เนื้อหาด้านล่างเผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 ที่ http://vermillionend.exteen.com
สวัสดีครับ กลับมาพบกันอีกครั้งกับ VermillionEnd ช่วงนี้กำลังยุ่งอยู่กับการเรียนเล็กน้อย
แต่ก็ไม่ได้ยุ่งขนาดเดือนกันยายน-ตุลาคมแล้ว ในที่สุดก็หาจังหวะเล่น Soshite Hatsukoi ga Imouto ni Naru จนจบได้
เนื้อเรื่องดีและคุณน้องชิโนบุน่าประทับใจอย่างที่คิดไว้จริงๆครับ
เอาล่ะ นอกเรื่องพอแล้ว มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
เกมที่นำมาให้ดูในวันนี้คือ Liber_7
Eigou no Owari o Matsu Kimi e ของค่าย Lass ที่จะออกในวันที่ 22 เดือนหน้า(ถ้าไม่เลื่อน)
ชื่อเกมเรียกสั้นๆได้ว่า Liber7…… ที่ผ่านมาค่าย Lass
มักจะมาพร้อมกับเกมที่เนื้อเรื่องดี(และเลือดสาด)เสมอๆ และคราวนี้ก็เองก็เช่นกัน(เกมยังไม่ออกเลยบอกไม่ได้ว่าเนื้อเรื่องดีไหม
แต่ที่แน่ๆคือมีฉากเลือดสาดแน่นอน) เกมเป็นแนว Battle Royale ของเหล่าผู้มีพลังพิเศษ
ฉากในเกมเป็นเมืองอายาเมะงาโอกะ(ฉากในเกม 11eyes) และพวกตัวเอกก็เรียนอยู่โรงเรียนโควเรียวคังด้วย(โรงเรียนเดียวกับบรรดาตัวละครใน 11eyes…… ที่เครื่องแบบไม่เหมือนกันเพราะเกมนี้เป็นเครื่องแบบหน้าร้อน)
ที่เอาเกมนี้มานำเสนอเพราะเห็นว่าเป็นเกมที่ท่าทางเนื้อเรื่องดี+ถูกใจคุสึโนเสะ
ซายะ เพื่อนสมัยเด็กสุดคูลของตัวเอกครับ ซายะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวเอกกับมิคุ
เธออาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกับตัวเอก(ซายะเป็นลูกสาวเจ้าของอพาร์ตเมนต์ อาศัยอยู่ชั้นบนสุด
ส่วนมิคุอาศัยอยู่ห้องข้างๆตัวเอก) ทั้ง 3 คนสนิทกันมาก
ผมชอบตัวละครเพื่อนสมัยเด็กสายคูลอยู่แล้ว เลยสนใจเกมนี้ขึ้นมา…… เสียดายที่ซายะเดเระกับตัวเอกน้อยไปหน่อย
ถ้าเป็นแนวคูลแต่เดเระกับตัวเอกล่ะก็ได้อวยกันสุดตัวแน่นอน
ป.ล.
ที่จริงเมื่อเดือนเมษายน เขียน Spoil
เกม Izumo 4 ไว้โดยตั้งใจว่าไว้กลับไทยเมื่อไรจะเอาไปลงเว็บ
Tirkx (อยู่ญี่ปุ่นเข้าเว็บ Tirkx ไม่ได้) แต่พอกลับมาปรากฏว่าเว็บ
Tirkx ล่มสลายไปแล้ว
ที่ผ่านมาเลยหาเว็บบอร์ดที่จะเอาบทความที่เขียนไว้ไปลงอยู่…… ตอนนี้หาเจอแล้ว หากท่านใดอยากอ่าน Spoil เกม Izumo 4 ขอเชิญคลิกที่ Link นี้
Liber_7永劫の終わりを待つ君へ
Liber_7 Eigou no Owari o Matsu Kimi e
กบฏทั้งเจ็ด แด่เธอผู้เฝ้ารอจุดจบอันเป็นนิรันดร์
คำเตือน : เกิน 25% เป็นการดำน้ำ
แปลมาจาก Official Web Site (Lass)
สามวันนั้น
ยาวนานยิ่งกว่านิรันดร
และสั้นยิ่งกว่าเสี้ยววินาที------
Story
---ชีวิตธรรมดาๆที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปของตัวเอกผู้มีพลังพิเศษ
อิสึรุงิ
นาโอโตะอาศัยอยู่ที่เมืองอายาเมะงาโอกะ เมืองใหญ่ในต่างจังหวัด
และใช้ชีวิตนักเรียนอย่างเต็มอิ่มไปกับอามาสึกะ มิคุ และคุสึโนเสะ ซายะ
เพื่อนสมัยเด็กของเขา
แต่ตัวเขานั้นมี “ความลับหนึ่ง” ที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้ แม้แต่กับพวกเพื่อนสนิท
นั่นคือเขามีพลังพิเศษที่สามารถ “อ่านความทรงจำของวัตถุหรือมนุษย์
รวมถึงเขียนความทรงจำใส่ลงไปได้”
หากใช้ดีๆจะเป็นพลังที่ทำให้ได้อำนาจมหาศาลมาครอบครอง
แต่นาโอโตะที่ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากนั้นก็ไม่ได้เอาไปใช้ในทางไม่ดีขนาดที่จะทำให้ชีวิตประจำวันพังทลายไป
และใช้ชีวิตแต่ละวันอันสงบสุขไปโดยปิดซ่อนพลังนั้นไว้
---คดีฆ่าอย่างทารุณ, วางระเบิดก่อการร้าย คดีปริศนาที่เกิดขึ้นรอบตัวของตัวเอก กับการลูปเวลา
3 วัน
ทว่า ในช่วงก่อนถึงวันทานาบาตะ
รอบตัวนาโอโตะก็เริ่มมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สาวงามถูกพบเป็นศพในสภาพโดนฆ่าอย่างทารุณ, คดีวางระเบิดก่อการร้ายขนาดใหญ่ที่ลากประชาชนบริสุทธิ์เข้าไปพัวพันด้วย
และเพื่อนสมัยเด็กที่หายสาบสูญไป
ในขณะที่นาโอโตะรู้สึกสับสนกับคดีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นเอง
ก็มีเด็กสาวที่จ้องจะเอาชีวิตเขามาปรากฏตรงหน้า จึงได้รู้ความจริงว่าตอนนี้ที่เมืองนี้เหล่าผู้มีพลังพิเศษกำลังฆ่ากันเองอยู่
นาโอโตะกำลังจะถูกฆ่า จึงเริ่มหนี
แต่ในพริบตาที่ถึงเวลาเที่ยงคืน------เบื้องหน้าก็ห้อมล้อมไปด้วยแสงสว่าง
พอได้สติก็พบว่าที่ๆตัวเขาอยู่คือ “ตอนเช้าของเมื่อ
3 วันก่อน”
……!!
นาโอโตะที่เชื่อว่าเมื่อครู่เป็นการตื่นของพลังใหม่นั้น ในที่สุดก็ได้เห็นเมล์ที่ส่งมาให้เหล่าผู้มีพลังพิเศษ
[ถึงเหล่าผู้เป็นกบฏต่อโชคชะตาทั้งหลาย]
ว่าไง สบายดีหรือเปล่า
เหล่าผู้เป็นกบฏต่อโชคชะตาทั้งหลาย
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ พวกเธอก็ได้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ด
Rebellion(กบฏ)
แล้ว
หลักฐานนั้นคือน่าจะได้รับ “ตราแห่งบาปนิรันดร์” มาอยู่ตรงไหนสักแห่งบนร่างกายแล้วแน่ๆ
แม้จะน่าเสียดาย
แต่เมืองนี้มีชะตากรรมที่จะต้องพินาศลงในอีก 3 วันให้หลัง
แล้วไม่ใช่แค่พวกเธอเท่านั้น มนุษย์ทุกคนในเมืองนี้ก็จะตายด้วย
แต่มีหนทางเปลี่ยนแปลงชะตากรรมนั้นอยู่หนึ่งวิธี
มีแต่ต้องทำพิธี “การหารือลับของเหล่ามนุษย์เทพ”
เพื่อให้ “มนุษย์เทพ” คนใหม่ถือกำเนิดขึ้นเท่านั้น
กล่าวคือพวกเธอ Rebellion(กบฏ)
คือมนุษย์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะต่อต้านโชคชะตาและกลายเป็นมนุษย์เทพนั่นเอง
Rebellion(กบฏ) แต่ละคนจะได้รับพลังลึกลับมาอยู่
เมื่อเรียกขานชื่อที่แท้จริงซึ่งปรากฏอยู่ภายในใจ
พลังนั้นก็น่าจะก่อร่างขึ้นมา
จงใช้พลังนั้นฆ่า Rebellion(กบฏ) คนอื่นนอกจากตัวเองให้หมด
ยามที่ได้รับการถวายวิญญาณของ 6 คนจากทั้งหมด 7
คนในฐานะเครื่องสังเวย พิธีการหารือลับของเหล่ามนุษย์เทพก็จะสมบูรณ์
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจะกลายเป็นมนุษย์เทพแห่งยุคสมัยถัดไป
ไม่ว่าจะความปรารถนาแบบไหนก็คงทำให้กลายเป็นจริงได้
มีแต่ผู้ที่ก้าวข้ามความตายและหยุดยั้งความพินาศเท่านั้น
ที่ประตูสู่โลกใหม่จะเปิดรับ
นี่ไม่ใช่เกมหรืออะไรทั้งสิ้น
หากต้องการอนาคตมาไว้ในกำมือ
จงฆ่าให้หมดซะ
---ช่วงเวลา 3
วันแห่งการสังหารและทุกข์ทรมานที่ถูกมอบให้กับเหล่า
Rebellion(ผู้มีพลังพิเศษ)
ไม่รู้ตัวคนส่งเมล์ที่เรียกผู้มีพลังพิเศษว่า “Rebellion” แต่วัตถุหกเหลี่ยมที่ปรากฏขึ้นตรงหลังมือขวาตอนนาโอโตะใช้พลังจะต้องเป็น “ตราแห่งบาปนิรันดร์” ไม่ผิดแน่ เลยเข้าใจได้ว่าข้อความในเมล์เป็นความจริง
นาโอโตะสั่นกลัวกับเนื้อหาที่สั่งให้ฆ่าคนอื่นทุกคนภายใน
3 วัน แต่ก็ตัดสินใจใช้พลังใหม่ที่ลืมตาตื่นขึ้นเผชิญหน้ากับ Battle Royale ที่ใช้เมืองนี้เป็นสังเวียนและปริศนาความพินาศของเมือง
“สามวันนั้น ยาวนานยิ่งกว่านิรันดร และสั้นยิ่งกว่าเสี้ยววินาที------”
Main Character
Sub Character
Landscape
“เกินคาดเลยแฮะ…… แต่ว่านะ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่สนุกสิ”
อิสึรุงิ นาโอโตะ
石動 直斗
ทั้งสมอง ทั้งปฏิกิริยาตอบสนอง
ทั้งทักษะในการเข้าสังคมนั้นดีกว่าคนทั่วไป แต่ไม่ค่อยทำอะไรด้วยความตั้งใจของตนเองซักเท่าไร
มักจะชอบเข้าไปยุ่งดูแลกับทุกคน
ทำให้บางทีก็โดนบอกว่าชอบเสแสร้งทำตัวดีกับคนอื่น
คิดอยู่ว่าถ้าทุกวันนี้มีความสุขแล้วล่ะก็ไม่จำเป็นต้องมีเป้าหมายอะไรชัดเจนเป็นพิเศษก็ได้
ถ้าคนรอบตัวมีความสุขล่ะก็ แบบนั้นก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
ความสัมพันธ์เพื่อนนั้นกว้างขวางแต่ก็ผิวเผิน
ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันจริงๆก็มีแค่ราวๆพวกมิคุ, ซายะ
แล้วก็โซวตะ
คำพูดติดปากคือ “ยุ่งยากน่ารำคาญ”
กับ “ผิดคาดแฮะ”
พลังพิเศษ : Ether Light (หัตถ์ขวาแห่งพระเจ้าที่ปราศจากเงามืด)
พลังที่สามารถอ่านความทรงจำของผู้อื่น(เป้าหมาย)ที่สัมผัส
แล้วยังเขียนความทรงจำลงไปได้ด้วย
สามารถขุดคุ้ยความทรงจำของคนที่ใช้มือขวาสัมผัสอยู่ได้
ในการหาความทรงจำที่ต้องการให้พบนั้นค่อนข้างใช้เวลา
กับวัตถุเองก็เช่นกัน ในกรณีของวัตถุนั้นจะมีความคิดของผู้ที่เคยสัมผัสกับวัตถุนั้นหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆบันทึกไว้อยู่
เลยสามารถอ่านสิ่งเหล่านั้นได้
“ถ้านาโอโตะคุงไม่ยอมแพ้
ฉันเองก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาดเหมือนกัน”
อามาสึกะ มิคุ
天塚 未來
เพื่อนสมัยเด็กของอิสึรุงิ นาโอโตะ
ความสัมพันธ์กับคุสึโนเสะ ซายะนั้นคือเพื่อนสนิทที่ไม่สามารถหาอะไรมาแทนได้
บ้านอิสึรุงิกับบ้านอามาสึกะนั้นเป็นห้องข้างๆกันบนแมนชั่นเดียวกัน
มักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ
เป็นเด็กผู้หญิงที่สดใสและบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน
แสดงความรู้สึกดีๆที่มีต่อนาโอโตะออกมาอย่างง่ายๆสบายๆ
ทำให้บางทีก็ลำบากใจว่าจะตอบกลับไปยังไงดี
ไม่ว่ากับใครก็เป็นมิตรด้วยได้ ขนาดที่ทำให้คิดว่ารู้จักกับคนเกือบทั้งเมืองเลยรึเปล่านะ
?
มีวิธีคิดที่คิดว่า “เพื่อใครสักคน” ก่อนเรื่องของตัวเอง กลับกันเลยทำให้พวกนาโอโตะกับซายะรู้สึกอยากทำอะไรเพื่อมิคุเข้าจนได้
เมื่อเห็นมิคุกำลังมองออกไปที่ไกลๆกะทันหัน บางทีพอหันไปมองอีกทีก็จะพบว่าเจ้าตัวโดนจิตใจอยากรู้อยากเห็นพาเดินเตาะแตะไปไหนแล้วก็ไม่รู้
เลยโดนซายะล้อว่า “ซื่อบื้อ” อยู่
“นี่ นาโอโตะ ไม่ลองมาเล่นเป็นแฟนกันดูหน่อยเหรอ……
?”
คุสึโนเสะ ซายะ
楠瀬 沙綾
เพื่อนสมัยเด็กของนาโอโตะ
ความสัมพันธ์กับอามาสึกะ มิคุนั้นคือเพื่อนสนิทที่ไม่สามารถหาอะไรมาแทนได้
“คาซ่าคุสึโนเสะ” แมนชั่นที่นาโอโตะกับมิคุอาศัยอยู่นั้นมีพ่อของซายะเป็นเจ้าของ
เป็นหนึ่งใน Rebellion (ผู้มีพลังพิเศษ)
ฉลาดหลักแหลมและเยือกเย็น
ชอบอ่านหนังสือขนาดที่มาช่วยงานเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดของโรงเรียน
เรียนไอคิโด้จากปู่ด้วย
เลยเก่งทั้งเรื่องเรียนและกีฬา
รู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนประเภทเอาแต่พูดเหตุผลกับทฤษฎีออกปาก
พอลงมือทำจริงกลับทำไม่ได้ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
เลยมักจะดูถูกตัวเองอยู่บ่อยๆ
ทนต่อสิ่งน่ารักไม่ได้
เลยเผลอเอ็นดูมิคุเหมือนแมวแล้วก็ตามใจไปจนได้
คำพูดเฉียบคมเกินไป
เลยมักจะถูกมองว่าเป็นคนปากร้ายอยู่บ่อยๆ
ในเรื่องอย่างพวกความรักนั้น จะตั้งคำถามกับแก่นแท้ของมันเกินไปอย่าง
“สิ่งที่เรียกว่าความรักเนี่ย
ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร” จนไม่สามารถมีความรู้สึกที่ซื่อตรงกับหัวใจของตัวเองได้
พลังพิเศษ : Anti-Gordion (วงเวียนซึ่งไม่อาจหยั่งรู้ได้)
พลังที่สามารถเชื่อมต่อกับสถานที่ๆห่างไกลออกไปด้วยประตูรูปวงกลม
สามารถสร้างประตูออกมาที่มือของซายะ และเชื่อมประตูอีกฟากเข้ากับสถานที่ๆซายะตั้งใจได้
ทว่า
ปลายทางที่จะเชื่อมประตูไปนั้นจำกัดอยู่แค่สถานที่ๆซายะจินตนาการภาพได้อย่างละเอียดเท่านั้น
สามารถสร้างประตูนี้ขึ้นมาบนผิวของวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตได้
แต่จะไม่เป็นการทำลายเป้าหมายด้วยการเจาะรูหรืออะไร
เป้าหมายจะกลับเป็นเหมือนเดิมพร้อมกับการยกเลิกประตู
แต่การตัดเป้าหมายให้ขาดในทางกายภาพด้วยการปิดประตูระหว่างที่เป้าหมายกำลังผ่านนั้นสามารถทำได้
“ขอโทษนะ…… ช่วยตายที่นี่เพื่อฉัน…… เพื่อเพลงของฉันด้วยเถอะ”
อิจิโจ คุเรอะ
一条 紅愛
หนึ่งใน Rebellion (ผู้มีพลังพิเศษ)
เป็นเด็กสาวเงียบๆเรียบร้อย และเป็นนักเรียนปีหนึ่งโรงเรียนโควเรียวคัง
ไม่ถนัดทั้งการแสดงความคิดของตัวเองออกมาและการสื่อสารกับผู้อื่น
มีเพียงดนตรีเท่านั้นที่ใช้เป็นที่พึ่งทางใจ
เป็นตัวจริงของ “CLAIR”(แคลร์) นักร้องวง
“Chained†Coffin” ที่เปิดการแสดงเพลงอยู่เฉพาะบนอินเตอร์เน็ต
มีแค่ตอนร้องเพลงอยู่เท่านั้นที่สามารถแสดงความรู้สึกภายในออกมาให้เห็นอย่างรุนแรงได้
ตอนออกไปสู้จะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับตัวเองด้วยการสวมชุดสไตล์
Gothic Punk ดีไซน์เดียวกับ “CLAIR”
กับพ่อที่เป็นนักดนตรีนั้นอยู่ในสภาพที่ตัดสัมพันธ์ไปเรียบร้อยแล้ว
มักจะคิดมากว่าไม่มีคนที่รักตนอยู่เลย
พลังพิเศษ : Steen Serene (เสียงเพรียกจากดวงดาว)
พลังประเภทเทเลคิเนซิสที่สามารถควบคุมวัตถุรอบๆได้อย่างอิสระ
ถ้าเป็นระยะประชิดล่ะก็สามารถขยับได้ถึงของขนาด
200 กิโลกรัม แต่ส่วนใหญ่มักจะโจมตีโดยการควบคุมพวกเศษอิฐเศษหินหรือแท่งเหล็กหลายๆชิ้นมากกว่า
พอระยะไกลขึ้น พลังทำลายจะลดต่ำลงมารวดเดียวทันที
อนึ่ง
แม้จะไม่มีกีตาร์ก็ยังสามารถใช้พลังได้
ที่ร้องเพลงโดยไม่ใช้ทั้งแอมป์และไมค์นั้น กลับกันก็เพื่อใช้พลังพิเศษขยายการสั่นไหวของอากาศ
“ไม่มีความจำเป็นต้องไปเชื่อฟังพระเจ้าสวะโง่ๆย่ะ”
ฮิโรฮาระ เมย์
広原 萌生
หนึ่งใน Rebellion (ผู้มีพลังพิเศษ)
ตัวละครตระกูลฮิโรฮาระคนที่ 7
เป็นเด็กสาวผู้มีพรสวรรค์ที่ข้ามชั้นไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียคอมมอนเวลท์ในอเมริกา
แล้วก็เป็นเด็กกลับมาจากต่างประเทศที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนโควเรียวคัง
วิชาเอกคือทฤษฎีสารสนเทศควอนตัม
อาจเป็นเพราะเป็นอัจฉริยะ
เลยมีประสบการณ์ที่ความคิดของตัวเองไม่ได้รับการเข้าใจอยู่บ่อยครั้ง
จึงพูดอย่างโหดร้ายว่า “เกลียดคนโง่” แล้วก็ปลีกตัวออกห่างจากคนอื่นอยู่
เนื่องจากใช้พลังงานสมองเยอะ
เลยชอบขนมหวานมาก
ช่วงนี้ถูกใจชูครีมของร้าน “Nostalgia”
พลังพิเศษ : Hollow Pandora (หีบพระบัญญัติศักดิ์สิทธิ์อันว่างเปล่า)
พลังที่สามารถสร้าง Cube
(ช่องว่างทรงลูกบาศก์ที่ไม่อาจล่วงล้ำ)
ขึ้นมาได้
สิ่งที่ผ่านเข้ามาได้มีเพียงเสียงกับแสงเท่านั้น
ขนาดของลูกบาศก์มีตั้งแต่ใหญ่สุดที่มีความยาวแต่ละด้าน
3 เมตร จนถึงเล็กสุดที่มีขนาดราวๆ 1 เซนติเมตร
สามารถให้ Cube ปรากฏขึ้นพร้อมกันหลายอันได้
แต่ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเท่าไร การควบคุมก็ยิ่งต้องกระจายกันออกไปมากขึ้นเท่านั้น
สามารถใช้เป็นบาเรียที่ทนทาน, แท่นเหยียบ, กรงขังศัตรูไว้ข้างในได้
แต่เนื่องจากไม่สามารถสร้าง
Cube ขึ้นจากภายในวัตถุได้
จึงเป็นพลังที่ไม่เหมาะกับการฆ่าหรือใช้สร้างความเสียหาย
Sub Character
“โชคชะตา
เพราะเปลี่ยนบ่ได๋ จึงได้เรียกว่าโชคชะตา แม่นบ้อ”
ฮิเมงามิ มานามิ
姫神 愛海
มิโกะของศาลเจ้ามิโดะที่อยู่ตรงชานเมืองอายาเมะงาโอกะ
เป็นคนที่ดูเป็นพี่สาวผู้มีพร้อมทั้งความอ่อนโยนแบบสบายๆและเสน่ห์แบบผู้ใหญ่
เป็นนักเรียนโรงเรียนโควเรียวคังก็จริง
แต่ให้ความสำคัญกับ “ศาลเจ้ามิโดะ” ที่ปู่เป็นหัวหน้านักบวชมากกว่า เลยมีวันที่ไม่มาเรียนบ่อยครั้ง
ไม่สนใจเรื่องหน่วยกิตหรือซ้ำชั้น
ชำนาญศิลปะการต่อสู้ เป็นผู้เชี่ยวชาญ “วิชานางินาตะสำนักโยวชิน” ที่ใช้ง้าวนางินาตะทั้งที่ยังสวมชุดมิโกะอยู่
“รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอไงว่าคนที่ชั้นจะใช้คำว่า
"เพื่อนสนิท" ด้วยเนี่ยมีแค่นาโอะ”
ฟูจิมิ โซวตะ
藤見 颯大
เป็นลูกคนกลางที่มีพี่สาวซึ่งเก่งและร่าเริงกระปรี้กระเปร่า
กับน้องสาวผู้ใสซื่อบริสุทธิ์และตรงไปตรงมา เลยแสร้งทำตัวเป็นเด็กผู้ชายกะล่อนเพื่อรักษาสมดุล
แต่เนื้อแท้นั้นเป็นคนจริงจังและเอาใส่ใจผู้อื่นเป็นอย่างมาก
เดิมทีก็ไม่ถูกกับบรรยากาศเป็นทางการน่าอึดอัดมาแต่ไหนแต่ไร
แต่ที่เพิ่มกิริยาวาจากะล่อนขึ้นไปอีกนั้นก็เพื่อรักษาสมดุลระหว่างซายะซึ่งมีนิสัยจริงจังกับนาโอโตะที่มักจะกลายเป็นผู้ฟังอยู่บ่อยๆ
เลยจงใจทำตัวเป็นคนชอบล้อเล่นอยู่
เหมือนกับว่าเพราะรอบตัวมีคนจริงจังอยู่เยอะ
เลยทุ่มเทกับการเป็นตัวสร้างสีสันเฮฮา
เนื้อแท้ของนิสัยนั้นจริงจังและใส่ใจผู้อื่นเป็นอย่างมาก
รู้สึกว่าคำว่า “Schwein” ที่เพิ่งรู้จักจากในเน็ตเมื่อไม่นานมานี้เท่ดี
เลยเอามาใช้เป็นคำทักทายทั้งที่ไม่รู้ความหมาย
Landscape
ศาลเจ้ามิโดะ
ศาลเจ้ามิโดะคือศาลเจ้าที่บูชาเทพซายาริมาสุโยมิโดะโนะโอคามิ
มีพิธีกรรมและธรรมเนียมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
พวกชุดมิโกะหรือวิธีสักการะเองก็มีลักษณะเฉพาะมีเอกลักษณ์ที่ศาลเจ้าอื่นไม่มี
อาจเป็นเพราะไม่ได้จัดพวกงานประจำปี(งานเทศกาล)
ทำให้มีคนมาสักการบูชาน้อย
มิโกะที่ผ่านมาแต่ละรุ่นจะได้รับการอมรมสั่งสอนที่ศาลเจ้าอีกแห่งในเกียวโต
โดยนอกจากพวกมุมมองประวัติศาสตร์, ค่านิยมต่อชีวิตและความตายแล้ว
ยังได้รับการสอน “วิชานางินาตะสำนักโยวชิน” ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สามารถใช้ง้าวนางินาะต่อสู้ได้ในชุดมิโกะอีกด้วย
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล :
ซายาริมาสุโยมิโดะโนะโอคามิ(塞坐黄泉戸大神) คืออีกชื่อหนึ่งของจิคาเอชิโนะโอคามิ(道反大神) ก้อนหินที่เทพอิซานางิเอามาปิดทางเข้าออกดินแดนโยมิไว้
ไม่ให้เทพอิซานามิไล่ตามมา
สวนสาธารณะเนินชินอายาเมะ
สวนสาธารณะเนินชินอายาเมะคือสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นบนเนินฝั่งชินอายาเมะ
เป็นสถานพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองคู่กับสวนสาธารณะอายาเมะงาโอกะที่อยู่เลียบแม่น้ำอาชิฮาระ
เนื่องจากอยู่บนที่สูงที่สามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้
จึงมีทัศนียภาพยอดเยี่ยม แต่อาจเป็นเพราะต้องเดินขึ้นทางลาดชัน
ทำให้ไม่ค่อยมีคนมาตอนกลางคืนสักเท่าไร
ด้วยเหตุนั้น ตอนกลางคืนเลยได้รับความนิยมในแบบของตอนกลางคืน
เป็นที่นิยมในหมู่คู่รักที่ต้องการเดทกันอย่างเงียบๆ
กับกลุ่มคนชอบดาราศาสตร์ที่จะดูดาว
ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์มามิยะ
ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์มามิยะคือศูนย์วิจัยที่มีกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเงินทุนมามิยะเป็นเจ้าของ
มักจะถูกเรียกย่อๆว่า “ศูนย์วิจัยมามิยะ”
เคยใช้ที่ดินที่ระหว่างสงครามเคยเป็นโรงงานผลิตอาวุธของกองทัพจักรวรรดิมาในฐานะศูนย์พยาบาล
แต่เพราะอุบัติเหตุการถล่มครั้งใหญ่ในตัวอาคาร เลยย้ายออกมาที่ชานเมือง
แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
พื้นที่เก่าได้มีการรื้อซากอาคารออกแล้วสร้างเป็น
“ชินอายาเมะ
Landmark Tower”
ทำการวิจัยโดยมุ่งเน้นไปที่สาขาอย่างวิทยาศาสตร์การแพทย์, วิทยาศาสตร์ชีวภาพ, ประสาทวิทยาศาสตร์, วิทยาการคอมพิวเตอร์
โควเรียวคัง (คฤหาสน์มามิยะ
คาเงโทระ)
โควเรียวคังคือคฤหาสน์ของมามิยะ
คาเงโทระที่ตั้งอยู่ที่ชานเมืองอายาเมะงาโอกะ
เป็นผลงานของ “Josiah Burgess” สถาปนิกชื่อดังในสมัยเมย์จิ
เนื่องจากตอนแรกเคยตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็น
“โรงเรียนโควเรียวคัง”
ในปัจจุบัน จึงกลายเป็นที่มาของชื่อโรงเรียนไป
หลังสงครามได้ย้ายมายังตำแหน่งปัจจุบันพร้อมกับตอนที่มีการพัฒนาพื้นที่ย่านชินอายาเมะ
แล้วก็บริจาคที่ตั้งเดิมให้นำมาสร้างเป็นโรงเรียน
มามิยะ คาเงโทระ
หัวหน้ากลุ่มเงินทุนมามิยะคนปัจจุบันนั้นอายุมากแล้ว
ทำให้ใช้ชีวิตอยู่โดยที่แทบจะไม่ออกมาจากคฤหาสน์หลังนี้เลย
ถึงอย่างนั้นแม้แต่ปัจจุบันเองก็ยังมีอิทธิพลต่อวงการธุรกิจและการเมืองอยู่
* อธิบายเพิ่มเติมโดยผู้แปล : โควเรียวคัง(虹陵館) ถ้าแปลตรงตามตัวคันจิจะแปลได้ว่า “คฤหาสน์เนินสายรุ้ง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น