ทุกท่านเคยได้ยินชื่อ Higurashi no Naku Koro ni กันไหมครับ Higurashi เป็นซีรีย์ที่ดังมาก และสำหรับผมแล้วก็เป็นซีรีย์ที่ตนเองชอบมากเช่นกัน ที่ผ่านมาเลยคิดว่าอยากจะเขียนอะไรสักอย่างเกี่ยวกับซีรีย์นี้ลง Blog ของตัวเองมาตลอด เพราะแบบนั้นจึงขอใช้โอกาสครบรอบ 10 ปีที่เกม Higurashi no Naku Koro ni Kizuna วางจำหน่ายครบทุกบทนี้เปิดตำนานแนะนำซีรีย์ Higurashi no Naku Koro ni ให้ทุกท่านได้รู้จักครับ (ถึงจริงๆจะเลยวันครบรอบ 10 ปีมาเกือบปีแล้วก็เถอะ)
ปีโชวะที่
58 (ค.ศ. 1983)
“มาเอบาระ
เคอิจิ” เด็กหนุ่มเมืองกรุงกับครอบครัวได้ย้ายมาอาศัยอยู่ใน
“ฮินามิซาวะ” หมู่บ้านชนบทห่างไกลที่มีประเพณีเก่าแก่
ณ
ที่แห่งนั้น เขาได้พบพานและรู้จักกับเด็กสาวสี่คน
“ริวงู
เรนะ”
เด็กสาวที่ย้ายจากตัวเมืองมายังหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน
“โซโนซากิ
มิอง” เด็กสาวผู้สืบทอดตระกูลโซโนซากิ
ตระกูลใหญ่ซึ่งมีอิทธิพลในหมู่บ้าน
“โฮโจ
ซาโตโกะ” เด็กผู้หญิงร่าเริงผู้ชื่นชอบกับดัก
“ฟุรุเดะ
ริกะ” เด็กผู้หญิงที่เป็นมิโกะของศาลเจ้า
พวกเธอให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดี
และเขาก็สนิทกับเหล่าเด็กสาวได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เคอิจิชอบชีวิตความเป็นอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้
และใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างสนุกสนานไปกับเพื่อนใหม่ที่ได้รู้จัก
ทว่า
ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกเหมือนกับว่าพวกเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่
ต่อมาในเวลาไม่นาน
เคอิจิก็ได้รู้ถึงความจริงที่เหล่าเด็กสาวพยายามปิดบังเขา
จะมีคนตายในทุกๆ
“วันวาตานางาชิ” วันงานเทศกาลประจำปีของหมู่บ้าน
เมื่อหลายปีก่อนมีการประท้วงต่อต้านการสร้างเขื่อนที่หมู่บ้าน
สุดท้ายโครงการต้องยุติลงกลางคันเพราะหัวหน้าคนงานถูกฆ่าหั่นศพเป็นชิ้นๆ แถมคนร้ายยังลอยนวลอยู่
หลังจากนั้นทุกปีจะเกิดคดีขึ้น
โดยมีเหยื่อคนหนึ่งตาย และเหยื่ออีกคนหนึ่งหายสาบสูญไป
ชาวบ้านต่างขนานนามคดีการตายปริศนาที่เกิดขึ้นทุกปีนี้ว่าเป็นคำสาปของ
“ท่านโอยาชิโระ” เทพเจ้าผู้พิทักษ์หมู่บ้าน
แล้วในวันวาตานางาชิปีนี้ก็เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นเช่นกัน
คนรู้จักของเคอิจิสองคนถูกฆ่าตาย
หลังจากนั้นไม่นานอันตรายก็เริ่มคืบคลานเข้ามาหาตัวเขาด้วย
เคอิจิรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจับตามองเขาอยู่
พวกเพื่อนๆที่เขาคิดว่าสนิทด้วย
บางเวลาก็มีท่าทีเปลี่ยนไปจนน่าขนลุก
ราวกับว่าพวกเธอกำลังจ้องจะเอาชีวิตของเขาอยู่
!
เพื่อนๆไม่อาจเชื่อใจได้อีกต่อไป
ไม่สามารถนำเรื่องนี้ไปปรึกษาใครได้ด้วย
มีแต่ต้องเอาตัวรอดด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น
!
สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะเป็นเช่นไร
เคอิจิจะสามารถรอดชีวิตจากคำสาปของท่านโอยาชิโระได้หรือไม่กันนะ
เรื่องย่อด้านบนเป็นเรื่องย่อของ Onikakushi-hen (บทปีศาจลักซ่อน) แต่สำหรับบทอื่นๆนั้นจะมีการดำเนินเรื่อง, รูปแบบของคดีฆาตกรรม, ตัวละครที่รอดชีวิต ฯลฯ ต่างกันออกไป
Visual Novel ซีรีย์ Higurashi นั้นมีมากมายหลายภาค คนที่เพิ่งเริ่มสนใจซีรีย์นี้เลยอาจจะงงได้ว่าแต่ละภาคต่างกันยังไงและต้องเริ่มเล่นภาคไหนก่อน ทางผู้เขียนบทความจึงได้รวบรวมข้อมูลโดยละเอียดของ Visual Novel แต่ละภาคมาไว้ใน link ด้านล่างเพื่อเป็นการเล่าถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของซีรีย์ พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้ที่เพิ่งเริ่มสนใจซีรีย์นี้ว่าควรจะเล่นภาคไหนก่อน
link : เกม Higurashi no Naku Koro ni
ซีรีย์ Higurashi นั้นมีมังงะมากมายหลายบท อีกทั้งยังวาดโดยนักวาดหลายท่าน คนที่เพิ่งเริ่มอ่านเลยอาจจะงงได้ว่าต้องอ่านจากบทไหนก่อน ทางผู้เขียนบทความจึงได้ทำการรวบรวบข้อมูลโดยละเอียดมาไว้ให้ใน link ด้านล่างแล้ว พร้อมทั้งยังได้เขียนลำดับการอ่านที่เหมาะสมไว้เป็นคำแนะนำอีกด้วย
link : Higurashi no Naku Koro ni ฉบับมังงะ
Higurashi no Naku Koro ni (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง)
- อนิเมะเนื้อเรื่องหลักซึ่งฉายในปี 2006
- ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 6 บทในเกม ได้แก่ Onikakushi-hen, Watanagashi-hen,
Tatarigoroshi-hen, Himatsubushi-hen, Meakashi-hen และ Tsumihoroboshi-hen
Higurashi no Naku Koro ni Gaiden (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง Side
Story)
- OVA ที่เป็น Side Story ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2007
- มีเนื้อเรื่องบทเดียวคือ
Nekogoroshi-hen ซึ่งเดิมเป็นนิยายเรื่องสั้นที่เคยเป็นของแถมสำหรับลูกค้าที่ซื้อมังงะเล่ม
1 ของ Onikakushi-hen, Watanagashi-hen,
Tatarigoroshi-hen พร้อมกันทั้ง 3 บทในคราวเดียว
Higurashi no Naku Koro ni Kai (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง
ภาคไขปริศนา)
- อนิเมะเนื้อเรื่องหลักซึ่งเป็นภาคต่อของอนิเมะภาคแรก ฉายในปี 2007
- ตอนที่ 1 ของอนิเมะคือตอน “Reunion” ซึ่งจริงๆแล้วเป็นตอนจบของ
Tsumihoroboshi-hen
แต่ไม่ได้ใส่มาในภาคแรก
- ตอนที่
2 - 5 เป็นบท Yakusamashi-hen ซึ่งเป็นบทที่มีเฉพาะในอนิเมะ
- ตั้งแต่ตอนที่ 6 เป็นต้นไปคือเนื้อเรื่องอีก 2 บทที่เหลือในเกม ได้แก่ Minagoroshi-hen, Matsuribayashi-hen จึงนับได้ว่าเนื้อเรื่องหลักของ Higurashi ได้จบบริบูรณ์ลงในอนิเมะภาคนี้แล้ว
Higurashi no Naku Koro ni Rei (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง ภาคขอบคุณ)
- OVA ที่เป็น Side Story ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2009
- มีเนื้อเรื่องใกล้เคียงกับเกม
Higurashi
no Naku Koro ni Rei เพียงแต่ตัด Batsukoishi-hen ออก แล้วใส่ Hajisarashi-hen เข้ามาแทน
Higurashi no Naku Koro ni Kira (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง
ภาคเปล่งประกาย)
- OVA ที่เป็น Side Story ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2011 - 2012
- ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง
4 บท บทแรกคือ Batsukoishi-hen ที่โดนตัดออกไปในอนิเมะภาค
Rei
- ส่วนที่เหลืออีก
3 บทเป็นบทที่มีเฉพาะในอนิเมะ
Higurashi no Naku Koro ni Kaku (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง
ภาคแผ่ขยาย)
- อนิเมะเนื้อเรื่องบทใหม่ที่มีการดำเนินเรื่องต่างไปจากเนื้อเรื่องหลัก
ฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 2013
- มีเนื้อเรื่องบทเดียวคือ
Higurashi
Outbreak ซึ่งเดิมเป็นเรื่องสั้นที่อยู่ใน
Original
Sound Track ของเกม Higurashi Daybreak
- เนื้อเรื่อง Higurashi Outbreak ที่ฉายนั้นยังไม่จบก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีการทำตอนต่อออกมาฉายแต่อย่างใด หากอยากเห็นตอนจบต้องไปอ่านในเกม Higurashi no Naku Koro ni Hou เอาเอง
นอกจาก Visual Novel, มังงะ และอนิเมะแล้ว Higurashi no Naku
Koro ni ยังได้รับการนำไปทำเป็นสื่ออื่นๆอีกมากมาย
เช่น Light
Novel, Drama CD, ละครคนแสดง ฯลฯ
ซีรีย์ Higurashi ได้รับการนำไปทำเป็น Light Novel อยู่หลายครั้ง
3 รูปที่เห็นด้านบนทั้งหมดคือนิยายเล่ม 2 ของ Onikakushi-hen (บทปีศาจลักซ่อน) เพียงแต่เป็นคนละเวอร์ชั่นกันมีการนำไปทำเป็นภาพยนตร์แบบคนแสดง(รูปซ้าย) และละครทีวีแบบคนแสดง(รูปขวา)ด้วย
Umineko no Naku Koro ni (สามารถแปลเป็นไทยได้ว่า
“ยามเมื่อเหล่านกนางนวลร่ำร้อง”) คือซีรีย์ Visual Novel ที่เป็นผลงานชิ้นใหม่ของอาจารย์
Ryukishi07
หลังจากเขียนซีรีย์
Higurashi
จบ
ซึ่งซีรีย์นี้เองก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกับซีรีย์ Higurashi
ซีรีย์ Umineko นั้น ดูเผินๆแล้วเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับซีรีย์ Higurashi แต่ก็มีตัวละครที่มีชื่อและหน้าตาคล้ายกับตัวละครใน Higurashi โผล่มาบ้างเล็กน้อย เช่น “ฮิบาริ 13 (นกกระจาบ 13)” ที่สู้กับซาโตโกะบนภูเขาใน Higurashi no Naku Koro ni บท Matsuribayashi หน้าตาคล้ายกับ “บอดี้การ์ดอามาคุสะ” ที่โผล่มาช่วยคุ้มครองคุณหนูแองเจใน Umineko no Naku Koro ni บท Alliance of the Golden Witch
ฮิบาริ 13 ที่สู้กับซาโตโกะบนภูเขาในปี ค.ศ. 1983
“บอดี้การ์ดอามาคุสะ” ที่โผล่มาช่วยคุ้มครองคุณหนูแองเจในปี
ค.ศ. 1998
… แทนที่จะเรียกว่าหน้าตาคล้ายกัน
ต้องบอกว่าหน้าตาเหมือนกันเลยมากกว่ามั้ง ! (แถมเสื้อที่ใส่ข้างในยังลายเดียวกันอีก)
อย่างไรก็ตาม ทางผู้แต่ง(อาจารย์ Ryukishi07)ก็ไม่ได้ออกมายืนยันว่าเป็นตัวละครเดียวกันแต่อย่างใด
Higurashi no Naku Koro ni คือ Visual Novel เรื่องที่ 2 ที่ผมเคยได้ยินชื่อ (เรื่องแรกคือ Fate/stay night) และเป็น Visual Novel เรื่องแรกที่ผมได้สัมผัส ผมได้รู้จักซีรีย์นี้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2009 ตอนนั้นเพื่อนนำหนังสือการ์ตูนเรื่อง “แว่วเสียงเรไร” มาให้ยืมแบบค่อยๆเอามาให้ที่โรงเรียนวันละบทสองบท(แถมยังไม่เรียงบทด้วย บ้าเอ๊ย !) ผมได้อ่าน “บทปีศาจลักซ่อน” ก่อนเป็นบทแรก พออ่านแล้วก็ต้องรู้สึกขนลุกไปกับบรรยากาศของเรื่อง
เรียกได้ว่าบรรยายได้น่ากลัวสุดยอดจริงๆ เลยได้รู้ว่า Higurashi เป็นแนวลึกลับสืบสวนสยองขวัญแบบที่ตัวเองชอบ
ต่อมาก็ได้อ่าน “บทไถ่บาป” เป็นบทที่สอง แม้บทนี้จะไม่น่ากลัวเท่าบทปีศาจลักซ่อน
แต่ก็ประทับใจเรนะที่ยอมมือเปื้อนเลือดเพื่อปกป้องคนสำคัญ จากนั้นไม่กี่วันต่อมา
ผมก็ได้อ่าน “บทสายใยสังหาร” และ “บทเบิกเนตร” ซึ่งสำหรับผม สองบทนี้คือที่สุดแล้วในมังงะ
Higurashi ผมประทับใจชิองมากๆ เธอไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา
แต่ลุกขึ้นสู้กับมันอย่างกล้าหาญ นับจากที่ผมได้อ่านสองบทนั้น Higurashi ก็กลายเป็นมังงะที่ผมชอบมากอีกเรื่องหนึ่งไป
และแน่นอนว่าตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องคือ “โซโนซากิ ชิอง”
หลังจากนั้นผมก็กลายเป็นแฟนซีรีย์ Higurashi และเริ่มสนใจผลงานอื่นนอกจากมังงะ
เลยมีไปหาเวอร์ชั่นอนิเมะมาดูบ้าง หาผลงานอื่นของอาจารย์ Ryukishi07 อย่าง Ookami Kakushi (หมาป่าลักซ่อน)มาดูบ้าง ผมอ่านมังงะมาตั้งแต่สมัยอนุบาลก็จริง แต่ก็ไม่เคยกระตือรือร้นไปหาอนิเมะมาดูด้วยตัวเองมาก่อน(ประมาณ ถ้าได้มาจะดู แต่ถ้าไม่มีก็คงไม่ไปหามาเอง) ดังนั้นจะเรียกว่านี่เป็นก้าวแรกสู่วงการอนิเมะของผมก็ไม่ผิดนัก
แล้วในเดือนพฤษภาคมปี 2010 ผมก็ได้หาเกม Higurashi no Naku
Koro ni Matsuri มาลองเล่นดู …ก่อนจะพบว่ามันเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยเลิกเล่นไปในทันที(ตอนนั้นยังอ่านไม่ออก ทีแรกที่หามาเล่นเพราะคิดว่ามันเป็นภาษาอังกฤษ)
ถึงแม้จะเลิกเล่นไปทันทีหลังจากที่เปิดเกมขึ้นมา แต่นั่นก็ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับ
Visual
Novel
ครับ ด้วยเหตุนี้ นอกจากเรื่องความสนุกแล้ว
ซีรีย์ Higurashi
จึงมีความหมายกับผมในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่างด้วย
นอกจากเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยมแล้ว สิ่งที่ผมชอบมากในซีรีย์นี้ยังมีอีกอย่าง นั่นคือเพลง Angelic bright ครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่ใช้เป็นเพลงเปิดใน OP Movie ของเกม Higurashi no Naku Koro ni Kizuna : Dai Yon Kan - Kizuna (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง ภาคสายสัมพันธ์ ฉบับที่ 4 “สายสัมพันธ์”)ที่วางจำหน่ายเมื่อต้นปี 2010 ผมได้ดู OP Movie ที่ว่านี้ไปเมื่อเกือบ 11 ปีที่แล้ว แต่จนปัจจุบันนี้ เพลง Angelic bright ก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจผมอยู่
ซีรีย์ Higurashi no Naku Koro ni มีออกมาครั้งแรกในงาน Comiket หน้าร้อนปี 2002 จะเรียกว่าผ่านไปเกือบ 20 ปีแล้วนับจากที่ซีรีย์นี้เกิดขึ้นมาก็ไม่ผิดนัก
แม้เนื้อเรื่องหลักของซีรีย์จะจบบริบูรณ์ไปนานแล้วทั้งในอนิเมะและมังงะ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปแบบถาวร
ยังมี Side
Story บทใหม่หรืออนิเมะขอบคุณแฟนๆออกมาให้รู้สึกคิดถึงบ้างเป็นพักๆ
และล่าสุด ในรูปคืออนิเมะ Higurashi no Naku Koro ni Gou (ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง
ภาคเคราะห์กรรม) ที่กำลังฉายอยู่ในตอนนี้(2020 -
2021) ซึ่งทีแรกบอกกับแฟนๆว่าเป็นการ remake ก่อนจะมาเซอร์ไพรส์หลังฉายจบตอนที่ 2 ว่า “ไม่ใช่ remake แต่เป็นเนื้อเรื่องบทใหม่ไปเลย
!” สร้างความตื่นอกตื่นใจให้กับบรรดาแฟนๆได้เป็นอย่างดี
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อซะสนิทว่าเป็นเวอร์ชั่น remake ทีแรกเลยว่าจะไม่ดูแน่นอน เพราะยังไงเนื้อหาก็คงไม่ต่างไปจากของเดิมมากนัก แต่พอได้ยินแบบนี้ก็เริ่มรู้สึกอยากดูขึ้นมาทันที พร้อมกับคิดเลยว่า …
“ยังไม่ถึงเวลาที่จะปิดตำนาน
Higurashi no Naku Koro ni จริงๆนั่นล่ะ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น