Mell Kiss

posted on 4/01/2566 01:17:00 ก่อนเที่ยง by VermillionEnd Categories:
  สวัสดีครับ กลับมาพบกับ VermillionEnd ทุกต้นเดือนเช่นเคย เมื่อวานหรือก็คือวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา ทางค่าย Giga ก็ได้จัดงาน GIGA FINAL DAY อำลาวงการและปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นการปิดตำนาน 30 ปีของค่ายลงอย่างสวยงาม (← สวยงามเมื่อเทียบกับหลายๆค่ายที่ล้มละลายหรือหายหน้าหายตาไปเฉยๆน่ะนะ อย่างน้อยค่าย Giga ก็มีการจัดงานอำลาวงการอย่างอลังการและลงจากเวทีไปโดยไม่ล้มละลาย ผมเลยถือว่าดีกว่ากันเยอะ) …เพราะแบบนั้น ในการอัพ Blog ประจำเดือนเมษายนนี้ ผมจึงอยากใช้โอกาสนี้ร่วมกล่าวอำลาให้กับค่าย Giga ครับ ด้วยเหตุนี้ เกมที่นำมาให้ดูในวันนี้เลยเลือกเป็นเกม Mell Kiss ของค่าย Giga ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2018

  เนื้อเรื่องเกมก็ประมาณ “โอริฮาระ เรียวอิจิ” ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสอง แล้วเนื่องจากแม่ของเขาเปิดห้องเรียนสอนเย็บผ้า&ร้านขายสินค้าสำหรับเย็บผ้าอยู่ เรียวอิจิจึงถูกแม่สอนเรื่องการเย็บผ้ามาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาเก่งในเรื่องการเย็บปักถักร้อยมาก…… เรียวอิจิใช้ชีวิตนักเรียนไปอย่างธรรมดาๆโดยที่ไม่มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น ทว่า วันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง ครูประจำชั้นได้ประกาศในคาบโฮมรูมว่าธีมของงานวันคล้ายวันสถานปนาโรงเรียนปีนี้คือฮาโลวีนและวันนี้มีนักเรียนใหม่ย้ายมา การจัดงานฮาโลวีนในโรงเรียนและนักเรียนใหม่ผู้ย้ายมานอกฤดูกาล ด้วยเรื่องน่าแปลกใจสองอย่างนี้ ชีวิตนักเรียนที่สงบราบเรียบของเรียวอิจิจึงค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป

  พล็อตเรื่องก็ประมาณนี้ครับ พูดง่ายๆคือเป็นเกมจีบสาวธรรมดาทั่วๆไปนี่ล่ะ แต่ว่าเกมนี้มีธีมของเรื่องที่น่าสนใจอยู่อีกอย่างหนึ่งครับ คือ “บางทีคนที่รู้จักกันแค่ในโลกออนไลน์อาจจะอยู่ใกล้ตัวผิดคาดก็เป็นได้”   โดยในเนื้อเรื่องเกมก็คือ จนถึงเมื่อปีที่แล้ว ตัวเอกเคยเล่นเกม “Unlimited Valkyria” เกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์ที่มีคนเล่นเยอะมาก และได้สนิทกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อ “เอย์จิ”   ต่อมาภายหลัง แม้เกมออนไลน์ที่ว่าจะปิดตัวลงไปแล้ว ตัวเอกกับเอย์จิก็ยังคงคุยเล่นกันบ่อยๆผ่านทาง Message Application โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย… อยู่มาวันหนึ่งเอย์จิก็มาบ่นให้ตัวเอกฟังว่ามีความจำเป็นจะต้องย้ายโรงเรียนเลยรู้สึกกังวล ซึ่งตัวเอกก็ให้กำลังใจไปตามเรื่องตามราว แล้วต่อมาในวันที่เอย์จิต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ ชั้นเรียนของตัวเอกก็มีเด็กสาวนาม “ชิราชิมะ ไอริ” ย้ายเข้ามาอย่างประจวบเหมาะพอดีเช่นกัน จากนั้นพอไอริไปเจอเหตุการณ์อะไรมา เอย์จิก็มักจะนำเหตุการณ์แบบเดียวกับที่ไอริเจอมาโม้ให้ตัวเอกฟัง… ใบ้ซะขนาดนี้ ผมเล่นเกมนี้ไปแค่ Trial Version ก็จริง แต่ไม่ต้องเฉลยก็รู้ว่า “ชิราชิมะ ไอริ” เนี่ยคือ “เอย์จิ” แน่ๆ

  นางเอกเกมนี้มีด้วยกัน 4 คนคือ “ชิราชิมะ ไอริ” นักเรียนใหม่,  “มิยาโมริ ยูซุ” เพื่อนสมัยเด็ก,  “คางุระ คาเอเดะ” รุ่นพี่ผู้เงียบขรึมที่เพี้ยนเล็กน้อย และ “อาคิสึกิ สึซึริ” รุ่นน้องที่เข้าสังคมเก่งมากแต่กลับไม่เล่น Social Media   โดยในบรรดา 4 คนนี้ นางเอกที่ผมถูกใจที่สุดคือ “ยูซุ” ครับ… อนึ่ง ข้อมูลบนเว็บหลักเขียนไว้ว่ายูซุเป็น “เพื่อนสมัยเด็ก” ก็จริง แต่ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ยูซุคือเพื่อนสมัยมัธยมต้นครับ เธอรู้จักกับตัวเอกตอนมัธยมต้น เพิ่งคบหาสมาคมกันมาได้แค่ราวๆ 3 ปี และแม้จะสนิทกันมากพอสมควร แต่ทั้งคู่ก็ยังเรียกอีกฝ่ายด้วยนามสกุลว่า “คุณมิยาโมริ” “โอริฮาระคุง” กันอยู่

  เกม Mell Kiss ก็ประมาณนี้ครับ เป็นอีกหนึ่งเกมของค่าย Giga ที่ผมถูกใจ   ค่าย Giga นั้นเป็นค่ายเกมที่อยู่คู่กับวงการมานาน และแม้จะเป็นยุคปัจจุบันที่วงการ Visual Novel อยู่ในช่วงขาลงสุดๆซึ่งค่ายเกมดังๆค่อยๆทยอยหายไป ทางค่าย Giga ก็ยังสามารถออกเกมขนาด Full Price ออกมาได้ปีละมากกว่าหนึ่งเกม ให้ความรู้สึกว่าแม้วงการจะอยู่ในช่วงขาลงแต่ก็ยังไปต่อได้ เพราะแบบนั้น พอค่าย Giga ซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์การคงอยู่ของวงการได้ประกาศปิดตัวลงนี่ผมรู้สึกช็อกมากเลยล่ะครับ ทุ่มเทเรียนภาษาญี่ปุ่นมาเพื่อเล่น Visual Novel แต่ปัจจุบันวงการกลับกำลังค่อยๆกลายเป็นอดีตไป รู้สึกเดียวดายประหนึ่งว่าโลกกำลังมุ่งไปสู่อนาคตเรื่อยๆ แต่ผมกลับถูกทิ้งอยู่ในอดีต อารมณ์ตอนนั้นนี่ประมาณ “ซากเดนแม้หลงเหลือยังไร้ทาง ทัพอับปางดั่งภูผาถล่มทลาย” เลยครับ (← ยืมคำพูดมาจากเรื่องหงสาจอมราชันย์)

  แต่ ณ ตอนนี้ซึ่งผ่านไปหลายเดือนแล้วก็เริ่มทำใจได้ สรรพสิ่งที่ครองที่ครองเวลาอยู่ในโลกล้วนย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดไป ทว่า เฉกเช่นที่หนทางกว่าสิบปีที่ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นมาเพื่อ Visual Novel นั้นไม่ได้สูญเปล่า ที่ผ่านมาเกมของค่าย Giga ก็ได้สร้างความเพลิดเพลินและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผมเช่นกัน เพราะฉะนั้น คำพูดที่ผมจะใช้กล่าวอำลาค่าย Giga ก็คือ “ขอขอบคุณสำหรับเกมดีๆที่ผ่านมา”



Mell Kiss
Spend with you the sweet days like fairy tales
จูบกลมกล่อม





คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจาก Official Web Site (Giga)

พออยู่ด้วยกันกับเธอ ก็มีแต่ “ความรู้สึกใจเต้นตึกตัก (ประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน)”------







Story

พออยู่ด้วยกันกับเธอ ก็มีแต่ ความรู้สึกใจเต้นตึกตัก (ประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน)------

 

ชีวิตในรั้วโรงเรียนดำเนินมาอย่างสงบราบเรียบโดยไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นเร้าใจเหมือนในละครเกิดขึ้นแต่อย่างใด

แล้วในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่หลังปิดเทอมฤดูร้อนปี 2 ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ครึ่งหลังของชีวิตในรั้วโรงเรียนนั้นเอง

 

วันหนึ่ง ครูที่ปรึกษาก็ได้แจ้งให้ทราบในคาบโฮมรูม

ถึงเรื่องที่ธีมของงานวันสถาปนาโรงเรียนปีนี้ถูกเลือกให้เป็นเทศกาลฮาโลวีน

และเรื่องที่มีนักเรียนใหม่ย้ายมา

 

การได้พบพานกับเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ซึ่งย้ายมาในช่วงนอกฤดูกาลการย้ายโรงเรียน

การลองสิ่งใหม่ๆที่เรียกว่าฮาโลวีนดูเป็นครั้งแรกในงานวันสถาปนาโรงเรียน

 

ชีวิตแต่ละวันที่ดำเนินมาอย่างสงบราบเรียบนั้นได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย

สุดท้ายแล้วจะมีอนาคตเช่นใดรออยู่กันนะ------



Concept

จะบรรยายการเปลี่ยนแปลงของระยะทางความรู้สึกที่มีต่อพวกนางเอกอย่างประณีตบรรจงยิ่งขึ้น

 

ในผลงานชิ้นนี้จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับระยะทางความรู้สึกที่มีต่อพวกนางเอก ซึ่งจะค่อยๆใกล้ชิดเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

โดยจะบรรยายตั้งแต่ขั้นที่เริ่มสร้างความเกี่ยวพันกับพวกนางเอก

 

ไม่ได้มีแค่เพียง "ความรู้สึกสวีทพลอดรัก" ซึ่งเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญมาตลอดทั้งซีรี่ย์

ขอให้สนุกกับ ลวดลายความรักที่ค่อยๆคลำหาทางกันไปอย่างไม่ประสีประสา ด้วย




Main Character


“แต่ถ้าทุกคนจะทำอะไร เดี๋ยวชั้นจะปรับตาม”

โอริฮาระ เรียวอิจิ
織原 諒一

ตัวเอกของเรื่อง
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 173 เซนติเมตร / 64 กิโลกรัม

 

โดยปกติแล้วเป็นคนมีน้ำใจ พอเจอคนที่กำลังประสบปัญหาอย่างเห็นได้ชัด หากนิ่งดูดายแล้วจะรู้สึกค้างคาใจภายหลัง สุดท้ายแล้วก็เลยเผลอเข้าไปช่วยจนได้

คอยแอบช่วยสนับสนุนเพื่อนสนิทผู้เป็นหัวหน้าห้องที่จริงจังเกินไปไม่ยืดหยุ่นอยู่อย่างลับๆ

 

ค่อนข้างรู้สึกไวต่อความเป็นไปของความสัมพันธ์หรือเรื่องรักๆใคร่ๆของผู้คนรอบตัว ทว่า พอเป็นความรู้สึกดีๆที่มุ่งมาหาตนเองแล้วกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย

 

ด้วยอิทธิพลจากการที่แม่ทำกิจการห้องเรียนเย็บปักถักร้อย & ร้านขายสินค้าสำหรับเย็บผ้า จึงถูกฝึกฝนการเย็บปักถักร้อยมาตั้งแต่เด็ก

ทว่า ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เป็นความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับการทำอาหาร คือชอบที่จะสนุกกับขั้นตอนที่วัตถุดิบค่อยๆกลายไปเป็นสิ่งใหม่ซึ่งต่างออกไปโดยสิ้นเชิง





“แม้จะย้ายมาในช่วงเวลาแบบนี้……แต่ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”

ชิราชิมะ ไอริ
白嶋 愛理

นักเรียนย้ายมาใหม่ผู้มองโลกในแง่ดีและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 156 เซนติเมตร / 47 กิโลกรัม
สัดส่วน              : 86(E)/57/85

 

เด็กสาวผู้มองโลกในแง่ดีและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนของตัวเอก

 

นอกจากจะเล่นกีฬาเก่งและหุ่นดีมากแล้ว ยังมีด้านที่มีความเป็นแม่ศรีเรือนอย่างเช่นทำข้าวกล่องมาเองบ้าง อะไรบ้าง

 

ช่วงแรกๆที่ย้ายโรงเรียนมานั้นจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวเพราะไม่อยากเด่นเป็นเป้าสายตา

ทว่า พอเริ่มชินกับชีวิตความเป็นอยู่ใหม่แล้วก็ค่อยๆเปิดใจให้ทีละน้อย





“ชมรมทำอาหารยินดีให้ทดลองเข้าชมรมเสมอ กำลังรับสมัครสมาชิกใหม่อยู่น้า~”

มิยาโมริ ยูซุ
宮森 ゆず

เพื่อนสมัยเด็กผู้ชอบขนมหวาน
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 155 เซนติเมตร / 52 กิโลกรัม
สัดส่วน              : 90(F)/60/87

 

เด็กสาวเพียงหนึ่งเดียวที่มีความเกี่ยวข้องกับเรียวอิจิอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ตอนเริ่มเรื่อง

 

ชอบขนมมาก คิดฝันไว้ว่าอยากเป็นช่างทำขนมมานานแล้ว

ทว่า เพื่อรักษาหุ่น เลยระวังไม่ให้ทานมากจนเกินไปอยู่

 

ด้วยความรู้สึกที่ว่าอยากจะให้เรียวอิจิทาน อยากจะให้เรียวอิจิชมว่าอร่อย เลยเป็นธรรมเนียมมาตั้งแต่สมัยอยู่ชมรมคหกรรมว่าเมื่อทำผลงานใหม่ได้ก็จะนำมาให้เรียวอิจิลองทาน

(ต่อเนื่องมาประมาณ 3 ปี จนถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับทั้งคู่ไปแล้ว)

 

นอกจากนี้ ทั้งที่ยามปกติจะเป็นคนสบายๆใจกว้าง แต่ตอนทำอาหารกลับคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน





“……เอ๊ะ ? เมื่อกี้ฉันบอกเธอไปเหรอว่าเป็นรุ่นพี่ ?”

คางุระ คาเอเดะ
神楽 楓

รุ่นพี่ผู้สุขุมเยือกเย็นที่เป็นคนเพี้ยนๆนิดหน่อย
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 3
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 163 เซนติเมตร / 48 กิโลกรัม
สัดส่วน              : 82(D)/55/86

 

รุ่นพี่ผู้ถูกรอบข้างมองว่าสุขุมเยือกเย็นและเป็นที่ยำเกรงเล็กน้อย

 

ไม่ชอบการโอ้อวดพวกพรสวรรค์หรือความพยายามสักเท่าไร รวมไปถึงไม่ค่อยชอบคนที่ทำเช่นนั้นด้วย

ไม่ได้คิดว่าข้อดีของตนเองคือข้อดี

นอกจากนี้ แม้รูปร่างหน้าตาจะงดงาม แต่ก็ไม่ได้โอ้อวดหรืออะไรแต่อย่างใด

ทว่า ไม่ใช่ความรู้สึกทำนองว่าดูถูกตัวเอง แต่ให้อารมณ์ประมาณว่าไม่นำเสนอสิ่งที่เป็นจุดขายของตัวเอง

 

ไม่เชื่อเรื่องอย่างการดูดวงเลยแม้แต่น้อย

ส่วนเหตุผลก็คือ "ก็เพราะว่าฉัน...โดนหลอกง่ายจนเกินไปน่ะ"

ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องการดูดวงเท่านั้น หากเป็นเรื่องราวที่มีความสมเหตุสมผลประมาณหนึ่งแล้วก็จะโดนหลอกได้อย่างง่ายดาย

มีความถูกชักจูงง่ายเช่นนั้นอยู่





“สวัสดีค่ะ ! วันนี้เองก็มาพยายามกันอีกวันเถอะค่ะ ♪”

อาคิสึกิ สึซึริ
秋月 つづり

รุ่นน้องซึ่งภายนอกดูเหมือนคุณหนูผู้อ่อนต่อโลก แต่ความจริงแล้วหัวไวและหนักแน่น
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 1
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 150 เซนติเมตร / 46 กิโลกรัม
สัดส่วน              : 84(D)/56/83

 

รุ่นน้องผู้มารยาทดีและแสดงทักษะในการเข้าสังคมออกมาเต็มที่

มีกิริยาท่าทางงดงามในแบบที่ไม่เป็นพิธีรีตองจนเกินไป แล้วยังเก่งในด้านการอ่อนน้อมถ่อมตนและการยกย่องเชิดชูอีกฝ่ายด้วย

 

ไม่รู้ทำไมถึงได้เคารพเรียวอิจิ  มักจะตามไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ

กับเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เรียวอิจิสอนนั้น จะแสดงท่าทางประทับใจออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า ก็นะ” “แหม” “แบบนี้นี่เองทำให้คนสอนเองก็รู้สึกสนุกไปด้วย

 

เฉลียวฉลาดและจะรักษาท่าทางสบายๆของตัวเองไว้เสมอ

สามารถไปด้วยกันได้ดีทั้งกับผู้อื่นและกับตนเอง ในแง่หนึ่งแล้วจึงกล่าวได้ว่าได้ใช้ทักษะในการเข้าหาผู้คนนั้นแก่หัวใจของตัวเองด้วยเช่นกัน




Sub Character



“อ๊ะ ขอโทษที่แนะนำตัวช้าไปค่ะ ! ชั้น โอโนะเดระ อิจิกะ !”

โอโนะเดระ อิจิกะ
小野寺 いちか

เด็กสาวผู้ไวต่อแฟชั่นและเสพติด Social Media
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 155 เซนติเมตร / 50 กิโลกรัม

 

เด็กสาวที่ค่อนข้างกระฉับกระเฉงและแสดงอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจน

มีนิสัยตรงข้ามกับยูซุ เป็นความสัมพันธ์แบบที่ต่างฝ่ายต่างช่วยเสริมในจุดที่อีกฝ่ายมีไม่พอให้กันและกัน

 

กับยูซุนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ปีการศึกษาที่แล้ว

เพื่อนเยอะก็จริง  แต่กับยูซุนั้นจะสนิทกันเป็นพิเศษ

คาดเดาได้ถึงเรื่องที่ยูซุกำลังแอบชอบเรียวอิจิด้วย





“ไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้ไม่ใช่เหรอคะ !?”

ฮารุคาวะ ฮินาโกะ
春河 陽奈子

รุ่นน้องซึนเดเระผู้รักเพื่อน
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 1
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 147 เซนติเมตร / 38 กิโลกรัม

 

ซึนเดเระเข้าใจง่าย

แม้ปากจะบ่นด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ในเวลาที่ดีใจก็จะแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน

 

คอยเป็นห่วงเป็นใยและเข้ามาจุ้นจ้านกับสึซึริที่แม้จะเป็นยุคปัจจุบันแล้วก็ยังไม่เล่น Social Media โดยบอกว่า เดี๋ยวจะตามโลกไม่ทันเอานะ

 

กับยูซุนั้นมีความสัมพันธ์เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชมรมทำอาหาร

เคารพนับถือยูซุซึ่งสามารถทำขนมที่อร่อยขนาดมืออาชีพยังอาย

ทว่า ก็รู้สึกหวาดเสียวอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยงๆไม่ระมัดระวังตัวที่ยูซุแสดงออกมาให้เห็นเป็นครั้งคราว





“ที่เหลือเดี๋ยวผมทำเอง จากนี้วานให้ผมจัดการได้เลย”

อิวาเดะ คิโยทากะ
岩出 清貴

หัวหน้าห้องใส่แว่นผู้จริงจังจนเกินไป
ชั้นปี                  : นักเรียนปี 2

 

เพื่อนของเรียวอิจิที่คบหากันตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ห้องเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

กับเรียวอิจิซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีนั้น จะคอยให้กำลังใจบ้าง ให้คำแนะนำในมุมมองที่เป็นกลางบ้าง

 

มีนิสัยไม่ยืดหยุ่น ยังไงก็เป็นคนซื่อตรงและตรงไปตรงมาสุดๆ

หากตัดสินใจไปครั้งหนึ่งแล้วจะมองไม่เห็นอย่างอื่น และไม่สามารถเปลี่ยนวิธีการได้

แต่ก็รับฟังคำแนะนำที่เหมาะสมและสมเหตุสมผล

 

ตนเองเป็นคนจริงจังมาก เช่น ในชั่วโมงเรียนจะปิดโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

ทว่า กับผู้อื่นนั้นกลับมีความยืดหยุ่นผิดคาด



3 ความคิดเห็น:

  1. พูดตรง ๆ เลยนะครับ ในตอนนี้ผมก็แทบจะยัง Move On จากค่าย GIGA ไม่ได้เลย คือมันเป็นมากกว่าค่ายเกมสำหรับผมจริง ๆ นะครับ

    ผมเริ่มเข้าสู่โลกของ VN ได้อย่างเต็มตัวก็ตอนช่วง Baldr Sky Drive 1 เข้ามาใหม่ ๆ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากเพราะในช่วงนั้นชีวิตผมค่อนข้างจะเจออะไรเลวร้ายมามากพอสมควร ทั้งในเรื่องของการเรียน ชีวิต หรือครอบครัว นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ถ้าย้อนกลับไปแล้วคือเป็นช่วงที่หนักมากในครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วก็เหมือนกับพระเจ้ายังไม่ทอดทิ้งผม ในวันหนึ่งผมได้เจอเพลงของคุณ KOTOKO เพลง Restoration - Chinmoku no Sora ซึ่งมันทำให้ผมได้รู้จัก และเริ่มที่จะสนใจในวงการนี้

    ในตอนนั้นผมมีความรู้สึกว่าอยากจะตายไปให้พ้น ๆ ไปหลายทีนะครับ แต่เพราะเกมนี้มันทำให้ผมยังอยู่ได้ตรงนี้ว่า "อย่างน้อย ถ้าจะตายก็ขอทำตามลิสต์พวกนี้หน่อยหละวะ" ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ผมต้องซื้อแผ่นเกม Baldr Sky Drive ให้ได้ ซึ่งตอนนี้ผมก็สามารถทำได้แล้วในตอนที่ได้ไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น

    หลายครั้งพอมองดูมันแล้วผมก็ยังคงรู้สึกถึงวันวานที่มีความสุขกับค่ายนี้เสมอ แม้จะนานแค่ไหนผมก็ไม่ลืมได้จริง ๆ ครับ มันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เขาได้จากไปแล้ว แต่ผมก็พอจะเข้าใจทางค่ายและเคารพในสิ่งที่เขาตัดสินใจไป และขออวยพรให้ทางค่ายเขาโชคดีในสิ่งที่ตัดสินใจไปนะครับ

    ปล. ต้องขออภัยด้วยที่มมาพิมพ์เหมือนแค่มาหาที่ระบาย แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ ครับ รอบตัวผมและสังคมใกล้ผมไม่มีใครที่จะคุยในเรื่องพวกนี้ได้อย่างสะดวกใจได้ 100% เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในวงการนี้

    ผมยอมรับครับว่าแค่ต้องการหาที่ระบายสิ่งที่มันอัดอยู่ในใจผมมาตลอดตั้งแต่ข่าวการปิดตัวของค่ายแล้ว แต่กระนั้นก็เถอะ ผมก็ต้องหาทางที่จะ Move On จากมันให้ได้จริง ๆ นะครับ

    ขอบคุณมากนะครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ผมติดตามบล๊อคของคุณมากก็น่าจะเกิน 10 กว่าปีแล้ว ดีใจนะครับที่บล๊อคยังอัพเดทอยู่ ตั้งแต่ Tirkx กับ Exteen ปิดตัวไป คอมมูนิตี้สาย VN ในไทยก็แทบจะไม่ค่อยเหลือที่ให้พูดคุยกันเลย ขอบคุณมากนะครับที่ทำบล๊อคนี้มาก สำหรับผมบทความของคุณมันมีความหมายกับผมจริง ๆ นะครับ

    ตอบลบ
  2. มาลงชื่อว่าตั้งใจอ่านทุกบรรทัดตั้งแต่ต้นจนจบครับ

    ทางผมเองก็พอมีประสบการณ์ที่คล้ายกันอยู่บ้าง
    ผมเคยเป็นเด็กนักเรียนกระจอกๆ ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากความจำกับความพยายาม
    หัวไม่ดี เรียนไม่เก่ง วิชาที่คนรอบตัวให้ค่าอย่างวิชาสายวิทย์ก็ตกตลอด (ได้คะแนนดีเฉพาะวิชาที่เน้นความจำ)
    จะฝึกฝนอะไร ไม่ว่าจะเกมหรือกีฬา ก็ต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่าผู้อื่น
    ตอนนั้นเลยท้อแท้ หมดกำลังใจ รู้สึกว่าชีวิตของตนเองไร้ค่า

    จนได้มาพบกับเกม Tasogare no Sinsemilla ที่ทำให้ผมสนใจ Visual Novel และหันมาทุ่มเทกับภาษาญี่ปุ่น
    และนั่นก็ได้ทำให้ผมได้ก้าวเข้าสู่โลกของการแปล
    การแปลทำให้ผมสัมผัสได้ถึงคุณค่าในชีวิตของตนเอง ว่าแม้แต่ตัวผมที่เป็นแบบนี้ ก็ยังมีสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้อยู่

    นับแต่นั้นเป็นต้นมาชีวิตผมก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
    สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ
    มีผลงานแปลมากมาย
    ได้ทุนไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น
    สอบ N1 ผ่านด้วยคะแนนสูงมาก
    สอนภาษาญี่ปุ่นเพื่อส่งต่อคบเพลิงแห่งความหวังให้กับผู้ที่มีเป้าหมายเดียวกัน
    จะกล่าวว่าชีวิตนี้ได้รับการช่วยเหลือจาก Visual Novel ก็ไม่ผิดเลย





    ผมได้อะไรหลายๆอย่างมาจาก Visual Novel
    ดังนั้นแม้จะช็อกที่ค่าย Giga ปิดตัว และวงการนี้กำลังค่อยๆกลายเป็นอดีต
    แต่พอมองว่าหนทางที่ก้าวเดินมาด้วยกันนั้นไม่สูญเปล่า
    ผมก็พอทำใจขึ้นมาได้บ้างครับ

    ป.ล.
    เวลาได้ยินคนบอกว่าตามอ่าน Blog อยู่ทีไร ก็ต้องตกใจทุกที
    ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วย
    ขอบคุณที่ตามอ่านมาตลอดครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ทำไมจะไม่ตามอ่านหละครับ 5555+ มีไม่กี่บล๊อคหลอกครับที่จะทำหัวข้อในด้านของวงการ VN ถึงจะแบบนาน ๆ ทีรีเฟรชครั้งนึง แต่ต้องยอมรับเลยครับว่าบทความที่เขียนของคุณในหลาย ๆ ครั้งนี้คือมันทำให้ผมอยากเริ่มทำบล๊อคเหมือนกันนะครับ แต่มุมมองคงจะเป็นแบบ บันทึกทุกอย่างเป็นไดอารี่หลังจากตาย และให้ใครซักคนมาอ่าน 5555+

      ถึงยังไง ด้วยหลาย ๆ เกมที่คุณแนะนำมาในบล๊อคเนี้ย มันทำให้ผมเปิดโลกมากเลยนะครับ อย่างน้อยก็เรื่องมุมมองต่อ เอโรเกะ ว่ามันไม่ได้มีแค่ฉากอย่างว่าอย่างเดียว มันยังมีความงดงามของเนื้อเรื่อง หรือแม้กระทั้งองค์ประกอบต่าง ๆ

      ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้วครับไม่ต้องห่วง มันก็อารมณ์เหมือนตอนที่ผมมาเล่น Liber_7 จบแล้วมารู้ทีหลังว่าค่าย Lass นั้นหายไปแล้ว ตอนนั้นมันก็ค่อนข้างช๊อคเหมือนกันครับ แต่อย่างว่า ชีวิตเราต้องเดินต่อ ถ้าจมแต่อดีตมันก็จะไม่สามารถก้าวไปได้

      อย่างน้อยตอนนี้มันก็ทำให้ผมตัดสินใจได้แล้วเหมือนกันหละครับว่า ผมควรจะทำอะไรไม่ให้เสียใจภายหลัง ถ้ายังไงก็เอาใจช่วยผมในเรื่องภาษาญี่ปุ่นหน่อยนะครับ 555+ ตอนนี้กำลังตั้งใจเรียนใหม่และจะพยายามกัดฟันสู้ต่อ อย่างน้อยถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตในอนาคตก็เพราะงานอดิเรกนั้นหละครับ แม้เป้าหมายมันจะแค่อยากเล่น VN ได้เข้าใจ และสามารถเขียนทวิสเตอร์ให้ทางค่ายรู้ว่า "ยังมีแฟนอยู่ตรงนี้อยู่นะ" ให้เขารู้ได้ แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ

      ป.ล.
      ถ้ามีหนังสืออะไรนอกจาก มินนะ 1 - 4 แนะนำบอกได้นะครับ

      ป.ล. 2
      วันนี้ก็น่าจะครบรอบที่ติดตามคุณมาจะ 10 ปีแล้วครับ ตั้งแต่ ม.2 ยันจนมาถึงตอนนี้ เอาจริงก็เจอบล๊อคคุณมาพร้อมกับบล๊อค มิโกะ ขาวแดง แต่อันนั้น Exteen ดันล่ม และเขาไม่ได้มีข้อมูลในไหนต่อแล้ว 5555+
      ถ้ายังไงก็ "สวัสดีปีใหม่ไทยนะครับ ถึงเราจะไม่รู้จักหน้าคาตาแต่ก็ขอให้มีความสุขตลอดปีนะครับ"

      タイのお正月は明けましておめでとうございます。

      ลบ