สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับ VermillionEnd… ช่วงนี้ไม่เจอ Visual Novel ใหม่ๆที่ต้องตาต้องใจชวนให้รู้สึกว่าอยากหยิบยกมาเขียนเป็นพิเศษเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเกมที่เพิ่งออกหรือเกมที่กำลังจะออก แบบนี้มีหวังได้เขียนถึงเกมเก่าๆไปอีกหลายเดือนแหงๆ (หลังๆมานี้มีแนวทางว่าจะไม่นำพวก Fandisc มาเขียนลง Blog… ถ้าอยากเขียนถึงพวก Fandisc จะเขียนถึงเกมแรกของซีรีย์นั้นๆแทน เช่นอยากเขียนถึงเกม Kizuna Kirameku Koi Iroha -Tsubaki Renka- ก็เลยเขียนถึงเกม Kizuna Kirameku Koi Iroha ที่เป็นเกมแรกของซีรีย์แทน เป็นต้น)… อ๊ะ แต่จะว่าไปพวกเกมแนวนางเอกคนเดียวที่เพิ่งออกอย่าง Aibeya ของค่าย Azarashi Soft ก็ดูน่าสนใจเหมือนกันนะครับ แต่ยังไม่ได้ลองเปิดดูเลยไม่รู้
เอาเป็นว่าช่วงหลายเดือนต่อจากนี้จะนำอะไรมาเขียนนั้นไว้ค่อยคิดดูอีกที มาเข้าเรื่องวันนี้กันเลยดีกว่าครับ เกมที่หยิบยกมาเขียนในวันนี้คือ Gakuen Butou no Folklore ของค่าย Chien ที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 30 มกราคม ปี 2015… ตอนแปลลำบากพอตัวเพราะข้อมูลในเว็บหลักบางส่วนเขียนกำกวม ชวนให้รู้สึกว่าย้อนแย้งกันเอง, ชื่อภาษาอังกฤษเห็นแล้วชวนปวดหัวนิดๆ เช่น เขียนภาษาอังกฤษของคำว่า 王子のジュエル (Jewel ของเจ้าชาย) เป็น Prince of Jewel บ้าง เขียนภาษาอังกฤษของคำว่า グラスの靴 (รองเท้าแก้ว) เป็น Glass of boots บ้าง, และสุดท้ายชื่อของตัวเอกคือ 日野皇志 (ฮิโนะ โคจิ) แต่ในเว็บหลักไม่มีเสียงอ่านเขียนกำกับไว้ ส่วนในเว็บ Getchu ดันเขียน Furigana กำกับไว้ว่า ひのおうじ (ฮิโนะ โอจิ) ซะงั้น… โชคดีที่ผมเล่น Trial Version มาก่อนครับ ไม่งั้นคงแปลผิดไปแล้ว
เนื่องจากหน้า Story ในเว็บหลักเขียนกำกวมจึงขอสรุปพล็อตเรื่องคร่าวๆให้ฟังครับ พล็อตเรื่องก็ประมาณ… ในโลกที่คนบางคนจะเกิดมาเป็น “Cast” ซึ่งมีความสามารถทุกด้านเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาและใช้พลังพิเศษได้นั้น “ฮิโนะ โคจิ” ตัวเอกของเรื่องได้เกิดมาพร้อมกับพลังอันแข็งแกร่งซึ่งคู่ควรกับการเป็นราชา จึงโดนจับแยกจากพ่อแม่ทันทีที่เกิดมาและถูกเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นราชาองค์ต่อไป เขาถูกเลี้ยงดูอยู่ในศูนย์ดูแลของทางรัฐบาลตลอด ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย เพื่อนก็มีเพียงคนเดียวคือ “โอคิ สึโบมิ” เด็กผู้หญิงอายุเท่ากันที่เป็นเมดคอยรับใช้เขา… แม้จะต้องเผชิญกับชีวิตเช่นนั้น แต่โคจิก็ยังใช้ชีวิตอย่างมองโลกในแง่ดีเรื่อยมา
เมื่อโคจิโตขึ้น ทางรัฐบาลก็ให้เขาออกมายังโลกภายนอกเป็นครั้งแรก… โดยให้มาเรียนที่ “โรงเรียนมิคางามิ” ที่เป็นโรงเรียนสำหรับพวก “Cast” เพื่อจะได้เรียนรู้สังคม แต่เมื่อโคจิกับสึโบมิมาถึงโรงเรียน ทั้งคู่ก็ได้พบกับความจริงอันน่าตกใจ ว่าการย้ายมาเรียนที่นี่นั้นนอกจากเพื่อเรียนรู้สังคมแล้วยังมีเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งคือเพื่อเฟ้นหาตัวราชินีในอนาคต
โรงเรียนมิคางามินั้นมีการจัดงานประลองที่เรียกว่า “งานเต้นรำ” ขึ้นทุกวันหลังเลิกเรียน ผู้ถูกท้าประลองจะไม่มีสิทธิปฏิเสธคำท้า และในการประลองกับโคจินั้นมีกฎพิเศษคือเด็กสาวที่ชนะโคจิได้จะกลายเป็นแฟนของเขา… ในระหว่างที่มีแฟน เด็กสาวคนอื่นจะไม่สามารถท้าประลองกับโคจิได้และต้องไปท้าประลองกับแฟนแทน แล้วหากมีใครชนะเด็กสาวคนที่เป็นแฟนได้ โคจิจะกลับไปอยู่ในสภาพโสดอีกครั้งเพื่อให้เด็กสาวคนอื่นได้ท้าประลอง โดยเด็กสาวคนที่ชนะแฟนของเขาได้จะได้สิทธิในการท้าประลองก่อนเป็นคนแรก และสุดท้าย เด็กสาวคนที่อยู่ในตำแหน่งแฟนของเขาในวันจบการศึกษาจะได้ขึ้นเป็นราชินี
โรงเรียนทั้งโรงเรียนคึกคักขึ้นมาทันที มีเด็กสาวมากมายที่อยากเป็นราชินีคนต่อไป ส่วนโคจิกับสึโบมินั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก แต่โคจิก็ยื่นข้อเสนอกับ “ฟุบุกิ เฮียวกะ” ผู้อำนวยการโรงเรียนไปว่าหากเขาไม่แพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียวจนจบการศึกษา ขอให้เขาได้เลือกคู่ครองเอง ผู้อำนวยได้การยอมรับข้อเสนอนั้นเพราะที่ผ่านมาราชาองค์ก่อนๆไม่เคยมีใครทำแบบนั้นได้เลยสักคนจึงไม่คิดว่าโคจิจะทำได้… และแบบนี้ การต่อสู้ของฮิโนะ โคจิจึงได้เริ่มขึ้น โดยยึดมั่นว่า “เจ้าสาวของตนนั้น ตนต้องเป็นคนเลือกเอง”
……พล็อตเรื่องก็เป็นไปตามที่กล่าวมา เหตุผลที่ผมสนใจเกมนี้ก็เพราะ “โอคิ สึโบมิ” ตัวละครเพื่อนสมัยเด็กของเกมนี้ครับ พอดีเกิดสนใจว่านางเอกแนว “เพื่อนสมัยเด็กที่อยู่ด้วยกันมาตลอด+เมดของตัวเอก” จะเป็นตัวละครแบบไหน แล้วพอลองเล่น Trial ไปก็ไม่ผิดหวังกับคาแร็คเตอร์ของเธอเลยครับ
学園舞闘のフォークロア
Gakuen Butou no Folklore
เทพนิยาย ณ งานเต้นรำของโรงเรียน
แปลมาจาก Official Web Site (Chien)
Introduction
“Gakuen Butou no Folklore” คือเรื่องราวการต่อสู้และความรักของตัวเอกกับนางเอกทั้งสี่
ตัวเอก------เด็กหนุ่มผู้เกิดมาพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่งผิดธรรมดา และได้รับการเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นราชาคนต่อไป
เด็กสาวเพื่อนสมัยเด็กผู้อ่อนโยนและซุ่มซ่ามเล็กน้อย ซึ่งเป็นผู้ติดตามของตัวเอกและเคารพรักเขา
เด็กสาวขวางโลกผู้ทั้งเฉลียวฉลาด, งดงาม และร่ำลือกันว่าแข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียน
เด็กสาวแปลกๆผู้เงียบขรึม ที่เกิดสนใจตัวเอกขึ้นมาจากการได้พบกันโดยบังเอิญ
เด็กสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่ออกจะบ้าๆบอๆเล็กน้อย ซึ่งบอกว่าตัวเองชอบการต่อสู้และพยายามจะสู้กับตัวเอก
โรงเรียนที่ทั้งห้าเรียนอยู่นั้นมีกฎโรงเรียนที่ให้แข่งขันกันด้วยพลังกับพลัง และผู้ชนะจะได้รับการทำให้ความปรารถนาเป็นจริง
สิ่งที่นางเอกทั้งสี่ปรารถนาคือตำแหน่งราชินีคนต่อไป------ซึ่งก็คือตำแหน่งภรรยาในอนาคตของตัวเอกนั่นเอง
ตัวเอกกับพวกนางเอกเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน อาศัยอยู่ในหอพักเดียวกัน และต่อสู้กันในทุกๆวัน
การไปกลับโรงเรียนและทานข้าวกลางวันที่สวนกลางด้วยกันกับทุกคน, ชีวิตความเป็นอยู่ตลอดทั้งวันตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน แล้วก็การต่อสู้
ในระหว่างนั้น ตัวเอกกับพวกนางเอกก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น และยืนยันความรู้สึกที่มีให้กันและกันไป
เพราะสู้มาด้วยกัน------จึงสามารถรักกันได้
ความสัมพันธ์ของตัวเอกกับเหล่านางเอกจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นใด ?
จะกลายเป็นคู่รักกับใครคนหนึ่งงั้นหรือ ? หรือว่าจะคู่กับทั้งสี่คน ?------เรื่องนั้นขึ้นอยู่กับคุณแล้ว
“เทพนิยาย ณ งานเต้นรำของโรงเรียน” (Gakuen Butou no Folklore)
เปิดม่านขึ้น ณ บัดนี้
Story
เทพนิยาย, ตำนาน, นิทานพื้นเมือง------
นั่นคือความจริงหนึ่งซึ่งเคยเกิดขึ้นจริงในอดีต
และปัจจุบันเหล่าผู้มีพลังของตัวละครในนิทานเช่นนั้นก็กำลังค้ำจุนโลกใบนี้อยู่------
นี่คือประเทศญี่ปุ่นยุคปัจจุบันบนอนาคตที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะกลายมาเป็นเวทีของเรื่อง
“Cast” เหล่าผู้มีพลังพิเศษที่เกิดมาพร้อมกับ “Lore Jewel”
ในหมู่พวกเขาซึ่งมีพลังอันยอดเยี่ยมนั้น นานๆครั้งจะมีผู้ครอบครอง Jewel ของ “เจ้าชาย” ซึ่งมีพลังคู่ควรกับการเป็นราชาองค์ต่อไป เกิดขึ้นมา
และคนๆนั้นก็คือฮิโนะ โคจิ------ตัวเอกของเรื่อง
เขาได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลมิคางามิพร้อมกับ “โอคิ สึโบมิ” ผู้ติดตามของเขา
ที่รอเขาอยู่ ณ ที่แห่งนั้นคือเด็กสาวสามคน ซึ่งล้วนแต่เป็น “Cast” ผู้ครอบครองพลังอันแข็งแกร่งทั้งสิ้น
เป้าหมายของพวกเธอมีเพียงหนึ่งเดียว
ต่อสู้กับตัวเอกใน “งานเต้นรำ” ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่าง “Cast” ด้วยกันที่จัดขึ้นภายในโรงเรียน แล้วเอาชนะให้ได้
นั่นคือหนทางเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้ตำแหน่งราชินีในอนาคตมาครอง
ท่ามกลางการต่อสู้เพื่อทำเป้าหมายของแต่ละคนให้ลุล่วง ตัวเอกกับพวกเด็กสาวก็เริ่มค่อยๆถูกดึงดูดเข้าหากันทีละน้อย
แล้วยังอาศัยอยู่ในหอพักเดียวกัน จึงเริ่มคิดกระทั่งว่าการอยู่ด้วยกัน 5 คนเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา
ระหว่างนั้นเองได้เกิดคดีหายสาบสูญขึ้นในโรงเรียน
สถานการณ์ไม่คาดคิดและตัวตนที่แท้จริงของผู้อยู่เบื้องหลังซึ่งเผชิญเมื่อไล่ตามความจริงของเหตุการณ์ไปเพราะความจำเป็น
คุณสมบัติในฐานะ “ราชา” ของตัวเอกซึ่งจะถูกทดสอบในคดีที่ลากทั้งโรงเรียนเข้ามาเกี่ยวข้องนี้
แล้วก็ลวดลายความรักของตัวเอกกับเด็กสาวทั้งสี่
การต่อสู้อันงดงามที่เหล่าผู้มีพลังพิเศษร่ายรำ
เปิดม่านขึ้น ณ บัดนี้
World
Cast
ที่เป็นฉากของเรื่องคือประเทศญี่ปุ่นในโลกที่ก้าวเดินไปบนประวัติศาสตร์ที่ต่างกันออกไป
ในโลกใบนี้นั้น พวกวัฒนธรรมหรืออารยธรรมไม่ได้ต่างไปจากยุคปัจจุบันที่พวกเราอาศัยอยู่
ทว่า มีเพียงจุดเดียวที่แตกต่างกัน
นั่นคือ “Cast”
การมีอยู่ของ “Cast” ได้รับการยอมรับเมื่อราวๆ ศตวรรษครึ่งที่ผ่านมา
มีทฤษฎีมากมายและกำลังวิจัยกันอยู่ว่าทำไมจู่ๆ “Cast” ถึงได้เกิดขึ้นมากะทันหัน
ทว่า จนบัดนี้เองก็ยังไม่ทราบคำตอบนั้น
สิ่งที่รู้คือ
ข้อแรก “Cast” นั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการสืบทอดทางพันธุกรรม
ด้วยเหตุนี้ ในบรรดาประชากรมนุษย์ทั้งหมดจึงมี “Cast” เพียง 0.00001 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ข้อต่อมา “Cast” นั้นมีความสามารถในทุกๆด้านสูงกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป
ด้วยเหตุนี้ ประเทศที่มี “Cast” ที่ยอดเยี่ยมอยู่มากจึงมีสิทธิมีเสียงมากตามไปด้วย ทำให้ได้เปรียบทางด้านการฑูต
เพราะแบบนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่า “Cast” จะมีสถานะสูงในสังคม ไม่ว่าประเทศใดในโลกต่างก็ขับเคลื่อนไปโดยมี “Cast” เป็นศูนย์กลาง
และข้อสุดท้าย “Cast” จะเกิดมาโดยกำอัญมณีที่เรียกว่า “Lore Jewel” ไว้ในมือ
Jewel นี้คือต้นกำเนิดพลังของ “Cast” และเป็นไอเทมที่จำเป็นในการใช้พลังพิเศษที่พวกเขามี
Lore Jewel
“Lore Jewel” คืออัญมณีที่ “Cast” กำไว้ในมือตอนที่เกิดมา
อัญมณีซึ่งแต่ละชิ้นมีลวดลายภาพนูนที่มีที่มาจากเทพนิยายสลักอยู่นี้ จะมอบพลังที่มีที่มาจากนิทานเรื่องนั้นๆให้กับผู้ที่ครอบครองมัน
ยกตัวอย่างเช่น
เด็กที่มี “Jewel” ที่มี “หมาป่า” ในเรื่อง “หนูน้อยหมวกแดง” สลักอยู่จะได้รับ “พลังแปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่า” หรือหากเป็น Jewel ของ “ทิงเกอร์เบลล์” ในเรื่อง “ปีเตอร์ แพน” แล้วล่ะก็จะได้รับ “พลังบินไปบนท้องฟ้า”
Jewel ที่ทรงพลังเป็นพิเศษแม้แต่ในบรรดา “Lore Jewel” ด้วยกันนั้นคือ Jewel ของ “เจ้าชาย”
และกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่าแต่ละประเทศจะให้ “Cast” ที่เกิดมาพร้อมกับ Jewel ของ “เจ้าชาย” นี้ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศ
Jewel ของ “เจ้าชาย”
ในบรรดาเด็กๆที่เกิดมาพร้อมกับ “Lore Jewel” นั้น หนึ่งครั้งในรอบหลายสิบปีจะมีทารกซึ่งเกิดมาพร้อมกับอัญมณีส่องประกายสีทองที่เรียกกันว่า Jewel ของ “เจ้าชาย” อยู่ด้วย
เด็กคนนั้นจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษแม้แต่ในหมู่ “Cast” ด้วยกันเอง และมีชะตากรรมที่จะต้องเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม
ในบรรดานั้น การได้ขึ้นเป็นหัวหน้าองค์กรของเหล่า “Cast” ที่ได้รับการยอมรับจากทางรัฐ------ซึ่งก็คือการได้สืบทอดตำแหน่งราชา นั้นถือกันว่าเป็นเกียรติมากทีเดียว
ทว่า การขึ้นเป็นราชานั้นนอกจากความสามารถแล้วยังมีเงื่อนไขอีกอย่าง
นั่นคือตัวตนของราชินี
ราชินีผู้เป็นเจ้าสาวของเจ้าชายนั้น แน่นอนว่าตัวเจ้าชายที่จะต้องอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิตจะเป็นคนเลือกเอง
แต่การคัดเลือกผู้มีสิทธินั้นและลำดับสูงต่ำในหมู่เจ้าสาวจะตัดสินโดย “งานเต้นรำ” ที่พวกเธอจัดขึ้น
สิ่งที่ปรารถนาจากตัวผู้เป็นหัวหน้ามากที่สุดนั้น แน่นอนว่าคือพลัง
ด้วยเหตุนี้ เหล่าเจ้าสาวจึงต่อสู้ และคนเดียวที่ได้รับเลือกในตอนสุดท้ายจะไปสู้กับเจ้าชาย
แล้วจากผลลัพธ์นั้น เจ้าชายกับเจ้าสาวก็จะได้ครองคู่กันอย่างสง่าผ่าเผย
โรงเรียนมิคางามิ
ตามที่ได้กล่าวไป เหล่า “Cast” นั้นมีพลังพิเศษที่คนธรรมดาไม่มี
แต่ใช่ว่าพวกเขาจะรู้วิธีใช้พลังนั้นมาตั้งแต่แรก
ทางประเทศได้จัดตั้งเขตปกครองตนเองพิเศษสำหรับให้การศึกษาและควบคุมดูแล “Cast” ขึ้น แล้วจัดวางสถาบันการศึกษาไว้ที่นั่น
ที่จะมาเป็นฉากของเรื่องคือ “โรงเรียนรัฐบาลมิคางามิ” โรงเรียนประจำซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการศึกษาเหล่านั้น
เนื้อหาการเรียนการสอนส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับพวกการควบคุมพลังพิเศษของนักเรียนแต่ละคนและการกระตุ้นพัฒนาการ
ครูใหญ่คนปัจจุบันนั้น ฟุบุกิ เฮียวกะ ภรรยาของราชา------ซึ่งก็คือราชินีคนปัจจุบัน เป็นคนดำรงตำแหน่งอยู่
ด้วยความสุภาพ, อ่อนโยน แล้วก็ความยอดเยี่ยมของพลังในฐานะ “Cast” เลยได้รับความเคารพเชื่อใจจากทั้งนักเรียนและครูในโรงเรียน
งานเต้นรำ
โรงเรียนที่เป็นฉากของเรื่องจะมีการจัดงานประลองของเหล่านักเรียน------หรือก็คืองานประลองระหว่าง Cast ด้วยกัน ซึ่งเรียกกันว่า “งานเต้นรำ” ขึ้นตอนหลังเลิกเรียนของทุกวัน
เหตุผลเกือบทั้งหมดที่จัดงานเต้นรำขึ้นก็เพื่อแก้ไขปัญหาในหมู่นักเรียน
เช่น เกี่ยวกับสิทธิในการใช้สถานที่อย่างโรงยิม
เช่น เกี่ยวกับการเพิ่มลดงบประมาณของชมรมในปีการศึกษาหน้า
เช่น เกี่ยวกับลำดับในการสารภาพรักใครสักคน
ผู้ชนะใน “งานเต้นรำ” จะได้สิทธิในการให้ผู้แพ้ยินยอมต่อข้อเรียกร้องของตน (แต่แน่นอนว่าต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจเดียวกันและต้องอยู่ในขอบเขตของสามัญสำนึก)
ด้วยเหตุนี้ ในโรงเรียนที่เป็นฉากของเรื่อง ทักษะการใช้พลังของ “Cast” ที่ตัวเองมีและความมุ่งมั่นที่จะขัดเกลาสิ่งนั่นให้ดียิ่งขึ้นไปในแต่ละวัน จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
ปัจจุบัน จากการปรากฏตัวขึ้นของตัวเอกซึ่งมี Jewel ของ “เจ้าชาย” โรงเรียนจึงอึกทึกขึ้นมาทันที
ส่วนเหตุผลนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะนักเรียนหญิงทุกคนต่างพยายามจะครองหัวใจของเขาด้วยเหตุผลของแต่ละคน
แต่ราชินีผู้เป็นเจ้าสาวของเจ้าชายนั้น แน่นอนว่าตัวเจ้าชายที่จะต้องอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิตจะเป็นคนเลือกเอง
และการคัดเลือกผู้มีสิทธินั้นกับลำดับสูงต่ำในหมู่เจ้าสาวจะตัดสินโดย “งานเต้นรำ” ที่พวกเธอจัดขึ้น
สิ่งที่ปรารถนาจากตัวผู้เป็นหัวหน้ามากที่สุดนั้น แน่นอนว่าคือพลัง
ด้วยเหตุนี้ เหล่าเจ้าสาวจึงแข่งขันกันด้วยพลัง และคนสุดท้ายที่เหลืออยู่จะไปสู้กับเจ้าชาย
แล้วจากผลลัพธ์นั้น เจ้าชายกับเจ้าสาวก็จะได้ครองคู่กันอย่างสง่าผ่าเผย
สุดท้ายแล้ว ใครในบรรดานางเอกทั้งสี่จะได้เป็นราชินีกันนะ ?
แล้วตัวเอกจะเลือกใครกันนะ ?
เรื่องนั้นจะค่อยๆกระจ่างขึ้นพร้อมกับเรื่องราวที่ดำเนินไป
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล
- คำว่า “งานเต้นรำ” (舞闘会) ในเรื่อง ไม่ใช่คำว่า “งานเต้นรำ” (舞踏会) ตามพจนานุกรม แต่เป็นคำที่ผู้แต่งคิดขึ้นมาโดยผสมคำว่า 舞踏 (เต้นรำ) กับคำว่า武闘 (ต่อสู้) เข้าด้วยกัน แล้วใส่ suffix คำว่า 会 (งาน) ต่อท้าย
- เนื่องจากคำว่า舞闘会 นั้น ผู้แต่งจงใจให้ไปพ้องเสียงกับคำว่า舞踏会 (งานเต้นรำ), ประกอบกับธีมของเรื่องเป็นแนวเทพนิยาย ผู้แปลจึงตัดสินใจแปลคำว่า 舞闘会 ว่า “งานเต้นรำ”
Character & Weapon
“รับทราบค่ะ เป็นไปดังที่นายท่านประสงค์ เพื่อการนั้นดิฉันจึงได้มาอยู่ตรงนี้ค่ะ”
โอคิ สึโบมิ
熾 つぼみ
Lore Jewel : ซินเดอเรลล่า
เมดผู้รับใช้ตัวเอก และเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขา
เป็นเด็กสาวผู้เหมาะกับรอยยิ้มอันสดใสร่าเริง
ดูแลผู้อื่นดี ให้ความสำคัญกับความสุขของคนอื่นมากกว่าตัวเอง
มีนิสัยเรียบร้อยและถ่อมตัว เป็นเด็กแบบที่จะเดินตามหลังเจ้านายสามก้าว
เธอเองก็เป็น “Cast” เช่นกัน แถมยังเป็นถึงผู้ครอบครอง “Lore Jewel” ของ “ซินเดอเรลล่า” ซึ่งมีพลังอันแข็งแกร่ง
ทว่า อาจเป็นเพราะคิดว่าอยากเกิดมาเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาๆมากกว่า จึงไม่อาจใช้พลังนั้นได้เต็มที่
รองเท้าแก้ว
อาวุธของ Lore Jewel “ซินเดอเรลล่า”
พลังของ “Cast” ที่สึโบมิมีคือ “รองเท้าแก้ว” ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับ “ซินเดอเรลล่า”
เมื่อใช้งานพลังนี้จะมีรองเท้าที่เป็นของแข็งโปร่งใสปรากฏขึ้นมาคลุมขาของสึโบมิ
“รองเท้าแก้ว” นั้นมีพลังมหาศาลในด้านการต่อสู้ ตรงข้ามกับรูปร่างที่ดูเปราะบางและน่ารักของมัน
หากวิ่งไปบนพื้นดินก็จะมอบความเร็วราวกับสายลม หากกระโดดก็จะมอบพลังที่สามารถร่ายรำอยู่บนฟากฟ้าได้ราวกับวิหค
แล้วลูกเตะจาก “รองเท้าแก้ว” ยังรวดเร็วจนไม่ทิ้งแม้แต่เงา หากฟาดฟันลงบนอากาศก็จะก่อให้เกิดการตัดของสายลมที่มองไม่เห็น------หรือก็คือคาไมทาจิขึ้น
สรุปคือสึโบมินั้นสามารถหลบการโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แต่อีกฝ่ายจะหลบการโจมตีของเธอได้ยาก
ด้วยเหตุนั้น แม้แต่ในบรรดาพลังของ “Cast” ด้วยกัน “รองเท้าแก้ว” จึงจัดว่ามีพลังต่อสู้ที่โดดเด่น
ทว่า เนื่องจากสึโบมิมีความไม่สบายใจและชิงชังต่อเรื่องที่ตัวเองเป็น “Cast” อยู่ไม่น้อย เธอจึงไม่ใช้งาน “รองเท้าแก้ว” เลยตราบใดที่ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ความขัดแย้งภายในใจนั้นยังทำให้ “รองเท้าแก้ว” ที่ปรากฏขึ้นมีเพียงข้างเดียวเช่นเดียวกับในเทพนิยายที่มีความเกี่ยวโยงกัน และพลังของรองเท้าข้างเดียวนั้นเองก็ยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบเอามากๆ
สุดท้ายแล้ววันที่สึโบมิจะได้สวม “รองเท้าแก้ว” ในขาทั้งสองข้างจะมาถึงหรือไม่------
แล้วพลังที่แท้จริงนั้นคือ------
เรื่องนั้นจะค่อยๆกระจ่างขึ้นพร้อมกับเรื่องราวที่ดำเนินไป
“อย่างคุณน่ะ ไม่มีทางชนะฉันได้หรอกค่ะ”
ชิรายูกิ มิกิ
白雪 美姫
Lore Jewel : สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
คุณหนูผู้เกิดมาในตระกูลที่มีชื่อเสียงแม้แต่ในระดับโลก เรียนอยู่ชั้นปีเดียวกับตัวเอก
นอกจากเกิดมาในฐานะ “Cast” แล้ว ยังมีรูปร่างหน้าตางดงาม มีพรสวรรค์มากมายตั้งแต่ยังเด็ก จึงได้รับการเลี้ยงดูมาโดยได้รับทั้งความรักและความคาดหวังที่เกินพอดีจากพ่อแม่
อาจเป็นเพราะเหตุนั้น เลยมีนิสัยที่ไม่อาจซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองได้
ยึดถือว่าระหว่างมนุษย์กับ “Cast” นั้นมีความสามารถห่างชั้นกันเป็นธรรมดา------เพราะอย่างนั้น ตนผู้ถูกเลือกจึงมีเป้าหมายและหน้าที่ซึ่งต้องพึงกระทำ กล่าวคือยึดถือหลักการ Noblesse oblige อยู่นั่นเอง
บนพื้นฐานความคิดนั้น เธอคิดว่าอยากจะทำให้ความขัดแย้งและชนชั้นระหว่างมนุษย์กับ “Cast” หมดไป แล้วสร้างโลกที่ทั้งสองฝ่ายต่างจับมือซึ่งกันและกันได้ขึ้นมา
ทว่า ด้วยนิสัยและกิริยาวาจาของเธอ จึงมีข้อบกพร่องตรงที่เพราะไม่พูดส่วนที่จำเป็นที่สุดออกไป เลยมักจะถูกมองว่าอวดดี
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล : Noblesse oblige คือแนวความคิดที่ว่าผู้ร่ำรวย, มีฐานะทางสังคมควรจะประพฤติตนให้เหมาะสมกับฐานะของตน เช่น ทำตัวให้มีเกียรติและช่วยเหลือผู้ยากไร้
ดาบทั้งเจ็ด
อาวุธของ Lore Jewel “สโนว์ไวท์”
พลังของ “Cast” ที่มิกิมีคือ “Seventh Blade” (ดาบทั้งเจ็ด) ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับ “สโนว์ไวท์”
เมื่อใช้งานพลังนี้จะมีดาบสั้นเจ็ดเล่มปรากฏขึ้นรอบตัวมิกิ และสิ่งเหล่านี้จะทำการโจมตีที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ไม่มีที่สิ้นสุดตามแต่ใจของเธอ
ที่ใช้งานบ่อยที่สุดคือบังคับดาบแต่ละเล่มดังใจนึกไปโจมตีคู่ประลองอย่างแม่นยำ
แต่กล่าวกันว่าหากมิกิยอมรับว่าความสามารถของอีกฝ่ายเหมาะสมแล้วล่ะก็ “ดาบทั้งเจ็ด” จะเปลี่ยนรูปร่างไปและทำการโจมตีที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
บ้างก็ว่าจะปล่อยแสงออโรรามาแผดเผาศัตรู------
บ้างก็ว่าจะมอบปีกสำหรับทะยานไปบนฟากฟ้าให้กับมิกิ------
แล้วยังลือกันว่าสามารถเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นดาบพิฆาตในการโจมตีเพียงครั้งเดียวที่มีพลังมหาศาลหาสิ่งใดเปรียบได้ด้วย
ถึงอย่างนั้น โรงเรียนในตอนนี้ยังไม่เคยมีใครทำให้มิกิใช้พลังที่แท้จริงออกมาได้เลย พลังที่แท้จริงของ “ดาบทั้งเจ็ด” จึงเป็นปริศนามาจวบจนปัจจุบัน
“เวลามีจำกัดค่ะ การใช้มันไปอย่างสูญเปล่านั้นพูดได้แค่ว่าเป็นการกระทำอันโง่เขลานะคะ”
มิคาโดะ ฟุตาบะ
蜜門 双葉
Lore Jewel : ฮันเซลกับเกรเทล
เด็กสาวสายทฤษฎีผู้ฉลาดหลักแหลมและไม่ชอบความสูญเปล่า
ทว่า แม้แต่ตัวเธอเองก็มีเรื่องที่ไม่รู้อยู่
นั่นคือเธอควรจะทำอะไรดี
เธอเกิดมาเพื่ออะไรและอนาคตจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร
ที่เธอทุ่มเทให้กับการเรียนมาตลอดนั้นก็เพราะคิดว่า แม้ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร แต่ก็อยากจะหาความรู้ใส่ตัวไว้เพื่อที่จะได้รับมือได้ในยามที่เวลานั้นมาถึง
เธอคิดว่ามนุษย์มีบทบาทหน้าที่อยู่
ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ แต่ก็คิดว่าที่เกิดมาในฐานะ “Cast” เองก็คงเป็นโชคชะตา แล้วก็ตัดสินใจมีชีวิตตามโชคชะตานั้นไป
โดยที่เชื่อมั่นว่าในอนาคตข้างหน้าจะต้องมีคำตอบอยู่อย่างแน่นอน
ฮันเซล
อาวุธของ Lore Jewel “เกรเทล”
พลังของ “Cast” ที่ฟุตาบะมีนั้นมีความเกี่ยวโยงกับ “ฮันเซลกับเกรเทล”
เมื่อใช้งานพลังนี้จะมีด้ายส่องแสงออกมาจากปลายนิ้วมือทั้งสองข้างของฟุตาบะ
ไม่ได้มีพลังโจมตีมากมายเหมือนนางเอกคนอื่น
แต่ฟุตาบะได้ใช้สติปัญญาของตนนำมาประยุกต์ใช้เป็นกลยุทธ์ต่างๆที่คู่ประลองไม่แม้แต่จะคาดคิด เช่นนำด้ายไปเกี่ยวกับเสาหรือของประดับเพดานแล้วเคลื่อนที่ราวกับบินบ้าง วางกับดักต่างๆที่ใช้ด้ายบ้าง
และพลังที่แท้จริงของพลังนี้คือการควบคุมฮันเซลผู้เป็นพี่ชายฝาแฝดเข้าต่อสู้
ลือกันว่าพลังและการโจมตีของคู่ประลองจะเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่ออยู่ต่อหน้าสิ่งนั้น แต่สุดท้ายแล้วความจริงก็ยังเป็นปริศนาอยู่
“อะฮะฮะ การดวลนี่มันดีจริงๆนั่นล่ะ ต่อสู้กันโดยนำพลังที่ทั้งสองฝ่ายมีเข้าปะทะกัน เร่าร้อนสุดยอดไปเลย !”
อาเคโฮชิ จิเอมิ
明星 千恵美
Lore Jewel : อลิซท่องแดนมหัศจรรย์
เด็กสาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาผู้มองโลกในแง่ดีที่ยังไงก็ขอร่าเริงไว้ก่อน
ชอบขยับเนื้อขยับตัวเป็นที่สุด และยังไงก็เก่งกีฬารอบด้าน
แต่ถึงจะชนะการแข่งใหญ่ได้ ก็มีคนไม่น้อยที่คิดทำนองว่า “เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ก็เป็น ‘Cast’ นี่นา”
ถึงอย่างนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่คร่ำครวญ, ย่อท้อ หรือภูมิใจ ต่อชาติกำเนิดของตัวเอง
อยากทำเรื่องน่าสนุก !
ชีวิตที่ไม่สนุกเนี่ยไม่น่าสนใจเอาซะเลย !
โคจิคิดว่าอยากจะเรียนรู้จากท่าทีเช่นนั้นของเธอ
ว่าสำหรับตนแล้วเรื่องน่าสนุกคืออะไร
และตนเองก็สามารถทำให้ผู้อื่นสนุกได้เหมือนกันรึเปล่านะ
อลิซการ์ด
อาวุธของ Lore Jewel “อลิซ”
พลังของ “Cast” ที่จิเอมิมีนั้นคือ “อลิซการ์ด” ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับ “อลิซท่องแดนมหัศจรรย์”
เมื่อใช้งานพลังนี้จะมีไพ่ป๊อก 54 ใบปรากฏขึ้นร่ายรำรอบตัวจิเอมิ และเมื่อหยิบไพ่หนึ่งใบออกมาจากในนั้นก็จะได้อาวุธที่ตรงกับไพ่มา
เช่น
หากเป็นโพดำก็จะได้ “อลิซซอร์ด” ซึ่งจะทำให้สิ่งที่สัมผัสระเบิด
หากเป็นโพแดงก็จะได้ “อลิซแอร์โรว์” ที่สามารถยิงลูกศรออกไปได้ตามตัวเลขบนไพ่
ส่วนโจ๊กเกอร์ซึ่งแอบซ่อนพลังที่แข็งแกร่งที่สุดเอาไว้นั้น ตัวจิเอมิเองจนบัดนี้ยังไม่เคยหยิบได้เลยสักครั้ง พลังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้
ความสามารถของจิเอมินั้นมีพลังที่แข็งแกร่งมากอยู่ แต่เนื่องจากจะหยิบได้ไพ่ใบไหนนั้นขึ้นอยู่กับดวง จึงเป็นพลังที่ไม่เสถียรเอามากๆ
ฟุตาบะบอกไว้ว่า “สำหรับจิเอมิจังผู้มีสมองอันน่าเสียดายแล้วเป็นความสามารถที่เข้ากันที่สุด” แต่ตัวจิเอมินั้นปฏิเสธคำกล่าวนี้โดยสิ้นเชิงอยู่
“อา เรานั้นมันช่างเป็นผู้ชายบาปหนาเสียจริง รู้สึกผิดจริงๆนะเนี่ยที่เกิดมาหล่อ”
Hanzel
ヘンゼル
หุ่นเชิดที่ฟุตาบะใช้พลังควบคุม แล้วยังเป็นพี่ชายฝาแฝดของเธอ------มิคาโดะ ฮาซึกิอีกด้วย
เกิดมาในฐานะ “Cast” เช่นเดียวกับฟุตาบะ แต่ก็มีร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เกิดและต้องจบชีวิตลงทั้งที่อายุยังน้อย
ทว่า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพลังของ “Cast” หรือพลังที่แฝงอยู่ใน “Lore Jewel” วิญญาณนั้นจึงมาสถิตในพลังที่เคยมีตอนที่ยังมีชีวิตอยู่------หรือก็คือสถิตลงในร่างกายปัจจุบันนี้ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่
นิสัยนั้นไม่ชวนให้คิดว่ามีอดีตอันน่าเศร้าเลย ถ้าให้พูดแบบดีๆคือร่าเริงสดใส แต่หากพูดแบบไม่ดีก็คือกะล่อน แล้วยังชอบผู้หญิงแบบไม่ลืมหูลืมตาอีกด้วย
พอปล่อยไว้เฉยๆก็จะเข้าไปจีบสาวและรุกเข้าหาอย่างกระตือรือร้นเกินควรซ้ำไปซ้ำมา
การกระทำนั้นของเขาได้กลายเป็นต้นเหตุแห่งความหนักอกหนักใจของฟุตาบะอยู่
“เห เธอคือเจ้าชายที่ลือกันหรอกเหรอ~ อื้ม♪ ก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆนั่นล่ะ♪”
สึกิมิ คิโยเนะ
月見 清音
นักเรียนย้ายมาใหม่ที่จะปรากฏตัวตั้งแต่กลางเรื่องเป็นต้นไป
กับมิกินั้นคือเพื่อนที่โรงเรียนก่อน และคิโยเนะก็โอบอุ้มความรู้สึกโหยหาที่ใกล้เคียงกับความหลงใหลต่อเธออยู่
คิโยเนะนั้นเป็นกรณีหายากที่พลังของ “Cast” ตื่นขึ้นภายหลังจากที่เกิดมา
พลังนั้นเป็นพลังอันแข็งแกร่งที่มีความเกี่ยวโยงกับ “เจ้าหญิงคางุยะ” แต่เนื่องจากคิโยเนะเพิ่งตื่นขึ้นมาในฐานะ “Cast” ได้ไม่นาน พลังนั้นจึงอยู่ในสภาพที่ไม่ได้รับการพัฒนาทั้งๆอย่างนั้น
มิกิบอกไว้ว่าคิโยเนะนั้นมีนิสัยใจเสาะ, ขี้กลัว และกลัวคนแปลกหน้าอย่างรุนแรง มีเธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่คิโยเนะที่ย้ายโรงเรียนมานี้เป็นคนกระปรี้กระเปร่า แล้วยังปากร้าย พูดแต่คำพูดแรงๆ ขวานผ่าซาก
เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจนี้มีอะไรแอบแฝงอยู่กันนะ……?
เรื่องนั้นจะค่อยๆกระจ่างขึ้นพร้อมกับเรื่องราวที่ดำเนินไป
“ผู้อำนวยการ ฟุบุกิ เฮียวกะค่ะ ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนมิคางามิ”
ฟุบุกิ เฮียวกะ
吹雪 氷華
ผู้อำนวยการโรงเรียนรัฐบาลมิคางามิ และเป็นภรรยาของราชาคนปัจจุบัน------หรือก็คือเป็นราชินีคนปัจจุบันนั่นเอง
อายุจริงที่เปิดเผยให้สาธารณชนทราบนั้นระบุไว้ว่าเป็นวัย 50 แต่รูปลักษณ์ที่เห็นดูยังไงก็เป็นแค่วัย 20
เจ้าตัวบอกไว้ว่าความพยายามอย่างสม่ำเสมอและการมีหัวใจของหญิงสาวอยู่ตลอดคือเคล็ดลับของความสาว
มีนิสัยเป็นเหมือนพระแม่ผู้อ่อนโยนและเท่าเทียมกับทุกคน มีความตั้งใจที่จะสอน แล้วยังมีความเข้าใจทั้งกับพวกครูและนักเรียน จากความใจกว้างนั้นทำให้ทุกคนในโรงเรียนชื่นชอบเธอ
เฮียวกะเองก็เป็น “Cast” เช่นกัน และพลังนั้นเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวโยงกับ “ราชินีหิมะ”
“แต่ว่า” หรือควรจะบอกว่า “แน่นอนว่า” เธอไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันใน “งานเต้นรำ” พลังของเธอเป็นอะไรแบบไหนนั้นจึงไม่ทราบแน่ชัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น