เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2014 ที่ http://vermillionend.exteen.com
สวัสดีครับ กลับมาพบกับ Vermillion End อีกครั้ง ช่วงนี้เรียนหนักจนแทบไม่มีเวลาเลยล่ะครับ…… ช่างเถอะ วันนี้ผมนำเกมน่าสนใจมา preview ให้ดูครับ เป็นเกม Mayoeru Futari to Sekai no Subete ของค่าย Lass ซึ่งกำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 31 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ดูเหมือนเนื้อเรื่องเกมจะเป็นแนวไขปริศนาลึกลับในโรงเรียน แล้วในเกมก็มีฉาก Action ด้วยล่ะครับ ในเมื่อเกมทำโดยค่าย Lass ดังนั้นก็น่าจะรับประกันความปวดตับคุณภาพได้ในระดับนึง(มั้ง)
เกมที่แล้ว(Shoujo Shiniki~Shoujo Tengoku -The Garden of Fifth Zoa-) จั่วหัวไว้ว่า “เรื่องราวไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างมีความสุขเสมอไป” แล้วพอเล่นไปก็พบว่าเกมก็ไม่หลอกลวงผู้บริโภคจริงๆครับ แต่เกม Mayoeru Futari to Sekai no Subete ซึ่งเป็นเกมใหม่ที่จะออกคราวนี้จั่วหัวไว้ว่า “แม้แต่ที่นี่ก็ยังมีปาฏิหาริย์อยู่” ……ก็ดูมีความหวังมากกว่าเกมที่แล้วนะครับ
ถ้าถามผมว่าเกมนี้ตั้งใจจะเล่นรูทไหน ผมเล็งๆไว้ว่าจะเล่นรูทโอโตฮะที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวเอก แล้วก็รูทโทวกะ สาวคูลบิวตี้ครับ(แต่เทอมนี้เรียนหนักพอสมควร จะมีเวลาเล่นรึเปล่าก็ไม่รู้)
迷える2人とセカイのすべて
Mayoeru Futari to Sekai no Subete
ทั้งสองคนที่หลงทาง และทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
Mayoeru Futari to Sekai no Subete
ทั้งสองคนที่หลงทาง และทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจาก Official Web Site (Lass)
แม้แต่ที่นี่ก็ยังมีปาฏิหาริย์อยู่
ยางามิ คาซึมะ ตัวเอกของเรื่องนั้น
ในวัยเด็กได้พบกับเอลฟ์สาวผู้งดงามกลางป่า
เอลฟ์ได้ให้คาซึมะกำจี้ห้อยคอที่ตัวเองเคยสวม
แล้วขอร้องว่า “ในอนาคต ได้โปรดช่วยลูกสาวของฉันด้วย”
ฝันแบบนั้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนนับครั้งไม่ถ้วน
เป็นเหตุการณ์ที่เหมือนโกหก
แต่จี้ห้อยคอที่รับมาตอนนั้นเป็นหลักฐานว่าเป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องโกหก
ทว่า หลังจากนั้นถึงเวลาสิบกว่าปีจะผ่านพ้นไป
ก็ยังไม่ได้เจอทั้งเอลฟ์คนนั้นหรือลูกสาวของเอลฟ์ และปัจจุบันก็ใช้ชีวิตสบายๆตามใจตนเองไปในโรงเรียนที่เป็นระบบหอพัก
อยู่มาวันหนึ่ง
คาซึมะก็พบเด็กผู้หญิงผมทองเดินโซเซอยู่ตรงจุดที่สูงที่สุดของห้องโถงใหญ่
เด็กสาวร่วงลงมาอย่างอ่อนแรงทั้งๆอย่างนั้น
แต่คาซึมะก็ช่วยรับไว้ได้ทันอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด
ในวินาทีต่อมาก็ได้เกิดเรื่องประหลาดขึ้น
“คาซึมะ วิ่งออกไปคนเดียวเนี่ย
มีอะไรงั้นเหรอ ?”
ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนี้
นอกจากคาซึมะแล้วจะไม่มีใครมองเห็น
ในชั่วพริบตานั้น คาซึมะก็นึกเรื่องๆหนึ่งในเจ็ดมหัศจรรย์ซึ่งเล่าต่อกันมาที่โรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมาได้
“มีเด็กสาวที่มองไม่เห็นเดินเตร็ดเตร่อยู่ในโรงเรียน”
Main Character
World
“เท่านี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ”
ยางามิ คาซึมะ
矢神 一馬
ตัวเอกผู้มีอดีตที่เคยพบพานกับเอลฟ์
นักเรียนปี 3 ห้อง A โรงเรียนคุองได
ในอดีตเคยให้สัญญาไว้กับหญิงสาวที่เหมือนเอลฟ์ซึ่งเจอกันกลางป่าที่หลงเข้าไป
สำหรับคาซึมะแล้วถือเป็นความทรงจำที่พิเศษ
แต่เพราะผ่านประสบการณ์ที่ไม่ว่าจะเล่าเรื่องนั้นให้ใครฟัง ก็จะถูกหัวเราะเยาะหรือมองด้วยสายตาดูถูก
ทำให้เติบโตมาเป็นคนที่มีนิสัยไม่ถนัดการคบหาสมาคมกับผู้อื่นอยู่บ้าง (คนที่ยอมเชื่อเรื่องนั้นมีแค่ฮาเซคุระ
โอโตฮะที่เป็นเพื่อนสมัยเด็ก กับอิสึมิ สุบารุที่รู้จักกันตอนมัธยมต้น)
รูปร่างหน้าตาจัดอยู่ในระดับสูงของพวกกลางๆ
ทั้งสติปัญญาและความสามารถด้านร่างกายเองก็จัดอยู่ในระดับกลางๆ
ทว่า
ไม่ค่อยสนใจเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตัวเท่ๆหรือแฟชั่นเท่าไรนัก และเกลียดคำว่า “ทำตัวตามสังคม” มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการพูดเรื่องสำคัญกับคนอื่น
นอกจากนี้
เนื่องจากมีความรับผิดชอบสูงจึงไม่ชอบการติดค้างหนี้บุญคุณ
ตอนนี้อาศัยอยู่ในหอพักของโรงเรียนคุองได
พลังพิเศษ
Ra’s Eyes (เนตรจักรพรรดิฟ้า)
ที่สามารถยืนยันการมีอยู่ของเฟียร์ได้นั้นมีแค่คาซึมะคนเดียว
สำหรับคาซึมะแล้วถือเป็นพลังอันแสนสำคัญที่ช่วยให้ได้มาพบพานกับเฟียร์
นอกจากนี้
ไม่ใช่แค่ร่างของเฟียร์เท่านั้น
ดูเหมือนจะเป็นพลังที่สามารถมองเห็นความจริงที่ไม่อาจมองเห็นได้อีกด้วย
“โตขึ้นแล้วจะแต่งงานกับป๊ะป๋า !”
Vier
フィア
เด็กสาวเอลฟ์ซึ่งมีแค่ตัวเอกเท่านั้นที่มองเห็น
ส่วนสูง :
เตี้ย รูปร่าง : เล็ก หน้าอก : กระดาน
หูแหลมและมีความยาวมากกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า
เป็นที่รู้จักกันดีในนามว่าเอลฟ์
ไม่สามารถมองเห็นตัวได้ด้วยวิธีปกติ
(แต่สามารถสัมผัสได้) สามารถมองเห็นตัวได้จากแค่นัยน์ตาของคาซึมะหรือ “สมาร์ทโฟนมองเห็นวิญญาณ”
ที่ฮิโรฮาระ นายูตะประดิษฐ์ขึ้นเท่านั้น
ดูเหมือนว่าจะจำเรื่องในอดีตไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ตอนแรกแม้แต่ภาษาญี่ปุ่นก็ยังพูดไม่ได้
พอเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันกับพวกคุซึมะ
ก็ค่อยๆจำคำศัพท์ได้ทีละน้อย
เนื่องจากตรงของที่คล้ายๆเครื่องเพาะเลี้ยงที่เด็กสาวคนนี้ลืมตาตื่นขึ้นมามีคำว่า
[~เฟียร์] (เลข 4 ในภาษาเยอรมัน) เขียนอยู่จางๆ คาซึมะเลยตั้งชื่อให้ว่าเฟียร์(เลข
4)ทั้งๆอย่างนั้น
หลังจำคำพูดได้ ก็เรียกคาซึมะอย่างรักใคร่ว่า
“ป๊ะป๋า” แล้วอยู่ข้างๆตลอดไม่ยอมออกห่าง
สามารถเดินได้อย่างอิสระแค่เฉพาะในสถานที่ส่วนหนึ่งของโรงเรียนเท่านั้น
รู้ได้จากการสำรวจด้วยกันกับเพื่อนว่าสิ่งที่ขวางกั้นขอบเขตการกระทำนั้นมีความลับอยู่ในเรื่องเจ็ดมหัศจรรย์ที่เล่าต่อกันมาในโรงเรียน
พวกคาซึมะก็เลยตั้งเป้าหมายไว้ว่าก่อนอื่นจะไขปริศนาเจ็ดมหัศจรรย์ที่เล่าต่อกันมาในโรงเรียน
แล้วก็เริ่มการปฏิบัติการขึ้น
พลังพิเศษ
??????
“ฉันจะตามคาซึมะไปด้วยนะ”
ฮาเซคุระ โอโตฮะ
支倉 乙羽
เพื่อนสมัยเด็กผู้อ่อนโยนที่คอยเอาใจใส่ตัวเอก
ส่วนสูง
: 158 เซนติเมตร รูปร่าง : ธรรมดา หน้าอก : อกโต
นักเรียนปี 3 ห้อง A โรงเรียนคุองได
เป็นเพื่อนสมัยเด็กของยางามิ คาซึมะ
อาศัยอยู่บ้านข้างๆคาซึมะ
และโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง
เนื่องจากเดิมทีที่คาซึมะเข้าไปในป่าก็เพื่อตามหาโอโตฮะที่กลายเป็นเด็กหลงไป
ก็เลยปักใจเชื่อว่าที่คาซึมะหันมาตีตัวออกห่างจากคนอื่นนั้นเป็นเพราะตัวเอง
เข้าโรงเรียนคุองไดที่เดียวกับคาซึมะราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
ด้วยนิสัยที่อ่อนโยน, ดูแลคนอื่นดี
และร่าเริงสดใส ทำให้มีเพื่อนมากมาย
มีภาพลักษณ์ว่าเป็นคนเงียบๆเรียบร้อย
แต่ก็มีด้านดื้อดึงหัวรั้นที่คาซึมะเองก็ยังต้องตกตะลึงอยู่เช่นกัน
งานอดิเรกคือดูดวง
พลังพิเศษ
Sword of Ished (ดาบชะตาสวรรค์)
พลังปริศนาที่ถูกมอบให้แก่โอโตฮะผู้ชื่นชอบการดูดวง
เมื่อดึงไพ่ทาโรต์ในขณะที่อธิษฐานถึงคาซึมะอย่างเป็นห่วงเป็นใย
ก็จะกลายเป็นดาบที่มีพลังของไพ่ทาโรต์ใบนั้น
ดาบมีแค่คาซึมะเท่านั้นที่ใช้งานได้
ถึงคนอื่นจะพยายามถือไว้ในมือก็จะหนักจนแค่ยกให้ขึ้นก็ยังทำไม่ได้
“ชีวิตน่ะ ถ้าไม่สนุกไว้ก็จะขาดทุนใช่ไหมล่ะ”
ยูกิ สุซุรัน
結城 鈴蘭
เพื่อนที่ร่าเริงและกระตือรือร้นของโอโตฮะ
ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นนักเขียนข่าว
ส่วนสูง
: 162 เซนติเมตร รูปร่าง : ผอมเพรียว หน้าอก : อกที่สวยได้รูป
นักเรียนปี 3 ห้อง B โรงเรียนคุองได
เป็นเหมือนไอดอลของชั้นเรียน มีนิสัยแบบที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน อยู่ในวัยที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไม่ว่าอะไรก็อยากรู้ไปหมด
ชอบเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นวายแปลกๆแล้วก็ถูกอาจารย์โกรธบ้าง
ในด้านแฟชั่นเองก็ใส่ใจมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวเช่นกัน
อนาคตคิดไว้ว่าอยากเป็นนักเขียนข่าวอินเตอร์เน็ต
ตอนแรกมาเข้าใกล้พวกคาซึมะเพื่อข้อมูล
“เจ็ดมหัศจรรย์ของโรงเรียน” แต่ในระหว่างที่ได้ไปประสบความเป็นไปของคดีด้วยกัน
สายสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนพ้องก็งอกงามขึ้น แล้วยังเริ่มหลงเสน่ห์คาซึมะอีกด้วย
ถึงจะมีท่าทางเขินอาย
แต่ก็รุกคาซึมะอย่างกระตือรือร้น
เป็นนิสัยแบบที่ก่อนอื่นต้องลองทำดูก่อน
ดีกว่าไม่ทำแล้วมาเสียใจภายหลัง
เมื่อกำหนดเป้าหมายได้แล้วก็จะพยายามเต็มที่
ถ้าโอโตฮะเป็นคนแบบที่
“เพราะเป็นคาซึมะ(หรือเพราะเป็นเฟียร์)เลยปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้” แล้วล่ะก็ สุซุรันก็เป็นคนที่มีแนวโน้มว่าจะปล่อยเพื่อนที่กำลังลำบากทิ้งไว้ไม่ได้
ในกลุ่ม เป็นคนแบบที่จะพูดความเห็นออกมาอย่างกระตือรือร้น
ถึงจะมองในฐานะผู้หญิง
ในเรื่องพวกแฟชั่นก็ยังน่ารักและเท่ทันสมัยล้ำยุค
พลังพิเศษ
Ptah’s Flower (บุปผาสีนภา)
พลังที่สามารถสร้างดอกไม้หลากสีออกมาจากมือได้อย่างไม่มีวันหมด
หนทางสำหรับใช้ในการต่อสู้นั้นเรียกได้ว่าเทียบเท่ากับการไม่มี
“เพราะไม่ได้มาเพื่อหาเพื่อนน่ะ”
ซาเอกิ โทวกะ
冴木 桃華
นักเรียนย้ายมาใหม่ผู้เป็นคูลบิวตี้ที่เว้นระยะห่างจากผู้อื่น
ส่วนสูง
: 168 เซนติเมตร รูปร่าง : ผอมเพรียว หน้าอก : อกโต
นักเรียนปี 3 ห้อง A โรงเรียนคุองได
เกิดมาในท้องถิ่นซึ่งยังมีประเพณีที่ว่า
“ทุกๆสิบปีจะต้องนำเด็กผู้หญิงไปถ่วงน้ำลงทะเลสาบเพื่อระงับความโกรธของเทพวารี” หลงเหลือตกทอดมาอยู่ แล้วต่อมาในตอนที่เกือบจะถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยก็ได้รับการช่วยเหลือจาก
“องค์กรคุ้มครองสิทธิเด็กจากการคุกคามที่เกิดขึ้นโดยข่าวลือซึ่งไม่เป็นวิทยาศาสตร์” แล้วก็ได้รับการเลี้ยงดูมา
รู้สึกได้ถึงหนี้บุญคุณซึ่งติดค้างองค์กรที่ช่วยเลี้ยงดูมา
เลยทำผลการเรียนให้อยู่ในระดับยอดเยี่ยมมาก แล้วกลายเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กร
มีด้านที่งุ่มง่ามและไม่ยอมผ่อนปรนอยู่ด้วย
แต่ก็เป็นคนจริงจังและโดยพื้นฐานแล้วเป็นคนอ่อนโยน
คิดว่านานะซึ่งเป็นคนที่อายุไล่เลี่ยกันเพียงหนึ่งเดียวในองค์กรคือเพื่อนสนิท
ได้รับคำสั่งให้ “พาตัวเด็กสาวที่มองไม่เห็นมา” จึงแทรกซึมเข้ามาในโรงเรียนคุองได
คิดว่าการพาเด็กสาวที่มองไม่เห็นกลับไปที่องค์กรนั้นเป็นการทำเพื่อโลก
แล้วเพื่อตัวเด็กสาวเองก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดด้วย
รู้และเข้าใจในศิลปะการต่อสู้ด้วยกระบองเก้าท่อนอย่างถ่องแท้ในฐานะความสามารถพื้นฐานของตนเอง
ในขณะที่เนื้อเรื่องดำเนินไปก็จะได้พลังที่เพิ่มความเร็วให้กับร่างกายของตนเองมา
แล้วสามารถทำการโจมตีอยู่เพียงฝ่ายเดียวได้
แต่เนื่องจากทำการเคลื่อนไหวแบบผิดหลักฟิสิกส์ ทุกครั้งที่ใช้พลังจึงเป็นการสร้างภาระหนักให้กับร่างกายเข้า
พลังพิเศษ
Thoth’s Wing (ความเร็วแห่งสวรรค์)
เดิมทีโทวกะก็เป็นเลิศในศิลปะการต่อสู้และการใช้กระบองอยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนจะเป็นพลังที่เสริมความสามารถนั้นให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก
รายละเอียดเป็นปริศนา
“ซักวันหนึ่งจะขอคืนเป็นร้อยเท่าเลยย่ะ”
มิซุโนะมิยะ นานะ
水乃宮 奈々
คุณหนูผู้เกลียดความพ่ายแพ้และมั่นใจในตัวเองเสมอ
ส่วนสูง
: ความลับ รูปร่าง : งดงาม หน้าอก : ความลับ
นักเรียนปี 2 ห้อง C โรงเรียนคุองได
เป็นคุณหนูของกลุ่มธุรกิจมิซุโนะมิยะ และเป็นคนมั่นใจในตัวเองที่เกลียดความพ่ายแพ้มาก
กับอีกฝ่ายที่ไม่ถูกใจนั้นจะปากร้าย
และจะเลือกคนที่ตัวเองจะสนิทด้วย
ในทันทีที่มีโอกาสจะมาหาเรื่องคาซึมะอยู่บ่อยๆ
คาซึมะเลยต้องโดนด่าแรงๆหรือโดนขัดขวางอยู่เป็นประจำ
พลังพิเศษ
??????
“อยากกินแค่ส่วนที่อร่อย !”
อิสึมิ สุบารุ
逸見 六連星
เพื่อนของตัวเอกที่ร่าเริงและมองโลกในแง่ดีเสมอ
นักเรียนปี 3 ห้อง A โรงเรียนคุองได
เป็นคนมองโลกในแง่ดี, ร่าเริง
และเป็นประเภทที่จะได้รับความนิยมจากผู้ชายเป็นพิเศษ (ไม่ใช่ในความหมายรักร่วมเพศ)
จะสนุกกับการใช้พวกมุกใต้สะดือแกล้งล้อโอโตฮะหรือสุซุรันเล่นอยู่บ่อยๆ
เป็นผู้มีแนวคิดแบบสุขนิยมซึ่งคิดว่าเรื่องสนุกคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์
อ่อนโยนกับผู้หญิงเสมอโดยพื้นฐาน แต่กับผู้ชายนั้นจะเรียกร้องท่าทีที่มีการแยกแยะ
เป็นคนประเภทที่จะอยู่ตรงใจกลางของกลุ่มเสมอ
แล้วดำเนินการสนทนาต่อไปบ้าง ทำให้บรรยากาศสดใสขึ้นบ้าง
พลังพิเศษ
Sphinx’s Finger
(ดรรชนีควงสวรรค์)
พลังไร้ประโยชน์ที่ดันถูกมอบให้กับสุบารุผู้มีความมั่นใจในการควงปากกาเข้า
นอกจากปากกาแล้ว
ถ้าเป็นของอย่างอื่นที่สุบารุถือได้ล่ะก็จะสามารถใช้ปลายนิ้วทำให้หมุนไปมาได้
แต่ก็แค่นั้น
“ครั้งหน้าจะเอาขึ้นแท่นทดลองให้”
ฮิโรฮาระ นายูตะ
広原 那由他
ผู้คลั่งไสยศาสตร์ที่ใช้ชีวิตในแบบของตนเอง
ส่วนสูง
: 156 เซนติเมตร รูปร่าง : งดงาม หน้าอก : อกที่สวยได้รูป
อย่างที่ทราบกัน เป็นสมาชิกคนหนึ่งของ “ตระกูลฮิโรฮาระ” ซึ่งเป็นตระกูลที่ปรากฏในทุกผลงานของ Lass
คนจาก “ตระกูลฮิโรฮาระ” นั้นจะยอดเยี่ยมสุดขีดในความสามารถอะไรซักอย่าง และจะทำการวิจัยอย่างคลั่งไคล้ในสาขาที่ตัวเองสนใจ
แต่สิ่งนั้นมักจะเป็นสิ่งที่คนปกติธรรมดาไม่สนใจซะเป็นส่วนใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วเลยมักจะถูกมองในฐานะ
“คนประหลาด”
นายูตะเองก็เป็นมนุษย์ประเภทที่ถูกเรียกว่าเป็นคนประหลาดเช่นกัน
และมีความเชี่ยวชาญในด้านไสยศาสตร์กับวิทยาศาสตร์
ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือที่ไหน
ก็จะปรากฏตัวในชุดโกธิคโลลิต้าที่สุดๆไปเลย แล้วที่ไม่เคยถูกตำหนิติเตียนนั้นเป็นเพราะเธอคือผู้มีความเกี่ยวข้องกับโรงเรียนแห่งนี้
สนใจใน “เด็กสาวที่มองไม่เห็น” ซึ่งคาซึมะบอกว่ามองเห็นตัว เพื่อตามหาเด็กสาวก็เลยถือ “สมาร์ทโฟนมองเห็นวิญญาณ”
ที่ดัดแปลงขึ้นเองไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วเข้าร่วมการค้นหา
พลังพิเศษ
Isis’s Wisdom
(ปัญญาแห่งรากฐานสวรรค์)
ดูเหมือนจะเป็นพลังที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่นายูตะอ้างว่าเป็น
“ตำราเวทมนตร์” ซึ่งเจ้าตัวมีครอบครองไว้อยู่ แต่รายละเอียดเป็นปริศนา
Sub Character
นิชิโอะ เคียวกะ
西緒 京伽
เด็กผู้หญิงที่เป็นเหมือนป้ายร้านของร้านกาแฟ “เอเดน”
ส่วนสูง
: 154 เซนติเมตร รูปร่าง : งดงาม หน้าอก : เล็กพอประมาณ
เด็กผู้หญิงซึ่งเป็นนักเรียนปี 1
โรงเรียนคุองได ที่ทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านกาแฟ “เอเดน”
เป็นเด็กผู้หญิงแนวน้องสาวเยียวยาจิตใจที่มีหัวใจอ่อนโยน
สามารถเอาใจใส่ผู้อื่นได้ และใสซื่อบริสุทธิ์
มีสัมผัสวิญญาณมากกว่าผู้อื่น
และดูเหมือนจะถูกลากเข้าไปพัวพันกับปัญหาทางไสยศาสตร์อยู่บ่อยๆ
Un Endlich
アン・エントリッヒ
สาวงามหุ่นดีผิวสีแทน
ส่วนสูง
: 167 เซนติเมตร รูปร่าง : หุ่นดี หน้าอก : อกดินระเบิด
นักเรียนบัณฑิตวิทยาลัยโรงเรียนคุองได
เป็นนักเรียนชาวต่างชาติที่มาจากเยอรมัน
กำลังวิจัย “การคาดคะเนภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของสนามแม่เหล็ก” อยู่
มีรูปร่างหน้าตางดงามขนาดที่ได้รับเลือกให้เป็นมิสคุองไดปีที่แล้ว
และมีสติปัญญาดี, นิสัยดี, หุ่นดี เป็นยอดคนผู้สมบูรณ์แบบที่ไม่อาจหาข้อด่างพร้อยได้
เชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน แต่ก็มีส่วนที่การออกเสียงค่อนข้างเพี้ยนเท่านั้นที่เป็นข้อด่างพร้อยในความสมบูรณ์แบบ
ไม่รู้ทำไมถึงได้สนิทกับสุบารุ
ก็เลยคอยให้ความร่วมมือในการสำรวจของพวกคาซึมะ
ฮานิว ซาโอริ
埴生 沙織
อย่าดูถูกเพราะเห็นว่าตัวเล็กนะ
!
ส่วนสูง
: เตี้ย รูปร่าง : เล็ก หน้าอก : ไม่รู้ทำไมถึงได้ใหญ่
อาจารย์ประจำชั้นในชั้นเรียนของคาซึมะ
เป็นปีแรกของการเป็นอาจารย์หลังจากที่เพิ่งเริ่มอาชีพมาได้ไม่นาน
มีความตั้งใจเปี่ยมล้น แต่ก็เป็นกังวลเรื่องที่มีใบหน้าโลลิ, ร่างกายโลลิ
(มีแค่หน้าอกเท่านั้นที่ใหญ่อย่างไร้ประโยชน์), เสียงที่โลลิ
ซึ่งไม่สมกับวัย ทำให้ถูกพวกนักเรียนล้อเล่นว่า “ไม่มีความน่าเกรงขามในฐานะอาจารย์” แต่เรื่องที่ถูกล้อนั้นเป็นเพราะมีความใกล้ชิดกับพวกนักเรียนมาก แล้วก็เพราะมีความเป็นกันเองด้วย
Napoleon
ナポレオン
อัจฉริยะด้านยุทธวิธีชอบหมากรุก
?
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือนโปเลียน โบนาปาร์ต
จักรพรรดินักรบผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น……จะใช่แบบนั้นรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ที่พบกับพวกคาซึมะซึ่งกำลังสำรวจหนึ่งในเจ็ดมหัศจรรย์ของโรงเรียนคุองไดเรื่อง
“ตาของภาพเหมือนนโปเลียนจะขยับไปมาในห้องเตรียมการเรียนการสอนวิชาสังคมตอนเที่ยงคืน” ก็คือนโปเลียน(เรียกตัวเองว่าแบบนั้น)คนนี้
แต่ไหนแต่ไร
เพราะพูดได้แค่ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว ก็เลยน่าสงสัยสุดๆ
คนผู้นี้ที่คะยั้นคะยอจะดวลหมากรุกให้ได้นั้น
ที่จริงแล้วตัวจริงนั้นคือ……
ซาซาโมโตะ บาคุ
笹本 漠
สุภาพบุรุษผู้รักในกาแฟและร่างกายผู้หญิงเหนือสิ่งอื่นใด
มาสเตอร์ของร้านกาแฟ “เอเดน”
ที่อยู่ในโรงเรียน
ความพิถีพิถันที่มีต่อกาแฟและเด็กผู้หญิงนั้นเป็นระดับที่ไม่ธรรมดา
ไม่รู้ทำไมมาสเตอร์ร้านกาแฟในผลงานของ Lass
ถึงได้มีตัวละครประเภทนี้อยู่เยอะ
มีบ่อยครั้งที่พอนึกสูตรผสมใหม่ได้
ก็จะฝากร้านไว้กับนิชิโอะ เคียวกะที่ทำงานพิเศษ
แล้วนั่งเครื่องบินไปซื้อเมล็ดกาแฟที่ต่างประเทศ
ค่อนข้างมีส่วนที่เป็นการค้าขายเพื่อความเพลิดเพลินอยู่
แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษโรคจิตซึ่งมีนิสัยที่ชวนให้เกลียดไม่ลง
World
ป้ายรถราง
โรงเรียนคุองไดที่พวกตัวเอกเรียนอยู่นั้นมีพื้นที่กว้างขวางมาก
ดังนั้นจึงมีการจัดสร้างระบบรถรางไว้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของนักเรียนและอาจารย์
เมื่อดูจากเรื่องที่มีการจัดตั้งป้ายรถขึ้นที่ทุกๆจุดสำคัญในโรงเรียนแล้ว
ก็จะสามารถคาดเดาถึงความใหญ่โตของโรงเรียนได้เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น
ในตัวระบบรถรางนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาใช้ แต่รูปร่างภายนอกนั้น ด้วยความคิดแปลกใหม่ของอาจารย์ใหญ่จึงมีการนำดีไซน์ที่ชวนคิดถึงมาประยุกต์ใช้
โบสถ์/สวนกลาง
สิ่งปลูกสร้างที่เห็นอยู่ไกลๆทางขวาของสวนกลางคือโบสถ์
เพื่อรองรับความเชื่อที่หลากหลาย
โรงเรียนคุองไดจึงมีสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาอยู่ทุกประเภท โดยสิ่งปลูกสร้างนี้จะเป็นสิ่งปลูกสร้างซึ่งรองรับความเชื่อที่มีพวกศาสนาคริสต์เป็นศูนย์กลาง
ภายในตัวอาคารมีหอระฆังอยู่
นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องรูปปั้นเทพธิดาขนาดใหญ่ที่นำมาประดิษฐานไว้
สิ่งปลูกสร้างที่เห็นอยู่ไกลๆทางซ้ายของสวนกลางคือ “เอเดน” ร้านกาแฟชื่อดังที่มีมาสเตอร์เป็นคนแปลกๆ
ระเบียงอาคารเรียน
ระเบียงอาคารเรียนในโรงเรียนคุองได
เทียบกับระเบียงทางเดินของอาคารเรียนทั่วไปแล้วจัดว่าค่อนข้างกว้างทีเดียว
นี่เป็นเพราะอาจารย์ใหญ่บอกว่า “จงเปิดใจให้กว้าง” แล้วไม่ใช่แค่ระเบียงทางเดินเท่านั้น
ทั่วทุกที่ในโรงเรียนได้ถูกสร้างไว้ให้กว้างๆ แต่ถ้ามองจากนักเรียนแล้วจะเห็นว่า “กว้างอย่างเสียเปล่า”
และผู้ที่เข้าใจถึงจิตใจของอาจารย์ใหญ่ก็มีอยู่เพียงน้อยนิด
ดูเหมือนจะมีเสียงโอดครวญดังขึ้นที่นั่นที่นี่ด้วยว่าต้องใช้แรงและเวลาในการทำความสะอาดเพิ่มขึ้นซะมากกว่า
ในรถราง
ภายในรถราง
เช่นเดียวกับรูปร่างภายนอก
การตกแต่งภายในก็เป็นสไตล์วินเทจเช่นกัน และเป็นการสร้างโดยใช้ไม้เนื้อดีเป็นพื้นฐาน
ทั้งข้างในและข้างนอกสร้างเป็นเป็นสไตล์วินเทจก็จริง แต่ก็มีการติดตั้งฟังก์ชันของเทคโนโลยีล่าสุดเอาไว้
อย่างเครื่องปรับอากาศนั้นติดตั้งไว้พร้อมเสร็จสรรพ
กระจกหน้าต่างเองก็ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตและเป็นกระจกตัดแสง
ร้านกาแฟ “เอเดน”
ร้านกาแฟสไตล์โบราณที่เปิดกิจการอยู่ในพื้นที่ของโรงเรียน
มีการเสิร์ฟกาแฟที่ซาซาโมโตะ
บาคุผู้เป็นมาสเตอร์ชงออกมาอย่างพิถีพิถันสุดๆ
แต่ไม่รู้ทำไมร้านถึงได้เงียบเหงาไม่มีคน
ให้บริการกับลูกค้าผู้หญิงอย่างเกินพอดี
แต่เนื่องจากเห็นเจตนาแฝงชัดเจนอยู่แล้ว เลยมีข่าวลือว่าไม่ใช่ว่าเป็นแค่สุภาพบุรุษโรคจิตธรรมดาหรอกเหรออยู่ด้วย
เป็นที่เล่าลือกันว่านิชิโอะ
เคียวกะที่ทำงานพิเศษอยู่นั้นน่ารักมาก (ข้อมูลจากอิสึมิ)
ถนนไปสวนกลาง
ถนนที่เชื่อมจากหอพักนักเรียนที่พวกคาซึมะอาศัยอยู่ไปจนถึงสวนกลาง
สิ่งปลูกสร้างที่เห็นอยู่ทางซ้ายไกลๆคือหอพักที่พวกนักเรียนอาศัยอยู่
ได้มีการออกแบบให้อาคารแต่ละชั้นเป็นรูปกากบาทและห้องทุกห้องกลายเป็นห้องมุม
ทำให้ไม่ว่าห้องไหนก็มีแดดส่องถึงดี
ห้องเรียน
ห้องเรียนของโรงเรียนที่พวกคาซึมะเรียนอยู่
หนึ่งชั้นเรียนจะถูกจัดให้มีนักเรียนราวๆ
30 คน
พวกสิ่งปลูกสร้างของโรงเรียนและอาคารเรียนจะสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค
แต่เช่นเดียวกับรถราง ด้วยความคิดแปลกใหม่ของอาจารย์ใหญ่ อุปกรณ์, สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนหนึ่งเช่นพวกโต๊ะเรียนก็เลยใช้ของที่เป็นดีไซน์ที่ไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน
ห้องโถงใหญ่
สิ่งปลูกสร้างในโรงเรียนมีสิ่งปลูกสร้างที่สูงเกิน
6 ชั้นอยู่เยอะ แล้วก็มีสถานที่ที่เป็นห้องโถงใหญ่แบบนี้อยู่เป็นจำนวนมาก
มีเสียงบ่นจากอาจารย์และนักเรียนส่วนหนึ่งว่า
“ใช้พื้นที่สิ้นเปลือง”
แต่เนื่องจากเดิมทีในโรงเรียนก็มีที่ว่างสูญเปล่าหรือของตกแต่งไร้ประโยชน์เยอะเกินไปอยู่แล้ว
ก็เลยไม่ถึงกับกลายเป็นปัญหา
เพดานได้มีการติดกระจกไว้เพื่อจัดแสง แล้วนานๆทีก็มีคนที่ขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วยืนบนเพดานกระจกเพื่อทดสอบความกล้าอยู่ด้วย
ห้องที่คล้ายๆห้องวิจัย
ห้องที่อยู่ในโรงเรียนและเหมือนกำลังทำการวิจัยอะไรบางอย่างอยู่
มีท่อกับสายเคเบิลจำนวนมากโยงออกมาจากเครื่องเพาะเลี้ยงหลายเครื่องอย่างเวอร์ๆ
มีของที่คล้ายกับเตียงผ่าตัดอยู่ด้วย
แล้วก็เห็นร่องรอยที่เหมือนกับเคยทำการทดลองกับมนุษย์ได้เช่นกัน
ดูเผินๆจะเห็นเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนไปในทางอนาคต แต่ก็เห็นของที่เป็นเชิงไสยศาสตร์อย่างของที่เหมือนกับภาพที่วาดวงเวทไว้, อุปกรณ์เชิงเวทมนตร์, อุปกรณ์สำหรับเล่นแร่แปรธาตุอยู่ตรงนั้นตรงนี้เต็มไปหมด
เขตใจกลางโรงเรียน
ศูนย์กลางของพื้นที่โรงเรียนคุองไดอันกว้างใหญ่
มีพวกตึกศูนย์กลาง, โบสถ์อยู่
เป็นสถานที่รวมสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับนักเรียนเท่าไร
เทียบกับที่อยู่ตรงใจกลางแล้วจัดว่าค่อนข้างพบเห็นคนได้น้อย
เป็นขนาดที่มีนักเรียนที่ไม่เคยมาเยือนที่นี่เลยแม้แต่ครั้งเดียวจนถึงตอนจบการศึกษาอยู่ด้วย
ด้วยรสนิยมของอาจารย์ใหญ่
บริเวณรอบข้างเลยมีผลงานศิลปะแปลกๆตั้งกระจัดกระจายกันอยู่ แล้วก็ถูกพวกนักเรียนกับอาจารย์แสดงท่าทีขนลุกใส่
เขตตึกเรียน
พื้นที่บริเวณที่รวมอาคารเรียนของนักเรียนตั้งแต่ระดับการศึกษาชั้นต้นไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
เป็นสถานที่ที่มีจำนวนนักเรียนมากที่สุดในโรงเรียน
ที่ประเภทของอาคารเรียนต่างกันโดยสิ้นเชิงนั้นเป็นเพราะอาจารย์ใหญ่เปลี่ยนดีไซน์การสร้างอาคารแต่ละหลังไปตามอารมณ์ในตอนนั้น
แต่แค่เฉพาะตรงจุดนี้ซึ่งไม่ถูกทำให้เหมือนกันหมดเท่านั้นที่ได้รับการเห็นด้วยจากนักเรียนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง
ทว่า
แค่เสานาฬิกาตรงใจกลางที่มีของคล้ายๆหนวดงอกออกมาเท่านั้นที่มีเสียงเล่าลือย่ำแย่สุดๆ
เขตป่า
เป็นเพราะโรงเรียนคุองไดสร้างลึกเข้าไปในภูเขาด้วย
บริเวณรอบนอกของโรงเรียนส่วนมากจึงเป็นป่าอยู่
พื้นที่รอบนอกส่วนหนึ่งนั้นได้มีจุดที่ปูทางไว้ในระดับนึงอยู่ด้วยเพื่อจะได้ปีนเขากับวิ่งมาราธอนได้
ทำให้สามารถเดินเล่นในป่าได้อย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน
ห้องของคาซึมะกับสุบารุ
ห้องในหอพักนักเรียนที่คาซึมะกับสุบารุแชร์ห้องอาศัยอยู่ด้วยกัน
เนื่องจากพื้นที่ของโรงเรียนกว้างอย่างไร้ประโยชน์
ตัวหอพักก็เลยกว้างอย่างสูญเปล่าเช่นกัน ห้องเองก็พื้นที่ราวๆ 20 เสื่อ
ซึ่งสำหรับนักเรียนแล้วจัดว่าเยอะขนาดที่น่าเสียดาย
ขอเสริมอีกนิดว่าทางซ้ายที่มีของกระจัดกระจายอยู่คือที่มั่นของสุบารุ
ส่วนทางขวาที่ถูกเรียงไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยคือที่มั่นของคาซึมะ
คุกใต้ดิน
ทำไมถึงได้มีของแบบนี้อยู่กันนะ
ที่นี่อยู่ในโรงเรียนรึเปล่านะ
หรือว่าจะอยู่ที่อื่นกันนะ
ไม่ว่าจะยังไง ก็เป็นสิ่งที่พวกคาซึมะภาวนาไว้ว่าอย่าให้ต้องถูกขังไว้ในนี้
ระเบียงที่ปกคลุมไปด้วยหมอก
ระเบียงทางเดินที่น่าจะเห็นจนคุ้นตาแน่ๆ
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาที่แม้แต่ไม่กี่เมตรข้างหน้าก็ยังมองลอดผ่านไปไม่ได้
ลึกเข้าไปในหมอกนั้นมี “บางสิ่งบางอย่าง” ที่ถึงกับทำให้ต้องสงสัยในตาของตัวเอง……
???
สถานที่ลึกลับซึ่งไม่รู้ว่าเอาไว้ใช้ทำอะไร
เห็นเป็นสถานที่ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้เช่นกัน
แต่ก็เห็นได้ว่ามีพวกลวดลายและเครื่องจักรที่เป็นเชิงเวทมนตร์อยู่เต็มไปหมดด้วยเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังมีสมบัติล้ำค่ากองไว้เป็นภูเขาราวกับถูกเททิ้งไว้
ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่แบบนี้นั้น
จริงๆแล้วเป็นตัวตนที่คาดไม่ถึง……
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น