หลังๆมานี้มีเรื่องแปลกๆเยอะนะ อย่างก่อนหน้านี้เห็นว่ามีกางเกงพละของนักเรียนหญิงปี 1 ถูกขโมยด้วยล่ะ
เอ่อ อันสุดท้ายมันไม่เกี่ยวกันไม่ใช่เหรอ……”

ใช่แล้ว ที่เมืองซากุระโนะโมริแห่งนี้ไม่ได้มีแค่คดีหรืออุบัติเหตุแปลกๆ ยังมีเรื่องแปลกๆอยู่อีกอย่างคือผีลักซ่อน
อยู่ๆวันหนึ่งคนก็หายไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยที่ไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นอะไรทั้งสิ้น
เช่นเดียวกับคดีและอุบัติเหตุ คนหายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ว่าที่ไหนก็มีก็จริง แต่ที่ผิดปกติคือจำนวน
ดูเหมือนที่เมืองซากุระโมริแห่งนี้จะมีคนหายสาบสูญมากจนน่าแปลกใจ
แต่เนื่องจากคดีคนหายแต่ละคดีไม่ใช่เรื่องที่ทำให้สังคมแตกตื่น เลยไม่มีรายงานในข่าว
เพียงเล่าต่อกันมาปากต่อปากในรูปของข่าวลือ
และนั่นก็คือที่มาของคำเรียก ผีลักซ่อน
แม้จะมีคนรู้จักนำเรื่องไปบอกตำรวจ แต่ก็เป็นแค่คดีคนหาย แถมยังไม่มีเบาะแสอะไรด้วย จึงไม่มีการตามหากันจริงจัง

เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิเด็กหนุ่มฉุกคิดขึ้นมาได้
มีเพียงเขาคนเดียวที่รู้ว่าโทโนะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว
แล้วถ้าหากโทโนะโดนผีลักซ่อนจริงล่ะก็
นั่นหมายความว่าคนอื่นๆที่โดนผีลักซ่อนเองก็




ถ้าอย่างนั้นไปกันเถอะ
หลังเลิกเรียน คุเรฮะเดินเข้ามาหาชินจิ ชวนเขาไปตามหาโทโนะ
รอบข้างหันขวับมาพร้อมกันทันทีด้วยความตกใจ
โห……คิริโต้เป็นฝ่ายชวนเองว่ะ……” มีเสียงเด็กผู้ชายพูด
สองคนนั่น ……ตั้งแต่เมื่อไรกัน เสียงซุบซิบดังขึ้น
คิริโต้เป็นที่สนใจของรอบข้างจริงๆด้วย ชินจิคิด
แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะไม่ได้ใส่ใจเป็นพิเศษอะไรกับปฏิกิริยารอบตัว เพียงแค่ยืนรอเขาเก็บกระเป๋าเสร็จเท่านั้น

ระหว่างเดินอยู่บนระเบียงทางเดิน คุเรฮะบอกว่าเธอสงสัยว่าโทโนะจะโดนผีลักซ่อน
พอชินจิถามเหตุผล เธอก็ตอบว่าเหมือนกับคนอื่นๆ ที่เมืองนี้มีคดีคนหายเยอะ
เด็กสาวบอกว่าตอนแรกเธอก็คิดว่าโทโนะคงจะแค่ขาดเรียนเฉยๆ แต่พอเห็นชินจิมีท่าทางแปลกๆ ก็เลยเริ่มคิดว่าเป็นผีลักซ่อน




วิธีคิดของคุเรฮะดูแปลกๆ ชินจิคิด
เรื่องปฏิกิริยาของคนรอบข้างในตอนที่ชั้นมองโทโนะ……มองที่นั่งของเธอด้วยท่าทางคาใจน่ะเด็กหนุ่มเกริ่น
มีเสียงคุยซุบซิบสงสัยกันว่าชั้นแอบชอบโทโนะอยู่ หรืออะไรทำนองนั้นด้วย คิริโต้ไม่ได้ยินเหรอ ?” เขาพูดต่อ
ก็ได้ยินอยู่หรอก คนๆนั้น……ชื่ออะไรกันนะ ไม่รู้ชื่อก็จริง แต่พูดออกมาซะดังเลยด้วยเด็กสาวตอบ
หืม ถ้าอย่างนั้นคิริโต้ไม่ได้คิดแบบนั้นเหรอ ? ”




หืม ……อ๊ะ……อ๊า หรือว่ามีเหตุผลแบบนั้นเองหรอกเหรอคุเรฮะตกใจพูดออกมาเสียงดัง
เปล่า ไม่ใช่หรอกชินจิปฏิเสธ
ใช่แล้ว วิธีคิดของคุเรฮะแปลกจริงๆด้วย

ที่ชั้นอยากจะบอกคือ……จะคิดแบบนั้นก็ไม่แปลกเลย ควรเรียกว่าปกติด้วยซ้ำ ทั้งที่เป็นแบบนั้น แต่เหมือนเธอจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้เด็กหนุ่มพูดต่อ
“…………” เด็กสาวนิ่งเงียบ
นั่นหมายความว่าสนใจเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่แรกรึเปล่าชินจิพูดข้อสรุปของตัวเองออกไป
“……เซ้นส์ดีจังนะคุเรฮะเอ่ยขึ้น
เธอบอกว่าเธอสนใจเรื่องผีลักซ่อนอยู่                     
ชินจิจึงถามต่อว่าทำไมเธอถึงได้สนใจเรื่องผีลักซ่อน
อืม……”
เด็กสาวตอบไม่ได้




แล้วฟุคิงามิคุงล่ะ
เธอจึงถามเขากลับด้วยคำถามเดียวกัน โดยบอกว่าตอนนี้เขากำลังทำตัวเหมือนตำรวจไม่มีผิด
อืม……”
พอโดนถามกลับด้วยคำถามเดียวกันแล้ว คราวนี้เด็กหนุ่มจึงเป็นฝ่ายนิ่งเงียบซะเอง
จะว่าไปเมื่อวานก็ต้องแยกกันตอนกำลังพูดเรื่องทำนองนี้พอดี

ดูเหมือนทางฟุคิงามิคุงเองก็มีความลับอยู่เหมือนกันสินะอีกฝ่ายสรุป
“…………” เขานิ่งเงียบ
เธอชี้ได้ตรงจุด
แต่นั่น หากพูดในทางกลับกันก็หมายความว่าตัวคุเรฮะเองก็กำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน

ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายพยายามคลำหาเรื่องที่อีกฝ่ายปิดบังไว้ ทั้งคู่ก็มาถึงร้านฟอร์ซาพอดี
ชินจิกับคุเรฮะเดินเข้าไปในร้าน
ก่อนจะ




ตกใจกับวิญญาณร้ายจำนวนมากที่คืบคลานอยู่ในร้าน
ชินจิตกใจกับภาพตรงหน้าก็จริง แต่ที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ




เด็กสาวที่อยู่ข้างๆเขา คิริโต้ คุเรฮะเองก็แสดงอาการตกใจออกมาเช่นกัน
เอ๊ะ ?” ชินจิแปลกใจ
เอ๊ะ ?” อีกฝ่ายก็มีท่าทางแบบเดียวกัน




ทั้งสองเปลี่ยนสถานที่จากร้านอาหารอิตาเลี่ยนมาเป็นสวนสาธารณะ
คุเรฮะชมความงามของซากุระก่อนจะถามชินจิว่าได้ชมดอกไม้ไปรึยัง
เขาตอบไปว่าชมไปแล้วกับครอบครัวเมื่อวันอาทิตย์
เธอเลยบอกว่าเธอเองก็ชมไปแล้วกับครอบครัว แล้วก็นักเรียนโรงฝึก
นักเรียนโรงฝึก ?” ชินจิสงสัย
แต่คุเรฮะเพียงแค่พยักหน้า แล้วก็ข้ามเรื่องนั้นไป

แต่ตกใจจริงๆนะ ไม่คิดเลยว่าฟุคิงามิคุงเองก็มองเห็นโบดาชด้วย……” เด็กสาวเข้าเรื่อง
โบดาช ?”
หมายถึงเจ้าพวกนั้นน่ะ พวกชั้นเรียกมันว่าแบบนั้นคุเรฮะบอก
คนที่ตั้งชื่อให้คือคุณปู่ ไม่ค่อยรู้ละเอียดเท่าไร แต่เห็นว่านำชื่อมาจากผีในนิทานพื้นบ้านที่เล่าต่อกันมาในสกอตแลนด์น่ะเธออธิบาย

คุเรฮะบอกว่าเธอและพวกพ้องของเธอกำลังตามล่าโบดาชกันอยู่
ดูจากวิธีพูดนั้นแล้วดูเหมือนเด็กสาวตรงหน้าจะรู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันมากกว่าเขา
ชินจิจึงถามเรื่องวิญญาณร้ายจากเธอ




ได้ความว่า
พวกคุเรฮะเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันคืออะไรกันแน่ รู้เพียงแค่ว่าสำหรับมนุษย์แล้วพวกมันเป็นเหมือนยมทูต
โบดาชจะนำความตายมาสู่มนุษย์ที่มันเข้าไปสิงสู่
และพวกเธอก็ปราบโบดาชกันอยู่

พอได้ยินว่าปราบวิญญาณร้าย ชินจิก็นึกถึง ฮีโร่ที่เพื่อนผู้โตกว่าชอบพูดถึงบ่อยๆ
เอ่อ รู้จักคนชื่อยาสึกะ ฮิเดโนริรึเปล่า ?” เขาถามเธอ
แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้จัก

ชินจิขอโทษที่แทรกกลางคัน คุเรฮะจึงเล่าต่อ
เธอบอกว่าพวกเธอปราบโบดาชอยู่ก็จริง แต่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเพื่อนแยกตัวออกห่างไป
เด็กหนุ่มตัดสินใจไม่พูดแทรกถามเรื่องนั้น ก่อนจะนึกได้ว่าในร้านอาหารเมื่อครู่ก็มีวิญญาณร้ายอยู่เป็นจำนวนมาก
เอ่อ ถ้าปราบได้ล่ะก็น่าจะปราบพวกเมื่อกี้ไปด้วยรึเปล่า มารวมตัวกันเยอะซะขนาดนั้น……” เขาถาม
เด็กสาวมีสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะบอกว่ามันเป็นคนละชนิดกัน
เธอบอกว่าโบดาชมีสองแบบ ที่พวกเธอปราบได้คืออีกแบบหนึ่ง ส่วนที่ชินจิเห็นเมื่อครู่เป็นเหมือนลางบอกความตาย จะโดนสิงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโชคชะตา ไม่มีทางทำอะไรกับมันได้
อะไรกัน……” ชินจิแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัด
น่า วางใจเถอะ ถึงโบดาชจะโผล่มาแต่ก็ใช่ว่าจะสิงคนเสมอไปนี่คุเรฮะพูดปลอบ
จากนั้นเธอก็พูดพึมพำคนเดียว
แต่โผล่มามากขนาดนั้น……หรือว่า……ร้านอาหารนั่นจะ……”

“……แต่ชั้นไม่คิดหรอกนะว่าความเป็นความตายของคนจะตัดสินกันด้วยโชคชะตาเพียงอย่างเดียว เด็กหนุ่มพูดออกไป
ใช่แล้ว แต่เพราะแบบนั้นล่ะจึงเหลือความเสียใจภายหลังอยู่
สิ่งที่สูญเสียไปไม่อาจนำกลับคืนมาได้อีกแล้ว
เพราะฉะนั้น อย่างน้อย เขาก็จะ……ฆาตกรที่ฆ่าเธอเอง

“……นั่นสินะคุเรฮะครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดขึ้น
ความเสียหายจากภัยธรรมชาติเองก็น่าจะลดลงได้ขึ้นอยู่กับมือมนุษย์ อะไรอย่างโบดาชไม่มีอยู่เลยจะดีที่สุด แต่เมืองนี้มีโบดาชเยอะ……เยอะมากๆเลยล่ะเธอพูดต่อ
และพวกชั้นเองก็รู้สาเหตุนั้น รวมถึงวิธีแก้ปัญหาด้วย
อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ ปราบพวกมันยังไงล่ะ ถ้าปราบโบดาชอีกประเภท ตัวแบบเมื่อกี้ก็จะน้อยลงไปเองตามธรรมชาติ เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำแน่นหนักแน่น
แต่……ตอนนี้ก็อยู่ในสภาพที่ทำอะไรไม่ได้น่ะน้า…… ซากุระโนะโมริดรีมเมอร์สน่ะ……”
ก่อนจะพูดด้วยท่าทางห่อเหี่ยว ผิดกับคำพูดเมื่อครู่




ซากุระโนะโมริดรีมเมอร์ส คืออะไรงั้นเหรอ ?” ชินจิงงกับคำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยิน
อ๊ะ……” คุเรฮะหน้าแดง
เธอบอกว่านั่นเป็นชื่อทีมปราบโบดาชของพวกเธอ

การสนทนาขาดห้วงไป
พวกเขาเพียงเดินกันอยู่เงียบๆภายในสวนสาธารณะที่คึกคักไปด้วยผู้คนที่มาชมดอกไม้




เอ่อ……อยากจะถามอะไรอย่างหนึ่งน่ะเด็กหนุ่มเอ่ยปากขึ้น ทำลายความเงียบ
เชิญเลยเด็กสาวกล่าว
การจะเข้าร่วมทีมด้วยจำเป็นต้องมีเงื่อนไขอะไรรึเปล่า
“…………”
ชั้นเองก็อยากจะเข้าร่วมด้วยน่ะ อยากจะเข้าร่วมซากุระโนะโมริดรีมเมอร์ส




จะ จริงเหรอ ?” เด็กสาวแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
อาเขาตอบกลับไป




พอได้ยินคำพูดนั้นใบหน้าของเด็กสาวก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มโดยทันที
“……ดีจังเลย……ชั้นคิดมาตลอดเลยล่ะว่าต้องพูดยังไงถึงจะชวนฟุคิงามิคุงได้……” คุเรฮะพูดด้วยท่าทางยินดีจากใจ
แล้วเธอก็เป็นฝ่ายขอมาเอง……ดีใจ……จริงๆ
ถ้าอย่างนั้น ไม่มีเงื่อนไขเหรอ ?” เขาถาม
คุเรฮะเลยบอกว่ามีเงื่อนไขอยู่ก็จริง แต่ชินจิเคลียร์มันไปเรียบร้อยแล้ว เงื่อนไขคือต้องมองเห็นโบดาชได้

จากนั้นเธอก็พูดรัว
ชั้นตามหาพวกพ้องมาตลอดเลยล่ะ แต่ปัญหามันอยู่ที่มองเห็นหรือมองไม่เห็น มีแค่เรื่องนั้นที่ทำอะไรไม่ได้
แล้วตรงจุดนั้น ฟุคิงามิคุงก็เหมาะมากเลยล่ะ
ชั้นงั้นเหรอ ?  จะเป็นอย่างนั้นจริงรึเปล่านะ……” ชินจิสงสัย
ก็ใส่ใจกับเรื่องคุณโทโนะตั้งแต่แรกเลยไม่ใช่เหรอ นั่นหมายความว่ามีหัวใจรักความถูกต้องยังไงล่ะ
รักความถูกต้องงั้นเหรอ……” เด็กหนุ่มพูดทวน
ใช่แล้วล่ะ  ชั้นเอง ถ้าแค่มองเห็นเฉยๆก็คงไม่ชวนหรอก อื้อ อยากจะออกจากสภาพที่ทำอะไรไม่ได้นี่ก็จริง แต่พวกพ้องน่ะนะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเข้ากันได้
คงเป็นเพราะกำลังดีใจอยู่ คุเรฮะเลยพูดไม่หยุด ผิดกับเมื่อครู่
สิ่งที่จำเป็นสำหรับฮีโร่คือหัวใจรักความถูกต้องงั้นเหรอ เด็กหนุ่มครุ่นคิด
แต่เขาไม่ได้คิดอยากจะเป็นอะไรแบบนั้นเลย
ถ้าทำให้เขาหาตัวฆาตกรที่ฆ่ามาโดกะพบล่ะก็ ไม่ว่าจะอะไรเขาก็ยอมเป็น

เพราะแบบนั้น------”
คุเรฮะยังคงพูดรัวด้วยท่าทางดีใจ
ตลอดเวลานั้นเธอกุมมือเขาอยู่ตลอด
เอ่อ……ว่าแต่ชินจิบอกให้เด็กสาวรู้ตัว




เอ๊ะ ?  ……อ๊ะ อ๊า……!”
พอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ เด็กสาวก็ตกใจร้องเสียงดังลั่น




ขะ……ขะ……ขออภัย ชั้นนี่ล่ะก็ เผลอ……ดีใจเกินไปหน่อย……”
คุเรฮะหน้าแดงและขอโทษเขาด้วยท่าทางประหม่าผิดกับเมื่อครู่
เขาส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร

“……แล้ว……เรื่องต่อจากนี้น่ะเธอเปลี่ยนเรื่องเข้าประเด็น
นั่นสินะ ก่อนอื่นก็ต้องแนะนำให้รู้จักกับปู่แล้วก็คุณมาโฮโระ……คืนนี้ว่างไหมคุเรฮะถามเขา
พอชินจิพยักหน้า เธอก็ชวนให้เขามาที่บ้านของเธอคืนนี้เพื่อจะได้คุยกันโดยละเอียด
หลังจากนัดหมายเรื่องเวลา, สถานที่และอะไรอื่นๆเรียบร้อยแล้ว
เด็กสาวก็วิ่งจากไปด้วยความเขินอาย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น