Day 13 Golden Cocoon (Part 3)

posted on 5/05/2561 06:23:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 23 เมษายน ค.ศ. 2012 ที่ http://vermillionend.exteen.com
เนื่องจากเป็นงานแปลชิ้นแรกในชีวิต ถ้าจะอ่านขอให้ทำใจกับสำนวนและความถูกต้องของภาษาไว้ได้เลย

แปลมาจาก http://lparchive.org/Tsukihime/Update%20140/


จังหวะการเต้นของหัวใจของพวกเราสอดคล้องกันและเต้นพร้อมๆ กัน
เธอยังคงสั่นเทาจากความรู้สึกที่ยังตกค้างอยู่ในตัวเธอ
ผมอยากให้เธอคลายกังวล และผมก็กอดเธอ

"...... ท่านชิกิ......"
ทำไมเธอถึงได้ร้องไห้?
น้ำตายังคงหยดลงมาจากใบหน้าของเธอ 

"ฉัน...... เรื่องนี้..."
ดูเหมือนว่าเสียงที่สั่นโอนเอนไปมาของเธอจะมีความเศร้าโศกเสียใจอยู่

"...... อะไรเหรอฮิซุย? ...... มันเจ็บเหรอ......?"
"...... เปล่าค่ะ...... ฉันกลัวความสุขนี่"
หลังจากที่สูดหายใจเข้าไปลึกๆอาการสั่นเทาของเธอก็หยุดลง

"อ๊ะ......"
พละกำลังหายไปจากร่างกายของเธอ
ด้วยความอ่อนเพลียเธอเอนร่างของเธอมาพิงผม

"...... หนูเสียใจค่ะ...... พี่"
พร้อมกับคำกล่าวสุดท้ายของเธอเธอล้มลงไปและหลับตาลง

Music: stop

เสียงลมหายใจอ่อนๆ เข้ามาในหูของผม

"...... เธอกำลังหลับอยู่เหรอฮิซุย?"
ผมวางเธอลงบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเธอ 
ไม่เหมือนกับฮิซุยที่หมดแรงแล้วผมยังมีพลังงานอยู่มากมาย
...... ไม่ถึงแม้ว่าผมจะเหนื่อยอาการป่วยที่เป็นอยู่ก่อนหน้าได้หายไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

เพราะแบบนั้นดูเหมือนว่าคืนนี้ผมจะสามารถขยับได้แบบคนปกติอีกครั้ง




….. ฮิซุยหลับอยู่บนเตียงของผม
มันอาจเป็นเพราะเธอได้ช่วยให้ผมมีพละกำลังกลับคืนมา, แต่ฮิซุยอ่อนเพลียอยู่แน่นอน

"….. หรือว่าบางที, ผมอาจจะฝืนเธอมากเกินไป"
ผมรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
..... มันเป็นครั้งแรกของเธอ, เพราะแบบนั้นมันคงจะเกินไปจริงๆ สำหรับเธอ

"...... แต่เธอน่ารักมากผมเลยทำอะไรไม่ได้กับเรื่องนั้น"
ผมหาข้อแก้ตัวแต่มันคงช่วยอะไรไม่ได้
ฮิซุยหลับอยู่กำลังหายใจอยู่อย่างผ่อนคลาย 
...... ถ้าผมจะไปทำอะไรก็จะต้องไปตอนนี้

"...... โทษทีนะ หลับนานขึ้นอีกนิดนะฮิซุย"
หลังจากที่เลื่อนมือผ่านเส้นผมของเธอเป็นครั้งสุดท้ายผมเปลี่ยนเสื้อแล้วออกไป
จากห้อง

Music: play track 1




---ใช่แล้ว อากิฮะกับโคฮาคุซังไม่อยู่

นี่เป็นโอกาศดี
ผมจะสามารถสืบได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อแปดปีก่อน
ผมเข้าไปในห้องของพ่อ
..... ห้องนี้น่าจะมีอะไรที่พอจะตอบคำถามของผมได้อยู่แน่นอน

"..... ลิ้นชักของโต๊ะ.... ตอนนี้มันว่างเปล่าแล้ว"
มันอาจจะมีอะไรที่เป็นของพ่ออยู่ในตู้ที่ถูกล็อคไว้ซักใบ
แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะเก็บอะไรสำคัญไว้ในนั้น

"..... มันจะดีถ้าเขามีตู้เซฟหรืออะไรซักอย่าง"
ผมหาดูในห้อง

"............ เจอแล้ว"
ผมพบอะไรบางอย่างที่คล้ายๆ ตู้เซฟได้ค่อนข้างง่าย
มันไม่มีล็อคภายนอกและผมก็ไม่รู้รหัสด้วย
เพราะแบบนั้นผมเลยถอดแว่นออกและตัด "เส้น" ของมัน

"...... อืมม......"
ดูเหมือนว่ามันจะมีไดอารี่เก่าๆ กับซองจดหมายอีกหลายซอง 
ดูเหมือนว่าไดอารี่จะเป็นของเด็กและอย่างอื่นดูคล้ายจดหมายเก่าๆ

"...... จดหมายเก่าๆ งั้นเหรอทำไม?"
ลายมือเป็นของพ่อแน่นอน 
มันไม่ปะติดปะต่อกันและผมไม่สามารถเข้าใจมันได้ในทันทีที่เห็น

---วันที่เริ่มคือฤดูร้อนเมื่อแปดปีก่อนและดูเหมือนว่าจะถูกเขียนต่อไปหลังจากนั้นอีก

"............"
ผมยังไม่เข้าใจมันแต่ผมก็ยังคงพลิกมันต่อไป 

Music: stop



Music: play track 9


เดือน วันที่ ~
ลูกชายของฉัน ชิกิ ได้พ่ายแพ้ต่อสายเลือดโทวโนะ
ชิกิ เขาได้ฆ่าลูกเลี้ยงของฉันที่อยู่ที่นั่นพอดี
(ลูกเลี้ยงเป็นทายาทของตระกูลนานายะ ชั้นคิดว่ามันคงโชคดีในโชคร้ายที่เขาไม่ได้อยู่ในตระกูลเดียวกันกันผู้สอดประสาน, อย่างฮิซุยกับโคฮาคุ)

แรงกระตุ้นย้อนกลับของชิกินั้นน่ากลัว เพราะแบบนั้นมันเลยถูกตัดสินว่าชิกิจะต้องถูกกำจัดไป ฉันมีหน้าที่ในฐานะหัวหน้าตระกูลโทวโนะ แต่การฆ่าลูกชายของตัวเองมันเป็นเรื่องยากมาก

สายเลือดของโทวโนะอยู่ในตัวชิกิมากกว่าอากิฮะ 
ถ้าพูดถึงเรื่องความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในฉันรู้สึกได้ถึงพลังเก่าแก่ดั้งเดิมในเลือดของอากิฮะแต่สายเลือดโทวโนะในตัวของชิกินั้นแรงกว่ามาก
ฉันคาดว่านั่นน่าจะเป็นเหตุผลที่ชิกิได้กลายสภาพไปก่อนที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ 
พลังของชิกิคือ "ความเป็นอมตะและ "การหลอมรวม"
ชิกิไม่สามารถควบคุมพลังที่ตื่นขึ้นได้และผลลัพธ์ของมันก็คือฆ่าลูกเลี้ยงที่นำมาจากตระกูลนานายะแล้วเอาชีวิตของเขาไป
ฉันต้องพูดว่ามันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมเลยสำหรับเขาที่เพิ่งใช้พลังเป็นครั้งแรก

เดือน วันที่ x
ทั้งชิกิและลูกเลี้ยงสามารถรอดชีวิตมาจากความตายได้สำเร็จ
ก่อนที่ฉันจะฆ่าชิกิไปเขาได้ฆ่าลูกเลี้ยงและขโมย "ชีวิต" ของลูกเลี้ยงและฟื้นตัวด้วยมัน
ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะว่าเขาใกล้ตายรึเปล่าแต่ชิกิได้จิตใจบางส่วนกลับคืนมา 
ถึงแม้ว่ามันจะอันตราย, ฉันจะไม่ฆ่าเขาแต่แค่แยกเขาอองไปจากคฤหาสน์ซักพักหนึ่ง 

กลับกันแล้วลูกเลี้ยงจากตระกูลนานายะจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานต่อให้เขารอดมาได้ก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะฟื้นตัวได้พลังชีวิตของเขาจะถูกแย่งชิงไปโดยชิกิ ร่ายกายของเขาจะตายวันไหนก็ได้
ตราบใดที่ลูกเลี้ยงยังมีชีวิตอยู่มันเป็นไปได้ว่าจิตใจของเขาจะรวมเข้ากันกับจิตใจของชิกิ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นผลข้างเคียงที่ชีวิตของทั้งสองถูกเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกัน แต่ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้น, ยังไงลูกเลี้ยงก็จะต้องตายในที่สุด, เพราะแบบนั้นตรงนี้มันจึงไม่มีปัญหาอะไร




เดือน วันที่ ~                  
ปัญหาเรื่องการรักษาภาพลักษณ์ต่อสังคงปกติยังคงมีอยู่
ชิกิได้ฆ่าลูกเลี้ยงจากตระกูลนานายะไป
ฉันต้องปิดเรื่องที่เกิดขึ้น, แต่จะพาชิกิออกไปให้เห็นในที่สาธารณะไม่ได้ แผลที่ฉันทำร้าบเขาไปยังไม่หายดีและร่างของเขาได้กลายสภาพไป
เขาไม่อยู่ในสภาพที่ฉันจะนำไปให้คนอื่นเห็นในฐานะโทวโนะ ชิกิได้..... เขาไม่สามารถถูกเรียกว่ามนุษย์ได้เช่นกัน

เด็กจากตระกูลนานายะยังมีชีวิตอยู่
ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่, ฉันตัดสินใจที่จะใช้เขา
ถ้ามันมีการไม่ลงรอยใดๆ ฉันก็อยากจะเห็นมันเหมือนกัน

ประกอบเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
นานายะเป็นตระกูลนักฆ่า
ถ้าลูกเลี้ยงนั่นยังมีชีวิตอยู่, การเชื่อมต่อกันของเขากับชิกิอาจจะทำให้จิตใจของชิกิแย่ลงไป
ต่อให้ชิกิได้สติของเขากลับคืนมาฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นไปได้ที่แรงกระตุ้นจากเด็กนานายะนั่นจะเปลี่ยนให้เขาเป็นฆาตกร 

เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นพวกเราต้องส่งเขาไปที่ไหนซักแห่งที่พวกเราสามารถจับตาดูเขาได้ แต่พวกเราต้องไม่อนุญาติให้เขาเข้าใกล้คฤหาสน์โทวโนะได้เช่นกัน 
ฉันควรจะให้ตระกูลสาขาที่เหมาะสมรับเขาไปเลี้ยง
เดือน วันที่ x
...... สายเลือดโทวโนะได้ตื่นขึ้นภายในตัวของชิกิ
บางทีมันอาจเป็นเพราะว่าเขาใกล้ตายมาก, แต่เขาก็ได้สติกลับคืนมาเหมือนก่อนหน้านี้ 
แต่ฉันไม่รู้ว่าจะมีอะไรจะทำให้เขากลายสภาพไปอีกรึเปล่า
ถึงแม้ว่าจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆฉันก็จะไม่อนุญาติญาติให้ชิกิเข้าใกล้คฤหาสน์โทวโนะได้เช่นกัน 
ฉันให้เขาอยู่ในการดูแลของคนรับใช้ที่เชื่อใจได้ 

เดือน วันที่ x
ฉันยังคงไม่ได้รับการแจ้งข่าวว่าสติของเขาได้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว
...... ปีได้ล่วงเลยไปโดยที่เขาอยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลอื่น 
หัวใจของฉันเจ็บปวด มันยากมากสำหรับฉันที่จะคิดว่าลูกชายของฉันเองจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ในทันทีที่ชิกิฟื้นตัว, ฉันจะสามารถพาเขากลับมาที่คฤหาสน์ได้ 

Music: stop




"-------นี่มัน... อะไรกัน?"
ลูกเลี้ยง, ผมรู้เรื่องการรับเด็กมาเลี้ยงเมื่อสิบปีก่อน
ถึงแม้ว่าผมจะจำรายละเอียดไม่ได้อย่างชัดเจนนักก็เถอะ แต่ผมรู้เรื่องนั้น
..... เขาฆ่าผมงั้นเหรอ?"
เมื่อแปดปีก่อน ในสวน?

"….. จิตใจของพวกเราเชื่อมต่อกัน.... "
ข้อความบอกว่าเป็นไปได้ที่จิตใจของผมกับเขาจะเชื่อมโยงกัน
ปกติแล้ว, เรื่องนี้ควรจะเป็นแค่อะไรที่สามารถเอามาหัวเราะได้
แต่, ตอนนี้, มันอธิบายได้มากเกินพอแล้ว

"----ไม่"
ไม่มันไม่ใช่แบบนั้น
นี่มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น 

"------Kk"
...... ผมรู้
ถึงแม้ว่าผมจะรู้เรื่องนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่ผมพยายามที่จะไม่สังเกตุเห็นมัน

---ผมอยากจะปฏิเสธมันไปอีกครั้ง

ลูกเลี้ยงก็คือ...
คนที่ถูกฆ่าไปก็คือ...
ผมรู้ว่าคนไหนคือคนไหนแต่ผมไม่อยากที่จะยอมรับมัน----.

"ชิ--นี่มันใช้ไม่ได้"
ในขณะที่ด่าตัวเองผมโยนจดหมายไปด้านข้าง

"...... ทั้งหมดที่เหลือก็คือนี่"
ผมหยิบไดอารี่ในตู้เซฟขึ้นมา
มันเหมือนกับไดอารี่ของเด็กชัดเจนเลยว่าไม่ใช่ของที่โทวโนะ มากิฮิสะจะมีได้ 

ผมพลิกหน้าหนังสือ 
มันมีแค่สองคำ




                        ช่วยด้วย

แบบนั้น
บนหน้ากระดาษสีขาว มันเขียนไว้เล็กมากจริงๆ


"............ ฮะ?"
ผมเปลี่ยนหน้า

ช่วยด้วย
ผมเปลี่ยนหน้า

ช่วยด้วย
ผมเปลี่ยนหน้า

ช่วยด้วย
ผมเปลี่ยนหน้า

"อะไ----"
ราวกับว่ามันเป็นคำสาปที่จะพาผู้อ่านจมลงถลำลึกเข้าไปสู่ความมืด

ช่วยด้วย

ช่วยด้วย

ช่วยด้วย

ช่วยด้วย

ช่วยด้วย

ช่วยด้วย

ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วย ด้วยช่วย ด้วยช่วย ด้วยช่วย ด้วยช่วย
ด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่ว
ยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วยช่วยด้วย --------




"-----"
..... ผมรู้สึกแย่
จนถึงตอนนี้ผมเคยเห็นฝันร้ายมามาก แต่นี่มันแย่ยิ่งกว่านั้นเยอะ
คำว่า "ช่วยด้วย" พวกนั้น
ไม่ใช่ว่าใครก็ตามที่เขียนบันทึกเล่มนี้รู้คำพูดอยู่แค่สองคำ
คำพวกนี้เท่านั้น
นั่นคือทั้งหมดที่คนนี้สามารถรู้สึกได้

ไม่มีการเขียนบอกถึงเรื่องร้ายๆ ต่างๆ เอาไว้ 
ประโยคหนึ่งตามหลังประโยคอื่นราวกับว่าเป็นการคายความรู้สึกของคนคนนี้ออกมา 
นี่เป็นหนทางเดียวที่ผู้เขียนจะสามารถหนีออกไปได้
คนคนนี้ไม่รู้วิธีอื่นที่จะหนีจากคำสาปไปได้

"...... อ๊ะ"
มันยังเหลืออีกมากกว่าครึ่งที่ผมยังไม่ได้อ่าน
ผม,
ผมไม่สามารถบังคับตัวเองให้อ่านที่เหลือได้

"----"
ผมพลิกผ่านไปและพยายามที่จะไม่ดูเนื้อหามัน
ในขณะที่ผมกำลังพลิกผ่านไปมือของผมหยุดลงที่หน้าเกือบๆ สุดท้าย

"...... ประโยคธรรมดางั้นเหรอ......?"
บนหน้าสุดท้ายมีย่อหน้าสั้นๆ อยู่
ตัวอักษรสีเงินประดับตกแต่งแผ่นกระดาษธรรมดาๆ สีขาวได้เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ 

Music: play track 7




เพราะแบบนั้นมันจะดีกว่าที่จะเป็นแค่ตุ๊กตาไป




ชีพจรของฉันค่อยๆ หายไปทีละน้อย

หลอดเลือดกลายเป็นท่อทีละเส้นทีละเส้น

เลือดหายไปราวกับเป็นไอหมอก

หัวใจของฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา

เห็นไหม, นั่นล่ะที่ทำไม มันถึงไม่มีความ

เจ็บปวด

Music: stop



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น