Epilogue Dream of Sunshine (Part 2)

posted on 5/05/2561 11:17:00 หลังเที่ยง by VermillionEnd Categories:
เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ที่ http://vermillionend.exteen.com
เนื่องจากเป็นงานแปลชิ้นแรกในชีวิต ถ้าจะอ่านขอให้ทำใจกับสำนวนและความถูกต้องของภาษาไว้ได้เลย

แปลมาจาก http://lparchive.org/Tsukihime/Update%20143/

Music: play track 3


ภาพแรกที่ผมเห็นในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้คือห้องตรวจสีขาวนี่

"..... เรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะปกติดีนะ ชิกิคุง ชั้นมองไม่เห็นความหมองมัวแล้วและอาการนี่มันไม่น่าจะกลับมา ตอนนี้เธอสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้แล้วล่ะ"
หมอยังคงเขียนแบบรีบๆ ต่อไป เหมือนกับที่เขาทำในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
ใบหน้าของเขาที่ผมเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกดูเหมือนกับอะไรซักอย่าง

"ถ้าอย่างนั้น, รักษาตัวด้วยนะ อื้อ, แต่อย่าเพิ่งฝืนตัวเองไปซักพักล่ะ ดูเหมือนเธอจะฝืนตัวเองมากเกินไปตลอดเลย"
"---ผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับที่ช่วยผม"
ผมโค้งให้เขาพร้อมคำขอบคุณจากใจ
และ, ผมก็ลุกออกไปจากเก้าอี้

ผมออกไปที่ทางเดิน
คนที่อยู่ในห้องรอนั้นคือฮิซุย
เพราะไม่ได้เห็นหน้าของเธอมาหลายวัน, ผมโบกมือให้เธออย่างตื่นเต้น
ฮิซุยรีบวิ่งมาอยู่ข้างผมเพื่อช่วยผม

"ถ้าอย่างนั้น, จะไปกันรึยัง? ตั้งแต่วันนี้ไปพวกเราจะไปเยี่ยมโคฮาคุซังได้แล้ว, ใช่ไหม?"
ฮิซุยพยักหน้า

"...... เอ่อ, ท่านชิกิคะ ร่างกายของท่านไม่เป็นไรแล้วจริงๆ เหรอคะ?"
ฮิซุยมองขึ้นมาที่ผม, เต็มไปด้วยความกังวล 




"นี่ หมอคือคนที่ไม่ปล่อยให้คนที่ยังรักษาไม่หายได้เป็นอิสระหรอกนะ ถ้าผมออกจากโรงพยาบาลได้ นั่นหมายความว่าผมหายดีแล้ว ผมชินกับเรื่องที่ต้องอยู่โรงพยาบาลแล้ว เพราะแบบนั้นเชื่อผมเถอะ"
"-----ค่ะ เพราะแบบนั้นฉันถึงได้เป็นห่วงค่ะ มันไม่เคยมีกรณีที่ท่านกลับมาจากโรงพยาบาลแล้วหายดีอย่างสมบูรณ์เลย"
"......... หืม"
..... ตอนนี้ฮิซุยเริ่มพูดมากขึ้นแล้วจริงๆ
อืม นั่นเป็นความจริง เพราะแบบนั้นผมเลยไม่เห็นด้วยไม่ได้

"---ยังไงก็ตาม, ในที่สุดผมก็เอาผ้าพันแผลออกจากตาได้แล้ว ผมสามารถเห็นหน้าของเธอได้และร่างกายของผมก็รักษาหายแล้ว, เพราะแบบนั้นมันจะไม่มีปัญหาอะไรอีกแล้ว
มาเถอะ, ไปเยี่ยมโคฮาคุซังกัน"
ในขณะที่กำลังจูงมือฮิซุย, ที่ยังคงอยากจะพูดอะไรบางอย่างอยู่, ผมเดินไปทางห้องของโคฮาคุซัง

Music: stop




-----หลังจากนั้น

หลังจากที่ผมแทงมีดเข้าไปในตัวโคฮาคุซัง, ฮิซุยตื่นตกใจ
แต่, หลังจากที่เห็นว่าร่างกายของโคฮาคุซังไม่บาดเจ็บแล้ว ลมหายใจของเธอก็กลับมาหลังจากนั้น และในขณะที่เห็นผมล้มลงไป ฮิซุยวิ่งมาช่วยพวกเรา ถึงแม้ว่าเธอจะยังคงตกใจอยู่ก็ตาม

ผลลัพธ์คือ, โคฮาคุซังถูกช่วยเอาไว้ได้
ผมตกอยู่ในอาการที่ดวงตาของผมไม่สามารถทำงานได้เพราะการเสื่อมถอยไปของพละกำลังในร่างกาย

...... อืม, เพราะอะไรบางอย่างผมสามารถเข้าใจได้ว่าผมตาบอดไป ในตอนที่ผมแทงมีดเข้าไปในร่างของเธอ, สิ่งเดียวที่ผมสามารถเห็นได้ก็คือ "เส้น" พวกนั้น
เพราะแบบนั้นถึงผมจะได้รับการบอกว่าผมตาบอดไป, มันก็ไม่ทำให้ผมตกใจมากขนาดนั้น, แต่ต่อมา, การมองเห็นของผมก็กลับมาหลังจากนั้นไม่นาน

ผลการตรวจแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันไม่มีอะไรผิดปกติกับดวงตาของผม, แต่ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือเส้นประสาท มันไม่ใช่ว่าเส้นประสาทของผมที่ถูกตัดไปนั้นเชื่อมต่อกันใหม่, มันหมือนกับว่าเส้นประสาทที่ด้านชาไปหายชามากกว่า
...... ดูเหมือนว่าดวงตาของผมจะไม่บอดง่ายขนาดนั้น
หรือมันอาจจะเป็นไปได้ว่าต่อให้ตาของผมบอดไป, ผมก็ยังคงเห็น "เส้น" พวกนั้นอยู่

...... อืม, พวกนั้นมันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย
ความจริงที่สำคัญก็คือผมกับโคฮาคุซังได้ถูกช่วยเอาไว้
...... แต่โคฮาคุซังก็ไม่ได้ถูกช่วยไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

เธอสามารถฟื้นตัวได้
แต่, เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกัน, เธอสูญเสียอะไรบางอย่างไป

"ท่านชิกิ"
"เอ๊ะ----อื้อ, ไปก่อนได้เลย ผมคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะให้เธอเข้าไปข้างในเป็นคนแรก"
หลังจากที่ตอบตกลง, เธอเคาะประตู
มีเสียงบอกให้พวกเราเข้าไปและพวกเราก็เข้าไปในห้อง 



Music: play track 9


----โคฮาคุซังเป็นคนเดียวที่อยู่ในห้อง

เธอนั่งอยู่บนเตียงและมองไปที่ฮิซุยกับผม

"....................."
..... โคฮาคุซังไม่ได้กำลังยิ้มอยู่
ด้วยดวงตาที่ไม่สบายใจของเธอ เธอมองไปที่แขกของเธอ

"เอ่อ..... ฉันขอถามได้ไหมคะว่าพวกคุณเป็นใคร"

เพราะคำพูดพวกนั้น, ไหล่ของฮิซุยสั่นเล็กน้อย

"พวกเรามาดูว่าพี่เป็นยังไงบ้างน่ะคะ พวกเราขออนุญาตินะคะ, พี่"
โคฮาคุซังมองมาที่ฮิซุยด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจหลังจากที่เธอได้ยิน
คำว่า "พี่"

ฮิซุยนั่งลงถัดจากโคฮาคุซัง
ผมไม่อยากจะเข้าไปขวางทาง, เพราะแบบนั้นผมเลยนั่งลงไปบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ กำแพง
โคฮาคุซังมองหน้าของฮิซุยกับผมกลับไปกลับมาอย่างไม่สบายใจ

"เอ่อ...... ขอโทษนะ มันแปลกไปหน่อย ฉันรู้สึกว่าฉันรู้จักพวกเธอสองคน, แต่ฉันจำพวกเธอไม่ได้เลยซักคน"
เสียงของเธอฟังดูเต็มไปด้วยคำขอโทษ
นี่มันไม่ใช่การเล่นตลกหรืออะไรทั้งนั้น เพราะเธอหมายความว่าแบบนั้นจริงๆ




----มันมีปัญหาบางอย่างกับความทรงจำของเธอ
ผมคิดว่าฮิซุยบอกผมมาก่อนหน้านี้แล้ว

โคฮาคุซังไม่ได้เป็นโคฮาคุซังคนก่อนหน้านี้ต่อไปอีกแล้ว 
...... ไม่นั่นมันไม่ถูกต้องไปซะทีเดียว
ระบบสมองสามารถแบ่งการทำงานออกได้เป็นสี่ส่วนบันทึก, เก็บเอาไว้, นำกลับมาใช้ใหม่และและการระลึกได้ และดูเหมือนว่าโคฮาคุซังจะมีปัญหากับส่วนเก็บความทรงจำของเธอ 

หมอบอกว่าเธอจะกลับไปใช้ชีวิตปกติของเธอได้แต่...... เธอจะไม่สามารถนึกย้อนไปถึงอดีตส่วนใหญ่ของเธอได้ 
...... มันไม่ใช่ว่าเธอนึกไม่ออกยิ่งไปกว่านั้นมันเหมือนกับว่าเธอสูญเสียมันไปมากกว่า 
ความทรงจำของเธอที่เธอเก็บรักษาไว้จนถึงตอนนี้---ข้อมูลทั้งหมดพวกนั้นหายไปเพราะแบบนั้นมันเลยไม่มีอะไรเหลือให้นึกอยู่อีกเลย 
เพราะแบบนั้นโคฮาคุซังเลยจำผมหรือฮิซุยไม่ได้ 
...... การที่จะให้โคฮาคุซังกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนนั้นมันเป็นสิ่งที่ไร้ความหวังจริงๆ 


ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอาการช็อกจากการเฉียดตายเพราะพิษหรือโคฮาคุซังเป็นคนปิดผนึกมันไว้ด้วยตัวเอง 
แต่ผมรู้ว่าโคฮาคุซังมีร่างกายและหัวใจเหมือนเมื่อก่อนที่เธอเคยมี, แต่เธอลืมเรื่องผม, ฮิซุย, และอากิฮะไปหมด




"เอ่อ......"
โคฮาคุซังมองขึ้นไปที่ฮิซุย
"คะ" ฮิซุยตอบกลับไป, และโคฮาคุซังก็เริ่มพูดขึ้นมาอย่างลังเล
"ใบหน้าของเธอเหมือนกันกับฉันเลย ฉันขอถามได้ไหมว่าเธอเป็นใคร"
"----------"
ร่างกายของฮิซุยแข็งทื่อ
แต่นั่นมันก็แค่พริบตาเดียวเท่านั้น
พร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ฮิซุยจับมือของโคฮาคุซังไว้

"หนูเป็นน้องสาวของพี่, ฮิซุยค่ะ"
"ฮิซุย...... จังเหรอ?"
เธอสามารถตอบกลับได้สำเร็จ
นั่นคงเป็นการตอบกลับที่โหดร้ายที่สุดที่เธอคงจะตอบกลับไปได้
แต่ฮิซุยยังคงยิ้มอยู่อย่างอ่อนโยน, และตอบไปว่า "ค่ะ"

"...... ฉันเสียใจมากนะ ฉัน, นึกเรื่องของเธอ, ฮิซุยจัง, หรือคนที่อยู่ตรงนั้นไม่ออกเลย
...... อะฮะฮะ, ฉันกลัวนิดหน่อย ฉันนึกเรื่องของเธอไม่ออกเลย, ฮิซุยจัง บางทีมันคงจะมีอะไรผิดปกติกับฉัน"
เธอคอตก, โคฮาคุซังดูเหมือนเป็นเด็กหลงทาง
ใบหน้าของเธอหมองมัวและดวงตาของเธอนั้นไม่สบายใจ; เธอไม่เหมือนกับโคฮาคุซัง

---ถึงอย่างนั้น
ฮิซุยก็จับมือของเธอเอาไว้แน่น

"ไม่ค่ะ, ไม่ต้องกังวลค่ะ, พี่ ไม่ว่าพี่จะไม่สบายใจขนาดไหน, หนูจะอยู่กับพี่ตลอดไป
...... เหมือนกับที่พี่เคยปกป้องหนูตลอดมา, จากนี้ไปหนูจะปกป้อง, พี่ตลอดไปตลอดไปเช่นกันค่ะ, พี่"
ใบหน้าของโคฮาคุซังเต็มไปด้วยความงุนงง
หลังจากที่มองไปที่ฮิซุยอย่างประหลาดใจแล้ว, โคฮาคุซังก็ขอบคุณเธอ

"เอ๊ะ----อ๊ะ, ค่ะ"
ในขณะที่ก้มหน้าลงไปด้วยความเขินอาย, ฮิซุยพูดพึมพำตอบกลับไป




"เอ่อ, มีอะไรที่พี่ต้องการไหมคะ? อย่างเช่นอะไรที่อยากกิน, หรืออะไรที่อยากได้?"
โคฮาคุซังบอกว่าใช่และพยักหน้าด้วยดวงตาของเธอ เป็นการตอบกลับความพยายามของฮิซุยที่พยายามจะซ่อนความเขินอายของตัวเอง

"คะ อะไรเหรอคะ, พี่?"
"...... ฉัน, คิดว่าฉันไม่เคยชอบชื่อโคฮาคุเลย เพราะแบบนั้น---ฉัน, อยากจะได้ชื่อใหม่"
".................. ชื่องั้นเหรอ?"
ผมสงสัยว่าทำไม
ในตอนที่เธอพูดออกมา, มีแค่ชื่อเดียวเท่านั้นที่ผมสามารถนึกออกได้
ชื่อที่ถูกทิ้งไปและหลงเหลืออยู่ในความทรงจำเพียงอย่างเดียว

".................. ท่านชิกิ"
ฮิซุยหันมาที่ผม
...... เธอกำลังคิดเหมือนกันอยู่รึเปล่านะ? เธอมองมาที่ผมราวกับว่าเธอต้องการยืนยัน

".................. อืม"
ผมพยักหน้าตอบกลับไป
ฮิซุยหันกลับไปที่โคฮาคุซังแล้วก็,

"ชื่อนานายะเป็นยังไงคะ?"

บอกเธอไปแบบนั้น

"............... นานายะ"

โคฮาคุพูดพึมพำราวกับว่ากำลังทดสอบเสียงอยู่
ในทันทีหลังจากนั้น, เธอเงยหน้าขึ้นมาเหมือนกับว่าเธอนึกอะไรบางอย่างได้

"---อื้อ ฉัน, คิดว่าฉันชอบชื่อนั้น เพราะอะไรบางอย่าง มันดูน่าคิดถึงมากๆ"

ในขณะที่กำลังพูดแบบนั้น, เธอยิ้ม
รอยยิ้มปกติของเธอที่เบ่งบานราวกับดอกกุหลาบ

---ในที่สุด
เป็นครั้งแรกนับจากที่เธอตื่นขึ้นมา, เธอยิ้มอย่างมีความสุข 



Music: play track 7


---พวกเธอสองคนคุยกันได้เป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ
เป็นเรื่องธรรมดา พวกเธอสองคนผ่านเวลาไปได้อย่างสงบสุขในฐานะพี่น้อง

...... ผมไม่รู้ว่าการที่เธอสูญเสียความทรงจำไปนั้นเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี
ในเมื่อความทรงจำทั้งหมดของเธอนั้นมันเจ็บปวด, บางทีมันอาจจะดีที่เรื่องนี้เกิดขึ้น
เพราะนับจากนี้ไป, มันจะไม่มีอะไรนอกจากความสุข
โดยที่ลืมเรื่องน่าเศร้าทั้งหมดไป, เธอสามารถได้รับความสุขธรรมดาๆ ได้

"----------"
แต่, ในขณะที่มองขึ้นไปที่ท้องฟ้าสีครามนี้, ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากนึกย้อนกลับไป
เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างนั่น
ผมรู้ว่าอดีตของเธอเป็นอะไรที่จะต้องถูกลืมไป
แต่, ถึงอย่างนั้น----ถ้าผมทำได้, ผมก็อยากให้โคฮาคุซังคนนั้นมีความสุข

...... แต่ความปรารถนานั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้
เพราะแบบนั้นผมต้องจบความปรารถนานั่นลงเดี๋ยวนี้

----ภายใต้ท้องฟ้าสีครามที่โหยหา
ผมนึกไปถึงครั้งสุดท้ายที่เธอยิ้มอย่างไร้ความกังวล, เหมือนกับเป็นดอกไม้ที่ยังคงบานค้างอยู่ ----

"ท่านชิกิ, ฉันขอเวลาซักครู่ได้ไหมคะ?"

หลังจากที่พวกเราออกมาจากโรงพยาบาล,
ฮิซุยถามคำถามนั่นขึ้นมากระทันหัน

"เอ๊ะ......? ได้แน่นอน, อะไรเหรอ?"
"ค่ะ พวกเรายังมีเวลาอยู่, เพราะแบบนั้นมันมีที่ๆ ฉันอยากจะไปอยู่"
"ที่ ที่เธออยากไปงั้นเหรอ......?"
เพราะไม่เข้าใจ, ผมเอียงหัวของผมไปด้านข้าง

"มาเถอะค่ะ, ไปกันเถอะ, ท่านชิกิ!"
ฮิซุยดึงมือผมเต็มแรงและเริ่มออกวิ่ง 



Music: play track 2


"--------------------"
เธอพาผมออกมาที่ทุ่งหญ้านอกเมือง
ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจบลงและท้องฟ้านั้นลึกล้ำ
สายลมที่ผ่านดอกไม้และใบหน้าของพวกเราเหมือนกับจะพัดผ่านหัวใจของพวกเราไป

"ฮิซุย......? ทำไมเธอถึงได้อยากให้ผมมาที่นี่งั้นเหรอ?"
"หืมม, ใครจะไปรู้ล่ะคะ? ถ้าให้พูดจริงๆ, จริงๆ แล้วมันไม่มีเหตุผลหรอกค่ะ
มันก็แค่ตอนที่พวกเรามาโรงพยาบาล, ฉันเห็นทุ่งนี่จากรถไฟ"
ฮิซุยพูดเหมือนกับเป็นเรื่องเล็กน้อยในขณะที่เธอยืนอยู่ข้างผม

"...... ผมไม่เข้าใจ ที่นี่เป็นที่ๆ ดี, แต่มันดูเหมือนจะไม่พิเศษขนาดนั้น ถ้าเธออยากจะไปเล่น, พวกเราน่าจะไปที่อื่น----"
"ไม่ มาที่นี่ถูกแล้วค่ะ
ฉันอยากจะไปที่ๆ ไม่ได้อยู่ในเมือง, แต่เป็นที่ๆ เงียบและสวยงาม, และทำให้ฉันรู้สึกดี
ที่ๆ ท่านสามารถกลับไปเป็นตัวของตัวเองได้"
พร้อมกับยิ้มจางๆ, เธอมองขึ้นมาที่ผม


"ตัวของผมเองงั้นเหรอ----ฮิซุย?"
"ค่ะ อืม, ในตอนที่ท่านอยู่โรงพยาบาล, ท่านดูซึมเศร้ามากๆ
...... ฉันเข้าใจว่านท่านรู้สึกยังไง, และฉันก็ดีใจที่ท่านรู้สึกแบบนั้น
แต่, นั่นไม่ใช่สิ่งที่พี่ต้องการค่ะ"
ฮิซุยยื่นมือออกไป
เธอวางมือของเธอลงบนมือของผมเบาๆ




"ไม่ใช่ว่ามันจริงเหรอคะ? ฉันคิดว่ามันเป็นการดีกว่าที่ท่านจะร่าเริง
..... นี่, ท่านชิกิคะ ท่านอาจจะไม่รู้สึกถึงมัน แต่ท่านนั้นเหมือนกับแสงอาทิตย์
นั่นเป็นท่านชิกิที่ฉันชอบ และจะชอบไปตลอด"
ดวงตาของเธอมองมาที่ผมตรงๆ
ดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนมากจริงๆ และมองโลกในแง่ดี
ฮิซุยเป็นคนที่เหมือนกับแสงอาทิตย์
เมื่อแปดปีก่อน
มันรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเราได้กลับไปที่เวลานั้น, เวลาที่อากิฮะกับผมและเธอจะไปวิ่งเล่นรอบๆ สวนด้วยกัน"

"----จริงๆ แล้ว ถ้าท่านถามฉัน ฉันคิดว่าฉันเป็นคนที่มืดมนเหมือนกันค่ะ"
"เธอก็แค่เป็นคนที่ไม่ค่อยเริ่มพูดก่อนเท่าไรเท่านั้นเอง
แต่สำหรับผม--ไม่, สำหรับพวกเรา, เธอเป็นเหมือนกับทุ่งหญ้ากว้างๆ นี้"
"----------"
นิ้วของเธอขยับ
ผมรู้สึกว่าเธอจับมือของผมแน่นขึ้น

"ถ้าอย่างนั้น, กรุณาอย่าทำหน้าแบบนั้นนะคะ, ท่านชิกิ
ท่านอากิฮะถูกช่วยไว้ได้, และแม้แต่พี่ก็ถูกช่วยไว้ มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ท่านจะต้องเศร้า
พี่ยังมีชีวิตอยู่ และฉันมั่นใจว่าซักวันหนึ่งเธอจะกลับไปเป็นเหมือนกับที่เธอเคยเป็น,  และต่อให้มันไม่เป็นแบบนั้น, ฉันจะทำให้เธอมีความสุขมากกว่านั้นหลายเท่า
ท่านไม่จำเป็นต้องเศร้าหรอกนะคะ เพราะจากนี้ไปพวกเราต้องช่วยทำให้พี่กับท่าน
อากิฮะมีความสุข"

"------"
สิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องไร้สาระพอๆ กับเทพนิยาย
เพราะแบบนั้นผมเลยสงสัยว่าทำไม?
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอ----ผมรู้สึกเหมือนกับมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้าไปในหัวใจที่มืดมนของผม

"-----ใช่แล้ว
ผมเป็นพี่ชายของเธอ, เพราะแบบนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผมจะทำแบบนั้น"
ฮิซุยพยักหน้า




"….. อื้อ มันอาจจะเป็นเรื่องยาก, แต่พวกเราต้องทำ เพราะผมอยากให้พวกนั้นมีความสุขด้วยเหมือนกัน"
"-------ค่ะ ฉันรู้ว่าท่านทำได้ค่ะ"
ในขณะที่เธอพยักหน้าอย่างมั่นคง, เธอนำมือของผมไปแนบติดกับอกของเธอ

..... ผมสามารถรู้สึกได้ถึงหัวใจของเธอ
ความอบอุ่นที่ละเอียดอ่อนจากร่างกายของเธอลอยไปอย่างสงบเหมือนกับสายลมที่ลอยผ่านหญ้าเข้ามาสู่หัวใจของผม

"---อีกอย่าง ถ้าท่านไม่ร่าเริง, ฉันคงจะมีปัญหามากแน่ๆ"
"ทำไมเหรอ?" ผมถามออกไป
แก้มของฮิซุยแดงระเรื่อ, แต่เธอก็ยังคงจ้องตรงมาที่ผม----

"...... ก็ท่านเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้ฉันมีความสุขได้ ฉันอยากอยู่ใกล้ท่านตลอดเวลา, อยู่ใกล้แสงอาทิตย์ของท่านตลอดเวลา"

----เธอยืนด้วยปลายเท้าเพื่อยืดตัวขึ้นมาจูบผม




ท้องฟ้านั้นอยู่สูง
ภายใต้ท้องฟ้าที่ไม่มีความเศร้า ผมได้รับความอบอุ่นจากคนที่ผมรักมากที่สุด

-----จากทุ่งหญ้า
      นั่นเป็นความอบอุ่นของแสงตะวัน

----ใช่, คำพูดของฮิซุยถูกต้องโดยแท้

พวกเราเสียไปมากมาย, แต่พวกเราก็ไม่ได้สูญเสียอะไรไปเลย
วันยังคงมีต่อไปในอนาคต
ถ้าอย่างนั้น, พวกเราต้องเดินต่อไป, และพยายามให้ดีที่สุดที่จะทำให้ทุกคนมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข




"….. ขอบคุณนะ, ฮิซุย"
ในขณะที่กำลังกอดร่างกายที่ละเอียดอ่อนของเธอไว้ ผมหลับตา

น้ำตาไหลลงมาที่แก้มของผม แต่มันไม่มีความเศร้า
แค่มีชีวิตอยู่ก็สนุกพอแล้ว ผมรู้เรื่องนั้นมานานมากแล้ว

-----ถ้าอย่างนั้น
โดยที่จับมือของฮิซุยเอาไว้, ผมจะก้าวเดินต่อไปอย่างไม่เสียใจ-------

Music: stop



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น