คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือนิยาย
แปลมาจากหนังสือนิยาย
[หน้า 61]
“เอ๊ะ ! เอ……เอ่อ……ใช่ค่ะ”
เด็กนักเรียนหญิงที่ถือถ้วยชาอยู่ตอบคำถามของซาคุยะอย่างอึกอัก
ยังไงก็เป็นที่นี่จริงๆงั้นเหรอ
รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยกับความแตกต่างระหว่างภาพในจินตนาการของตัวเอง
“ประธานชุมนุมของทางนี้ล่ะคะ……”
“ฉะ ฉันเองค่ะ ขอเสียมารยาทนะคะ
รุ่นพี่มินางามิ”
เด็กสาวที่ตอบซาคุยะยืนขึ้นแล้วออกมาที่ด้านข้างของโต๊ะ
มองแวบแรกแล้วซาคุยะคิดว่าเป็นเด็กที่ดูท่าทางเข้มแข็ง
ส่วนสูงเตี้ยกว่าซาคุยะราวๆสิบกว่าเซนติเมตร
แต่เรื่องนั้นเป็นเพราะสำหรับผู้หญิงแล้วซาคุยะจัดว่าสูง ถ้าเป็นความสูงราวๆ 150 เซนติเมตรกลางๆล่ะก็สำหรับเด็กผู้หญิงแล้วถือเป็นส่วนสูงมาตรฐาน
สีผมสดใส มีสีแดงเล็กน้อย
จากบนสุดของศีรษะถึงปลายผมไม่มีจุดที่เข้มกว่าจุดอื่น
ที่โรงเรียนนี้การย้อมผมโดยไม่มีเหตุผลนั้นเป็นการละเมิดกฎของโรงเรียน
เพราะแบบนั้นคงไม่ได้ย้อมผมแต่เป็นผมธรรมชาติ
ผมที่ตัดให้เท่ากันที่บริเวณบ่านั้น ทั้งสองข้างมีเปียถักไว้อยู่
ซึ่งนั่นได้ทำให้บรรยากาศที่เด็กสาวมีเบาบางลงด้วยความน่ารัก
“ขอบคุณค่ะที่ให้เกียรติมา ถ้าไม่รังเกียจขอเชิญนั่งก่อนค่ะ”
[หน้า 62]
“ถะ
ถ้าอย่างนั้นขอเสียมารยาทนะคะ”
ในขณะที่สับสนเล็กน้อย
ก็นั่งลงไปบนเก้าอี้
อาจเป็นเพราะเดิมที่เป็นห้องโสตทัศนศึกษา
เลยเป็นแบบที่เหมาะสำหรับการนั่งนานๆมากกว่าเก้าอี้ในห้องเรียน และเบาะก็นุ่ม
ยิ่งไปกว่านั้นตรงพนักพิงหลังกับที่นั่งยังมีผ้าคลุมที่ดูเหมือนจะถักด้วยมือติดไว้ด้วย
ทำให้ดูสะอาดมากขึ้น
ซาคุยะไม่อาจเชื่อในภาพที่ปรากฏแก่สายตาซึ่งตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิงกับจินตนาการที่ตัวเองวาดเอาไว้ถึงขนาดนั้น
แล้วกวาดสายตามองภายในห้องเรียนอยู่หลายครั้ง
ที่นี่น่าจะเคยเป็นห้องโสตทัศนศึกษาแน่ๆ
แต่อุปกรณ์เครื่องมือที่ทรุดโทรมของอาคารเรียนเก่าได้ถูกนำออกไป และตอนนี้ก็กลายเป็นห้องที่มีแค่จอภาพขนาดใหญ่แล้วก็เครื่องโปรเจคเตอร์
เนื่องจากตอนใช้คอมพิวเตอร์ในชั่วโมงเรียนจะใช้ห้องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ที่อาคารเรียนใหม่
ทำให้สำหรับซาคุยะซึ่งอยู่โรงเรียนมาสามปีเองก็ถือเป็นการย่างเท้าเข้ามาที่นี่ครั้งแรก
มีการปรับปรุงแก้ไขไปถึงการตกแต่งภายใน
การตกแต่งเป็นเอกภาพเข้ากันด้วยสีขาวที่ให้ความรู้สึกสะอาดสะอ้าน
ในห้องเรียน
นอกจากประธานชุมนุมที่นั่งอยู่ตรงหน้าแล้วยังมีเด็กผู้หญิงอีกสามคน แต่ไม่ใช่นักเรียนที่มาเมื่อคืน เป็นคนที่ไม่รู้จัก
“ท่านที่มาเมื่อวานไม่อยู่ทางนี้หรือคะ
?”
“ถ้าเป็นพวกคุณโฮนามิล่ะก็
ตอนนี้ไปชมรมเลี้ยงสัตว์อยู่ค่ะ ดูเหมือนจะทำเรื่องอย่างดูแลสัตว์ที่บาดเจ็บอยู่”
[หน้า 63]
“อย่างนั้นเหรอคะ……ไม่แจ้งสถานีอนามัยหรือสัตวแพทย์แล้วไม่เป็นไรเหรอคะ”
“ทางนั้นได้แจ้งไปเรียบร้อยในวันแรกแล้วค่ะ
โชคดีที่อาการบาดเจ็บเองก็เล็กน้อย ไม่หนักขนาดที่ตาเห็น ตอนนี้ดูเหมือนกำลังหาคนเลี้ยงอยู่น่ะค่ะ”
“ดีจังเลยนะคะ”
ยื่นมือไปยังชาฝรั่งที่นำมาต้อนรับ
เพื่อจะได้เป็นการพักหายใจ
……หาประเด็นเข้าเรื่องไม่เจอ
เลยกลายเป็นการพูดคุยสัพเพเหระที่ไม่เกี่ยวข้องไปซะแล้ว
ลังเลว่าคราวนี้จะเปิดประเด็นเข้าเรื่องยังไงดี
พร้อมกับสำนึกในการกระทำของตัวเองเล็กน้อย
ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นพวกเด็กสาวที่ท่าทางจะรู้จักความพอดี
เธอที่เป็นประธานชุมนุมเองก็เห็นได้ว่ามีนิสัยสุภาพใจเย็นและท่าทางจะมีสามัญสำนึกอยู่
ความคิดที่ว่าหรือว่าตัวเองจะเข้าใจผิดไป
? ลอยเข้ามาในหัว
ไม่สิ น่าจะถามไปแล้วในตอนแรก
ถามไปทำนองว่าที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของ MSF รึเปล่า……
“เอ่อ
อยากจะขอถามตรงๆเลยนะคะ”
สุดท้ายหลังจากที่คิดแล้ว ซาคุยะก็ตัดสินใจเปิดประเด็นเข้าไปตรงๆเลย
ถ้าผิดล่ะก็ไม่เป็นไร
ถึงจะรู้สึกอายแต่ยังไงเธอก็จะจบการศึกษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอยู่แล้ว
ไม่มีอะไรให้เสียใจภายหลังเป็นพิเศษ
[หน้า 64]
“ทำไมถึงต้องเป็นฉันเหรอคะ ?”
“พอกล่าวแบบนั้นแล้ว ?”
ถูกตอบกลับมาในทันที
หรือว่าพอพูดเรื่องที่ครุมเครือไปแล้วอาจจะกำลังถูกพูดหลบเลี่ยงอยู่ก็เป็นได้
ซาคุยะตัดสินใจถามใหม่อีกครั้ง
“ได้ยินมาว่าทางนี้คือ เอ่อ……MSF……แฟนคลับของฉัน……น่ะค่ะ
ไม่ผิดแน่ใช่ไหมคะ ?”
“อื้อ ใช่แล้วค่ะ ว่าแต่…”
“……อย่างนั้นเหรอคะ”
ได้ลิ้มรสความรู้สึกประหลาดที่เหมือนจะเป็นความท้อใจและเหมือนจะเป็นความโล่งใจในเวลาเดียวกัน
ถึงจะถูกหัวเราะเยาะเย้ยว่า “ก็เลยมาแฟนคลับของตัวเองเหรอคะ
?” ก็ยังจบลงแค่เสียหน้าไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง
แต่ว่ากลับยอมรับง่ายดายขนาดนี้ พอเป็นแบบนั้นก็หมดแรงเหมือนกัน
“ได้ยินว่าพวกคุณเสนอชื่อฉันลงในงานประกวดของงานเลี้ยงคริสต์มาส
อยากจะให้ช่วยบอกที่มาของเรื่องนั้นน่ะค่ะ”
“เอ……แต่ได้ยินมาว่าท่านซาคุยะยอมรับอย่างยินดี……”
[หน้า 65]
ประธานชุมนุมหันไปมองสมาชิกข้างหลังพร้อมกับความสับสนลำบากใจ
พวกเด็กที่จับจ้องดูการเคลื่อนไหวของซาคุยะทุกฝีก้าวด้วยความสนใจพากันรีบร้อนส่ายหน้าซ้ายขวา
“เรื่องนั้นเป็นเพราะคิดว่าเหมือนกับทุกทีค่ะ
แต่ถ้ามีกิจกรรมแบบนั้นอยู่ล่ะก็ได้พิจารณามาแล้วค่ะ”
“อย่างนั้นหรือคะ……”
ร่างที่ไหล่ตกนั้นดูเหมือนกำลังท้อแท้หมดกำลังใจอยู่จริงๆ
ซาคุยะรู้สึกผิดเล็กน้อย
“เอ่อ
ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้เหรอคะ”
“เอ……เอ่อ ค่ะ……”
“เรื่องนั้นยังไงก็อยากจะขอร้องให้ได้ค่ะ”
“ดะ เดี๋ยวสิคะ”
เปลี่ยนจากท่าทางซึมเศร้าไปโดยสิ้นเชิง
แล้วเข้ามากุมมือของซาคุยะไว้
เป็นมือที่เรียวบางงดงามตามที่เห็น
แต่กลับมีความร้อนแรงแฝงอยู่
“เดิมทีก็ไม่เข้าใจความหมายอยู่แล้วค่ะ
ทำไมต้องเป็นฉันด้วยคะ !”
“เรื่องนั้นก็เพราะว่าเป็นท่านซาคุยะยังไงล่ะค่ะ”
“เอ่อ
คำว่าท่านก็ช่วยเลิกไปด้วยเถอะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น……ท่านพี่ซาคุยะ ?”
[หน้า 66]
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้กันคะ
!”
“อา……มือของท่านซาคุยะ
ช่างอ่อนโยนยิ่งนัก รู้สึกดีจังเลย……”
“ใครก็ได้ช่วยทีค่า !”
ตอนที่ประธานชุมนุมซึ่งตื่นเต้นสับสนถูกดึงตัวออกห่างจากซาคุยะคือหลังจากนั้นหลายนาทีต่อมา
“ขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ”
โค้งให้อย่างงดงามเหมือนตอนแรก แต่หลังจากที่ได้รู้นิสัยที่แท้จริงไปแล้วก็ไม่รู้สึกอยากตอบกลับไปแต่อย่างใด
ในขณะที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือที่ถูกกุมจนชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ซาคุยะก็ถามอีกครั้ง
“ถ้าถูกลงทะเบียนไว้อยู่ล่ะก็มาถอนชื่อออกค่ะ
งานผู้ดูแลเองก็ตั้งใจจะขอให้คุณโคโนเอะทำให้ค่ะ ถึงจะลงชื่อไว้ทั้งๆอย่างนั้น
ฉันก็ไม่อยู่ตอนช่วงคริสต์มาสอยู่ดี ดังนั้นกลายเป็นว่างานจะดำเนินต่อไปทั้งๆที่ไม่อยู่ค่ะ”
“เรื่องแบบนั้น”
“……จากคำพูดและการกระทำเมื่อกี้ คิดว่านี่เหมาะสมแล้วค่ะ”
จ้องเขม็งด้วยแววตาเฉียบคม
ราวกับว่าถูกซาคุยะกดดัน
อีกฝ่ายครวญครางออกมาเบาๆดังอู
เป็นใบหน้าแบบที่ไม่ค่อยแสดงให้เห็นที่โรงเรียน
และเป็นใบหน้าที่ใช้เฉพาะกับตอนตบมุกกับพี่ชาย แต่ดูเหมือนจะได้ผลผิดคาด
[หน้า 67]
ตอนถูกเพื่อนร่วมชั้นลากไปลากมาเอง ถ้าทำแบบนี้ก็ดีแล้วแท้ๆ
“ช่วยพิจารณาใหม่ให้ไม่ได้เหรอคะ”
“ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ค่ะ”
พอตอบกลับไปในทันที
ทุกคนรวมประธานด้วยก็ไหล่ตก
เห็นได้ว่ากำลังเศร้าอยู่จริงๆ
อย่างน้อยเรื่องที่รับฟังอย่างจริงจังก็คงเป็นความจริง
“……กลับมาเข้าเรื่องนะคะ ทำไมถึงได้สร้างของอย่างแฟนคลับของฉันขึ้นมา
แถมยังคิดจะจัดงานประกวดเหรอคะ ช่วยกรุณาบอกเหตุผลมาด้วยค่ะ”
“เรื่องนั้นเข้าใจผิดแล้วค่ะ
ท่านซาคุยะ”
“ที่เติมคำว่าท่านต่อท้ายนั่นก็ช่วยเลิกไปด้วยเถอะค่ะ”
“อ๊ะ ขออภัยค่ะ ……รุ่นพี่มินางามิ”
ห่อไหล่แล้วสลดหดหู่ไป
เด็กผู้หญิงที่เป็นรุ่นน้องยกมือขึ้น
แล้วออกมาข้างหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ขะ ขออภัย ทะ ที่เข้ามาแทรกค่ะ
ที่ประธานเติมคำว่าท่านต่อท้ายนั้นเป็นนิสัยของเจ้าตัวค่ะ
เพราะแบบนั้นยังไงก็กรุณาอภัยให้ด้วยเถอะนะคะ”
“……เป็นอย่างนั้นเหรอคะ ?”
[หน้า 68]
“ค่ะ…… ขออภัยที่ทำให้ไม่พอใจค่ะ”
ดูเหมือนจะขอโทษจากใจจริง
“……ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เป็นเรื่องที่ฉันเองก็เคยเจอมากับตัวด้วย”
วิธีพูดของซาคุยะเองก็เป็นเหมือนนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่วัยเด็ก
ที่ผ่านมาถูกเพื่อนที่รู้จักกันใหม่บอกว่าเลิกใช้ภาษาสุภาพทีเถอะมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่สุดท้ายแล้วก็แก้ไม่ได้มาจนถึงตอนนี้
เพราะเคยมีประสบการณ์แบบนั้น
ทำให้ถึงจะจริงเท็จยังไงก็ไม่คิดจะให้แก้ไขสิ่งที่เรียกว่านิสัยของเจ้าตัว
“ขอบคุณค่ะ
ถ้าอย่างนั้นท่านซาคุยะ……ถ้าทำให้ไม่พอใจล่ะก็ต้องขออภัยจริงๆค่ะ”
จากร่างที่โค้งศีรษะให้อย่างถูกต้องตามแบบแผนนั้น
ไม่สามารถมองเห็นภาพของกลุ่มคนไร้มารยาทไม่เกรงใจใครแบบที่จินตนาการไว้ในตอนแรกได้เลย
ถอนหายใจเล็กน้อยอีกครั้ง
คิดว่าคงเป็นเพราะไม่สามารถดึงดันกับความคิดของตัวเองจนถึงที่สุดตรงจุดนี้ได้
ตัวเองถึงได้ถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียกด้วยฉายาอย่างท่านมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่มินางามิแล้วก็ถูกใช้งานอย่างสะดวกแน่ๆ
รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะเจื่อนๆของพี่ชายดังมาจากที่ไหนซักแห่ง
[หน้า 69]
“ขอถามเหตุผลได้รึเปล่าคะ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น