สวัสดีปีใหม่ครับ ! ปี 2020 ที่ผ่านมามีข่าวร้ายเยอะจนเรียกได้ว่าเป็นปีแห่งหายนะเลยทีเดียว แถมหายนะยังไม่จบอยู่แค่นอกจอ แต่ยังลามมาถึงในจอ … Interface ใหม่ของ Blogspot ที่ Google เอามาแทนของเก่านั้นใช้ยากมาก แล้วยังทำให้ตัวหนังสือแต่ละ paragraph ห่างกันเกินไปจนดูไม่สวย ก็คงได้แต่หวังว่าปี 2021 นี้อะไรหลายๆอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นล่ะครับ …อ้อ มีข่าวดีคือผมอ่านหนังสือเรียนภาษาโบราณ(古文)จบแล้วล่ะครับ คิดๆไว้อยู่ว่าปีนี้อาจจะลองลงสนามจริง(เริ่มอ่านของจริง)ดู
เอาล่ะ ทักทายกันแค่นี้พอ มาเข้าประเด็นกันดีกว่าครับ เกมที่นำมาให้ดูในวันนี้คือ 11eyes -Tsumi to Batsu to Aganai no Shoujo- ของค่าย Lass ที่วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2008 เกมนี้เป็นเกมที่ดังมากในยุคนั้นและสร้างชื่อเสียงให้กับค่าย Lass ดังขนาดที่ได้รับการนำไปทำเป็นอนิเมะ …อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ถาวร ปัจจุบันค่าย Lass ได้ล้มละลายไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2017(ยังเหลือค่ายลูกอยู่) และหน้าเว็บเกม 11eyes ก็เข้าไม่ได้แล้ว ที่เห็นแปลมาได้เยอะๆนี่เพราะผมเซฟ text จากเว็บเกมเก็บไว้ในเครื่องน่ะครับ
เนื่องจากเกมเป็นที่รู้จักกันดีพอสมควร(มั้ง อย่างน้อยก็ในยุคนั้นอ่ะนะ) มีทั้งอนิเมะและมังงะ เพราะแบบนั้นจะขอข้ามเรื่องอื่นๆแล้วเล่าถึงเหตุผลที่ผมชอบเกมนี้เลยละกันนะครับ สิ่งที่ทำให้ผมถูกใจเกมนี้จนต้องนำมาเขียนลง Blog คือฉากต่อสู้ฉากสุดท้ายของรุ่นพี่มิสึซึครับ ผมประทับใจฉากการดวลดาบครั้งสุดท้ายของ “คุซาคาเบะ มิสึซึ” มาก ฉากนั้นทั้งเท่แล้วก็ขนลุกไปในเวลาเดียวกัน ประทับใจมากขนาดที่หลังได้เห็นก็คิดเลยว่าสักวันหนึ่งจะต้องเขียนเรื่องเกมนี้ลง Blog ของตัวเองให้ได้ (ตอนนั้นเลย save หน้าเว็บเกมเก็บไว้ ทำให้นำมาเขียนในวันนี้ได้)
11 eyes ฉบับอนิเมะนั้นจบคนละแบบกับในเกมเลยไม่มีฉากดวลดาบที่ว่านั่น
แต่ในมังงะมีครับ ท่านใดที่อยากเห็นแต่ไม่อยากเล่นเกมก็สามารถไปหามังงะมาอ่านแทนได้
…อ้อ ใช่ มังงะมีแปลไทยด้วยนะครับ
ตีพิมพ์โดยโดยสำนักพิมพ์บงกชในชื่อ “11 eyes - บาป คำสาป และสาวน้อยผู้ชดใช้บาป” มี 3 เล่มจบ
แปลมาจาก Official Web Site (Lass)
จู่ๆวันหนึ่งพี่สาวก็ฆ่าตัวตาย
เมื่อ 5 ปีก่อน “ซัตสึกิ คาเครุ” เด็กหนุ่มตาเดียว ได้สูญเสียพี่สาวซึ่งเป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวไป
ตัวเอกผู้สูญสิ้นไปซึ่งความหวัง
อาจเป็นเพราะความช่วยเหลืออันน่าสรรเสริญของ
“มินาเสะ
ยูกะ” ผู้เป็นเพื่อนสมัยเด็ก
ปัจจุบันคาเครุจึงพอนำความสงบภายในใจกลับคืนมาได้
ทว่า ภายในจิตใจของเขานั้นก็ยังเหมือนกับมีความกลวงเปล่าอยู่ และใช้ชีวิตแต่ละวันไปอย่างเฉื่อยชาโดยไร้ซึ่งความหวังต่ออนาคต
เพื่อนสมัยเด็กผู้คอยทุ่มเทช่วยเหลืออย่างน่าสรรเสริญ
คาเครุกับยูกะเรียนอยู่ที่ “โรงเรียนโควเรียวคัง”
หรือที่เรียกกันด้วยชื่อเล่นว่า
“โรงเรียนนิจิ”
ซึ่งตั้งอยู่ใน “เมืองอายาเมะงาโอกะ”
เมืองขนาดใหญ่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ยูกะอยู่เคียงข้างคาเครุเสมอราวกับเป็นเรื่องปกติ
และคอยทุ่มเทช่วยเหลืออย่างน่าสรรเสริญ แต่กับคาเครุซึ่งไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรนั้น
ความสัมพันธ์ก็ไม่คืบหน้าซะที
ถึงอย่างนั้น ทั้งสองก็พยายามก้าวเดินต่อไปข้างหน้าทีละน้อย
ทว่า ราวกับเป็นการเย้ยหยันต่อทั้งคู่ โชคชะตาของพวกเขานั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไปราวกับบทละคร
ทั้งสองได้หลุดเข้าไปในโลกที่เปลี่ยนสภาพไปอย่างน่าขนลุกโดยไร้ซึ่งลางบอกเหตุใดๆ---------
โลกซึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยฉับพลัน
วี่แววของผู้คนหายไปจากเมือง
ความวังเวงราวกับเป็นซากปรักหักพังไร้ผู้คนได้เข้ามาแทนที่
ท้องฟ้าย้อมไปด้วยสีแดงราวกับน้ำพุที่เต็มไปด้วยเลือดสดๆ
ดวงจันทร์สีดำสนิทราวกับแต้มด้วยน้ำหมึกลอยตระหง่านอยู่บนฟากฟ้า
เมืองอายาเมะงาโอกะกลายสภาพเป็นโลกรกร้างประหนึ่งไม่มีใครอยู่เลยนอกจากพวกตน
ภายใต้จันทราสีดำขนาดใหญ่
คาเครุและยูกะถูกทิ้งไว้เพียงลำพังในโลกรัตติกาลสีแดง
ในเมืองนั้นมีสัตว์ประหลาดคืบคลานอยู่อย่างน่าขนลุกแทนที่ผู้คน
คาเครุและยูกะที่ไม่อาจทำอะไรได้นั้นก็ได้แต่หนี
ต่อมา
ก็ได้รู้ว่าหากเวลาผ่านไปพักหนึ่งจะกลับจากโลก “รัตติกาลสีแดง”
มายังโลกแห่งความเป็นจริงได้เอง
ทว่า “รัตติกาลสีแดง” นั้นจะมาเยือนกะทันหันโดยไม่เลือกเวลาและสถานที่
ทั้งคู่เหนื่อยล้าจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมานั้น และชีวิตก็กำลังตกอยู่ในอันตราย……
ในตอนนั้นเอง คาเครุกับยูกะก็ได้รู้ตัวว่านอกจากพวกตนแล้วยังมีมนุษย์คนอื่นหลุดเข้ามาในโลก
“รัตติกาลสีแดง”
…ได้รู้ตัวว่ามีพวกพ้องอยู่ด้วย
บางคนนั้นใช้คาถาอาคมวิชาองเมียวอย่างชำนาญ เอาชนะศัตรูอย่างง่ายดาย
บางคนนั้นไล่ศัตรูกระเจิดกระเจิงด้วยทักษะการต่อสู้ที่เหนือมนุษย์
เหล่าพวกพ้องที่พบเจอในโลก
“รัตติกาลสีแดง” เป็นผู้มีพลังพิเศษที่เกินไปกว่าสามัญสำนึกของคาเครุและยูกะ
จำนวนมนุษย์ที่เข้าออกรัตติกาลสีแดง
รวมพวกคาเครุด้วยแล้วก็มี 6 คน
เพื่อมีชีวิตรอดในรัตติกาลสีแดง พวกเขาจึงร่วมมือกัน
ทว่า เงามืดทั้ง 6
ได้ปรากฏกายขึ้นขวางทางพวกเขาพร้อมกับมีเจตนาฆ่าฟันชัดเจน
ในการต่อสู้กับ “อัศวินดำ”
ทั้ง
6 ซึ่งมีพลังระดับที่สัตว์ประหลาดตนอื่นเทียบไม่ติดแอบซ่อนอยู่นั้น
พวกคาเครุจำต้องต่อสู้โดยเอาชีวิตเข้าแลกอย่างเลี่ยงไม่ได้
พวกพ้องแต่ละคนนั้นมีเหตุผลในการต่อสู้ต่างกันไป
ทว่า ระหว่างที่ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนด้วยกัน
ต่อสู้ร่วมกัน สิ่งนั้นก็ได้ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นการต่อสู้เพื่อปกป้องเพื่อนพ้องที่ไม่มีสิ่งใดจะมาแทนได้
เมื่อได้ประจักษ์กับความจริงของ “รัตติกาลสีแดง”
ซึ่งอยู่ ณ ปลายทางของการต่อสู้อันดุเดือดนี้ พวกคาเครุจะตัดสินใจเช่นไรกันนะ…
ภายใน “รัตติกาลสีแดง” ซึ่งต้องไปเกี่ยวข้องด้วยโดยไม่ทันตั้งตัว เหล่าเด็กหนุ่มเด็กสาวทำได้เพียงต่อสู้อย่างมืดบอดเท่านั้นหรือ
โดยมีเมืองซึ่งถูกโลก “รัตติกาลสีแดง”
รุกล้ำเป็นเวที
เรื่องยาวแนวเหนือธรรมชาติในรั้วโรงเรียนซึ่งจะบรรยายถึงชะตากรรมของเหล่าเด็กหนุ่มเด็กสาวที่ต้องไปพัวพันกับการต่อสู้อันดุเดือด
ได้เปิดฉากขึ้น ณ ที่นี้แล้ว
World
รัตติกาลสีแดงคืออะไร ?
ชีวิตประจำวันของพวกตัวเอกซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนโควเรียวคังนั้น
อยู่มาวันหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเพราะปรากฏการณ์ที่ชื่อ
“รัตติกาลสีแดง”
ปรากฏการณ์ไม่ทราบสาเหตุนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่เลือกเวลาและสถานที่
ด้วยเหตุนั้น แม้จะเป็นตอนที่กำลังใช้ชีวิตประจำวันอยู่อย่างสบายอารมณ์
บางครั้งก็จะหลุดเข้าไปสู่โลกแห่งการต่อสู้โดยไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้าใดๆเช่นกัน
โลก “รัตติกาลสีแดง”
มีลักษณะเฉพาะตัวดังนี้
- ท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม และจะมืดสลัวราวกับค่ำคืนที่ส่องสว่างด้วยแสงจันทร์
- นอกจากพวกคาเครุแล้ว มนุษย์ทุกคน รวมถึงสัตว์ต่างๆ
จะหายไป
- มีตัวตนที่เรียกว่า “ลาร์วา
(จิตวิญญาณแห่งความมืด)”
กับศัตรูที่เป็นสัตว์ประหลาดที่เรียกว่า “อัศวินดำ”
โผล่มา
-
ระหว่างที่พวกคาเครุอยู่ในโลกรัตติกาลสีแดง เวลาในโลกแห่งความเป็นจริงจะหยุดนิ่ง
- ในรัตติกาลสีแดง แม้วัตถุจะถูกทำลาย
ก็ไม่มีผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริง (ร่างกายของพวกคาเครุนั้นถือเป็นข้อยกเว้น)
- เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง จะกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงโดยไม่มีลางบอกเหตุใดๆ
พวกเขาต้องเผชิญกับปรากฏการณ์นี้ทั้งที่ไม่ทราบสาเหตุ
อีกทั้งคำเรียกอย่าง “รัตติกาลสีแดง”
หรือ “จันทราสีดำ”
นั้นเป็นเพียงชื่อที่พวกคาเครุตั้งกันเอง
ชื่อหรือความหมายที่แท้จริงของสิ่งเหล่านั้นคงจะค่อยๆกระจ่างชัดขึ้นมาในขณะที่เรื่องราวดำเนินไป
เหล่าพวกพ้องผู้มีพลังพิเศษ
คาเครุกับยูกะหลุดเข้าไปในรัตติกาลสีแดงโดยไม่ทราบสาเหตุ
ต่อหน้าทั้งสองซึ่งกำลังอับจนหนทางนั้น ได้มีเหล่าพวกพ้องซึ่งมีชะตาเดียวกันปรากฏตัวขึ้น
พวกเขาเป็นนักเรียนโรงเรียนโควเรียวคัง(ชื่อเล่น
: โรงเรียนนิจิ)เช่นเดียวกับคาเครุและยูกะ
และที่น่าตกใจคือพวกเขาต่างล้วนมีพลังพิเศษ
คาเครุกับยูกะที่ไม่มีวิชาต่อสู้จึงต้องไปไหนมาไหนด้วยกันกับพวกเขา
- ผู้กวัดแกว่งดาบภูตและใช้คาถาอาคมวิชาองเมียวอย่างชำนาญ
- ผู้มีทักษะการต่อสู้ที่เกินขีดจำกัดของมนุษย์
และมีพลังพิเศษในการฟื้นตัว
- ผู้ที่สามารถทำให้วิญญาณของตนปรากฏออกมาในรูปร่าง
“นางฟ้า”
- ผู้ที่สามารถก่อให้เกิดเปลวเพลิงได้เพียงเพ่งจิตอยู่ในใจ
เหล่าเด็กหนุ่มเด็กสาวไม่เพียงมีทักษะหรือจุดเด่นของพลังต่างกันเท่านั้น
นิสัยหรือลักษณะเฉพาะตัวยังต่างกันไปตามแต่ละคนอีกด้วย
เหล่าผู้ที่แม้จะเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันแต่ก็ไม่ได้รู้จักหน้าค่าตากันนั้น
ได้มาเจอะเจอกันผ่านการเข้าไปเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ที่ชื่อรัตติกาลสีแดง
เพื่อมีชีวิตรอดผ่านรัตติกาลสีแดง ทั้งหกจึงร่วมมือกัน
สุดท้ายแล้ว พวกเขาจะสามารถนำชีวิตประจำวันอันสงบสุขกลับคืนมาได้หรือเปล่านะ
?
แล้วความจริงที่พวกเขาได้รู้จากการต่อสู้คือ……?
ข้อมูลอย่างนิสัยหรือพลังพิเศษของพวกเขาซึ่งจะมาเป็นพวกพ้องของคาเครุนั้น
มีกําหนดการจะเปิดเผยที่หน้าแนะนำตัวละครเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม
อัศวินดำซึ่งเข้าจู่โจม
ในโลกรัตติกาลสีแดงนั้น ตัวตนที่เรียกว่า “ลาร์วา
(จิตวิญญาณแห่งความมืด)”
จะกรูกันเข้ามาราวกับผีที่ไม่ไปผุดไปเกิด
พวกตัวเอกจำต้องสู้กับพวกมันอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทว่า ศัตรูที่แท้จริงของพวกเขานั้นคือสิ่งอื่น
สัตว์ประหลาดซึ่งถูกพวกคาเครุเรียกว่า “อัศวินดำ” พวกมันมีจำนวนทั้งสิ้น 6
ตน
หรือก็คือมีจำนวนเท่ากับพวกคาเครุที่หลุดเข้ามาในรัตติกาลสีแดง
ไม่เหมือนกับ “ลาร์วา”
ที่เป็นเหมือนเดรัจฉานหิวโหยซึ่งกรูกันเข้ามาเพราะกระหายเนื้อ
เหล่า “อัศวินดำ”
มาเผชิญหน้ากับพวกตัวเอกด้วยเจตนาฆ่าฟันอย่างชัดเจน
เหล่า “อัศวินดำ”
เอ่ยปากว่าจะล้างบาง(สังหารหมู่)พวกคาเครุ 6
คนให้หมด
แล้วก็เข้าจู่โจมพวกตัวเอกในทุกๆครั้งที่เกิดรัตติกาลสีแดง
การต่อสู้ซึ่งมีชีวิตเป็นเดิมพันจึงได้เปิดฉากขึ้น
อัศวินดำแต่ละตนมีสติปัญญาที่จะเข้าใจภาษามนุษย์
รูปแบบการโจมตีเองก็มีลักษณะเฉพาะตัวต่างกันไป
ไม่ทราบแน่ชัดว่าเหล่า “อัศวินดำ”
ปรากฏตัวขึ้นเพื่อสิ่งใด
และเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งใด
รู้เพียงแค่ว่าพวกมันมีเป้าหมายคือต้องการฆ่าล้างบางพวกตัวเอกให้หมดสิ้นไป
ข้อมูล “อัศวินดำ”
แต่ละตนนั้นมีกําหนดการจะเปิดเผยที่หน้าแนะนำตัวละครเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล : ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเหล่าอัศวินดำในหน้าแนะนำตัวละคร จนบัดนี้ค่าย Lass ได้ล้มละลายไปแล้ว(ยังเหลือค่ายลูกอยู่)
และหน้าข้อมูลเกม 11eyes ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว
Main Character
“ถ้าไม่มีโลกที่สมบูรณ์แบบอยู่------ต่อให้ทำอะไรไปก็เปล่าประโยชน์รึเปล่านะ------”
ซัตสึกิ คาเครุ皐月 駆
ส่วนสูง : 178 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 62 กิโลกรัม
วันเกิด : 18 กรกฎาคม
นักเรียนปี 2 ห้อง A โรงเรียนโควเรียวคัง
ตัวเอกของเรื่อง
ด้วยภาวะม่านตาสีต่างกัน (heterochromia
iridum) ตาขวาจึงมองไม่เห็นมาตั้งแต่กำเนิด
โตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกันกับ “ซัตสึกิ
คุคุริ” ผู้เป็นพี่สาว
กับ “มินาเสะ
ยูกะ” ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กนั้น
อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
นับจากการฆ่าตัวตายปริศนาเมื่อหลายปีก่อนของคุคุริผู้เป็นพี่สาว
ด้วยแรงช็อคจากเหตุการณ์นั้น เลยกลายเป็นคนห่อเหี่ยว ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร
แต่อาจเป็นเพราะได้ยูกะคอยช่วยเหลืออย่างน่าสรรเสริญเรื่อยมา
ปัจจุบันเลยกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ ทว่า ก็ใช้ชีวิตแต่ละวันไปอย่างเฉื่อยชาโดยไร้ซึ่งความหวังต่ออนาคต
มีแนวโน้มที่จะทำสิ่งต่างๆโดยพยายามไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นเท่าที่จะทำได้
แต่นั่นมองได้ว่าไม่ใช่เพราะไม่สนใจ แต่เป็นเพราะกลัวที่จิตใจจะต้องบอบช้ำมากกว่า
ขณะที่จ้องมองเหล่าเด็กสาวต่อสู้ใน “รัตติกาลสีแดง”
คาเครุก็เริ่มค่อยๆนำบางอย่างที่ควรจะปกป้องกลับคืนมาได้……
From Character
……แนะนำตัวงั้นเหรอ ? ชั้นซัตสึกิ ซัตสึกิ
คาเครุ ฝากด้วยล่ะ……
……ถึงจะถามว่าไม่มีอะไรอย่างอื่นจะพูดแล้วเหรอก็เถอะ……
งานอดิเรกเหรอ ? ที่พอจะเรียกว่าเป็นงานอดิเรกได้เนี่ยก็ไม่มีเป็นพิเศษหรอก……
มีฟังเพลงบ้าง
อ่านหนังสือบ้างก็จริง แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่การฆ่าเวลาเท่านั้นล่ะ
ถามว่าผ้าปิดตานี่คืออะไรงั้นเหรอ ?
นี่……เป็นมาตั้งแต่เกิด
สีของตาเปลี่ยนไปด้วยโรคชื่อ “ภาวะม่านตาสีต่างกัน”
แล้วตาขวาก็มองไม่เห็นน่ะ
มีคนบอกว่าสีตานี่น่ากลัวด้วย ปกติเลยจะใส่ผ้าปิดตาไว้
คนที่บอกว่าตาสองสีเท่ดีก็มีเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่ของดีขนาดนั้นหรอกนะ……
ชั้นแนะนำตัวไม่เก่งน่ะ……ไม่คิดว่าตัวเองมีดีขนาดที่จะเอาไปแนะนำได้ด้วย
“ถึงโลกใบนี้…จะเหลือกันแค่ฉันกับคาเครุคุง 2 คน ฉันก็ไม่มีปัญหา------”
มินาเสะ ยูกะ水奈瀬 ゆか
น้ำหนัก : 44 กิโลกรัม
สัดส่วน : B88/W59/H89
วันเกิด : 21 มิถุนายน
นักเรียนปี 2 ห้อง A โรงเรียนโควเรียวคัง
เพื่อนสมัยเด็กของคาเครุ
สูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กและเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเดียวกับคาเครุ
แต่ต่อมาก็ได้ครอบครัวมินาเสะรับไปดูแล
รู้สึกว่าการได้อยู่เคียงข้างคาเครุคือความสุข
คิดอยู่ว่าเรื่องที่เขาปรารถนานั้นไม่ว่าจะอะไรก็อยากจะทุ่มเทพยายามให้
ทว่า ตัวคาเครุเองนั้นไม่อาจรับความรู้สึกของยูกะไว้ได้ทั้งหมด
ถึงอย่างนั้นยูกะก็ยังคงรักคาเครุต่อไปอย่างแน่วแน่
อาจด้วยนิสัยที่สงบเสงี่ยมและอ่อนโยน เลยมักจะถูกมองว่าอ่อนกว่าวัยอยู่บ่อยๆ
ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งไม่ว่าอะไรก็ทำได้อย่างคล่องแคล่ว
แต่สภาพตอนนี้ ที่โตเป็นผู้ใหญ่กลับมีแต่สะโพกกับหน้าอกซึ่งใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใบหน้ายังเป็นเด็กอยู่ทั้งๆอย่างนั้น
ส่วนสูงก็ไม่เพิ่มขึ้น วิธีพูดที่ตะกุกตะกักเองก็แก้ไม่ได้สักที การที่โดนคนรอบข้างแหย่เล่นบ่อยๆเลยเป็นความกังวลหลักๆในตอนนี้
ยูกะซึ่งต้องเข้าไปพัวพันกับโชคชะตาอันแสนโหดร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้น
จะฝ่าชะตากรรมนี้ไปด้วยกันกับคาเครุที่เธอรักได้เช่นไรกันนะ
สิ่งที่เธอจะได้มาครองนั้นคือความรักอันเป็นนิรันดร์
หรือว่า……
From Character
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉัน มินาเสะ ยูกะค่ะ
ชั้นปี 2 ห้อง
A มีเพื่อนๆที่น่าสนใจอย่างทาดาชิคุงหรือคาโอริจังอยู่เยอะเลยล่ะค่ะ
เป็นชั้นเรียนที่สนุกมากเลย !
แต่สำหรับฉันแล้ว ยังไงเรื่องที่ดีใจที่สุดก็คือการที่ปีนี้เองก็ได้อยู่ห้องเดียวกับคาเครุคุงค่ะ……แอะแหะแหะ
คาเครุคุงที่พูดถึงเมื่อกี้คือเพื่อนสมัยเด็กที่อยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็กค่ะ
คิดว่าจากนี้ไปก็อยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอด
ตลอดไปเลยค่ะ
พอพูดอะไรแบบนี้แล้ว คาเครุคุงจะโกรธทันทีเลยล่ะว่า
“อย่าพูดเรื่องน่าอายสิ”
?
อู……
แต่ฉันว่าการที่คิดว่าอยากจะอยู่ด้วยกันกับคาเครุคุงที่ฉันชอบมากนั้นไม่เห็นจะเป็นเรื่องน่าอายสักหน่อย
ใช่ไหมล่ะคะ ? ใช่สินะคะ
?
“ที่ควรไขว่คว้าไว้คือพลัง แล้วก็ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ที่จะบดขยี้ศัตรู มีเพียงเท่านั้นล่ะ”
คุซาคาเบะ มิสึซึ草壁 美鈴
น้ำหนัก : 49 กิโลกรัม
สัดส่วน : B82/W56/H80
วันเกิด : 23 กันยายน
นักเรียนปี 3 ห้อง B โรงเรียนโควเรียวคัง
องเมียวจิโดยกำเนิดผู้สืบสายเลือดของ “สำนักคุซาคาเบะ”
ที่มีชื่อในด้านวิชาองเมียว
ผ่านการฝึกอันหฤโหดเพื่อเป็นองเมียวจิมาตั้งแต่เด็ก
ใช้คาถาอาคมมากมาย กวัดแกว่งดาบภูตปราบมารทั้งห้าที่สืบทอดกันมาในตระกูลคุซาคาเบะ
หรือที่เรียกกันว่า “สมบัติทั้งห้าแห่งคุซาคาเบะ”
ได้อย่างคล่องแคล่ว
เธอโค่นศัตรูด้วยสิ่งเหล่านั้น
ในบรรดาพวกพ้องที่เข้ามาพัวพันกับ “รัตติกาลสีแดง”
ซึ่งมีศัตรูที่เป็นสัตว์ประหลาดโผล่มานั้น เธอมีความเป็นผู้นำเป็นพิเศษ และตั้งใจจะต่อสู้อยู่ข้างหน้าพวกพ้องเสมอ
นั่นก็เพราะเธอยึดมั่นในการมีชีวิตอยู่อย่างภาคภูมิ
ทั้งในฐานะนักดาบและในฐานะผู้ใช้อาคม
ทว่า อาจเป็นเพราะความเชื่อนั้น จึงมีส่วนที่เป็นคนจริงจังเกินไปและไม่ยืดหยุ่นอยู่ด้วย
แล้วอาจเป็นเพราะทุ่มเทชีวิตให้กับวิชาองเมียวและการศึกษาหาความรู้มาตลอดตั้งแต่จำความได้
จึงมีด้านที่ไม่ประสีประสาเรื่องสังคมทั่วไปอยู่ด้วย
ผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก มีด้านที่มีรสนิยมแบบสาวน้อยด้วย
และชอบอ่านการ์ตูนผู้หญิงแนวรักบริสุทธิ์
เคราะห์ร้ายที่ต้องเข้าไปพัวพันโดยไม่ทันได้คาดคิดนี้ สำหรับมิสึซึแล้วคือโลกในความปรารถนาที่จะได้ทดสอบความสามารถที่แท้จริงของตนเองหรือเปล่านะ
แล้วสุดท้าย สิ่งที่แขนน้อยๆของเธอซึ่งกางออกนั้นสามารถไขว่คว้าไว้ได้คือชัยชนะอันสมบูรณ์แบบงั้นหรือ
หรือว่า…… ?
From Character
ยังไม่ได้แนะนำตัวสินะ
ฉัน คุซาคาเบะ มิสึซึ นักเรียนปี 3
ห้อง
A โรงเรียนโควเรียวคัง ฝากตัวด้วยนะ
คุซาคาเบะคือตระกูลองเมียวจิที่ยังชีพด้วยการปราบอสูรร้ายมาหลายชั่วอายุคน
ฉันเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาองเมียวสำนักคุซาคาเบะคนหนึ่งเหมือนกัน
ครั้งหนึ่ง ตระกูลคุซาคาเบะเคยยิ่งใหญ่ในวงการองเมียวคู่กับตระกูลสึจิมิคาโดะ
แต่ตอนนี้เอง ในเรื่องการปราบอสูรร้ายแล้วก็ไม่ด้อยไปกว่าสำนักอื่นแน่นอน
แล้วฉันก็รับช่วงต่อ “สมบัติทั้งห้าแห่งคุซาคาเบะ”
ดาบสมบัติที่สืบทอดในตระกูลคุซาคาเบะนั้นมา
ไม่มีศัตรูที่ฉันโค่นล้มไม่ได้ ! ติดตามฉันมาได้เลยอย่าได้กังวล
……โทษที ติดลมไปหน่อย พูดแต่เรื่องของตัวเองซะยาวเหยียดเลย……
สำหรับเธอแล้วคงเป็นเรื่องน่าเบื่อนิดหน่อยสินะ
? ที่ผ่านมาใช้ชีวิตทุ่มเทอยู่แต่กับการฝึกวิชาด้วยน่ะ
เลยไม่ค่อยประสีประสากับโลกเท่าไร……
น่าอายจริงๆ
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล
- ตรงข้อมูลใต้วันเกิดตัวละครที่บอกว่ามิสึซึเป็น “นักเรียนปี 3 ห้อง B” นั้นต้นฉบับเขียนผิด ที่ถูกต้องตามเกมคือ
“นักเรียนปี
3 ห้อง A”
- ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น “ตระกูลสึจิมิคาโดะ” (土御門家, Tsuchimikado clan) คือตระกูลขุนนางที่รับใช้ราชสำนัก โดยตระกูลสึจิมิคาโดะที่มีชื่อเสียงที่สุดคือตระกูลสึจิมิคาโดะที่มีอาเบะโนะเซย์เมย์ (安倍晴明, Abe no Seimei) องเมียวจิผู้มีชื่อเสียงในสมัยเฮอันเป็นต้นตระกูล
- ตระกูลสึจิมิคาโดะในสายของอาเบะโนะเซย์เมย์นั้นรับหน้าที่ดูแลด้านวิชาองเมียวและโหราศาสตร์มาตั้งแต่ช่วงสมัยเฮอันถึงสมัยเอโดะ (แต่ที่เริ่มใช้ชื่อ “สึจิมิคาโดะ” คือสมัยมุโรมาจิ)
“คิดว่า------นั่นน่าจะเป็นบาปที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดค่ะ”
ทาจิบานะ คุคุริ橘 菊理
น้ำหนัก : 47 กิโลกรัม
สัดส่วน : B90/W57/H88
วันเกิด : 8 กันยายน
นักเรียนปี 3 ห้อง B โรงเรียนโควเรียวคัง
รุ่นพี่ที่อยู่ชั้นปีสูงกว่าพวกคาเครุปีนึง
เป็นลูกสาวบุญธรรมของทาจิบานะ ไดสุเกะ นักเขียนนิยายผู้อาศัยอยู่ในเมืองอายาเมะงาโอกะ
พูดไม่ได้ ปกติเลยสื่อสารผ่านทางการเขียนโดยใช้สมุดวาดเขียน
ส่วนสาเหตุที่สูญเสียความสามารถในการพูดไปนั้นไม่ทราบแน่ชัด
เนื่องจากสูญเสียความทรงจำตอนก่อนหน้าอายุ 13
ไป
จึงเป็นปริศนาอยู่ทั้งๆอย่างนั้น
แม้จะมีความทุกข์ที่สูญเสียความทรงจำและพูดไม่ได้
แต่ก็เป็นคนอ่อนโยนและอบอุ่นมาก
อาจเป็นเพราะความสงบเสงี่ยมและใจกว้าง ในบรรดาพวกพ้องเลยกลายเป็นเหมือนกับพี่สาวไป
พลังพิเศษของเธอคือการควบคุมนางฟ้าผู้พิทักษ์ชื่อ“แอแบรกซัส”
ซึ่งสามารถเรียกออกมาได้โดยเปลี่ยนวิญญาณของตัวคุคุริเองให้กลายเป็นรูปร่าง
ต่อสู้โดยควบคุมโซ่ที่ปล่อยออกมาจากแขนของแอแบรกซัสอย่างคล่องแคล่วดั่งใจนึก
นอกจากนี้ มือของแอแบรกซัสยังมีพลังในการรักษาบาดแผลอีกด้วย
เธอจึงมีหน้าที่คอยรักษาพวกพ้องที่บาดเจ็บจากการต่อสู้
คาเครุไม่อาจเก็บซ่อนความหวั่นไหวที่มีต่อคุคุริซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนพี่สาวของตนในวัยเด็กไม่มีผิด
ดูเหมือนว่าความจริงทุกอย่างจะถูกซ่อนไว้ ณ
อีกฟากของความทรงจำที่สูญหายไปของเธอ……
From Character
ต้องขอเสียมารยาทแนะนำตัวผ่านการเขียนแทนนะคะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อทาจิบานะ
คุคุริ ชื่อเขียนด้วยคันจิ “菊理”
และอ่านว่า
“คุคุริ”
ค่ะ
ฉันพูดไม่ได้ เลยอาจจะสร้างความรบกวนหลายๆอย่างให้ก็ได้
แต่หลังจากนี้เองก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
งานอดิเรกเหรอคะ ? คงจะเป็นการอ่านหนังสือล่ะมั้งคะ จริงๆแล้วพ่อของฉันเป็นนักเขียนนิยาย
แล้วด้วยอิทธิพลจากคุณพ่อ ก็เลยเริ่มอ่านหนังสือหลายๆอย่างน่ะค่ะ
แล้วก็ สมุดวาดเขียนที่ฉันถืออยู่ ปกติมีไว้สื่อสารก็จริง แต่ความจริงแล้วฉันก็ชอบวาดรูปด้วยเหมือนกันค่ะ
“ท่านลูกค้าคะ ถ้าเล่นซนมากเกินไปเดี๋ยวจะหัวเราะหรือร้องไห้ไม่ออกเอานะคะ ?”
ฮิโรฮาระ ยูกิโกะ広原 雪子
ส่วนสูง : 153 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 40 กิโลกรัม
สัดส่วน : B73/W52/H75
วันเกิด : 21 มีนาคม
นักเรียนปี 1 ห้อง C โรงเรียนโควเรียวคัง
พนักงานทำงานพิเศษคนใหม่ของร้านกาแฟ “ไซเบอเรียดา”
ที่คาเครุทำงานพิเศษอยู่
เป็นเด็กผู้หญิงรุ่นน้องที่โรงเรียนของคาเครุกับยูกะ
มีนิสัยร่าเริงและไม่กังวลอะไร ดำเนินชีวิตอย่างกระปรี้กระเปร่าโดยมีศูนย์กลางคือ “ชมรมวิจัยปรากฏการณ์สังคมปัจจุบัน”
ที่ตัวเองเป็นประธานชมรมอยู่
ดังที่เห็นได้จากนามสกุล เธอเป็นคนตระกูลฮิโรฮาระคนหนึ่งเช่นกัน
ยูกิโกะหลงใหลคนคนหนึ่งในตระกูลฮิโรฮาระเป็นอย่างมาก
และทุ่มเทพยายามโดยคิดว่าอยากจะเป็นให้ได้แบบนั้นบ้าง
ยูกิโกะเหมือนจะมีนิสัยร่าเริง
แต่ความจริงแล้วมีภูมิหลังที่เกิดมาในสหภาพดราสวาเนียซึ่งเป็นเขตสงครามและแบกรับอดีตอันโหดร้ายเอาไว้อยู่
พ่อแม่ถูกฆ่าตายตั้งแต่ยังเล็ก แล้วทั้งที่ยังเป็นแค่เด็ก
แต่เพื่อมีชีวิตรอดต่อไปก็มีแต่ต้องขัดเกลาความสามารถในการห้ำหั่นผู้คน
จากผลลัพธ์นั้น จึงมีอีกบุคลิกหนึ่งที่จะสังหารเป้าหมายอย่างเย็นชาราวกับเครื่องจักรแอบซ่อนอยู่ภายใน
ความเป็นจริงอันน่าพิศวงที่เกิดขึ้นกะทันหันต่อหน้าต่อตานี้
ในสายตาเธอแล้วเป็นเช่นไรกันนะ ?
แล้วหัวใจของเธอที่เคยเห็นนรกสำหรับมนุษย์มาแล้วจะได้รับ
“การช่วยเหลือ”
อย่างแท้จริงผ่านการพบพานกับพวกพ้องหรือเปล่านะ
?
From Character
เชิญค่า ! ยินดีต้อนรับสู่ไซเบอเรียดา
☆
เอ๊ะ ? ฉันเหรอคะ ? ฉัน ฮิโรฮาระ ยูกิโกะ เป็นนักเรียนปี
1 โรงเรียนโควเรียวคังสดๆร้อนๆเลยค่า
โถ่ อย่าถอยห่างเพราะนามสกุลฮิโรฮาระสิคะ ! เห็นแบบนี้แต่ฉันก็เป็นเด็กผู้หญิงตัวนุ่มนิ่มๆที่ธรรมดาสุดๆไปเลยนะค้า
? แหะๆ
☆
กระตือรือร้นเกินไปเหรอ ?
แน่น้อนแน่นอนค่า ! แต่ถ้าเทียบกับท่านพี่สึกิโกะที่ดิฉันเคารพแล้ว
อย่างฉันก็ยังแค่ประมาณโจะโนะคุจิ โจจิแหละค่ะ !
ฉันเองก็อยากจะเป็นซุปเปอร์เลดี้ที่ทำตัวตามอำเภอใจไม่แคร์รอบข้างแล้วก็ไม่สำนึกเรื่องการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอย่างท่านพี่สึกิโกะให้ได้ไวๆค่ะ
!
อ๊ะ ใช่ๆ ถ้ารุ่นพี่ยังไม่มีชมรมล่ะก็ ไม่มาเข้า
“ชมรมวิจัยปรากฏการณ์สังคมปัจจุบัน”
ของฉันเหรอคะ ?
ตัดสินใจได้แล้วก็ Let’s
Go !
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล
- ชื่อร้าน “ไซเบอเรียดา” (ツィベリアダ) ที่ยูกิโกะทำงานพิเศษอยู่นั้นมีที่มาจากนิยายแนวหุ่นยนต์ชื่อ
“The Cyberiad” ซึ่งแต่งโดย Stanisław Herman Lem เมื่อปี ค.ศ. 1965
- “ฮิโรฮาระ สึกิโกะ” (広原月子) ที่ยูกิโกะเคารพ เป็นตัวละครในเกม “3days ~Michiteyuku Toki no Kanata de~” ซึ่งเป็นผลงานชิ้นก่อนหน้าของค่าย Lass
- ส่วน “โจะโนะคุจิ โจจิ” (序ノ口譲二) นั้นผู้แปลก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นใครหรือมีที่มาจากอะไร
“ไม่ใช่มัวแต่พร่ำเพ้อหมดกำลังใจ ไอ้เด็กยังซิงเอ๊ย แค่ทำเรื่องที่อยากทำไปเท่าที่พอใจก็ได้ไม่ใช่เหรอไง ?”
ทาจิมะ ทาคาฮิสะ田島 賢久
ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 71 กิโลกรัม
วันเกิด : 15 กุมภาพันธ์
นักเรียนปี 2 ห้อง F โรงเรียนโควเรียวคัง
เด็กหนุ่มเสเพลผู้วางมาดในเมืองอายาเมะงาโอกะ
ในเมืองนั้น อาจเป็นเพราะไม่สุงสิงรวมหัวกับใครเลยอยู่ตามลำพัง
แล้วบางครั้งยังไปมีเรื่องปะทะกับแก๊งอันธพาลอีกด้วย
มองแวบแรกจะให้ความรู้สึกว่าป่าเถื่อนหยาบคาย
ขาดความจริงจังและจริงใจ แต่จริงๆแล้วก็มีด้านที่ขี้เล่นอยู่ด้วย
ชอบบุหรี่ยี่ห้อดังชื่อ “พีซ”
กับ “อาคามิเนะ
ไซโกะ” ครูห้องพยาบาลโรงเรียนโควเรียวคังซึ่งสูบบุหรี่ยี่ห้อเดียวกันแล้วนั้น
ดูเหมือนจะมีความเกี่ยวพันกันอยู่ไม่น้อย
ตอนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ อาจเป็นเพราะเหงาปาก
เลยมักจะทานอะไรบางอย่างอยู่ซะเป็นส่วนใหญ่ ดูเหมือนว่าในเมืองอายาเมะงาโอกะเองก็ถือเป็นคนกินจุอันดับต้นๆ
ใช้พลังไพโรคิเนซิสได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถก่อให้เกิดเปลวไฟได้เพียงเพ่งจิตอยู่ในใจ
นอกจากจะโจมตีไปยังที่ไกลๆได้ในพริบตาแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนเปลวเพลิงให้กลายเป็นลูกบอลแล้วซัดออกไปให้ระเบิดได้อีกด้วย
ทาคาฮิสะมักจะถูกมองว่ามีนิสัยทำตามใจตนเอง แต่ดูเหมือนว่าภายในนั้นจะมีความไร้เดียงสาที่ผู้อื่นไม่อาจรับรู้ได้อยู่
From Character
(พูดพลางปล่อยควันบุหรี่ลอยไปด้วย)
……โอ๊ส หืม ชื่อของชั้นงั้นเหรอ
? ก่อนจะถามชื่อคนอื่นต้องบอกชื่อตัวเองก่อนไม่ใช่เหรอไง
!
ชั้น ทาคาจิมะ ทาคาฮิสะ ก็เป็นนักเรียนโรงเรียนนิจิอยู่อ่ะน้า
แต่โดดมากไปจนจำนวนชั่วโมงเข้าเรียนอาจจะเริ่มอันตรายแล้วก็ได้มั้ง……
หืม ถามว่าเป็นนักเรียน สูบบุหรี่ได้ไม่มีปัญหางั้นเหรอ
? อย่าพูดอะไรเคร่งครัดกฎเกณฑ์แบบนั้นสิฟะ
อืม จะว่ายังไงดีล่ะ เป็นอะไรประมาณตามเนื้อเรื่องเกมแล้วจะถูกกฎหมายล่ะมั้ง
? เข้าใจสินะ ? สินะ
?
อาจจะเห็นว่าชั้นเสเพลก็จริง แต่เห็นแบบนี้ก็เป็นเด็กหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยนนะเฟ้ย
?
ว่าแต่ หิวแล้วสิ เมื่อกี้เพิ่งจะซัดแกงกะหรี่เนื้อวัวไป
10 จานเอง หิวอีกแล้ว ใช้พลังงานเปลืองพอๆกับรถจากอเมริกาเลย
ร่างกายของชั้นน่ะ
เอ้า ไปกินข้าวกันมะ กินข้าว ! เอ๋ จริงเหรอ ? จะเลี้ยงเหรอ ? ขอบใจนะ
แต่ว่าถ้าเลี้ยงชั้นล่ะก็จะล้มละลายนะเฟ้ย (ยิ้ม)
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล : ไพโรคิเนซิส (パイロキネシス, pyrokinesis) คือพลังจิตแขนงหนึ่ง เกี่ยวข้องกับการสร้างไฟและควบคุมไฟ
“คนที่ไม่รักษาความเงียบในห้องสมุดจะต้องโดนทัณฑ์บดขยี้ด้วยกงล้อ”
โมโมโนะ ชิโอริ百野 栞
ส่วนสูง : 143 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 35 กิโลกรัม
สัดส่วน : B67/W50/H70
วันเกิด : 21 ตุลาคม
นักเรียนปี 2 ห้อง A โรงเรียนโควเรียวคัง
เด็กสาวที่กลับมาจากอิตาลีและย้ายโรงเรียนมาเรียนห้องเดียวกับคาเครุและยูกะ
ร่างเล็กและงดงามราวกับตุ๊กตา
ขาดการแสดงออกทางความรู้สึก มีสีหน้าเรียบเฉยอยู่เป็นปกติ
ดูเหมือนจะเกลียดการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นสุดๆ
จะเว้นระยะห่างอย่างไร้เยื่อใยต่อเพื่อนร่วมชั้นที่พยายามเข้ามาคุยด้วย
ทว่า
อาจเป็นเพราะค้นพบว่าคาเครุมีอะไรบางอย่างคล้ายกับตัวเองก็เป็นได้ บางครั้งชิโอริจึงเป็นฝ่ายส่งเสียงทักคาเครุเองบ้างอะไรบ้าง
เอ่ยปากพูดแค่เท่าที่จำเป็น และวาจาของเธอซึ่งประกอบขึ้นจากเพียงประเด็นสำคัญเท่านั้นยังทิ่มแทงได้ราวกับคมมีดที่ชักออกมาจากฝัก
แล้วอาจด้วยความแรงของคำพูด เลยดูเหมือนจะมีคนที่ต้องชอกช้ำเพราะเธออยู่ด้วย
อาจจะชอบหนังสือมาก ย้ายโรงเรียนมาไม่ทันไรก็เลยไปเป็นนักเรียนช่วยงานห้องสมุดด้วยความตั้งใจของตนเอง
นอกจากจะพกหนังสือปกสีดำติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลาแล้ว
ยังยืมหนังสือจากห้องสมุดเป็นจำนวนมากอีกด้วย
เธอนั้นได้ตั้งใจว่าจะไม่สนใจยุ่งเกี่ยวกับคนที่โรงเรียน
แต่การมีปฏิสัมพันธ์กับคาเครุและผองเพื่อนจะสามารถเปิดใจที่ปิดตายอยู่ของเธอได้ที่ละน้อยหรือไม่กันนะ
?
ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่บุคคลที่เข้าออกโลกรัตติกาลสีแดง
แต่ก็ยังมีส่วนที่เป็นปริศนา……?
From Character
โมโมโนะ ชิโอริค่ะ
………………………………
ยังมีอะไรอีกเหรอคะ……? คิดว่าไม่มีอะไรต้องพูดกับคุณมากไปกว่านี้แล้วนะคะ
? ฉันก็ไม่ได้สนใจคุณ
แล้วคุณก็ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องมาสนใจฉันด้วย
ถ้าให้พูดล่ะก็ การที่โดนสนใจเนี่ยน่ารำคาญค่ะ แค่นี้นะคะ
……ไอ้หมอนี่……ตื๊อจริง
อยากรู้ว่ามาจากตรงไหนของอิตาลีงั้นเหรอ
? …… ในกรุงโรม
อยากให้บอกชื่อหนังสือที่ถืออยู่เสมองั้นเหรอ
? …… ไม่บอกเด็ดขาด
รบกวนการอ่านหนังสือ ช่วยไปที่อื่นที ……
หนวกหู
ไปทางโน้นไป๊
………………………………อย่างคุณน่ะตายซะได้ก็ดีแล้วแท้ๆ
Sub Character
“มุกตลกทะลึ่งๆเอง ถ้าไม่รู้จักพอเหมาะพอควรล่ะก็เดี๋ยวหมัดขวาพิฆาตจะลอยไปหานะยะ !”
นัตสึกิ คาโอริ奈月 香央里
ส่วนสูง : 157 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 48 กิโลกรัม
สัดส่วน : B82/W60/H85
วันเกิด : 11 มกราคม
นักเรียนปี 2 ห้อง A โรงเรียนโควเรียวคัง
เด็กสาวที่เรียนอยู่ห้องเดียวกับซัตสึกิ คาเครุ
กับเทรุยะ ทาดาชิที่เป็นตัวสร้างความครื้นเครงของชั้นเรียน
(หรือควรจะบอกว่าเป็นตัวปัญหาดี ?) แล้วนั้นมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนสมัยเด็ก
บอกว่าทาดาชิเป็น “ไอ้บ้าที่ไม่รู้จักดูสถานการณ์”
แล้วก็รู้สึกปวดกระบาลอยู่ ถึงอย่างนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วคาโอริกับทาดาชิก็มักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน
ใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เป็นประเภทที่จะพูดออกมาอย่างชัดเจนว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไรโดยไม่เกรงกลัว
อาจเป็นเพราะมักจะลงมือทำเรื่องที่นึกขึ้นได้ในทันที
เลยมีด้านที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่ด้วย
ที่นิ่งดูดายปล่อยทาดาชิซึ่งหลุดกรอบไว้ไม่ได้เอง
ดูเหมือนนิสัยที่ชอบดูแลผู้อื่นนั้นก็มีส่วนด้วย……
มีบ่อยครั้งที่ใช้กำลังเข้าสยบทาดาชิซึ่งไหลไปตามสถานการณ์จนทำอะไรแผลงๆ
แต่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองแรงเยอะ
ตัวคาโอรินั้นมองว่ายูกะเป็นเพื่อนสนิท ทว่า
ยูกะเอาแต่ไปไหนมาไหนด้วยกันกับคาเครุที่ไม่ค่อยจะคบหาสมาคมกับใคร เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นด้วยกันเท่าไร
คอยเอาใจใส่ยูกะอยู่เสมอ มีท่าทีกังวลและหงุดหงิดกับความสัมพันธ์ของคาเครุและยูกะอยู่
แต่เรื่องนั้นอาจไม่ใช่เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่เป็นเพราะนิสัยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านออกอาการซะมากกว่า
“อ้าว เธอ มีกลิ่นหนุ่มซิงดีๆด้วยล่ะ ♪”
อาคามิเนะ ไซโกะ赤嶺 彩子
ส่วนสูง : 165 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 54 กิโลกรัม
สัดส่วน : B98/W56/H87
วันเกิด : 25 เมษายน
ครูห้องพยาบาลโรงเรียนโควเรียวคัง
ครูห้องพยาบาลโรงเรียนโควเรียวคัง
เป็นคนลวกๆและชอบมุกตลกทะลึ่งๆมาก ยึดถือหลักการว่าความสำราญเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ไม่ค่อยมีสำนึกในจุดยืนหน้าที่การงานของตัวเองสักเท่าไร
อย่างทั้งที่เป็นครูห้องพยาบาลแต่กลับสูบบุหรี่จัด แต่ก็มีความเอาใจใส่ผู้อื่นดี
มักจะโดดด้วยกันกับทาคาฮิสะบ่อยๆในฐานะเพื่อนผู้สูบบุหรี่ยี่ห้อเดียวกัน
ลือกันอย่างลับๆในโรงเรียนว่าเป็นนักล่าหนุ่มซิง
ว่ากันว่ามีคนตกเป็นเหยื่อเขี้ยวพิษของเธอจนขึ้นบันไดสู่ความเป็นผู้ใหญ่ไปแล้วหลายคน
มีความสามารถพิเศษ(ไร้ความหมาย)ที่แยกแยะหนุ่มซิงหรือสาวซิงได้ด้วยกลิ่น
แล้วยังมีความสามารถอันน่าสะพรึงที่หากอยู่ในสภาพที่พร้อมล่ะก็จะสามารถทายได้จนถึงรสนิยมทางเพศของอีกฝ่าย
เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนโควเรียวคัง และเป็นอดีตหัวหน้า
“แก๊งคริมสัน (นางฟ้าสีเลือด)”
แก๊งซิ่งซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พรั่นพรึงในเมืองอายาเมะงาโอกะ ปัจจุบันนี้เองก็ยังมีผู้ที่หวั่นเกรงไซโกะอยู่เยอะ
แล้วว่ากันว่านั่นก็รวมไปถึงครูใหญ่โรงเรียนโควเรียวคังด้วย
“ผู้ชายเนี่ยไม่ว่าใครก็เถอะ---------ใช้ความโรแมนติกเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนฉึกฉักๆปู๊นๆกันตลอดเวลานั่นล่ะ”
เทรุยะ ทาดาชิ照屋 匡
ส่วนสูง : 175 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
วันเกิด : 17 ตุลาคม
นักเรียนปี 2 ห้อง A โรงเรียนโควเรียวคัง
เพื่อนร่วมชั้นของซัตสึกิ คาเครุกับมินาเสะ
ยูกะ และเป็นเพื่อนสนิทของพวกเขาด้วย
กับนัตสึกิ คาโอรินั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน
จะเรียกว่าเป็นความสัมพันธ์แบบที่ตัดกันไม่ขาดก็ว่าได้
ร่าเริงและกระตือรือร้นอยู่เสมอ เป็นเหมือนตัวสร้างความครื้นเครง
มักจะติดลมไปกับความกระตือรือร้นที่ไม่ทราบความหมายแล้วก็พูดหรือทำอะไรไม่คิดอยู่บ่อยๆ
ถูกเพื่อนร่วมชั้นหลายคนมองว่าเป็นคนเช่นนั้น แต่อาจเป็นเพราะนิสัยดีที่ชวนให้เกลียดไม่ลง
ก็เลยได้รับการยอมอะลุ่มอล่วยให้
มีเพื่อนร่วมชั้นที่ไปเที่ยวพวกเกมเซ็นเตอร์ด้วยกันหลายคนด้วย
แสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยนั้นเป็นอย่างดี
ดูเหมือนว่าเพราะยังซิง เลยไม่มีวันหมดความสนใจต่อโลกของผู้ใหญ่อันลานตาซึ่งยังไม่เคยได้รู้จัก
ตอนพูดกันบางครั้งพอรู้ตัวอีกทีก็มีมุกตลกลามกหรือความสนใจที่ไม่ธรรมดาต่อเพศตรงข้ามแทรกอยู่ทั่วบทสนทนาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
แล้วยังเป็นผู้นำชมรมเกมโป๊แห่งเมืองอายาเมะงาโอกะอีกด้วย
ขอบเขตความสนใจนั้นไม่หยุดอยู่แค่ 3D แต่ยังครอบคลุมกว้างไปถึง
2D
ด้วยคำพูด,
ท่าทางและการกระทำนั้น เลยมักจะโดนคาโอริดูถูกบ้าง ลงทัณฑ์ด้วยกำปั้นเหล็กบ้าง
“ตัวฉันจะเป็นยังไงก็ไม่เป็นไร เพราะแบบนั้นขอร้องล่ะค่ะ---------ช่วยทำลายผลึกนี้แล้วทำให้ฝันร้ายทุกอย่างจบลงที !”
Lisette Vertorreリゼット・ヴェルトール
ส่วนสูง : 145 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 37 กิโลกรัม
สัดส่วน : B70/W52/H72
สาวน้อยผู้ถูกจองจำ
เด็กสาวปริศนาผู้ถูกขังอยู่ในผลึกขนาดใหญ่
พวกคาเครุพบเธอที่ใจกลางของรัตติกาลสีแดง
เหมือนจะสูญเสียความทรงจำทุกอย่างไปนอกจากชื่อ
เธอซึ่งถูกจองจำอยู่โดยที่ไม่รู้อะไรนั้นพยายามขอความช่วยเหลืออย่างเอาเป็นเอาตาย
ในทางกลับกัน บางครั้งก็จะใช้พลังที่คล้ายกับเทเลพาธี
บอกพวกตัวเอกซึ่งพยายามเอาชีวิตรอดอย่างสุดกำลังในรัตติกาลสีแดงให้ทราบถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา
เหล่าอัศวินดำที่ปรากฏตัวขึ้นมาในรัตติกาลสีแดงและจ้องจะเอาชีวิตพวกคาเครุนั้นเคลื่อนไหวราวกับกำลังปกป้องผลึกที่รีเซตต์ถูกคุมขังอยู่ยังไงอย่างนั้น
สุดท้ายแล้วความจริงคือ---------?
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล : เทเลพาธี (テレパシー, telepathy) คือพลังจิตแขนงหนึ่ง เกี่ยวข้องกับการสื่อสารด้วยกระแสจิต
“โลกใบนี้คือน้ำที่ไหวไปมาบนฝ่ามือของพระเจ้าไร้ใบหน้า---------”
Verardヴェラード
ราชาแห่ง “ราชอาณาจักรดราสวาเนีย”
ประเทศซึ่งเคยมีตัวตนอยู่ที่ยุโรปตะวันออกในสมัยยุโรปยุคกลาง
ปกป้องประเทศบ้านเกิดมานับครั้งไม่ถ้วนจากเหล่าคนต่างศาสนาที่รุกรานเข้ามาจากทางตะวันออก
อีกด้านหนึ่ง ว่ากันว่าใช้วิธีโหดร้ายทารุณเพื่อไม่ให้เกิดการเอาเยี่ยงอย่าง
เช่น นำเชลยจากประเทศข้าศึกหรือกลุ่มก่อการจลาจลในประเทศมาเสียบประจานเป็นๆด้วยหลาวไม้บ้าง
สร้างเนินด้วยหัวสดๆที่เพิ่งตัดมาบ้าง
จากการกระทำเช่นนั้นจึงได้รับสมญานามอย่างวีรบุรุษและจอมมารตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
ถูกหักหลังโดยเหล่าข้าราชบริพารเพราะการเมืองภายในที่ทวีความรุนแรงขึ้น
จึงต้องโดดเดี่ยวในสนามรบ และตายในสงครามด้วยกำลังกองทัพข้าศึกที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากนั้นศีรษะก็ถูกนำไปแช่เกลือแล้วส่งไปยังประเทศข้าศึก
ตามตำนาน ตาข้างหนึ่งเป็นสีทอง จึงถูกขนานนามว่าเป็น
“จอมมารนัยน์ตาสีทอง”
ด้วย
ด้วยผลงานการรบที่ชนะทุกครั้งและตาสองสี ทำให้เคยได้รับการนำไปเทียบเคียงกับอเล็กซานเดอร์มหาราชด้วย
เริ่มปรากฏตัวขึ้นในความฝันของคาเครุในเวลาไล่เลี่ยกับการเริ่มต้นของเหตุการณ์รัตติกาลสีแดง
จากนั้นก็โผล่มาในความฝันของคาเครุบ่อยๆและจะเล่าถึงเรื่องราวอันเป็นปริศนา
ชายคนนี้กับคาเครุมีความเกี่ยวพันกันแบบไหนกันแน่นะ
?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น