PriministAr -Sekai de Ichiban Toutoi Hikari-

posted on 3/23/2565 04:15:00 ก่อนเที่ยง by VermillionEnd Categories:
หน้านี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความ 10th Year Anniversary

คำเตือน : เหตุการณ์ในเรื่องสั้น Sekai de Ichiban Toutoi Hikari นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังรูทเซ็นริในเกม PriministAr และหลังเนื้อเรื่องของเซ็นริใน Fandisc  จึงต้องเล่นรูทเซ็นริในเกม PriministAr ให้จบก่อนแล้วค่อยมาอ่าน และถ้าให้ดีควรเล่นเนื้อเรื่องของเซ็นริใน Fandisc ให้จบก่อนด้วย


คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจากหนังสือ PriministAr Visual Fanbook

「世界で一番とうとい光」
“แสงสว่างที่ล้ำค่าที่สุดในโลก”
PriministAr Original Short Story

เรื่อง : ซากุรางิ นาโอะ (桜城なお)
ภาพ : โมโตมิยะ มิสึกิ (もとみやみつき)



[หน้า 1 แถวที่ 1]

ฮารุจิกะ อยากได้แหวนอ่า

เอ๊ะ แหวนเหรอ ?”

ระหว่างทางกลับจากการซื้อของสำหรับมื้อเย็น

ตอนที่เลยหน้าสถานีไปแล้วและกำลังเดินผ่านทางเดินที่มีต้นซากุระสองข้างทางในสวนสาธารณะซึ่งย้อมไปด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็น ก็ได้ยินคำพูดพึมพำสั้นๆที่เอ่ยขึ้นเพื่ออ้อนขออะไรบางอย่าง

อายุเท่านี้ คิดว่าแหวนเนี่ยยังเร็วไปนะ……เซ็นริคิดว่าไง ?”

ปลายสายตาที่เป็นประกายแวววับนั้นจับจ้องมายังแหวนหมั้นที่ฉันได้จากฮารุจิกะสมัยเป็นนักเรียน

อืม~ นั่นสินะ แหวนไว้ยูริโตกว่านี้หน่อยละกันนะ ?”

เท็นมะ ยูริ

ลูกสาวคนเดียวที่น่ารักมากๆของฉันกับฮารุจิกะ ซึ่งเกิดมาเมื่อ 4 ปีก่อน

อู~~~ เอาแต่พูดแบบนั้นทุกที~”

ยูริทำปากจู๋พลางสะบัดแขนไปมา แต่ท่าทางนั้นเองก็ยังดูน่ารัก เลยเผลอยิ้มด้วยกัน 2 คนกับฮารุจิกะ

อู~~~ อย่ายิ้มซี่~!”

เหมือนจะไม่พอใจที่ยิ้ม เลยงอนแล้วเบนหน้าหนีไปทางอื่น

คิกๆ เป็นเด็กผู้หญิง อย่าทำหน้าตาประหลาดแบบนั้นสิ
ฮึ !”

ยูริ ?”

ไม่ได้ยินอ่า !”

เพื่อปลอบยูริ เลยลูบผมที่นุ่มและยาวนั้นเบาๆ



[หน้า 1 แถวที่ 2]

ปกติพอทำแบบนี้แล้วเดี๋ยวยูริก็จะเหงาและเป็นฝ่ายส่งเสียงทักมาเอง

ว่าแต่ ตั้งแต่ได้แหวนวงนี้มาจากฮารุจิกะก็ผ่านไปกว่า 10 ปีแล้วสินะ……”

เอ๊ะ ?  อา งั้นเหรอ แต่จะเรียกว่าเผลอแวบเดียวหรือจะเรียกว่าเพิ่งผ่านไปแค่ 10 ปีดีนะ

ฮารุจิกะได้ยินคำพูดที่ฉันตั้งใจจะพูดพึมพำคนเดียว

……ไหนๆแล้วลองแกล้งแหย่เล่นดูหน่อยดีไหมนะ ?

“…………”

หือ ?  เอ๋ แม้แต่เซ็นริก็เป็นอะไรไปด้วยเนี่ย ?”

หืม ?”

เอ่อ……มีอะไรงั้นเหรอ

ฮิๆ กำลังกระวนกระวาย กำลังกระวนกระวาย

ฮารุจิกะอยู่กับฉันมาตลอดแล้วไม่สนุกเหรอ ?”

“? แน่นอนว่าต้องสนุกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง ไม่สิ ไม่มีทางที่จะไม่สนุกได้หรอก ว่าแต่เซ็นริล่ะ ?”

ฉันเหรอ ฉัน……อืม……?”

เดี๋ยวๆๆ เรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่ห้ามคิดนานไม่ใช่เหรอ !?”

“……คิกๆ ล้อเล่นน่ะ ฉันเองก็รู้สึกว่าทุกๆวันที่ผ่านมาสนุกมากเหมือนกัน และแม้แต่ตอนนี้เองก็มีแต่เรื่องน่าสนุก

อื้ม พอใจละ

อย่าทำให้ตกใจสิ แต่ก็มีคำกล่าวที่ว่าช่วงเวลาที่สนุกสนานจะรู้สึกว่าผ่านไปเร็ว เพราะแบบนั้นเลยคิดว่าน่าจะรู้สึกสนุกจริงๆนั่นล่ะ

คิกๆ นั่นสินะ จะสรุปไว้ว่าเป็นแบบนั้นให้ละกัน



[หน้า 1 แถวที่ 3]

แน่นอนว่าไม่ได้มีแต่เรื่องสนุกเพียงอย่างเดียว

ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกที่ว่า ช่วยเหลือซึ่งกันและกันพร้อมกับมุ่งหน้าไปสู่ความฝันของทั้งคู่ นั้นก็รู้สึกดีกว่ามากๆ

นี่ ฮารุจิกะ ยังจำเรื่องเมื่อก่อนได้อยู่ไหม ?”

อา~~~……”

กำลังทำหน้าตาเคลิบเคลิ้มอยู่……

ฮารุจิกะ ฮารุจิกะ !”

เอ๊ะ อา โทษทีๆ ก็ต้องจำได้อยู่แล้วสิ หรือต้องบอกว่าเมื่อกี้ชั้นก็กำลังนึกถึงเรื่องในอดีตอยู่เลย------”

(จ้อง)~~~……”

“!? เอ เอ่อ……คุณเซ็นริ ?”

ดีใจที่ฮารุจิกะก็กำลังนึกถึงเรื่องในอดีตอยู่เหมือนกัน แต่หน้าตาแบบนั้นสงสัยจะ……

“……งั้นเหรอ กำลังนึกถึงเรื่องลามกอยู่เหรอ ?”

“------พรูด !?  เปล่านะ เป็นเรื่องที่ปกติกว่านั้น แล้วก็……อะฮะๆๆ นั่นไง ?  กำลังล้อเล่นเหมือนทุก------”

ถ้าคิดว่าไม่ว่าอะไรก็จบที่ล้อเล่นได้ล่ะก็ คิดผิดไปเยอะนะ ?”

ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับ !!”

คิกๆ ความคิดของฮารุจิกะเนี่ยไม่ว่าอะไรก็รู้จนทะลุปรุโปร่งหมดล่ะนะ

อื้ม ฮารุจิกะเนี่ยต้องแบบนี้สิ

อู……ตะ แต่นั่นก็รู้สึกดีใจไปอีกแบบเหมือนกันรึเปล่านะ……”

นี่ๆ เรื่องเมื่อก่อน ยูริเองก็อยากฟังเหมือนกัน

ยูริที่อารมณ์ไม่ดีแล้วเงียบไปเมื่อครู่นั้น เริ่มมีท่าทีและดึงชายกระโปรง



[หน้า 2 แถวที่ 1]

อ้าว มีอะไรเหรอ ยูริ จะยอมคุยกับคุณแม่แล้วเหรอ ?”

“……อืม จะยอมคุยด้วย เพราะงั้น เล่าเรื่องเมื่อก่อนให้ฟังหน่อย

ฮิๆ งั้นเหรอ ขอบคุณนะ

พอยื่นมือไปหายูริ มือน้อยๆนั้นก็กุมนิ้วของฉันไว้

นั่นสินะ ถ้าอย่างนั้น……”

พอฉันเล่าเรื่องเมื่อก่อน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาแบบไหน หรือแม้จะเป็นการเล่าซ้ำเรื่องเดิมที่เคยเล่าไปแล้ว ยูริก็จะมีความสุขเป็นอย่างมาก

เพราะแบบนั้น เลยไม่ค่อยได้คิดซับซ้อนเท่าไรว่า จะเล่าเรื่องแบบไหนดี’ ……

วันนี้จะเอาเป็นเรื่องที่ไม่เคยเล่าให้ทั้งฮารุจิกะและยูริฟังมาก่อนดีไหมนะ

นั่นสินะ ตอนนั้นเป็นเดือนธันวาคมครั้งแรกนับจากที่ฉันเข้าโรงเรียนนานะฟุเนะ เป็นเรื่องในปีที่ฉันถูกฮารุจิกะลากมาเข้าชมรมเย็บปักถักร้อยน่ะนะ

 

~~~~~~~~~

 

นี่ เอนาโมริ คราวนี้ทุกคนในชมรมเย็บปักถักร้อยจะไปช่วยงานคริสต์มาสของโรงเรียนสอนเย็บปักถักร้อยในเมืองน่ะ…… พอจะได้ยินมาบ้างหรือยัง ?”

ขณะที่ฉันกำลังฝึกถักไหมพรมอยู่เงียบๆคนเดียว เท็นมะคุงก็ส่งเสียงทักมาด้วยท่าทางเหมือนเช่นทุกครั้ง

รับคำไหว้วานอะไรมาอีกแล้วหรือเปล่านะ ?

เอ่อ งานคริสต์มาสของโรงเรียนสอนเย็บปักถักร้อยเหรอ ?”

ใช่ๆ ที่จริงก็มีขอร้องมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วน่ะนะ แต่แค่ตัวคนเดียวไม่ว่ายังไงก็ยากอยู่ดี แต่ว่า ปีนี้คิดว่าน่าจะเหมาะพอดีน่ะ

……อย่างที่คิด เพราะเป็นเท็นมะคุง เลยคิดอยู่ว่ายังไงก็คงไม่พ้นเรื่องทำนองนั้น

จะว่าชอบเข้าไปยุ่งดูแลเรื่องคนอื่นดี หรือจะว่ายังไงดี ……เหลือเชื่อเลยจริงๆ

พวกรุ่นพี่ก็จะได้พักผ่อนจากการดูหนังสือสอบด้วย เห็นบอกว่าถ้าเพื่อพวกเด็กๆที่โรงเรียนสอนเย็บปักถักร้อยแล้วล่ะก็ยินดีให้ความร่วมมือน่ะ

“……เฮ้อ งั้นเหรอ นั่นสินะ พวกรุ่นพี่ก็เป็นคนแบบนั้นเหมือนกันหมดนี่นะ

ทีแรกคิดว่าเป็นกันแค่เท็นมะคุงกับประธานชมรม แต่ปรากฏว่าสมาชิกชมรมเย็บปักถักร้อยทุกคนดันเป็นกลุ่มก้อนแห่งความชอบยุ่งเรื่องคนอื่นซะงั้น

“……คิกๆ

ว่าไปนั่น นับจากที่รู้เรื่องนั้นก็ผ่านไปกี่เดือนแล้วกันนะ ?

ทั้งที่ช่วงแรกที่เริ่มโผล่หน้ามาที่ชมรมเย็บปักถักร้อยเคยรู้สึกหดหู่กับความชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเช่นนั้นของทุกคนแท้ๆ



[หน้า 2 แถวที่ 2]

ทว่า พอมาตอนนี้กลับรู้สึกสบายใจจนน่าประหลาดบ้าง อะไรบ้าง

ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นไม่เปลี่ยนก็จริง แต่ก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกินจำเป็นหรืออะไรด้วย

ว่าแต่ เท็นมะคุง เมื่อกี้เห็นบอกว่าทุกคน นั่นรวมฉันเข้าไปด้วยเหรอ ?”

เอ๊ะ พูดอะไรอยู่น่ะ เรื่องนั้นก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ ก็เอนาโมริเป็นเพื่อนพ้องชมรมเย็บปักถักร้อยเหมือนกันนี่นา

อ๊…………”

ฉันเองก็เป็น……เพื่อนพ้อง……

อา แต่ว่าไม่ได้บังคับนะ ถ้าไม่สะดวกหรือไม่สนใจก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องทางนี้ก็ได้ ?”

เห……งะ งั้นเหรอ ว่าแต่วันกำหนดการล่ะ ?”

……จะ ใจเย็นไว้ ตัวฉัน

ตรงนี้ขืนรีบตอบตกลงไปทันที เรื่องที่เป็นผู้หญิงขี้เหงาที่ว่างจนไม่รู้จะทำยังไงดีในวันหยุดนั้นจะความแตกเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา

งานจัดวันอาทิตย์หน้าน่ะ เอ๊ะ หรือว่าสนใจงั้นเหรอ ?”

อาทิตย์หน้าเหรอ ?  นั่นสินะ วันนั้น……มีกำหนดการอะไรอยู่หรือเปล่านะ……?”

……ยัง ยังเร็วไป

ไม่สิ ให้ทางเท็นมะคุงเป็นฝ่ายชวนมาแบบบังคับนิดๆจะดีกว่ามาก……

แค่ฝืนลากไปแบบตอนที่ชวนฉันมาเข้าชมรมเย็บปักถักร้อยก็หมดปัญหาแล้ว

อืม งั้นเหรอ เอนาโมริเองก็คงมีกำหนดการอยู่แล้วด้วยสิ จะให้ฝืนชวนก็คงไม่ดี---

…………เอ๊ะ ?

เท็นมะคุงกอดอกยิ้มด้วยท่าทางเสียดาย

แนวการสนทนาแบบนี้ อย่าบอกนะว่า……?

เอาล่ะ เข้าใจแล้ว จะไม่บอกให้รีบตัดสินใจทันทีหรอกนะ เอาเป็นว่าถ้าตัดสินใจได้แล้วก็ขอฟังคำตอบหน่อยละกัน

มะ ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย……

แล้วไหงเมื่อกี้ถึงไม่ตื๊อเหมือนทุกทีล่ะ ?

เอ่อ เท็นมะคุง ?”

หืม มีอะไรงั้นเหรอ ?”

ถะ ถ้าเท็นมะคุงขอร้องถึงขนาดนั้นแล้วล่ะก็ เอ่อ------”

โทษที เท็นมะคุง โทษทีนะที่ให้รอ งั้นไปประชุมงานกันเลยไหม ?”

เสียงของฉันถูกลบหายไปโดยเสียงของรุ่นพี่ที่โผล่มากะทันหัน

ประชุมงาน ?”

นัดกับครูที่โรงเรียนสอนเย็บปักถักร้อยไว้น่ะ เพราะงั้นวันนี้คิดว่าถ้าประชุมเสร็จแล้วก็จะกลับเลยทั้งๆอย่างนั้น

เอ๊ะ อะ เอ่อ……”

เพราะแบบนั้นล่ะ โทษทีที่เหมือนจะเป็นการบังคับกัน แต่แค่เรื่องเข้าร่วมไม่เข้าร่วม ช่วยตัดสินใจไว้ให้ทีได้ไหม ?”



[หน้า 2 แถวที่ 3]

“…………อึก

ไปล่ะนะ เอนาโมริ ไว้พรุ่งนี้เจอกันที่ห้องเรียน

พอคว้ากระเป๋าแล้วเท็นมะคุงก็เริ่มเดินหายไปจากตรงหน้าฉันอย่างรวดเร็ว

อะ เอ่อ……”

เสียงของตัวฉันที่อ่อนแอน่าสมเพชนั้นเลือนหายไปก่อนที่จะไปถึงหูของเขา

ทั้งที่คำตอบนั้นกำหนดไว้แน่นอนตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องเป็น จะเข้าร่วม

เดี๋ยวก่อน……”

เท็นมะคุงมอบโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กับฉัน

บางที จากนี้ไปเอง หากอยู่กับเท็นมะคุงต่อไปเรื่อยๆ ฉันก็อาจจะเข้มแข็งขึ้นได้

เท็นมะคุง……”

เพราะแบบนั้น ฉันจึงอยากอยู่เคียงข้างเท็นมะคุง

หากมองจากคนอื่นแล้วตัวฉันอาจจะแปลกจริงๆก็ได้……

ไม่สิ ฉันรู้ตัวเองดีที่สุดว่าตนนั้นแปลกประหลาด

ถึงอย่างนั้น------

ฮารุจิกะ !!”

“!?”

เท็นมะคุงหยุดกึกแล้วหันกลับมามองทางนี้ทันทีด้วยสีหน้าตกใจ

“…………เอ๊ะ ?”

อ๊ะ ฉัน……”

อะไรอย่างการเรียกผู้ชายด้วยชื่อเนี่ย แม้แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำเรื่องใจกล้าแบบนั้นลงไปได้ยังไง

อะไรน่ะ เมื่อกี้……?  ไม่สิ  ไม่ว่าจะคิดยังไงก็เป็นเอนาโมริ สินะ……?”

แต่ว่า……อื้ม

ถึงใครจะว่ายังไง ไม่ว่าจะถูกคนอื่นคิดยังไง ฉันก็อยากจะอยู่ข้างๆเท็นมะคุง

คิกๆ นั่นสินะ ยังไงกันนะ แต่ในห้องชมรมตอนนี้ก็มีแค่พวกเราสองคนด้วยสิ

เสียงของฉันส่งไปถึงเท็นมะคุง ส่งไปถึงฮารุจิกะได้

นะ นั่นสินะ แต่ว่าตกใจเลยล่ะที่จู่ๆก็ถูกเรียกด้วยชื่อกะทันหัน

“……งั้นเหรอ ไม่ชอบที่โดนเรียกด้วยชื่อเหรอ ?”

เอ๊ะ เปล่านะ รู้สึกสนิทกับเอนาโมริมากขึ้นด้วย คิดว่าก็ดีนะ แต่ว่า จะให้ชั้นเรียกเอนาโมริด้วยชื่อเหมือนกันเนี่ยคงจะยากไปหน่อย

ฮารุจิกะกล่าวเช่นนั้นแล้วเกาหัวพลางเบนสายตามองไปทางอื่น

สำหรับตัวฉันเอง จะให้ตัวเองถูกเรียกด้วยชื่อก็รู้สึกอายนิดหน่อยเหมือนกันด้วย

……แล้วก็ เข้าใจดีอยู่แล้วว่าการปรารถนาให้ได้ทุกอย่างนั้นมันเกินไป

เพราะแบบนั้น นี่คือรูปแบบที่เป็นความสุขสูงสุดแล้วสำหรับตัวฉันในตอนนี้

อื้ม ถ้าอย่างนั้นจากนี้ไปจะขอเรียกแบบนี้นะ ฮารุจิกะ



[หน้า 3 แถวที่ 1]

อืม โอเค……เดี๋ยว ไม่ใช่เรื่องนั้น !”

“?  มีอะไรเหรอ ?”

เปล่า หรือต้องบอกว่านั่นควรเป็นคำพูดของทางนี้ดี……”

มีเรื่องอะไรกันนะ หรือว่าจะตกใจเกินไปจนเพี้ยนไปแล้ว……รึเปล่านะ ?

ไม่ใช่ว่าเอนาโมริมีธุระอะไรเลยเรียกชั้นไว้หรอกเหรอ ?”

“………………อ๊ะ !”

ลืมเป้าหมายที่แท้จริงไปซะสนิทเลย

แต่ว่านะ ใจเย็นไว้ ฮารุจิกะ คิดว่านานๆทีก็มีวันแบบนี้เหมือนกันนะ

ฉันนี่ล่ะก็ เผลอดีใจจนลืมตัว

วันแบบนี้ที่ว่าเนี่ย……ช่างเถอะ แล้วมีธุระอะไรเหรอ ?”

เอ เอ่อ คือเรื่องนั้นน่ะ…… เรื่องงานคริสต์มาสน่ะ……”

“------เอ๋ หรือว่าตัดสินใจได้แล้วเหรอ ?”
“……
อืม

โกหกน่า จริงดิ !?”



[หน้า 3 แถวที่ 2]

ถ้าบอกไปว่าฉันจะเข้าร่วม ฮารุจิกะจะดีใจหรือเปล่านะ ?

ถึงในหัวจะรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรไปคาดหวัง แต่ตัวฉันก็เผลอตั้งความหวังไปโดยไม่รู้ตัว

เอ่อ วันงาน ฉันเองก็……จะขอเข้าร่วมด้วย……”

ไชโย !!”

…………เอ๊ะ ?

เอ่อ ฮารุจิกะ เพราะแบบนั้น เอ่อ อยากจะให้ช่วยบอกทีว่าวันงานฉันควรจะทำอะไรดี……”

“------เฮือก !?  ทะ โทษที ไม่นึกว่าเอนาโมริคนนั้นจะยอมมาเข้าร่วมด้วยจริงๆ เลยเผลอ……!”

“……เอนาโมริคนนั้น รู้สึกเหมือนกำลังถูกพูดเรื่องเสียมารยาทอยู่ยังไงไม่รู้นะ ?”

อุ๊บ !?  คะ คิดไปเอง !!  เรื่องแบบนี้ก็นั่นไง ที่ว่าถ้าเผลอคิดมากจะเป็นฝ่ายแพ้……เนอะ !?”

ว่าไปนั่น ที่ผ่านมาฉันเป็นฝ่ายเลี่ยงงานประเภทนี้มาตลอด จะตกใจก็ไม่แปลกสินะ

คิกๆ แค่ล้อเล่นนิดหน่อยน่ะ ฮารุจิกะนั่นล่ะอย่าคิดมากเลย

งะ งั้นเหรอพูดแบบนั้นแล้วก็ช่วยได้เยอะเลย

แล้ว วันงานฉันควรจะทำอะไรดีเหรอ ?”

อา เรื่องนั้นสินะ ยังเป็นกำหนดการชั่วคราวอยู่ก็จริง แต่วันงานว่าจะให้เอนาโมริ……”

ไม่รู้ว่าจะทำประโยชน์ให้ฮารุจิกะได้พอหรือเปล่า แต่ไหนๆตัดสินใจว่าจะลงมือทำทั้งทีแล้ว……

“……ช่วยใส่ชุดตุ๊กตากวางเรนเดียร์เต้นให้หน่อยน่ะ ฝากด้วยนะ !”

ไม่ใส่จ้ะ

กวาง   ……   เรนเดียร์   ……   !?

อะ เอ๊ะ ฟังผิดไป……สินะ ?  นั่นไง คริสต์มาสทั้งทีก็ต้องมีกวางเรนเดียร์สิ !”



[หน้า 3 แถวที่ 3]

ไม่เต้นจ้ะ

ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้ ชุดตุ๊กตากวางเรนเดียร์น่ารักสุดๆ------

กวางเรนเดียร์น่ะสูญพันธุ์ไปหมดแล้วล่ะ

อ่า เอ เอ่อ……ชอบแบบที่จมูกไม่ใช่สีแดงมากกว่าหรอกเหรอ ?”

ทั้งที่คนอื่นก็มี ทำไมถึงมาจำกัดที่ฉันว่าต้องเป็นอะไรอย่างกวางเรนเดียร์……

จะบอกไว้แค่ว่าของแบบนั้น ฉันไม่ใส่เด็ดขาด  เด็ดขาดเด็ดขาด

ถ้าชั้นไม่ได้คิดไปเอง เมื่อกี้พูดคำว่าเด็ดขาดออกมาตั้ง 3 ครั้งใช่มะ !?”

 

~~~~~~~~~

 

“……อารมณ์เหมือนกับว่าหัวใจที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของฉันถูกเล่นตลกด้วยความรู้สึกสบายๆที่ไม่คิดอะไรเลยล่ะ

ใสซื่อบริ------!?  ระ เรื่องนั้นต้องขอโทษด้วยจริงๆ หรือต้องบอกว่าไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัดสินใจแน่วแน่ขนาดนั้น !”

นี่~ สัยซื่อบอริสุดเนี่ย คืออะไรเหรอ ?”

ยูริยังไม่ต้องรู้ก็ได้ !”

แต่ว่าตอนนั้นอยากจะให้เดาความรู้สึกของฉันจริงๆนะ

ฉันเองก็รู้อยู่แล้วว่าฮารุจิกะไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร แล้วก็ไม่ใช่ว่าโกรธจริงจังอะไรด้วย

……แต่ที่รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยนั้นคือเรื่องจริง

ไม่ไหวๆๆ  เซ็นริเนี่ยนานๆทีก็พูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้สินะ !?  แถมเรื่องแบบนี้เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกด้วย !!”

อื้อ ก็ไม่เคยถามนี่นา

เรื่องเมื่อก่อนล่ะ เล่ามาอีก~!”

ฮิๆ ได้สิ นั่นสินะ งั้นคราวนี้เป็นเรื่องราว 5 ปีก่อนนับจากตอนนี้……”

 

~~~~~~~~~

 

พี่ชายกับคุณเซ็นริ ช่วยคิดถึงพวกหนูบ้างนะคะ แค่นานๆครั้งก็ยังดี ?”

ที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ซึ่งมีฉัน ฮารุจิกะ คายาโนะ และโคอิโตะ 4 คนมารวมตัวกัน

ภายใต้แสงตะวันของฤดูใบไม้ผลิที่สดชื่น โคอิโตะเม้มปากแน่นและมีสีหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ออกมาเดี๋ยวนี้เลย

อะฮะๆ ไม่เป็นไรหรอก โคอิโตะจัง ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้ ใช่ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วซะหน่อยนี่ เนอะ ?”



[หน้า 4 แถวที่ 1]

คิกๆ ใช่แล้วล่ะ โคอิโตะ  อุตส่าห์มีหน้าตาน่ารักทั้งที เสียหมดเลยนะ ?”

อ๊ะ……!?  นะ นั่นสินะคะ ไม่ได้จากกันแค่นี้ซะหน่อยนี่นะ……”

โดนบอกว่าน่ารัก โคอิโตะจึงนำมือไปแตะที่แก้มแล้วหน้าแดงในทันที

โคอิโตะเองก็ดูเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว แต่ปฏิกิริยาท่าทางเช่นนี้ยังคงเหมือนเด็กและน่ารักไม่เปลี่ยน

อื้ม เพราะแบบนั้น สำหรับพวกพี่แล้ว ถ้ามาส่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก็จะรู้สึกดีใจน่ะนะ

ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม……อื้อ อะฮะๆ ขอโทษค่ะ สำหรับทั้งคู่แล้วถือเป็นเรื่องน่ายินดีนี่นะคะ !”

ในฤดูใบไม้ผลิที่มาเยือนเป็นครั้งที่ 7 นับจากที่ฉันกับฮารุจิกะจบการศึกษาจากโรงเรียนนานะฟุเนะ

วันนี้เป็นวันที่ฉันกับฮารุจิกะจะออกจากอพาร์ทเม้นท์ นาคาคิโยะที่อาศัยอยู่มานาน

ทั้งสองคน แวะมาเที่ยวได้เสมอเลยนะ ตอนนั้นคิดว่าโคอิโตะก็น่าจะดีใจแล้วทำอาหารเลี้ยงให้

ถะ โถ่ คุณแม่ล่ะก็ อย่าพูดอะไรแปลกๆสิ !?”

อุฮุๆ งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นตอนทั้งคู่มาเที่ยวจะสั่งอาหารมาเหรอ ?”

อู~~……ฮึ คุณแม่ชอบแกล้ง ดีล่ะ ถึงตอนนั้นแค่ส่วนของคุณแม่เท่านั้นที่จะไม่เตรียมให้นะ ?”

หืมถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็คอยเตรียมให้ไม่ขาดอยู่ดี โคอิโตะนี่อ่อนโยนเนอะ ?”

“!? ~~~~!!”

อะฮะๆ น่าๆ โคอิโตะจัง คุณคายาโนะด้วย แต่ว่านั่นสินะ ปีหน้าจะมาทักทายแน่นอนครับ

มือของฮารุจิกะสัมผัสที่ท้องของฉันเบาๆ

อุฮุๆ งั้นเหรอ จะตั้งหน้าตั้งตารอตั้งแต่ตอนนี้เลยละกัน แต่ว่าถ้าอย่างนั้นล่ะก็ยิ่งควรอยู่ที่นี่ต่อ……ว่าไปนั่น มาพูดเอาป่านนี้ก็เนอะ

ขอโทษด้วยครับ คุยกับเซ็นริแล้วว่าจะให้การมีลูกเป็นจุดสิ้นสุดของช่วงๆหนึ่งในชีวิต

อืม ตัดสินใจแล้วว่าจากนี้จะเติบโตไปด้วยกันในฐานะพ่อกับแม่น่ะ

ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะพึ่งพาใครทั้งนั้น แค่คิดว่าอยากจะลองพยายามไปด้วยพลังของพวกตนเองเฉยๆ

“……อื้อ นั่นสินะ ถ้าเป็นทั้งคู่ที่ข้ามผ่านอะไรหลายๆอย่างมาด้วยกันล่ะก็ คิดว่าจากนี้ไปก็คงไม่เป็นไรแน่นอน

อะฮะๆ ถ้าพูดอย่างนั้นล่ะก็เซ็นริพยายามมาเยอะกว่าผมมากครับ

เอ๊ะ ฉันเหรอ ?”

ไม่คิดว่าการสนทนาจะกลายเป็นเรื่องของตัวเองเลยเผลอไปหน่อย



[หน้า 4 แถวที่ 2]

เรื่องนั้นก็ใช่สิ ไม่นึกเลยว่าเซ็นริจะพูดออกมาว่าอยากเขียนนิทานสำหรับเด็ก

งั้นหรอกเหรอ แต่ถ้าไม่มีฮารุจิกะอยู่ ฉันก็ไม่สามารถมีความฝันได้แบบนั้นหรอกนะ

แต่ไหนแต่ไร น่าจะไม่คิดด้วยซ้ำว่าอยากจะมอบรอยยิ้มให้กับผู้คนมากมายนอกเหนือจากฮารุจิกะ

แต่ที่ความฝันนั้นเป็นจริงได้ก็เพราะความพยายามของเซ็นริเองนะ

งั้น เหรอ……?  ทั้งที่ตกรอบไปหลายครั้งแล้วเนี่ยนะ ?”

อื้อ ใช่แล้วล่ะ ในทางผลลัพธ์แล้ว ก็ได้รับเลือกไปทำเป็นหนังสือก่อนที่ความฝันของชั้นจะเป็นจริงซะอีก

อ๊ะ หนูก็แนะนำให้เพื่อนร่วมชั้นอ่านนะคะ เสียงตอบรับดีมากเลยล่ะค่ะ !”

งะ งั้นเหรอ ขอบคุณนะ……”

ฮิๆ แล้วก็นะ ยูเมะจังเนี่ย เมื่อวานซืนเองก็ซื้อไป 10 เล่ม เห็นตั้งหน้าตั้งตาจะนำไปเผยแพร่ให้คนที่ยังไม่ได้อ่าน

ยูเมะล่ะก็ ทำเรื่องไม่จำเป็น……”

ได้ยินเรื่องราวมาก่อนแล้ว ถึงอย่างนั้นพอได้มาฟังอีกทีก็ยังรู้สึกอายนิดหน่อย……แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร

ไม่สิ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากด้วยซ้ำที่ช่วยส่งความรู้สึกของฉันไปหาทุกคน

เอ๊ะ เซ็นริ หน้าแดงน่ะ หรือว่า……กำลังเขินอยู่งั้นเหรอ ?”

“……อะไรเหรอ ?”

หวั่นไหวนิดหน่อยจนน้ำเสียงราบเรียบเป็นโทนเดียวเหมือนกำลังท่องบท แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้าแน่นอน……น่าจะน่ะนะ

หืม เห~?  เพราะอ่าน สู่ฤดูแห่งสายรุ้งที่เซ็นริเขียนไปหลายรอบ ชั้นก็เลยพยายามมาได้โดยไม่ถอดใจเรื่องความฝันไปซะก่อนน่ะน้า~?”

~~~~!?

ถ้าทางนั้นจะมีท่าทีแบบนั้นล่ะก็ ทางฉันเองก็

งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้น ฮารุจิกะ ข้าวเย็นพรุ่งนี้ไม่มีส่วนของฮารุจิกะนะ

ทำไมกัน !?”

(จ้อง)~~~……บื้องั้นเหรอ ?”

อู……ขออภัยด้วยครับ ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของกระผมเองครับ……”

ให้ตายสิ แทนที่จะมาขอโทษกันแบบนี้ ไม่ล้อคนอื่นเล่นตั้งแต่แรกก็ดีแล้วแท้ๆ

ฮิๆ

แต่เรื่องที่ไหลไปตามบรรยากาศได้ง่ายจนเผลอไปแบบนั้นก็สมเป็นฮารุจิกะดีนั่นล่ะ

“……แต่คิดว่าถึงจะไม่มีฉันอยู่ ฮารุจิกะก็น่าจะยังทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้นะ

ก็ฮารุจิกะเป็นคนแบบนั้นนี่นา

ยังไม่เข้าใจหลักเกณฑ์เท่าไรก็จริง แต่ฮารุจิกะจะไม่พูดเรื่องที่ตัวเองทำไม่ได้ออกมา

มองในทางกลับกันคือหากฮารุจิกะพูดออกมาแล้วว่าจะทำ ก็จะทำได้สำเร็จแน่นอนอย่างที่เห็นมา



[หน้า 4 แถวที่ 3]

ถึงการพูดเรื่องสมมุติจะไม่ได้อะไรก็จริง แต่ยังจำได้รึเปล่าที่เมื่อก่อนเซ็นริเคยพูดว่า ถ้าหากไล่ตามชั้นทันแล้วสามารถเดินเคียงข้างไปด้วยกันได้ล่ะก็น่ะ ?”

“!?”

ไม่คิดว่าฮารุจิกะจะเป็นฝ่ายพูดเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาเอง เลยตกใจนิดหน่อย

อา โทษที ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไรหรอก……”

ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากหรอก แน่นอนว่าต้องจำได้อยู่แล้วสิ แล้วทำไมเหรอ ?”

เรื่องนั้นน่ะนะ ก็เซ็นริอุตส่าห์พูดว่าเดินเคียงข้างกันแท้ๆ แต่ชั้นกลับเป็นฝ่ายโดนแซงไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เลยรู้สึกผิดน่ะ”

อ๊ะ ฮารุจิกะ

ตอนนั้นคิดมากกับเรื่องแบบนั้นอยู่หรอกเหรอ ?

แต่ว่า เพราะแบบนั้นล่ะ เลยกลายเป็นแรงจูงใจว่า ‘ชั้นเองก็จะมัวแต่แพ้อยู่ไม่ได้ ชั้นจะไล่ตามเซ็นริให้ทัน !’  เรื่องนั้นรู้สึกขอบคุณจากใจเลยล่ะ”

“……อืม”

ฮะๆๆ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าความฝันจะกลายเป็นจริงในรูปแบบนั้นน่ะนะ ?”

คิกๆ นั่นสินะ ต่อให้ไม่ใช่ฮารุจิกะ ก็ไม่น่าจะคิดหรอกว่าจะกลายเป็นเรื่องแบบนั้น”

เพราะในความเป็นจริงแล้วแม้แต่ตัวฉันเองยังตกใจ

นั่นสินะคะ ไม่มีวันไหนที่ไม่เห็นชุดตุ๊กตาที่พี่ชายทำในทีวีเลยล่ะค่ะ”

เดี๋ยวๆ นั่นพูดเกินไปแล้ว”

ต้องขอบคุณเรื่องนั้น การเงินของครอบครัวก็เลยล่ำซำขึ้นมาเลยล่ะ

ปะ เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วยสินะคะ !?”

พอเถอะ เรื่องที่มันจริงเกินไปแบบนั้น !?  มันไร้ความฝันพอๆกับการดูคนที่อยู่ข้างในชุดตุ๊กตาเลยนะ !?”

……สร้างชุดตุ๊กตาอันดับหนึ่งของโลก นั่นคือความฝันของฮารุจิกะ

ที่ความฝันนั้นเป็นจริงก็คือราวๆครึ่งปีหลังจากที่หนังสือของฉันวางขาย

ตอนที่คนใหญ่คนโตจากต่างประเทศที่ชื่ออะไรสักอย่างมาเยือนญี่ปุ่น บังเอิญมีบอดี้การ์ดคนหนึ่งปลอมตัวโดยสวมชุดตุ๊กตาที่ฮารุจิกะทำ

ตอนนั้นมีเหตุการณ์ชุดตุ๊กตาเอาตัวเข้าบังปกป้องคนใหญ่คนโตคนนั้นจากการถูกซุ่มยิง แล้วก็กลายเป็นข่าวใหญ่บ้าง อะไรบ้าง

แถมยังเป็นที่ฮือฮากันว่าทั้งๆที่ชุดตุ๊กตาถูกยิงไปตั้งหลายนัดแต่บอดี้การ์ดข้างในกลับไม่มีแผลเลยแม้แต่น้อย

คุณภาพสูงที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้สวมใส่ด้วยนั้นได้รับการเห็นคุณค่าจากหลายๆฝ่าย ชุดตุ๊กตาที่ฮารุจิกะทำเลยดังระดับโลกในชั่วข้ามคืน

“……เพราะแบบนั้นห้องใหม่ก็เลยเป็นคอนโดสร้างใหม่ ผิดกับที่นี่ที่เก่าซอมซ่อสินะจ๊ะ ?”

อย่าบอกนะครับว่ากำลังแค้นฝังลึกสุดๆไปเลย !?”



[หน้า 5 แถวที่ 1]

คายาโนะทำปากแหลมมองไปทางฮารุจิกะด้วยสายตาไม่พอใจ

โถ่ คุณแม่ล่ะก็ ถึงจะเหงาแค่ไหนก็ไม่ควรล้อเล่นแบบนั้นในเวลาแบบนี้นะ !”

“------เอ๊ะ เหงางั้นเหรอ คุณคายาโนะน่ะนะ ?”

ฮารุจิกะจะตกใจก็ไม่แปลก ฉันเองยังตกใจนิดหน่อยเลย

อะไรกัน ปฏิกิริยาแบบนั้น……แปลกใจขนาดนั้นเลยเหรอ ?”

รอยยิ้มที่เหมือนกำลังลำบากใจผุดขึ้นมาบนใบหน้า เป็นรอยยิ้มราวกับเด็กที่เล่นซนแล้วโดนจับได้ ซึ่งสำหรับคายาโนะแล้วถือว่าแปลกมาก

ไม่สิ ไม่ใช่แค่แปลก คายาโนะที่ยิ้มแบบที่ไม่สามารถเรียกว่าเป็นใบหน้ายิ้มแย้มได้แบบนี้อาจจะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกก็ได้

คุณคายาโนะ……”

ก็ทั้งคู่เป็นเหมือนพี่ชายกับพี่สาวของโคอิโตะนี่นา สำหรับฉันแล้วก็เลยคิดว่าเป็นเหมือนครอบครัวไปด้วย

คายาโนะ……”

ว่าไปนั่น ไม่ได้สินะ แม้แต่โคอิโตะเองยังสัญญาไปแล้วว่าจะมาส่งดีๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

……ตัวฉันเองก็ยังมีความอาลัยอาวรณ์เหลืออยู่ แต่แทนที่จะลากยาวต่อไปเรื่อยๆ ตัดสินใจแบบไม่ลังเลไปเลยทีเดียวอาจจะดีกว่าก็เป็นได้

นี่ ฮารุจิกะ ได้เวลาแล้ว……”

อืม ไม่ต้องห่วง พอจะเข้าใจเรื่องที่เซ็นริอยากพูดอยู่

อืม ถ้าอย่างนั้น ที่เหลือฝากให้ฮารุจิกะจัดการนะ

ค่อยๆไปยืนข้างฮารุจิกะเพื่อจะได้หันหน้าเข้าหาคายาโนะกับโคอิโตะ

อาจเป็นเพราะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของพวกฉัน คายาโนะกับโคอิโตะจึงยืนหลังตรงและหันมองมาทางนี้เช่นกัน

เอ่อ คุณคายาโนะ โคอิโตะจัง !”

จ้ะ

ค่ะ !”

ความทรงจำที่ได้เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ จากนี้ไปก็จะไม่ลืมเด็ดขาดครับ !”

เรื่องนั้นพวกฉันก็เหมือนกัน เนอะ โคอิโตะ !”

ค่ะ อะฮะๆ จะไม่ลืมเด็ดขาดค่ะ คุณเซ็นริเองก็อย่าลืมนะคะ ?”

อื้อ ฉันเองก็จะไม่ลืมเหมือนกัน

แต่ก็ตั้งใจว่าอีกเดี๋ยวจะแวะมาเที่ยวครับ……ฮึก ตลอดที่ผ่านมาต้องขอบคุณจริงๆที่ช่วยดูแลครับ !

คายาโนะ โคอิโตะ ที่ผ่านมาขอบคุณที่ช่วยดูแลนะคะ

 

~~~~~~~~~



[หน้า 5 แถวที่ 2]

เซ็นริเล่าเรื่องยาวมาทีเดียวจนจบ จากนั้นก็พักหายใจออกแล้วจึงปิดปาก

รู้สึกราวกับว่าบรรยากาศภายในสวนสาธารณะเงียบสงัดลงตามไปด้วย

“……มาตอนนี้ก็กลายเป็นความทรงจำที่ดีไปแล้วสินะ”

ไม่รู้ทำไม คิดว่าจะมีเรื่องราวแปลกๆโผล่มาอีก เลยเผลอระวังตัวไปซะงั้นน่ะนะ ?”

น่าสมเพช !

นี่ แล้วจากนั้นเป็นยังไงต่อเหรอ ?”

เอ๊ะ ต่อจากนั้นเหรอ ?’

มือน้อยๆนั้นดึงแขนเสื้อ คราวนี้มาเร่งเร้าให้ผมเล่าต่อ

หลังจากนั้นยูริก็เกิดมา แล้วเรื่องราวก็จบลงอย่างมีความสุข”

สมแล้วที่เป็นเซ็นริ จบเรื่องได้ดีนี่

เพราะยูริเกิดมาก็เลยจบลงอย่างมีความสุขเหรอ ?”

อา ใช่แล้วล่ะ เพราะยูริเกิดมา ทุกคนก็เลยมีความสุข แล้วเรื่องราวก็จบลงอย่างมีความสุข

ทำไมกันล่ะ ?”

ทะ ทำไมกันงั้นเหรอ ?  ที่ว่าทำไมกันเนี่ย เรื่องนั้น……?”

มาแล้วไง การโจมตีด้วยการถามว่าทำไมรัวๆของยูริ

หากมองจากการดำเนินเรื่องแล้วก็คือจบลงอย่างมีความสุข……สำหรับเด็กแล้วยังยากเกินไปงั้นเหรอ ?

ฮารุจิกะ นี่ ฮารุจิกะ ทำไมกันล่ะ ?”

เซ็นริ !!”

อะไรกัน อธิบายไม่ได้งั้นเหรอ ?”

เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้น ที่ให้ยูริเรียกฮารุจิกะเนี่ยหยุดเถอะ !?  ไม่สิ ช่วยหยุดที !”

“?  ฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นนะ ยูริแค่เลียนแบบเอาเองต่างหากล่ะ เนอะ ?”

เนอะ !”

“…………”

ไม่ใช่ว่ายูริไม่ติดผม แต่ก็รู้สึกเหมือนกับว่าติดแจอยู่แต่กับเซ็นริ

อืม ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเซ็นริ แต่พอเป็นเรื่องลูกสาวแล้วยังไงก็ยังน่าเจ็บใจอยู่ดีสินะ

นี่ ฮารุจิกะ ทำไมกันเหรอ ?”

“……ยูริ เดี๋ยวก่อน ไหนลองเรียกว่าคุณพ่อซิ ?”

ฮารุจิกะ ?”

………………

งั้นคุณแม่ล่ะ ?”

คุณแม่ !”

ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้น ในทำนองเดียวกัน คุณพ่อล่ะ ?”

ฮารุจิกะ !”

โทนเสียงแค่กลายเป็นแบบเดียวกันเฉยๆ ไม่ใช่อย่างนั้นเนอะ !?”

……อืม มีแต่จะต้องค่อยๆแก้ไปทีละนิดหรือเปล่านะ

ฮารุจิกะ ยูริก็อยากได้แหวนเหมือนกัน !”

เอ๊ะ เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ เมื่อกี้ก็บอกไปแล้ว สำหรับยูริแล้วยังเร็วไปรึเปล่านะ เอาไว้ค่อยโตกว่านี้หน่อยนะ



[หน้า 5 แถวที่ 3]

ฮึ~ งกอ่า

ไม่ได้งก

คุณแม่ ฮารุจิกะแกล้งอ่า !”

ยูริทำปากจู๋แล้วไปเกาะขาเซ็นริ

ไม่ต้องห่วง เวลาแบบนี้แค่ยั่วยวนก็ชนะสบาย”

ยั่วยวน ?”

คิดยังไงถึงได้สอนคำพูดแบบนั้นให้ตั้งแต่ยังเด็กเนี่ย !”

ให้ตายสิ …เดี๋ยวไม่สิ การเลี้ยงลูกของเซ็นริ ในเชิงรากฐานแล้วไม่เป็นไรแน่เหรอ ?

ถึงจะไม่ผิดไปจากกรอบสามัญสำนึก แถมยังป่านนี้แล้วก็จริง แต่ก็รู้สึกกังวลสุดๆขึ้นมาซะแล้ว !?

อ๊า คืนนี้อุตส่าห์คิดว่าจะทำข้าวห่อไข่ทั้งที เลิกดีไหมนะ ?”

“!?  ฮารุจิกะ ข้าวห่อไข่ เอาข้าวห่อไข่ !”

ฮะๆๆ โดนล่อด้วยของกินได้เนี่ย ยังไงก็ยังเป็นเด็กอยู่มาก

เอ้า ถ้างั้น ยูริ ไหนลองเรียกคุณพ่อดูซิ ?”

“…………”

ใช้ซอสมะเขือเทศวาดคุณหมีด้วยดีไหมนะ ?”

ฮารุจิกะ ขอเป็นแมว

ไม่อยากเรียกว่าคุณพ่อขนาดนั้นเลยเรอะ !?”

คิกๆ ยูริเนี่ยถึงวัยแบบนั้นแล้วสินะ ?”

อือ

เอ๋ วัยต่อต้าน !?  เข้าสู่วัยต่อต้านแล้วงั้นเหรอ !?”

เซ็นริอุ้มยูริที่เริ่มงอนนิดหน่อยขึ้นมาเพื่อเป็นการปลอบ

อืม เพราะแบบนี้สินะถึงได้ติดเซ็นริมากกว่า

อ๊า พอละ เข้าใจแล้ว จะเรียกฮารุจิกะก็ได้ แล้วก็จะทำข้าวห่อไข่ให้ด้วย !”

“……แมว

ของแบบนี้ไม่พลาดเลยนะ

นิสัยตรงนี้เหมือนผมหรือเหมือนเซ็นริกันนะ

รู้แล้ว แล้วก็จะปักธงให้ด้วย

จริงเหรอ !?  อะฮะๆ รักฮารุจิกะมากเลย !”

ฮู่ว์ เหมือนจะพอทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้แล้ว

คิกๆ แต่ว่าฉันรักฮารุจิกะมากกว่านะ ?”

โทษทีนะ แต่อย่าพูดอะไรที่เป็นการกระตุ้นอารมณ์ยูริสิ !?  แต่ชั้นเองก็รักเซ็นริเหมือนกัน รู้สึกดีใจด้วย !!”

“!?  ฮิๆ อื้อ นั่นสินะ วันนี้อารมณ์ดี เพราะแบบนั้นคืนนี้จะคาดหวังไว้ก็ได้รึเปล่านะ



[หน้า 6 แถวที่ 1]

“……หืม เอ๊ะ !?  อะไร  Lucky Chance เรื่องอะไรเหรอ !?”

ไม่สิ ที่ว่าตอนกลางคืนเนี่ย หมายความว่า……เรื่องลามก……สินะ ?

เซ็นริในปัจจุบันก็มีเสน่ห์ขนาดที่จินตนาการไม่ได้เลยว่าเคยคลอดยูริมาแล้ว……มีอีกคนงั้นเหรอ

เร็วๆ ฮารุจิกะ รีบกลับกัน !”

โอ๊ะ !?”

ในตอนที่ความคิดกำลังจะเตลิดไปไกล ก็กลับมารู้สึกตัวกะทันหันด้วยเสียงเรียกของยูริ

ทะ โทษทีๆ !  นั่นสินะ รีบกลับกันเถอะ !”

อื้อ !!”

คิกๆ ถ้าอย่างนั้น ฮารุจิกะ กลับกันเถอะ

เซ็นริที่ถูกเร่งเร้าด้วยน้ำเสียงร่าเริงของยูรินั้นยิ้มให้ผมก่อนจะค่อยๆก้าวเดินออกไป

…………

ผมกับเซ็นริได้พบพานกันและลงเอยกัน



[หน้า 6 แถวที่ 2]

หลังจากนั้นก็มีทั้งเรื่องสนุกสนานและเรื่องทุกข์ใจมากมายในช่วงเวลาอันยาวนานที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ชวนให้ท้อแท้หมดกำลังใจแค่ไหน พวกผมก็ไม่ยอมแพ้และก้าวผ่านไปด้วยกัน 2 คน ตามหาแสงสว่างเรื่อยมา

เพราะอย่างนั้นนี่ล่ะ ตอนนี้จาก 2 คนเพิ่มเป็น 3 คนแบบนี้ คิดว่าจะสามารถมีช่วงเวลาที่มีความสุขยิ่งกว่าตอนอยู่กัน 2 คนได้

……ไม่สิ ไม่ใช่แค่ตอนนี้

จากนี้เอง แน่นอนว่าในเส้นทางที่พวกผมมุ่งไปก็มีอนาคตสีรุ้งที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดรออยู่เช่นกัน

ที่มาของความมั่นใจงั้นเหรอ ?

ฮารุจิก่า~ !  เร็วหน่อย เดี๋ยวทิ้งไว้น้า~ !”

……มาพูดอะไรเอาป่านนี้

แต่ไหนแต่ไร ที่ผ่านมาเท็นมะ ฮารุจิกะแห่งชมรมเย็บปักถักร้อยก็ทำในสิ่งที่ตนสามารถทำได้มาอย่างสุดความสามาร



[หน้า 6 แถวที่ 3]

เพราะแบบนั้น จากนี้เอง……

ฮา~รู้~จี่~ก่า~!”

ก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอไง ?

คิกๆ ฮารุจิกะ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวยูริจะงอนอีกนะ ?”

เอ๊ะ !?  นะ นั่นไม่เอานะ ขอเวลา 10 วิ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ !”

จัดสัมภาระที่ถืออยู่แล้วรีบไปหาเซ็นริกับยูริ

แล้วเดี๋ยวจะกลับบ้านพร้อมกันแล้วพูดว่า กลับมาแล้ว” ------

ฮิๆ เอ้า พยายามเข้านะ คุณพ่อ

 

FIN



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น