Chapter 1 (Part 2) : คิริโต้ คุเรฮะ
เช้านี้ชินจิไม่ค่อยมีสมาธิกับชั่วโมงเรียนเท่าไรนัก
หลังจากนั้นแม้เขาจะมองไปยังที่นั่งของโทโนะเป็นพักๆ
แต่ก็ไม่เห็นเธออีกเลย
เป็นเรื่องแปลก
ตอนเช็คชื่อ ครูสึคาดะบอกว่ามีแจ้งมาจากทางบ้านว่าวันนี้เธอหยุด
แต่ก็คิดได้ยากว่าพ่อแม่จะปกปิดการตายของลูกสาวตัวเอง
หมายความว่าเธอตายไปโดยที่พ่อแม่ไม่รู้
เด็กหนุ่มนึกถึงคำพูดของน้าสาวเมื่อเช้า
“หลังๆมานี้
ที่ซากุระโนะโมริเองก็มีคดีหรืออุบัติเหตุแปลกๆเยอะ
ยังไงก็มองว่าคิดไปเองไม่ได้จริงๆ…”
เกิดอะไรขึ้นกับโทโนะกันนะ
การที่เธอยังอยู่ในโลกนี้แปลว่าเธอยังมีห่วงอะไรบางอย่างอยู่
หากไปพบเธอคงจะได้คำตอบ
เด็กหนุ่มตัดสินใจได้
เขาอาศัยเวลาพักระหว่างคาบของแต่ละคาบเดินหาโทโนะในโรงเรียน
ระหว่างทางก็เจอกับฮัตสึเนะจัง
เธอสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่ชั้นของนักเรียนปี 1
ชินจิตอบไม่ได้
เขาเคยเล่าเรื่องที่เห็นวิญญาณร้ายให้น้องสาวฟังก็จริง
แต่ไม่เคยเล่าเรื่องที่เห็นวิญญาณคนตายออกไป
สุดท้ายจึงได้แต่กลบเกลื่อนไปแบบไม่เนียน
แม้จะเดินหาทั่วโรงเรียนแล้วก็ยังไม่พบโทโนะ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องขยายขอบเขตการค้นหาออกไปนอกโรงเรียน
เพื่อการนั้น
ข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ตอนพักเที่ยง ชินจิไปถามเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงที่พอจะคุ้นหน้ากันอยู่บ้างว่าโทโนะสนิทกับใคร
แต่พอเอ่ยปากถามก็โดนเข้าใจผิดทันทีว่ากำลังคบกับโทโนะอยู่
เมื่อปฏิเสธไป อีกฝ่ายก็ย้ำอยู่หลายรอบว่าจริงๆเหรอ
แล้วพอเธอมั่นใจว่าไม่ได้คบกันอยู่จริงๆก็บอกว่า…
“อะไรกัน งั้นก็ดี”
“เอ๊ะ ?”
เด็กหนุ่มไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนร่วมชั้นพูด
“อ๊ะ…….เปล่า ไม่มีอะไร อะฮะๆ” อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆกลบเกลื่อน
ท่าทางดูแปลกๆก็จริง แต่เรื่องแบบนั้นจะยังไงก็ช่าง
เขาถามเพื่อนร่วมชั้นว่าโทโนะสนิทกับใคร
แล้วก็ได้ชื่อเด็กผู้หญิงที่สนิทกับโทโนะมา 2-3 ชื่อ
ทว่า
เด็กหนุ่มไม่ได้รู้เลยว่าการกระทำทั้งหมดนั้นถูกสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมองดูอยู่ตลอด
หลังจบคาบ 5 ชินจิก็ไปหาเด็กผู้หญิงที่สนิทกับโทโนะคนหนึ่ง
แล้วถามถึงสถานที่ที่โทโนะชอบไป
เธอบอกว่าถ้าเป็นตอนนี้ไม่รู้
แต่เมื่อก่อนมักจะไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อฟอร์ซาด้วยกันบ่อยๆ
ตอนที่เด็กหนุ่มขอบคุณเธอแล้วกำลังจะเดินกลับห้องเรียนนั้นเอง
อีกฝ่ายก็ถามถึงเรื่องของโทโนะด้วยความเป็นห่วง
“แล้วคานะเป็นอะไรเหรอ ? เห็นว่าวันนี้หยุดเรียนด้วย……”
“……ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่……อยากเจอเฉยๆ”
“โอ้ว” อีกฝ่ายแสดงสีหน้าตกใจออกมา
ต่อมาหลังเลิกเรียน เขากำลังจะเดินออกจากโรงเรียนไปตามหาโทโนะ
ในตอนนั้นเอง ครูประจำชั้นก็ทักเขาแล้วเดินเข้ามาใกล้ๆ
“เมื่อเช้ามีท่าทางแปลกๆนิดหน่อย
กำลังกังวลอะไรอยู่รึเปล่า ? หืม ?” อีกฝ่ายแสดงความเป็นห่วง
เขาปฏิเสธไปว่าไม่มีอะไร
ครูสึคาดะเป็นที่ชื่นชอบทั้งในหมู่นักเรียนชายและหญิง
แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะกำลังเข้าใจผิดอยู่ว่าตัวเองเป็นที่ชื่นชอบของเขาด้วย
ด้วยเหตุผลหนึ่ง
เขาเลยมักจะจ้องไปที่ใบหน้าของสึคาดะบ่อยๆ
นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่ามีลูกศิษย์มาชอบ
“งั้นก็ดี”
พอได้ยินว่าสบายดี อีกฝ่ายก็ยิ้มด้วยท่าทางสนิทสนมแล้วตบก้นของเขาเบาๆ
ชินจิรู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกาย
“ถ้ามีเรื่องกังวลอะไรก็มาบอกครูได้เลยไม่ต้องเกรงใจ
……นะ ?” สึคาดะพูดปิดท้าย จากนั้นก็…
…หัวเราะ
เสียงหัวเราะของสึคาดะเป็นเสียงหัวเราะที่แปลก
เป็นเสียงหัวเราะน่าขนลุกที่ถ้าแค่ฟังอย่างเดียวจะไม่รู้เลยว่ากำลังหัวเราะหรือร้องไห้
ครูประจำชั้นของเขาได้รับความนิยมจากลูกศิษย์ก็จริง แต่ยกเว้นเรื่องเสียงหัวเราะนั่น
และสำหรับตัวเด็กหนุ่มเองแล้ว
มันคือ…
ชินจิมุ่งหน้าไปที่บันได
ในตอนนั้นเองมาโดกะได้โผล่มา แล้วบอกให้เขาฟังเธอพูดโดยไม่หันไปมองข้างหลัง
เธอบอกว่าวันนี้ทั้งวันมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมองเขาอยู่ตลอด
แถมยังสะกดรอยตามด้วย
“แล้วก็นะ
เด็กคนนั้นเป็นสาวงามสุดๆเลยล่ะ ชินจินี่ก็ประมาทไม่ได้เลยนะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“นึกไม่ออกเลยแฮะ”
“งั้นเหรอ แต่ช่างเถอะ ดูจากท่าทางแล้วเดี๋ยวทางนั้นคงเข้ามาทักเองล่ะ
ใช่แล้วล่ะ…อีกเดี๋ยวเดียว” มาโดกะบอก
เพราะโดนบอกว่าอย่าหันไป ชินจิเลยเดินลงบันไดไปทั้งๆอย่างนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลงความเร็ว
แล้วในขณะที่อยู่กลางบันไดนั้นเอง
“ฟุคิงามิคุง”
มีเสียงทักมาจากข้างบน…
พอหันไปมองก็พบว่ามีเด็กสาวผมยาวตาสีแดงยืนกางพัดญี่ปุ่นอยู่ตรงนั้น
เป็นเด็กสาวที่พอจะคุ้นหน้ากันอยู่บ้าง บางทีคงจะอยู่ห้องเดียวกัน
อีกฝ่ายโค้งศีรษะแนะนำตัวว่าเธอชื่อคิริโต้ คุเรฮะ
เป็นเพื่อนร่วมชั้น
เขาเองก็โค้งตอบตาม
เห็นมาโดกะบอกว่าอีกฝ่ายจับตาดูเขาอยู่ตลอดทั้งวันเลยนึกว่าจะเป็นคนเพี้ยนๆ
แต่คิริโต้ดูไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย
“มีเรื่องอยากจะยืนยันนิดหน่อยน่ะ
พอจะมีเวลารึเปล่า”
อีกฝ่ายเข้าเรื่องทันที
“ก็ได้อยู่หรอก……” เขาพยักหน้า
พอเห็นดังนั้นอีกฝ่ายก็เอ่ยปากขอบคุณ
พร้อมสะบัดพัดเก็บเข้าที่
“ฟุคิงามิคุง วันนี้ดูคาใจแปลกๆกับเรื่องคุณโทโนะสินะ
แล้วไม่ใช่แค่นั้น……ยังไปถามเกี่ยวกับเธอด้วย
มีเหตุผลอะไรงั้นเหรอ ?” คุเรฮะถาม
“……เอ่อ”
ในเมื่ออีกฝ่ายถามมาชัดเจนซะขนาดนี้เขาก็หมดปัญญาเบี่ยงประเด็น
เด็กหนุ่มไม่รู้จะตอบอะไรกลับไปดี
ทว่า แต่ไหนแต่ไรก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามตามตรงกับเด็กผู้หญิงที่เพิ่งคุยกันเป็นครั้งแรกอยู่แล้ว
“……ทำไมถึงได้ถามเรื่องแบบนั้นล่ะ
?” ชินจิตัดสินใจตอบคำถามด้วยคำถาม
คุเรฮะพยักหน้า เธอไม่แสดงท่าทางไม่พอใจทั้งๆที่โดนตอบคำถามด้วยคำถาม
“นั่นสิน้า เพราะเธอนั่นล่ะ” อีกฝ่ายตอบมาตามตรง
พร้อมกับพูดเสริมว่าเพราะเห็นชินจิมีท่าทีแปลกๆ
เธอเลยรู้สึกคาใจเช่นกัน แล้วก็บอกว่าหลังๆมานี้เมืองซากุระโนะโมริมีเรื่องแปลกๆเยอะ
“เรื่องแปลกๆ ?”
“เธอเองก็รู้สึกได้ไม่ใช่เหรอ ? ถึงขนาดมีออกข่าวบนทีวีด้วย
หลังๆมานี้มีคดีหรืออุบัติเหตุแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย……” คุเรฮะพูด
“ก็นะ เมื่อเช้าเองก็มีข่าวด้วย” เขาตอบกลับไป
“อุบัติเหตุสายไฟขาดสินะ ? ชั้นเองก็ดูอยู่เหมือนกัน มีอุบัติเหตุแบบนั้นด้วย แล้วก็……”
คุเรฮะเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เงียบไป
บางทีเธอเองก็คงกำลังคิดว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับโทโนะเช่นกัน
“แล้วคำตอบของฟุคิงามิคุงล่ะ ?”
หลังตอบคำถามของเขาแล้ว เด็กสาวก็ทวงคำตอบของคำถามเมื่อครู่
“………….”
ชินจิได้แต่นิ่งเงียบ จะให้ตอบว่าเห็นวิญญาณได้ก็คงถูกทำเป็นเหมือนคนสติไม่เต็ม
“……ช่างเถอะ ว่าแต่ฟุคิงามิคุง
ตอนนี้เหมือนกำลังรีบอยู่ไม่ใช่เหรอ ?”
พอเห็นว่าชินจิไม่ยอมตอบ เธอก็เลิกถามแล้วเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแทน
“อืม ก็นะ” เขาตอบ
“กำลังจะไปไหนเหรอ ? หรือว่า คิดจะตามหาคุณโทโนะงั้นเหรอ ?” เธอถาม
พอเขาพยักหน้าเธอก็ขอตามไปด้วย
“ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่…” ชินจิอนุญาต
“ขอบคุณ” เธอพยักหน้าเบาๆแล้วสะบัดพัดญี่ปุ่นเก็บเข้าที่
ชินจิคิดจะไปร้านอาหารชื่อฟอร์ซา แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
คุเรฮะเลยบอกว่านั่นเป็นร้านประจำของเธอแล้วอาสาพาไป
เขาจึงรบกวนเธอ
ระหว่างทางเด็กหนุ่มก็คิด
คิริโต้ คุเรฮะดูเป็นเด็กผู้หญิงที่เข้าหายาก
แต่พอคุยด้วยแล้วก็พบว่าคุยกันได้อย่างสบายอารมณ์ผิดคาด
เป็นเรื่องแปลกที่เดินเคียงข้างกับเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้จักกันมาก่อนจนถึงเมื่อครู่เพื่อไปร้านอาหารด้วยกัน
ชินจิกับคุเรฮะมาถึงร้านฟอร์ซา ซากุระโนะโมริ
ทั้งคู่กวาดสายตามองหาโทโนะ แต่ก็ไม่พบ
จากนั้นก็ถูกบริกรหญิงเข้าใจผิดว่าเป็นลูกค้าแล้วพาไปที่โต๊ะ
“……เอาเถอะ ดื่มอะไรก่อนแล้วค่อยไปละกัน” คุเรฮะยิ้ม
เป็นตอนนั้นเองที่แววตาเคร่งขรึม
เข้าหายากได้หายไปจากใบหน้าของเธอโดยสิ้นเชิง
ทว่า พอมานั่งที่โต๊ะด้วยกันแล้วกลับหาหัวข้อสนทนาไม่เจอ
คุเรฮะเองก็เล่นพัดญี่ปุ่นในมืออยู่เพราะหาเรื่องคุยไม่ได้เช่นกัน
เขาเลยตัดสินใจทำลายความเงียบ ถามเรื่องพัดนั่นว่าไม่ใช่หน้าร้อนแท้ๆ
ทำไมถึงได้ถือไปถือมา
เด็กสาวเลยตอบว่าเธอแค่ชอบเฉยๆ พร้อมบอกว่าอาจจะไม่ค่อยเข้ากับชุดนักเรียนเท่าไร
แต่เข้ากับชุดญี่ปุ่นดี
พอเขาถามต่อก็ได้ความว่าเธอใส่ชุดญี่ปุ่นตอนอยู่บ้าน
คิริโต้ คุเรฮะเป็นคนแปลกนิดหน่อยจริงๆนั่นล่ะ ชินจิคิด
แต่นั่นก็เป็นการแปลกในความหมายที่ดี
เพราะยังไงเธอก็มาคุยกับเด็กผู้ชายที่ไม่รู้จักอย่างเขาเพื่อเด็กผู้หญิงที่ขาดเรียนคนนึง
พอบริกรหญิงนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้ว
คุเรฮะก็ถามมาด้วยสีหน้าจริงจัง
ว่าจะเอายังไงกับเรื่องของโทโนะ วันนี้ไม่เจอก็จริง แต่จะตามหาต่อรึเปล่า
ใช่แล้ว ตัวเขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าจะเอายังไงถ้าไม่เจอโทโนะ
พ่อแม่ของโทโนะคงกำลังเป็นห่วงลูกสาวอยู่ไม่ผิดแน่
และคนที่รู้ความจริงว่าเธอไม่อยู่แล้วก็มีเพียงเขาคนเดียว
จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ เด็กหนุ่มคิดเช่นนั้น
“ก็ตั้งใจแบบนั้นล่ะ” เด็กหนุ่มตอบคำถามเด็กสาว
“……แปลกคนจังเลยนะ” เด็กสาวยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น
“คิริโต้เองก็ด้วยล่ะ” เขาตอบกลับไป
ในตอนนั้นเอง…
…ภาพโทโนะได้ปรากฏอยู่บนสายตาของชินจิ
เขามองไปทางเธอที่เดินเข้ามาจากประตูร้าน
คุเรฮะมีท่าทีสงสัย แต่เขาก็มองตามโทโนะไปโดยไม่สนใจ
โทโนะค่อยๆเดินเข้ามาในร้าน
ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าห้องครัว
เธอจ้องมองเข้าไปในนั้นด้วยสีหน้าเศร้า…
…ก่อนจะหายไปโดยไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้เลย
พอเขารู้ตัวก็พบว่าคุเรฮะกำลังจ้องมองเขาด้วยท่าทีสงสัย
“โทษทีที่ทำอะไรแปลกๆให้เห็น” ชินจิขอโทษเธอ
“ไม่เป็นไร ……แต่ฟุคิงามิคุง
ทำเหมือนกับมองเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็นเลย…… พอมาคิดดูดีๆแล้ว
ในห้องเรียนเมื่อเช้าก็ด้วย”
ทว่า คิริโต้ คุเรฮะกลับบอกว่าไม่เป็นไร
พร้อมชี้ประเด็นมาได้ตรงจุด
นี่เป็นครั้งแรกที่ฟุคิงามิ ชินจิลังเล ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเล่าเรื่องที่เห็นวิญญาณคนตายให้ใครฟังมาก่อนเลย
แต่กลับรู้สึกว่าถ้าเป็นเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้
เธออาจจะยอมเข้าใจก็เป็นได้
“……เอ่อ……” ชินจิเอ่ยปาก
อาจเป็นเพราะสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
คุเรฮะเองก็ตั้งใจฟังเช่นกัน
แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“……อ๊ะ ของชั้นล่ะ โทษทีนะ……อะไรกัน ปู่หรอกเหรอ ฮัลโหลๆ ?”
คุเรฮะรับโทรศัพท์
“เอ๊ะ ? วิธีอัดรายการทีวีล่วงหน้า ? ……โธ่ อธิบายไปตั้งหลายครั้งแล้วแท้ๆ……”
“เพราะแบบนั้น……ไม่ ไม่ใช่ปุ่มนั้น…… ………ค่า ค่า เข้าใจแล้ว”
หลังคุยโทรศัพท์เสร็จ คุเรฮะก็เก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋านักเรียน
“ขอโทษนะ วันนี้ชั้นขอตัวแค่นี้” เธอบอกลาเขาเหมือนมีธุระด่วน
“อะ อืม” ชินจิตอบกลับไปแบบงงๆ
“ไว้มาต่อวันพรุ่งนี้……ได้สินะ ?”
ก่อนจากกันเด็กสาวพูดทิ้งท้ายไว้ราวกับเป็นการย้ำ
พอเขาพยักหน้า เธอก็ยิ้มแล้วบอกว่าไว้เจอกันพรุ่งนี้
ชินจิรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้พูดเรื่องที่ตัวเองเห็นวิญญาณออกไป
แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายเช่นกัน
เขาดื่มกาแฟที่สั่งมาพลางสังเกตดูในร้าน
ก่อนจะถามบริกรหญิงเรื่องเชฟในร้าน แล้วก็ได้ความว่าเชฟของร้านนี้มีเพียงเชฟโมริยาสุคนเดียว
หลังจากนั้นเขาก็รออยู่ที่ร้านประมาณ 1 ชั่วโมง แต่โทโนะก็ไม่ได้ย้อนกลับมาแต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น