Prologue (Part 7)

posted on 11/20/2560 02:10:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2014 ที่ http://vermillionend.exteen.com

คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย

[หน้า 61]
เอ๊ะ เอ……เอ่อ……ใช่ค่ะ
เด็กนักเรียนหญิงที่ถือถ้วยชาอยู่ตอบคำถามของซาคุยะอย่างอึกอัก
ยังไงก็เป็นที่นี่จริงๆงั้นเหรอ รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยกับความแตกต่างระหว่างภาพในจินตนาการของตัวเอง
ประธานชุมนุมของทางนี้ล่ะคะ……
ฉะ ฉันเองค่ะ ขอเสียมารยาทนะคะ รุ่นพี่มินางามิ
เด็กสาวที่ตอบซาคุยะยืนขึ้นแล้วออกมาที่ด้านข้างของโต๊ะ
มองแวบแรกแล้วซาคุยะคิดว่าเป็นเด็กที่ดูท่าทางเข้มแข็ง
ส่วนสูงเตี้ยกว่าซาคุยะราวๆสิบกว่าเซนติเมตร แต่เรื่องนั้นเป็นเพราะสำหรับผู้หญิงแล้วซาคุยะจัดว่าสูง ถ้าเป็นความสูงราวๆ 150 เซนติเมตรกลางๆล่ะก็สำหรับเด็กผู้หญิงแล้วถือเป็นส่วนสูงมาตรฐาน
สีผมสดใส มีสีแดงเล็กน้อย
จากบนสุดของศีรษะถึงปลายผมไม่มีจุดที่เข้มกว่าจุดอื่น ที่โรงเรียนนี้การย้อมผมโดยไม่มีเหตุผลนั้นเป็นการละเมิดกฎของโรงเรียน เพราะแบบนั้นคงไม่ได้ย้อมผมแต่เป็นผมธรรมชาติ
ผมที่ตัดให้เท่ากันที่บริเวณบ่านั้น ทั้งสองข้างมีเปียถักไว้อยู่
ซึ่งนั่นได้ทำให้บรรยากาศที่เด็กสาวมีเบาบางลงด้วยความน่ารัก
ขอบคุณค่ะที่ให้เกียรติมา ถ้าไม่รังเกียจขอเชิญนั่งก่อนค่ะ



[หน้า 62]
ถะ ถ้าอย่างนั้นขอเสียมารยาทนะคะ
ในขณะที่สับสนเล็กน้อย ก็นั่งลงไปบนเก้าอี้
อาจเป็นเพราะเดิมที่เป็นห้องโสตทัศนศึกษา เลยเป็นแบบที่เหมาะสำหรับการนั่งนานๆมากกว่าเก้าอี้ในห้องเรียน และเบาะก็นุ่ม
ยิ่งไปกว่านั้นตรงพนักพิงหลังกับที่นั่งยังมีผ้าคลุมที่ดูเหมือนจะถักด้วยมือติดไว้ด้วย ทำให้ดูสะอาดมากขึ้น
ซาคุยะไม่อาจเชื่อในภาพที่ปรากฏแก่สายตาซึ่งตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงกับจินตนาการที่ตัวเองวาดเอาไว้ถึงขนาดนั้น แล้วกวาดสายตามองภายในห้องเรียนอยู่หลายครั้ง
ที่นี่น่าจะเคยเป็นห้องโสตทัศนศึกษาแน่ๆ แต่อุปกรณ์เครื่องมือที่ทรุดโทรมของอาคารเรียนเก่าได้ถูกนำออกไป และตอนนี้ก็กลายเป็นห้องที่มีแค่จอภาพขนาดใหญ่แล้วก็เครื่องโปรเจคเตอร์
เนื่องจากตอนใช้คอมพิวเตอร์ในชั่วโมงเรียนจะใช้ห้องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ที่อาคารเรียนใหม่ ทำให้สำหรับซาคุยะซึ่งอยู่โรงเรียนมาสามปีเองก็ถือเป็นการย่างเท้าเข้ามาที่นี่ครั้งแรก
มีการปรับปรุงแก้ไขไปถึงการตกแต่งภายใน การตกแต่งเป็นเอกภาพเข้ากันด้วยสีขาวที่ให้ความรู้สึกสะอาดสะอ้าน
ในห้องเรียน นอกจากประธานชุมนุมที่นั่งอยู่ตรงหน้าแล้วยังมีเด็กผู้หญิงอีกสามคน  แต่ไม่ใช่นักเรียนที่มาเมื่อคืน เป็นคนที่ไม่รู้จัก
ท่านที่มาเมื่อวานไม่อยู่ทางนี้หรือคะ ?”
ถ้าเป็นพวกคุณโฮนามิล่ะก็ ตอนนี้ไปชมรมเลี้ยงสัตว์อยู่ค่ะ ดูเหมือนจะทำเรื่องอย่างดูแลสัตว์ที่บาดเจ็บอยู่



[หน้า 63]
อย่างนั้นเหรอคะ……ไม่แจ้งสถานีอนามัยหรือสัตวแพทย์แล้วไม่เป็นไรเหรอคะ
ทางนั้นได้แจ้งไปเรียบร้อยในวันแรกแล้วค่ะ โชคดีที่อาการบาดเจ็บเองก็เล็กน้อย ไม่หนักขนาดที่ตาเห็น ตอนนี้ดูเหมือนกำลังหาคนเลี้ยงอยู่น่ะค่ะ
ดีจังเลยนะคะ
ยื่นมือไปยังชาฝรั่งที่นำมาต้อนรับ เพื่อจะได้เป็นการพักหายใจ
……หาประเด็นเข้าเรื่องไม่เจอ เลยกลายเป็นการพูดคุยสัพเพเหระที่ไม่เกี่ยวข้องไปซะแล้ว
ลังเลว่าคราวนี้จะเปิดประเด็นเข้าเรื่องยังไงดี พร้อมกับสำนึกในการกระทำของตัวเองเล็กน้อย
ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นพวกเด็กสาวที่ท่าทางจะรู้จักความพอดี เธอที่เป็นประธานชุมนุมเองก็เห็นได้ว่ามีนิสัยสุภาพใจเย็นและท่าทางจะมีสามัญสำนึกอยู่
ความคิดที่ว่าหรือว่าตัวเองจะเข้าใจผิดไป ลอยเข้ามาในหัว
ไม่สิ น่าจะถามไปแล้วในตอนแรก ถามไปทำนองว่าที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของ MSF รึเปล่า……
เอ่อ อยากจะขอถามตรงๆเลยนะคะ
สุดท้ายหลังจากที่คิดแล้ว ซาคุยะก็ตัดสินใจเปิดประเด็นเข้าไปตรงๆเลย
ถ้าผิดล่ะก็ไม่เป็นไร ถึงจะรู้สึกอายแต่ยังไงเธอก็จะจบการศึกษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอยู่แล้ว
ไม่มีอะไรให้เสียใจภายหลังเป็นพิเศษ



[หน้า 64]
ทำไมถึงต้องเป็นฉันเหรอคะ ?”
พอกล่าวแบบนั้นแล้ว ?”
ถูกตอบกลับมาในทันที
หรือว่าพอพูดเรื่องที่ครุมเครือไปแล้วอาจจะกำลังถูกพูดหลบเลี่ยงอยู่ก็เป็นได้
ซาคุยะตัดสินใจถามใหม่อีกครั้ง
ได้ยินมาว่าทางนี้คือ เอ่อ……MSF……แฟนคลับของฉัน……น่ะค่ะ ไม่ผิดแน่ใช่ไหมคะ ?”
อื้อ ใช่แล้วค่ะ ว่าแต่
……อย่างนั้นเหรอคะ
ได้ลิ้มรสความรู้สึกประหลาดที่เหมือนจะเป็นความท้อใจและเหมือนจะเป็นความโล่งใจในเวลาเดียวกัน
ถึงจะถูกหัวเราะเยาะเย้ยว่า ก็เลยมาแฟนคลับของตัวเองเหรอคะ ?” ก็ยังจบลงแค่เสียหน้าไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง
แต่ว่ากลับยอมรับง่ายดายขนาดนี้ พอเป็นแบบนั้นก็หมดแรงเหมือนกัน
ได้ยินว่าพวกคุณเสนอชื่อฉันลงในงานประกวดของงานเลี้ยงคริสต์มาส อยากจะให้ช่วยบอกที่มาของเรื่องนั้นน่ะค่ะ
เอ……แต่ได้ยินมาว่าท่านซาคุยะยอมรับอย่างยินดี……”



[หน้า 65]
ประธานชุมนุมหันไปมองสมาชิกข้างหลังพร้อมกับความสับสนลำบากใจ
พวกเด็กที่จับจ้องดูการเคลื่อนไหวของซาคุยะทุกฝีก้าวด้วยความสนใจพากันรีบร้อนส่ายหน้าซ้ายขวา
เรื่องนั้นเป็นเพราะคิดว่าเหมือนกับทุกทีค่ะ แต่ถ้ามีกิจกรรมแบบนั้นอยู่ล่ะก็ได้พิจารณามาแล้วค่ะ
อย่างนั้นหรือคะ……
ร่างที่ไหล่ตกนั้นดูเหมือนกำลังท้อแท้หมดกำลังใจอยู่จริงๆ ซาคุยะรู้สึกผิดเล็กน้อย
เอ่อ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้เหรอคะ
เอ……เอ่อ ค่ะ……”
เรื่องนั้นยังไงก็อยากจะขอร้องให้ได้ค่ะ
ดะ เดี๋ยวสิคะ
เปลี่ยนจากท่าทางซึมเศร้าไปโดยสิ้นเชิง แล้วเข้ามากุมมือของซาคุยะไว้
เป็นมือที่เรียวบางงดงามตามที่เห็น แต่กลับมีความร้อนแรงแฝงอยู่
เดิมทีก็ไม่เข้าใจความหมายอยู่แล้วค่ะ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยคะ !”
เรื่องนั้นก็เพราะว่าเป็นท่านซาคุยะยังไงล่ะค่ะ
เอ่อ คำว่าท่านก็ช่วยเลิกไปด้วยเถอะค่ะ
ถ้าอย่างนั้น……ท่านพี่ซาคุยะ ?”



[หน้า 66]
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้กันคะ !”
อา……มือของท่านซาคุยะ ช่างอ่อนโยนยิ่งนัก รู้สึกดีจังเลย……
ใครก็ได้ช่วยทีค่า !”
ตอนที่ประธานชุมนุมซึ่งตื่นเต้นสับสนถูกดึงตัวออกห่างจากซาคุยะคือหลังจากนั้นหลายนาทีต่อมา
ขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ
โค้งให้อย่างงดงามเหมือนตอนแรก แต่หลังจากที่ได้รู้นิสัยที่แท้จริงไปแล้วก็ไม่รู้สึกอยากตอบกลับไปแต่อย่างใด
ในขณะที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือที่ถูกกุมจนชุ่มไปด้วยเหงื่อ ซาคุยะก็ถามอีกครั้ง
ถ้าถูกลงทะเบียนไว้อยู่ล่ะก็มาถอนชื่อออกค่ะ งานผู้ดูแลเองก็ตั้งใจจะขอให้คุณโคโนเอะทำให้ค่ะ ถึงจะลงชื่อไว้ทั้งๆอย่างนั้น ฉันก็ไม่อยู่ตอนช่วงคริสต์มาสอยู่ดี ดังนั้นกลายเป็นว่างานจะดำเนินต่อไปทั้งๆที่ไม่อยู่ค่ะ
เรื่องแบบนั้น
……จากคำพูดและการกระทำเมื่อกี้ คิดว่านี่เหมาะสมแล้วค่ะ
จ้องเขม็งด้วยแววตาเฉียบคม
ราวกับว่าถูกซาคุยะกดดัน อีกฝ่ายครวญครางออกมาเบาๆดังอู
เป็นใบหน้าแบบที่ไม่ค่อยแสดงให้เห็นที่โรงเรียน และเป็นใบหน้าที่ใช้เฉพาะกับตอนตบมุกกับพี่ชาย แต่ดูเหมือนจะได้ผลผิดคาด



[หน้า 67]
ตอนถูกเพื่อนร่วมชั้นลากไปลากมาเอง ถ้าทำแบบนี้ก็ดีแล้วแท้ๆ
ช่วยพิจารณาใหม่ให้ไม่ได้เหรอคะ
ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ค่ะ
พอตอบกลับไปในทันที ทุกคนรวมประธานด้วยก็ไหล่ตก
เห็นได้ว่ากำลังเศร้าอยู่จริงๆ อย่างน้อยเรื่องที่รับฟังอย่างจริงจังก็คงเป็นความจริง
……กลับมาเข้าเรื่องนะคะ ทำไมถึงได้สร้างของอย่างแฟนคลับของฉันขึ้นมา แถมยังคิดจะจัดงานประกวดเหรอคะ ช่วยกรุณาบอกเหตุผลมาด้วยค่ะ
เรื่องนั้นเข้าใจผิดแล้วค่ะ ท่านซาคุยะ
ที่เติมคำว่าท่านต่อท้ายนั่นก็ช่วยเลิกไปด้วยเถอะค่ะ
อ๊ะ ขออภัยค่ะ ……รุ่นพี่มินางามิ
ห่อไหล่แล้วสลดหดหู่ไป
เด็กผู้หญิงที่เป็นรุ่นน้องยกมือขึ้น แล้วออกมาข้างหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ
ขะ ขออภัย ทะ ที่เข้ามาแทรกค่ะ ที่ประธานเติมคำว่าท่านต่อท้ายนั้นเป็นนิสัยของเจ้าตัวค่ะ เพราะแบบนั้นยังไงก็กรุณาอภัยให้ด้วยเถอะนะคะ
……เป็นอย่างนั้นเหรอคะ ?”



[หน้า 68]
ค่ะ……  ขออภัยที่ทำให้ไม่พอใจค่ะ
ดูเหมือนจะขอโทษจากใจจริง
……ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เป็นเรื่องที่ฉันเองก็เคยเจอมากับตัวด้วย
วิธีพูดของซาคุยะเองก็เป็นเหมือนนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่วัยเด็ก
ที่ผ่านมาถูกเพื่อนที่รู้จักกันใหม่บอกว่าเลิกใช้ภาษาสุภาพทีเถอะมานับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายแล้วก็แก้ไม่ได้มาจนถึงตอนนี้
เพราะเคยมีประสบการณ์แบบนั้น ทำให้ถึงจะจริงเท็จยังไงก็ไม่คิดจะให้แก้ไขสิ่งที่เรียกว่านิสัยของเจ้าตัว
ขอบคุณค่ะ ถ้าอย่างนั้นท่านซาคุยะ……ถ้าทำให้ไม่พอใจล่ะก็ต้องขออภัยจริงๆค่ะ
จากร่างที่โค้งศีรษะให้อย่างถูกต้องตามแบบแผนนั้น ไม่สามารถมองเห็นภาพของกลุ่มคนไร้มารยาทไม่เกรงใจใครแบบที่จินตนาการไว้ในตอนแรกได้เลย
ถอนหายใจเล็กน้อยอีกครั้ง
คิดว่าคงเป็นเพราะไม่สามารถดึงดันกับความคิดของตัวเองจนถึงที่สุดตรงจุดนี้ได้ ตัวเองถึงได้ถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียกด้วยฉายาอย่างท่านมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่มินางามิแล้วก็ถูกใช้งานอย่างสะดวกแน่ๆ
รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะเจื่อนๆของพี่ชายดังมาจากที่ไหนซักแห่ง




[หน้า 69]
 ขอถามเหตุผลได้รึเปล่าคะ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น