เนื้อเรื่องเกมก็ประมาณ “โอริฮาระ เรียวอิจิ” ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสอง แล้วเนื่องจากแม่ของเขาเปิดห้องเรียนสอนเย็บผ้า&ร้านขายสินค้าสำหรับเย็บผ้าอยู่ เรียวอิจิจึงถูกแม่สอนเรื่องการเย็บผ้ามาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาเก่งในเรื่องการเย็บปักถักร้อยมาก…… เรียวอิจิใช้ชีวิตนักเรียนไปอย่างธรรมดาๆโดยที่ไม่มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นเกิดขึ้น ทว่า วันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง ครูประจำชั้นได้ประกาศในคาบโฮมรูมว่าธีมของงานวันคล้ายวันสถานปนาโรงเรียนปีนี้คือฮาโลวีนและวันนี้มีนักเรียนใหม่ย้ายมา การจัดงานฮาโลวีนในโรงเรียนและนักเรียนใหม่ผู้ย้ายมานอกฤดูกาล ด้วยเรื่องน่าแปลกใจสองอย่างนี้ ชีวิตนักเรียนที่สงบราบเรียบของเรียวอิจิจึงค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
พล็อตเรื่องก็ประมาณนี้ครับ พูดง่ายๆคือเป็นเกมจีบสาวธรรมดาทั่วๆไปนี่ล่ะ แต่ว่าเกมนี้มีธีมของเรื่องที่น่าสนใจอยู่อีกอย่างหนึ่งครับ คือ “บางทีคนที่รู้จักกันแค่ในโลกออนไลน์อาจจะอยู่ใกล้ตัวผิดคาดก็เป็นได้” โดยในเนื้อเรื่องเกมก็คือ จนถึงเมื่อปีที่แล้ว ตัวเอกเคยเล่นเกม “Unlimited Valkyria” เกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์ที่มีคนเล่นเยอะมาก และได้สนิทกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อ “เอย์จิ” ต่อมาภายหลัง แม้เกมออนไลน์ที่ว่าจะปิดตัวลงไปแล้ว ตัวเอกกับเอย์จิก็ยังคงคุยเล่นกันบ่อยๆผ่านทาง Message Application โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย… อยู่มาวันหนึ่งเอย์จิก็มาบ่นให้ตัวเอกฟังว่ามีความจำเป็นจะต้องย้ายโรงเรียนเลยรู้สึกกังวล ซึ่งตัวเอกก็ให้กำลังใจไปตามเรื่องตามราว แล้วต่อมาในวันที่เอย์จิต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ ชั้นเรียนของตัวเอกก็มีเด็กสาวนาม “ชิราชิมะ ไอริ” ย้ายเข้ามาอย่างประจวบเหมาะพอดีเช่นกัน จากนั้นพอไอริไปเจอเหตุการณ์อะไรมา เอย์จิก็มักจะนำเหตุการณ์แบบเดียวกับที่ไอริเจอมาโม้ให้ตัวเอกฟัง… ใบ้ซะขนาดนี้ ผมเล่นเกมนี้ไปแค่ Trial Version ก็จริง แต่ไม่ต้องเฉลยก็รู้ว่า “ชิราชิมะ ไอริ” เนี่ยคือ “เอย์จิ” แน่ๆ
นางเอกเกมนี้มีด้วยกัน 4 คนคือ “ชิราชิมะ ไอริ” นักเรียนใหม่, “มิยาโมริ ยูซุ” เพื่อนสมัยเด็ก, “คางุระ คาเอเดะ” รุ่นพี่ผู้เงียบขรึมที่เพี้ยนเล็กน้อย และ “อาคิสึกิ สึซึริ” รุ่นน้องที่เข้าสังคมเก่งมากแต่กลับไม่เล่น Social Media โดยในบรรดา 4 คนนี้ นางเอกที่ผมถูกใจที่สุดคือ “ยูซุ” ครับ… อนึ่ง ข้อมูลบนเว็บหลักเขียนไว้ว่ายูซุเป็น “เพื่อนสมัยเด็ก” ก็จริง แต่ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ยูซุคือเพื่อนสมัยมัธยมต้นครับ เธอรู้จักกับตัวเอกตอนมัธยมต้น เพิ่งคบหาสมาคมกันมาได้แค่ราวๆ 3 ปี และแม้จะสนิทกันมากพอสมควร แต่ทั้งคู่ก็ยังเรียกอีกฝ่ายด้วยนามสกุลว่า “คุณมิยาโมริ” “โอริฮาระคุง” กันอยู่
เกม Mell Kiss ก็ประมาณนี้ครับ เป็นอีกหนึ่งเกมของค่าย Giga ที่ผมถูกใจ ค่าย Giga นั้นเป็นค่ายเกมที่อยู่คู่กับวงการมานาน และแม้จะเป็นยุคปัจจุบันที่วงการ Visual Novel อยู่ในช่วงขาลงสุดๆซึ่งค่ายเกมดังๆค่อยๆทยอยหายไป ทางค่าย Giga ก็ยังสามารถออกเกมขนาด Full Price ออกมาได้ปีละมากกว่าหนึ่งเกม ให้ความรู้สึกว่าแม้วงการจะอยู่ในช่วงขาลงแต่ก็ยังไปต่อได้ เพราะแบบนั้น พอค่าย Giga ซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์การคงอยู่ของวงการได้ประกาศปิดตัวลงนี่ผมรู้สึกช็อกมากเลยล่ะครับ ทุ่มเทเรียนภาษาญี่ปุ่นมาเพื่อเล่น Visual Novel แต่ปัจจุบันวงการกลับกำลังค่อยๆกลายเป็นอดีตไป รู้สึกเดียวดายประหนึ่งว่าโลกกำลังมุ่งไปสู่อนาคตเรื่อยๆ แต่ผมกลับถูกทิ้งอยู่ในอดีต อารมณ์ตอนนั้นนี่ประมาณ “ซากเดนแม้หลงเหลือยังไร้ทาง ทัพอับปางดั่งภูผาถล่มทลาย” เลยครับ (← ยืมคำพูดมาจากเรื่องหงสาจอมราชันย์)
แต่ ณ ตอนนี้ซึ่งผ่านไปหลายเดือนแล้วก็เริ่มทำใจได้ สรรพสิ่งที่ครองที่ครองเวลาอยู่ในโลกล้วนย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดไป ทว่า เฉกเช่นที่หนทางกว่าสิบปีที่ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นมาเพื่อ Visual Novel นั้นไม่ได้สูญเปล่า ที่ผ่านมาเกมของค่าย Giga ก็ได้สร้างความเพลิดเพลินและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผมเช่นกัน เพราะฉะนั้น คำพูดที่ผมจะใช้กล่าวอำลาค่าย Giga ก็คือ “ขอขอบคุณสำหรับเกมดีๆที่ผ่านมา”
แปลมาจาก Official Web Site (Giga)
พออยู่ด้วยกันกับเธอ ก็มีแต่ “ความรู้สึกใจเต้นตึกตัก (ประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน)”------
พออยู่ด้วยกันกับเธอ ก็มีแต่ “ความรู้สึกใจเต้นตึกตัก (ประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน)”------
ชีวิตในรั้วโรงเรียนดำเนินมาอย่างสงบราบเรียบโดยไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นเร้าใจเหมือนในละครเกิดขึ้นแต่อย่างใด
แล้วในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่หลังปิดเทอมฤดูร้อนปี
2 ซึ่งถือเป็นการเข้าสู่ครึ่งหลังของชีวิตในรั้วโรงเรียนนั้นเอง
วันหนึ่ง
ครูที่ปรึกษาก็ได้แจ้งให้ทราบในคาบโฮมรูม
ถึงเรื่องที่ธีมของงานวันสถาปนาโรงเรียนปีนี้ถูกเลือกให้เป็นเทศกาลฮาโลวีน
และเรื่องที่มีนักเรียนใหม่ย้ายมา
การได้พบพานกับเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ซึ่งย้ายมาในช่วงนอกฤดูกาลการย้ายโรงเรียน
การลองสิ่งใหม่ๆที่เรียกว่าฮาโลวีนดูเป็นครั้งแรกในงานวันสถาปนาโรงเรียน
ชีวิตแต่ละวันที่ดำเนินมาอย่างสงบราบเรียบนั้นได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย
สุดท้ายแล้วจะมีอนาคตเช่นใดรออยู่กันนะ------
Concept
จะบรรยายการเปลี่ยนแปลงของระยะทางความรู้สึกที่มีต่อพวกนางเอกอย่างประณีตบรรจงยิ่งขึ้น
ในผลงานชิ้นนี้จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับระยะทางความรู้สึกที่มีต่อพวกนางเอก
ซึ่งจะค่อยๆใกล้ชิดเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
โดยจะบรรยายตั้งแต่ขั้นที่เริ่มสร้างความเกี่ยวพันกับพวกนางเอก
ไม่ได้มีแค่เพียง "ความรู้สึกสวีทพลอดรัก"
ซึ่งเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญมาตลอดทั้งซีรี่ย์
ขอให้สนุกกับ “ลวดลายความรักที่ค่อยๆคลำหาทางกันไปอย่างไม่ประสีประสา” ด้วย
“แต่ถ้าทุกคนจะทำอะไร เดี๋ยวชั้นจะปรับตาม”
โอริฮาระ เรียวอิจิ
織原 諒一
ตัวเอกของเรื่อง
ชั้นปี : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 173 เซนติเมตร / 64 กิโลกรัม
โดยปกติแล้วเป็นคนมีน้ำใจ
พอเจอคนที่กำลังประสบปัญหาอย่างเห็นได้ชัด
หากนิ่งดูดายแล้วจะรู้สึกค้างคาใจภายหลัง สุดท้ายแล้วก็เลยเผลอเข้าไปช่วยจนได้
คอยแอบช่วยสนับสนุนเพื่อนสนิทผู้เป็นหัวหน้าห้องที่จริงจังเกินไปไม่ยืดหยุ่นอยู่อย่างลับๆ
ค่อนข้างรู้สึกไวต่อความเป็นไปของความสัมพันธ์หรือเรื่องรักๆใคร่ๆของผู้คนรอบตัว
ทว่า พอเป็นความรู้สึกดีๆที่มุ่งมาหาตนเองแล้วกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
ด้วยอิทธิพลจากการที่แม่ทำกิจการห้องเรียนเย็บปักถักร้อย
&
ร้านขายสินค้าสำหรับเย็บผ้า จึงถูกฝึกฝนการเย็บปักถักร้อยมาตั้งแต่เด็ก
ทว่า ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เป็นความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับการทำอาหาร คือชอบที่จะสนุกกับขั้นตอนที่วัตถุดิบค่อยๆกลายไปเป็นสิ่งใหม่ซึ่งต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
“แม้จะย้ายมาในช่วงเวลาแบบนี้……แต่ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
ชิราชิมะ ไอริ
白嶋 愛理
นักเรียนย้ายมาใหม่ผู้มองโลกในแง่ดีและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน
ชั้นปี : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 156 เซนติเมตร / 47 กิโลกรัม
สัดส่วน : 86(E)/57/85
เด็กสาวผู้มองโลกในแง่ดีและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนของตัวเอก
นอกจากจะเล่นกีฬาเก่งและหุ่นดีมากแล้ว ยังมีด้านที่มีความเป็นแม่ศรีเรือนอย่างเช่นทำข้าวกล่องมาเองบ้าง
อะไรบ้าง
ช่วงแรกๆที่ย้ายโรงเรียนมานั้นจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวเพราะไม่อยากเด่นเป็นเป้าสายตา
ทว่า พอเริ่มชินกับชีวิตความเป็นอยู่ใหม่แล้วก็ค่อยๆเปิดใจให้ทีละน้อย
“ชมรมทำอาหารยินดีให้ทดลองเข้าชมรมเสมอ กำลังรับสมัครสมาชิกใหม่อยู่น้า~”
มิยาโมริ ยูซุ
宮森 ゆず
เพื่อนสมัยเด็กผู้ชอบขนมหวาน
ชั้นปี : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 155 เซนติเมตร / 52 กิโลกรัม
สัดส่วน : 90(F)/60/87
เด็กสาวเพียงหนึ่งเดียวที่มีความเกี่ยวข้องกับเรียวอิจิอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ตอนเริ่มเรื่อง
ชอบขนมมาก คิดฝันไว้ว่าอยากเป็นช่างทำขนมมานานแล้ว
ทว่า เพื่อรักษาหุ่น เลยระวังไม่ให้ทานมากจนเกินไปอยู่
ด้วยความรู้สึกที่ว่าอยากจะให้เรียวอิจิทาน
อยากจะให้เรียวอิจิชมว่าอร่อย เลยเป็นธรรมเนียมมาตั้งแต่สมัยอยู่ชมรมคหกรรมว่าเมื่อทำผลงานใหม่ได้ก็จะนำมาให้เรียวอิจิลองทาน
(ต่อเนื่องมาประมาณ 3 ปี จนถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับทั้งคู่ไปแล้ว)
นอกจากนี้ ทั้งที่ยามปกติจะเป็นคนสบายๆใจกว้าง แต่ตอนทำอาหารกลับคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“……เอ๊ะ ? เมื่อกี้ฉันบอกเธอไปเหรอว่าเป็นรุ่นพี่ ?”
คางุระ คาเอเดะ
神楽 楓
รุ่นพี่ผู้สุขุมเยือกเย็นที่เป็นคนเพี้ยนๆนิดหน่อย
ชั้นปี : นักเรียนปี 3
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 163 เซนติเมตร / 48 กิโลกรัม
สัดส่วน : 82(D)/55/86
รุ่นพี่ผู้ถูกรอบข้างมองว่าสุขุมเยือกเย็นและเป็นที่ยำเกรงเล็กน้อย
ไม่ชอบการโอ้อวดพวกพรสวรรค์หรือความพยายามสักเท่าไร
รวมไปถึงไม่ค่อยชอบคนที่ทำเช่นนั้นด้วย
ไม่ได้คิดว่าข้อดีของตนเองคือข้อดี
นอกจากนี้ แม้รูปร่างหน้าตาจะงดงาม
แต่ก็ไม่ได้โอ้อวดหรืออะไรแต่อย่างใด
ทว่า ไม่ใช่ความรู้สึกทำนองว่าดูถูกตัวเอง แต่ให้อารมณ์ประมาณว่าไม่นำเสนอสิ่งที่เป็นจุดขายของตัวเอง
ไม่เชื่อเรื่องอย่างการดูดวงเลยแม้แต่น้อย
ส่วนเหตุผลก็คือ "ก็เพราะว่าฉัน...โดนหลอกง่ายจนเกินไปน่ะ"
ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องการดูดวงเท่านั้น
หากเป็นเรื่องราวที่มีความสมเหตุสมผลประมาณหนึ่งแล้วก็จะโดนหลอกได้อย่างง่ายดาย
มีความถูกชักจูงง่ายเช่นนั้นอยู่
“สวัสดีค่ะ ! วันนี้เองก็มาพยายามกันอีกวันเถอะค่ะ ♪”
อาคิสึกิ สึซึริ
秋月 つづり
รุ่นน้องซึ่งภายนอกดูเหมือนคุณหนูผู้อ่อนต่อโลก แต่ความจริงแล้วหัวไวและหนักแน่น
ชั้นปี : นักเรียนปี 1
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 150 เซนติเมตร / 46 กิโลกรัม
สัดส่วน : 84(D)/56/83
รุ่นน้องผู้มารยาทดีและแสดงทักษะในการเข้าสังคมออกมาเต็มที่
มีกิริยาท่าทางงดงามในแบบที่ไม่เป็นพิธีรีตองจนเกินไป
แล้วยังเก่งในด้านการอ่อนน้อมถ่อมตนและการยกย่องเชิดชูอีกฝ่ายด้วย
ไม่รู้ทำไมถึงได้เคารพเรียวอิจิ มักจะตามไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ
กับเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เรียวอิจิสอนนั้น จะแสดงท่าทางประทับใจออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า
“ก็นะ” “แหม” “แบบนี้นี่เอง”
ทำให้คนสอนเองก็รู้สึกสนุกไปด้วย
เฉลียวฉลาดและจะรักษาท่าทางสบายๆของตัวเองไว้เสมอ
สามารถไปด้วยกันได้ดีทั้งกับผู้อื่นและกับตนเอง ในแง่หนึ่งแล้วจึงกล่าวได้ว่าได้ใช้ทักษะในการเข้าหาผู้คนนั้นแก่หัวใจของตัวเองด้วยเช่นกัน
“อ๊ะ ขอโทษที่แนะนำตัวช้าไปค่ะ ! ชั้น โอโนะเดระ อิจิกะ !”
โอโนะเดระ อิจิกะ
小野寺 いちか
เด็กสาวผู้ไวต่อแฟชั่นและเสพติด Social Media
ชั้นปี : นักเรียนปี 2
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 155 เซนติเมตร / 50 กิโลกรัม
เด็กสาวที่ค่อนข้างกระฉับกระเฉงและแสดงอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างออกมาอย่างชัดเจน
มีนิสัยตรงข้ามกับยูซุ
เป็นความสัมพันธ์แบบที่ต่างฝ่ายต่างช่วยเสริมในจุดที่อีกฝ่ายมีไม่พอให้กันและกัน
กับยูซุนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ปีการศึกษาที่แล้ว
เพื่อนเยอะก็จริง แต่กับยูซุนั้นจะสนิทกันเป็นพิเศษ
คาดเดาได้ถึงเรื่องที่ยูซุกำลังแอบชอบเรียวอิจิด้วย
“ไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้ไม่ใช่เหรอคะ !?”
ฮารุคาวะ ฮินาโกะ
春河 陽奈子
รุ่นน้องซึนเดเระผู้รักเพื่อน
ชั้นปี : นักเรียนปี 1
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 147 เซนติเมตร / 38 กิโลกรัม
ซึนเดเระเข้าใจง่าย
แม้ปากจะบ่นด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่ในเวลาที่ดีใจก็จะแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน
คอยเป็นห่วงเป็นใยและเข้ามาจุ้นจ้านกับสึซึริที่แม้จะเป็นยุคปัจจุบันแล้วก็ยังไม่เล่น
Social
Media โดยบอกว่า “เดี๋ยวจะตามโลกไม่ทันเอานะ”
กับยูซุนั้นมีความสัมพันธ์เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชมรมทำอาหาร
เคารพนับถือยูซุซึ่งสามารถทำขนมที่อร่อยขนาดมืออาชีพยังอาย
ทว่า ก็รู้สึกหวาดเสียวอยู่กับพฤติกรรมเสี่ยงๆไม่ระมัดระวังตัวที่ยูซุแสดงออกมาให้เห็นเป็นครั้งคราว
“ที่เหลือเดี๋ยวผมทำเอง จากนี้วานให้ผมจัดการได้เลย”
อิวาเดะ คิโยทากะ
岩出 清貴
หัวหน้าห้องใส่แว่นผู้จริงจังจนเกินไป
ชั้นปี : นักเรียนปี 2
เพื่อนของเรียวอิจิที่คบหากันตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ห้องเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
กับเรียวอิจิซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีนั้น จะคอยให้กำลังใจบ้าง
ให้คำแนะนำในมุมมองที่เป็นกลางบ้าง
มีนิสัยไม่ยืดหยุ่น ยังไงก็เป็นคนซื่อตรงและตรงไปตรงมาสุดๆ
หากตัดสินใจไปครั้งหนึ่งแล้วจะมองไม่เห็นอย่างอื่น
และไม่สามารถเปลี่ยนวิธีการได้
แต่ก็รับฟังคำแนะนำที่เหมาะสมและสมเหตุสมผล
ตนเองเป็นคนจริงจังมาก เช่น ในชั่วโมงเรียนจะปิดโทรศัพท์มือถือ
เป็นต้น
ทว่า กับผู้อื่นนั้นกลับมีความยืดหยุ่นผิดคาด
พูดตรง ๆ เลยนะครับ ในตอนนี้ผมก็แทบจะยัง Move On จากค่าย GIGA ไม่ได้เลย คือมันเป็นมากกว่าค่ายเกมสำหรับผมจริง ๆ นะครับ
ตอบลบผมเริ่มเข้าสู่โลกของ VN ได้อย่างเต็มตัวก็ตอนช่วง Baldr Sky Drive 1 เข้ามาใหม่ ๆ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากเพราะในช่วงนั้นชีวิตผมค่อนข้างจะเจออะไรเลวร้ายมามากพอสมควร ทั้งในเรื่องของการเรียน ชีวิต หรือครอบครัว นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ถ้าย้อนกลับไปแล้วคือเป็นช่วงที่หนักมากในครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วก็เหมือนกับพระเจ้ายังไม่ทอดทิ้งผม ในวันหนึ่งผมได้เจอเพลงของคุณ KOTOKO เพลง Restoration - Chinmoku no Sora ซึ่งมันทำให้ผมได้รู้จัก และเริ่มที่จะสนใจในวงการนี้
ในตอนนั้นผมมีความรู้สึกว่าอยากจะตายไปให้พ้น ๆ ไปหลายทีนะครับ แต่เพราะเกมนี้มันทำให้ผมยังอยู่ได้ตรงนี้ว่า "อย่างน้อย ถ้าจะตายก็ขอทำตามลิสต์พวกนี้หน่อยหละวะ" ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ผมต้องซื้อแผ่นเกม Baldr Sky Drive ให้ได้ ซึ่งตอนนี้ผมก็สามารถทำได้แล้วในตอนที่ได้ไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น
หลายครั้งพอมองดูมันแล้วผมก็ยังคงรู้สึกถึงวันวานที่มีความสุขกับค่ายนี้เสมอ แม้จะนานแค่ไหนผมก็ไม่ลืมได้จริง ๆ ครับ มันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เขาได้จากไปแล้ว แต่ผมก็พอจะเข้าใจทางค่ายและเคารพในสิ่งที่เขาตัดสินใจไป และขออวยพรให้ทางค่ายเขาโชคดีในสิ่งที่ตัดสินใจไปนะครับ
ปล. ต้องขออภัยด้วยที่มมาพิมพ์เหมือนแค่มาหาที่ระบาย แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ ครับ รอบตัวผมและสังคมใกล้ผมไม่มีใครที่จะคุยในเรื่องพวกนี้ได้อย่างสะดวกใจได้ 100% เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในวงการนี้
ผมยอมรับครับว่าแค่ต้องการหาที่ระบายสิ่งที่มันอัดอยู่ในใจผมมาตลอดตั้งแต่ข่าวการปิดตัวของค่ายแล้ว แต่กระนั้นก็เถอะ ผมก็ต้องหาทางที่จะ Move On จากมันให้ได้จริง ๆ นะครับ
ขอบคุณมากนะครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ ผมติดตามบล๊อคของคุณมากก็น่าจะเกิน 10 กว่าปีแล้ว ดีใจนะครับที่บล๊อคยังอัพเดทอยู่ ตั้งแต่ Tirkx กับ Exteen ปิดตัวไป คอมมูนิตี้สาย VN ในไทยก็แทบจะไม่ค่อยเหลือที่ให้พูดคุยกันเลย ขอบคุณมากนะครับที่ทำบล๊อคนี้มาก สำหรับผมบทความของคุณมันมีความหมายกับผมจริง ๆ นะครับ
มาลงชื่อว่าตั้งใจอ่านทุกบรรทัดตั้งแต่ต้นจนจบครับ
ตอบลบทางผมเองก็พอมีประสบการณ์ที่คล้ายกันอยู่บ้าง
ผมเคยเป็นเด็กนักเรียนกระจอกๆ ไม่มีอะไรดีเลยนอกจากความจำกับความพยายาม
หัวไม่ดี เรียนไม่เก่ง วิชาที่คนรอบตัวให้ค่าอย่างวิชาสายวิทย์ก็ตกตลอด (ได้คะแนนดีเฉพาะวิชาที่เน้นความจำ)
จะฝึกฝนอะไร ไม่ว่าจะเกมหรือกีฬา ก็ต้องใช้เวลาและความพยายามมากกว่าผู้อื่น
ตอนนั้นเลยท้อแท้ หมดกำลังใจ รู้สึกว่าชีวิตของตนเองไร้ค่า
จนได้มาพบกับเกม Tasogare no Sinsemilla ที่ทำให้ผมสนใจ Visual Novel และหันมาทุ่มเทกับภาษาญี่ปุ่น
และนั่นก็ได้ทำให้ผมได้ก้าวเข้าสู่โลกของการแปล
การแปลทำให้ผมสัมผัสได้ถึงคุณค่าในชีวิตของตนเอง ว่าแม้แต่ตัวผมที่เป็นแบบนี้ ก็ยังมีสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้อยู่
นับแต่นั้นเป็นต้นมาชีวิตผมก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ
มีผลงานแปลมากมาย
ได้ทุนไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น
สอบ N1 ผ่านด้วยคะแนนสูงมาก
สอนภาษาญี่ปุ่นเพื่อส่งต่อคบเพลิงแห่งความหวังให้กับผู้ที่มีเป้าหมายเดียวกัน
จะกล่าวว่าชีวิตนี้ได้รับการช่วยเหลือจาก Visual Novel ก็ไม่ผิดเลย
…
…
…
ผมได้อะไรหลายๆอย่างมาจาก Visual Novel
ดังนั้นแม้จะช็อกที่ค่าย Giga ปิดตัว และวงการนี้กำลังค่อยๆกลายเป็นอดีต
แต่พอมองว่าหนทางที่ก้าวเดินมาด้วยกันนั้นไม่สูญเปล่า
ผมก็พอทำใจขึ้นมาได้บ้างครับ
ป.ล.
เวลาได้ยินคนบอกว่าตามอ่าน Blog อยู่ทีไร ก็ต้องตกใจทุกที
ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วย
ขอบคุณที่ตามอ่านมาตลอดครับ
ทำไมจะไม่ตามอ่านหละครับ 5555+ มีไม่กี่บล๊อคหลอกครับที่จะทำหัวข้อในด้านของวงการ VN ถึงจะแบบนาน ๆ ทีรีเฟรชครั้งนึง แต่ต้องยอมรับเลยครับว่าบทความที่เขียนของคุณในหลาย ๆ ครั้งนี้คือมันทำให้ผมอยากเริ่มทำบล๊อคเหมือนกันนะครับ แต่มุมมองคงจะเป็นแบบ บันทึกทุกอย่างเป็นไดอารี่หลังจากตาย และให้ใครซักคนมาอ่าน 5555+
ลบถึงยังไง ด้วยหลาย ๆ เกมที่คุณแนะนำมาในบล๊อคเนี้ย มันทำให้ผมเปิดโลกมากเลยนะครับ อย่างน้อยก็เรื่องมุมมองต่อ เอโรเกะ ว่ามันไม่ได้มีแค่ฉากอย่างว่าอย่างเดียว มันยังมีความงดงามของเนื้อเรื่อง หรือแม้กระทั้งองค์ประกอบต่าง ๆ
ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้วครับไม่ต้องห่วง มันก็อารมณ์เหมือนตอนที่ผมมาเล่น Liber_7 จบแล้วมารู้ทีหลังว่าค่าย Lass นั้นหายไปแล้ว ตอนนั้นมันก็ค่อนข้างช๊อคเหมือนกันครับ แต่อย่างว่า ชีวิตเราต้องเดินต่อ ถ้าจมแต่อดีตมันก็จะไม่สามารถก้าวไปได้
อย่างน้อยตอนนี้มันก็ทำให้ผมตัดสินใจได้แล้วเหมือนกันหละครับว่า ผมควรจะทำอะไรไม่ให้เสียใจภายหลัง ถ้ายังไงก็เอาใจช่วยผมในเรื่องภาษาญี่ปุ่นหน่อยนะครับ 555+ ตอนนี้กำลังตั้งใจเรียนใหม่และจะพยายามกัดฟันสู้ต่อ อย่างน้อยถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตในอนาคตก็เพราะงานอดิเรกนั้นหละครับ แม้เป้าหมายมันจะแค่อยากเล่น VN ได้เข้าใจ และสามารถเขียนทวิสเตอร์ให้ทางค่ายรู้ว่า "ยังมีแฟนอยู่ตรงนี้อยู่นะ" ให้เขารู้ได้ แค่นี้ผมก็พอใจแล้วครับ
ป.ล.
ถ้ามีหนังสืออะไรนอกจาก มินนะ 1 - 4 แนะนำบอกได้นะครับ
ป.ล. 2
วันนี้ก็น่าจะครบรอบที่ติดตามคุณมาจะ 10 ปีแล้วครับ ตั้งแต่ ม.2 ยันจนมาถึงตอนนี้ เอาจริงก็เจอบล๊อคคุณมาพร้อมกับบล๊อค มิโกะ ขาวแดง แต่อันนั้น Exteen ดันล่ม และเขาไม่ได้มีข้อมูลในไหนต่อแล้ว 5555+
ถ้ายังไงก็ "สวัสดีปีใหม่ไทยนะครับ ถึงเราจะไม่รู้จักหน้าคาตาแต่ก็ขอให้มีความสุขตลอดปีนะครับ"
タイのお正月は明けましておめでとうございます。